คมพยาบาท
คมพยาบาท (2506/1963) ภายในบ้านของคุณหญิงอนุรักษ์ธานิน เย็นเป็นสาวใช้ ต้นห้องคุณหญิง เกิดรักกับอุทัยบุตรชายของคุณหญิง จนเกิดได้ เสียกันขึ้น ต่อมาคุณหญิงผู้เป็นมารดาของอุทัยคิดจะให้แต่งงาน กับวณีลูกสาวเจ้าคุณธนากร มิตรสนิทของคุณหญิง เมื่อข่าวนี้รู้ถึง หูเย็น เย็นก็ได้ขอให้อุทัยสาบานว่าจะไม่รักใครนอกจากเธอคนเดียว แม้ว่าจะแต่งงานแล้วก็ตาม ซึ่งอุทัยให้คำมั่นสัญญาดังเช่นเย็น ขอร้อง เหตุการณ์ผ่านพ้นไปจนกระทั่งอุทัยแต่งงานแล้ว จาก ความอ่อนหวานและการเอาอกเอาใจของวณี ซึ่งตรงกันข้ามกับ เย็น บางครั้งก็แสดงความหึงหวงกักขฬะอย่างออกหน้าออกตา จวบกับความมีสมบัติผู้ดีของวณีทำให้อุทัยหลงใหลจนลืมคำมั่น สัญญาที่ให้ไว้กับเย็นเสียสิ้น มาในคืนวันหนึ่ง เย็นเข้าไปหาอุทัย ในห้องทำงานและต่อว่าต่อขานที่เหินห่าง ไม่เหลียวแลเธอ อุทัย ก็บอกว่าเกลียดในการกระทำของเย็นที่แสนจะกักขฬะและแสดง ความไม่สมควรออกมา ท้ายที่สุดอุทัยโกรธมากจนถึงกับขับไล่เย็น ออกไปจากบ้าน และตัดขาดความสัมพันธ์กันแต่วันนั้นเป็นต้นมา เวลาผ่านไปจนกระทั่งวณีคลอดบุตรออกมาเป็นหญิง พออายุได้ 5 เดือน เย็นก็ถือโอกาสที่อุทัยและวณีออกไปทานเลี้ยงบ้าน ผู้บัญชาการทหารในค่ำวันนั้น ปีนตึกเข้าไปขโมยลูกของอุทัยไป ยังความเจ็บช้ำใจให้แก่อุทัยและวณีอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียบุตร สาวคนเดียวไป แม้ว่าจะตั้งสินบนนำจับทั่วทุกแห่งหน ก็ไม่สามารถ จะตามหาเย็นได้ แต่ขณะเดียวกัน เย็นได้หนีไปอยู่กับพี่สาวแท้ ๆ ที่มี ลูกหญิงได้ 4 เดือนชื่อลำยองซึ่งเป็นเมียของเสือโมก เสือปล้นนาม กระฉ่อนแห่งแม่น้ำสุพรรณบุรี ในขณะเย็นไปอาศัยอยู่ก็เป็นเวลา เดียวกันกับที่เสือโมกถูกตำรวจตามจับมา ก็เกิดการต่อสู้กันขึ้น ลำยองเมียเสือโมกถูกยิงตาย เสือโมกก็ให้เย็นหนีไป พร้อมทั้งฝาก ลูกของตัวให้เย็นช่วยเลี้ยงดูด้วย กับทั้งมอบเพชรนิลจินดาที่มีอยู่ ให้เย็นไปขายเลี้ยงชีพต่อไป กาลเวลาผ่านพ้นไปจน 18 ปี เย็นก็มีจดหมายมาบอกอุทัยและวณีว่าจะนำลูกมาคืนให้ ยังความดีใจให้แก่คนทั้งสองยิ่ง เมื่อถึงกำหนด เย็นก็นำบุตรสาวมาคืนให้ ซึ่งบัดนี้เป็นสาวชื่อเปีย หรือจรรยา ส่วนเย็นก็ได้รับความเอื้อเฟื้อจากอุทัยให้มาอยู่ในบ้าน พร้อมกับมารยาทซึ่งเย็นบอกว่าเป็นหลานแท้ ๆ ซึ่งเกิดจากพี่สาว และเสือโมก ยิ่งนานวัน อุทัยกับวณีก็ยิ่งสงสัยในนิสัยใจคอของ บุตรสาวของตน ที่มีแต่ใจคอโหดร้ายอิจฉาริษยาและหยาบคาย ตรงกันข้ามกับมารยาทที่เย็นบอกว่าเป็นหลานของตน ลูกของเสือ โมก ที่มีความเรียบร้อยน่ารักน่าเอ็นดูมาก และสิ่งที่อุทัยสงสัยมาก ก็คือจรรยามักจะกลั่นแกล้งรังแกมารยาทอยู่เสมอมา รูปการณ์เข้าขั้นรุนแรงเอาเมื่อ เลอสรรค์หลานชาย ของวณีเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ พร้อมด้วยปริญญาทาง ศิลปช่างปั้น จรรยาแสดงความรักต่อเลอสรรและหึงหวงมารยาท จนออกหน้าออกตา ถึงขนาดทำลายรูปวาดของมารยาทในห้อง ศิลปของเลอสรร เพียงรู้ว่าเลอสรรเอามารยาทมาเป็นแบบเท่านั้น แต่ความเป็นจริงมารยาทก็พยายามหลบหลีกการพบปะกับเลอสรร อยู่เสมอ เมื่อถึงเวลาที่ครอบครัวของอุทัยและวณีได้พากันไป พักผ่อนที่บางแสน เย็นและมารยาทก็ได้รับชวนไปด้วย ที่นั้น มารยาทถูกจรรยาบีบบังคับไม่ให้ติดต่อกับเลอสรร ด้วยการนำขึ้น ไปปล่อยบนยอดเขา แล้วให้เดินกลับมาเอง ทางอุทัยกับมณีรู้ความ ประสงค์ของจรรยา ก็เลยคิดจะหมั้นเลอสรรกับจรรยาเสีย จรรยา ดีใจมากเมื่อพบกับเลอสรร ก็ถามความสมัครใจ หล่อนก็ได้รับการ ปฏิเสธจากเลอสรร เหมือนเพิ่มความอาฆาตในความอิจฉาริษยา ที่มีต่อมารยาทมากขึ้น จรรยาคิดฆ่ามารยาทเสียโดยการขับรถชน แต่มารยาทก็รอดตายได้และมีมือบุรุษลึกลับมาประคองช่วยเหลือ คน ๆ นั้นคือเสือโมก ซึ่งใคร ๆ พากันคิดว่าได้ตายไปในกองเพลิง แล้วนั่นเอง แต่ก็เกิดความเข้าใจผิดขึ้น โดยที่เสือโมกสำคัญผิดคิด ว่ามารยาทเป็นลูกของตนตามคำบอกเล่าที่สืบหา วันต่อมาเลอสรร ก็พยายามพบมารยาทและขอความรัก หนุ่มสาวทั้งสองต่างเข้าใจ ในความรักซึ่งกันและกัน จรรยาซึ่งมาประสบเหตุการณ์เข้า จึงคิด ฆ่ามารยาทเสีย โดยเอาปืนขู่มารยาทให้ขึ้นไปบนยอดเขา เป็นเวลา เดียวกันกับที่เย็นออกมาตามหามารยาท เมื่อเย็นขึ้นมาก็พอดีกับ ที่จรรยาจะฆ่ามารยาท เย็นจึงเข้าขัดขวางและถูกจรรยายิง เสือ โมกซึ่งติดตามดูเหตุการณ์อยู่ ก็ยิงจรรยาตายตกเขาไป เย็นก็เล่า ให้เสือโมกฟัง ที่เสือโมกสำคัญผิด ยิงลูกตัวเอง เสือโมกเสียใจมาก ต่อว่าเย็นนำความฉิบหายมาสู่ตน เสียงปืนดังไปยังอุทัยและวณี ก็ พากันขึ้นมาดู พบเย็นนอนจมกองเลือดอยู่ เสือโมกหลบไปแล้ว เย็นก็เผยความจริงว่า มารยาทคือลูกแท้ ๆ ของอุทัย จรรยานั้น คือลูกของเสือโมก ท้ายสุดเย็นขอให้อุทัยและวณีอภัยในความผิด ที่เป็นผลเนื่องจากความรักที่เย็นมีต่ออุทัยนั้นเอง อุทัยและวณี รับคำก่อนที่เย็นจะสิ้นใจ แล้วเย็นก็สิ้นใจตายไปพร้อมกับความ ชั่วร้ายของตนที่ได้สร้างขึ้น ไกลออกไป เสือโมกประคองศพลูก สุดที่รักลงสู่ท้องทะเลจนหายลับไป
พันคำ (พร้อมสิน สีบุญเรือง)
สุข หฤทัย (เทพ สุทธิพงศ์)
พันคำ (พร้อมสิน สีบุญเรือง)
นักแสดงและทีมงาน
อมรา อัศวนนท์
อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์
เมตตา รุ่งรัตน์
ชนะ ศรีอุบล
พงษ์ลดา พิมลพรรณ
รจิต ภิญโญวนิชย์
สุรินทร์ เจริญปุระ (รุจน์ รณภพ)
สิงห์ มิลินทาศัย
ลมุน สิกขันฑกสมิต
กํากับการแสดง
พันคำ (พร้อมสิน สีบุญเรือง)
ช่างภาพ
อนันต์ อินละออ
โปรดักชั่น
สวาท รัตนสาสน์
ข้อมูลเพิ่มเติม
ชื่อ : คมพยาบาท
Name : –
ผลิตโดย : กฤษณะภาพยนตร์
จัดจำหน่าย : บริษัท วัชรภาพยนตร์ จำกัด
วันที่เข้าฉาย : 23 พฤษภาคม 2506 (ฉายที่โรงภาพยนตร์คาเธ่ย์)
*ที่มา :Thai Movie Posters
คุณต้อง เข้าสู่ระบบ จึงจะสามารถรีวิวได้
ยังไม่มีรีวิว