ชูศรี มีสมมนต์
ชูศรี มีสมมนต์ หรือ ชูศรี โรจนประดิษฐ์ นักแสดงชื่อดังชาวไทย เจ้าของฉายา “ราชินีแห่งบทตลก” เป็นคู่ขวัญคู่ฮากับล้อต๊อก และมีผลงานการแสดงทางด้านภาพยนตร์และละครโทรทัศน์มากมายหลายเรื่อง ทั้งบทตลก บทดรามา
• เกิด 26 มกราคม 2472
• เสียชีวิต 4 ธันวาคม 2535 (63 ปี)
เจ้าตัวเคยเล่าว่าพื้นเพดั้งเดิมมาจากภาคอีสาน เมื่อเข้ามากรุงเทพในวัยเด็กยังพูดภาษาภาคกลางไม่ได้ ชูศรีศึกษาที่โรงเรียนนาฏศิลป์ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 5 และต่อมัธยมศึกษาปีที่ 6ที่โรงเรียนขัตติยานีผดุง โดยทางครอบครัวอยากให้เรียนพยาบาลแต่เธอรักการร้องีทำเพลวมากกว่า ชูศรีคยสมรสกับบุคคลร่วมวงการคือ เชิด โรจนประดิษฐ์ ซึ่งรักกันมาตั้งแต่อายุ17 ก่อนจะหย่าร้างกัน และกลับมาใช้นามสกุลมีสมมนต์เหมือนเดิม ชูศรีมีบุตรสาวและบุตรชาย
เข้าสู่วงการ
ชูศรีเริ่มเข้าสู่วงการเมื่อ อ.ลัดดา สารตายนต์ แห่งโรงเรียนนาฏศิลป์ได้ตั้งขณะละครเวทีขึ้นแสดงละครเวทีที่โรงละครแห่งชาติ เมื่อปี2484 โดยเรื่องแรกที่ทำคือผกาวลี มีอุโฆษ จันทร์เรืองเป็นพระเอก ชูศรีเป็นตัวตามนางเอก โดยผู้สอนบทบาทการแสดงให้เธอคืออบ บุญติดา ละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมมากจนอ.ลัดดา นำชื่อละครเรื่องนี้มาตั้งเป็นชื่อคณะว่าคณะผกาวลี
ชูศรีมีชื่อเสียงมากในช่วงปี2484-2497 มีโอกาสร่วมแสดงละครเวทีกับคณะที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น เช่น คณะเทพศิลป์การละคร คณะศิวารมณ์, คณะอัศวินการละคร, คณะวิจิตรเกษม, คณะชื่นชุมนุมศิลปิน และคณะลูกไทย เป็นต้น และยังเป็นนักร้องบันทึกเสียงเพลงหลายเพลงด้วยกัน โดยในช่วงหลังเธอเป็นนักร้องรับเชิญให้วงเชาว์ แคล่วคล่อง วงพยงค์ มุกดา เป็นต้น
โดยมีชื่อเสียงรุ่นเดียวกันกับ ส.อาสนจินดา ต่อมาชูศรียังได้ร่วมงานแสดงกับ ดอกดิน กัญญามาลย์ ล้อต๊อก ท้วม ทรนง พูนสวัสดิ์ ธีมากร สมควร กระจ่างศาสตร์ ก๊กเฮง สมพงษ์ พงษ์มิตร กัณฑรีย์ นาคประภา สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต เป็นต้น
หลังจากละครเวทีเริ่มได้รับความนิยมน้อยลงโดยแสดงเรื่องแรกคือเรื่องแม่ค้าหาบเร่ 2497 โดยเธออำนวยการสร้าง มีเติม โมรากุลและกรองจิตต์ เตมีย์ศิลปินเป็นนางเอก และมีงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องถัดมาคือ ยอดรักคนยาก เธอได้รับความนิยมมากมีผลงานการแสดงมากกว่า500เรื่อง ในยุคมิตร-เพชราเธอเป็นนักแสดงคิวทองอีกคนที่มีผลงานทั้งทางโทรทัศน์และภาพยนตร์
ชูศรี เคยสร้างภาพยนตร์โดยใช้ชื่อผู้สร้างว่า สองสาวภาพยนตร์ เรื่องแรกคือแม่ค้าหาบเร่ เรื่องถัดมาคือในฝูงหงส์โดยจับรวงทอง ทองลั่นธม นักร้องดังมาประกบกับมิตร ชัยบัญชา แต่หนังก็ได้เงินน้อย แต่ชูศรีก็ไม่ละความพยายามมีผลงานต่อมาคือสามเกลอเจอล่องหน โดยจับมิตร-เพชรา ประกบกันแต่ก็เจ๊งตามเคย แต่เธอก็ยังมีผลงานอำนวยการสร้างต่อมาอีกหลายเรื่อง โดยเธอเคยผลิตรายการชูศรีจํ๋จี๋และศาลาชวนหัวทางโทรทัศน์อีกด้วย
บั้นปลาย
ชูศรีป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบทำให้เธอเป็นอัมพาตครึ่งซีกทางฝั่งซ้าย ตั้งแต่ปี2524 โดยเธอไปไหนก็ต้องใช้ไม้เท้าหรือนั่งรถเข็นแต่ยังทำงานไม่ขาดสาย ในช่วงบั้นปลายเธอยังมีการรับการแสดงช่วงกลางคืนในคาเฟ่อีกด้วย
ในวันที่เสียชีวิตชูศรีกำลังเดินทางไปถ่ายทำละครเจ้าจอม โดยมีหลานเป็นผู้ขับรถไปให้โดยชูศรีเกิดอาการหมดสติขณะอยู่บนรถ หลานปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นเลยโทรไปบอกกองละครแล้วพาชูศรีไปโรงพยาบาลทันที โดยทางแพทย์พยายามช่วยอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตชูศรีไว้ได้ ชูศรีเสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม 2535 ที่โรงพยาบาลนนทเวช1 มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2536 ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
*ข้อมูลจาก wikipedia.org
*รูปจากเพจ Thai Movie Poster