พิภพมัจจุราช 2566

เรื่องย่อ : พิภพมัจจุราช (2567/2024) มัจจุราช (เคลลี่ ธนะพัฒน์) นักปราชญ์โดยกำเนิด เป็นผู้ปกครองนรก เจ้าของความคิดแยบยล และฝีปากที่คมกริบพร้อมที่จะเชือดเฉือนผู้ประพฤติผิดคิดมิชอบให้ได้สำนึก และเป็นผู้ทำหน้าที่ตัดสินความดีงามของมนุษย์ที่ถึงแก่กรรม หรือยังไม่ถึงแก่กรรม แต่มีเหตุต้องเยี่ยมชมขุมนรกก่อนวัยอันควรที่จะถูก ยมนา (บอส ธวัชนินทร์) และ ยมณี (ฟิล์ม ฉัตรดาว) 2 ยมทูตคู่หู ผู้ทำหน้าที่ควบคุมวิญญาณไม่ให้หลงทางหรือหนีกรรมชั่วที่ก่อไว้เมื่อตอนมีชีวิตและถูกตามล่าจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายเพื่อนำมาสู่กระบวนการชำระความโดยท่านมัจจุราช ที่จะชั่งน้ำหนักจากบัญชีปกทองคำของ สุวรรณ (เบิร์ด ธราธิป) เจ้าหน้าที่นรกที่อารมณ์ดีตลอดเวลา เพราะสัมผัสแต่ความดีงามของมนุษย์ที่ก่อกรรมดี ผู้บันทึกการทำดีของมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดจนจากโลกนี้ไป และนำมาหักล้างกับความเลวที่มนุษย์ผู้นั้นกระทำที่จารึกอยู่ในบัญชีหนังสุนัขโดยฝีมือของ สุวาน (หรูหรา ปิยะวัฒน์) ซึ่งอารมณ์และคำพูดคำจาของท่านก็สมชื่อเนื่องจากท่านต้องสัมผัสกับความชั่วร้ายที่มนุษย์สร้างขึ้นนับหมื่น ๆ ปี การทำงานของท่านมัจจุราชนั้นจะว่าง่ายก็ง่ายถ้าวิญญาณดวงนั้นเป็นคนดีหรือคนชั่วอย่างชัดเจน เช่น ดีก็ดีราวนางเอกละครหลังข่าว เลวก็เลวเหมือนผู้ร้ายหนังไทยรุ่นเก่า แต่ในความเป็นจริงของสังคมปัจจุบัน มนุษย์ทุกผู้ทุกนามหามีความดีหรือชั่วอย่างชัดเจนไม่ ที่สำคัญ โลกในยุคโซเชียลความเลวที่คนกระทำอาจถูกลากเอามาประจานได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดมนุษย์ประเภทคนดีประดิษฐ์หรือคนชั่วผู้ประเสริฐขึ้นมา ซึ่งมนุษย์ประเภทนี้ทำให้ท่านมัจจุราชและทีมงานต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะตัดสินพิพากษาส่งให้ผู้นั้นขึ้นไปเสวยสุขบนสวรรค์หรือตกนรกหมกไหม้ลงไปชดใช้กรรม และยังมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องตายก่อนวาระที่แท้จริงจะมาถึงด้วยความผิดพลาดในระบบราชการนรกที่ไม่แตกต่างจากโลกมนุษย์ วิญญาณเหล่านั้นยังไม่ควรที่จะถูกตัดสินพิพากษาโดยท่านมัจจุราช ดังนั้นในระหว่างที่วิญญาณเคราะห์ร้ายได้โอกาสดูงานเมืองนรกสลับกับล่องลอยอยู่บนโลกมนุษย์เพราะยังถูกรั้งไว้ด้วยกิเลสทั้งสาม ไม่ว่าจะเป็นความโลภ ความโกรธ ความหลง ในขณะที่ต้องถูกคุกคามด้วยวิญญาณชั่วร้ายต่าง ๆ นานา ยมทูตต้องทำงานหนักเพื่อปกป้องวิญญาณดวงนั้น ในขณะที่ท่านมัจจุราชและทีมงานต้องหาทางแก้ไขไม่ว่าจะให้ขึ้นสวรรค์ก่อนกำหนด ตกนรกแบบทางด่วน หรือมีโอกาสกระทำความดีเพื่อเมื่อถึงเวลาตายอันถูกต้องจะได้ไม่ต้องมาเสียอกเสียใจให้ดราม่าท่วมนรก พิภพมัจจุราช ละครส่งเสริมคุณธรรมให้สังคม ที่จะย้ำให้ผู้ชมได้ตระหนักว่ากฎแห่งกรรมนั้นมีอยู่จริง คนเราทุกผู้ทุกนามเมื่อทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ไม่มีผู้ใดสามารถหลีกหนีกฎแห่งกรรมไปได้ และเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมทุกเพศทุกวัย พิภพมัจจุราชจึงสำแดงชีวิตมนุษย์ในเรื่องราวที่ทุกคนจับต้อง และสัมผัสได้เป็นเรื่องความรักโลภ โกรธ หลง ไม่ซับซ้อน แฝงอารมณ์ขันของการมองโลกของทีมมัจจุราช ผ่านความผิดพลาดของมนุษย์ 

 
พิภพมัจจุราช 2566

เรื่องย่อ : พิภพมัจจุราช (2566/2023) มัจจุราช (เคลลี่ ธนะพัฒน์) นักปราชญ์โดยกำเนิด เป็นผู้ปกครองนรก เจ้าของความคิดแยบยล และฝีปากที่คมกริบพร้อมที่จะเชือดเฉือนผู้ประพฤติผิดคิดมิชอบให้ได้สำนึก และเป็นผู้ทำหน้าที่ตัดสินความดีงามของมนุษย์ที่ถึงแก่กรรม หรือยังไม่ถึงแก่กรรม แต่มีเหตุต้องเยี่ยมชมขุมนรกก่อนวัยอันควรที่จะถูก ยมนา (บอส ธวัชนินทร์) และ ยมณี (ฟิล์ม ฉัตรดาว) 2 ยมทูตคู่หู ผู้ทำหน้าที่ควบคุมวิญญาณไม่ให้หลงทางหรือหนีกรรมชั่วที่ก่อไว้เมื่อตอนมีชีวิตและถูกตามล่าจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายเพื่อนำมาสู่กระบวนการชำระความโดยท่านมัจจุราช ที่จะชั่งน้ำหนักจากบัญชีปกทองคำของ สุวรรณ (เบิร์ด ธราธิป) เจ้าหน้าที่นรกที่อารมณ์ดีตลอดเวลา เพราะสัมผัสแต่ความดีงามของมนุษย์ที่ก่อกรรมดี ผู้บันทึกการทำดีของมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดจนจากโลกนี้ไป และนำมาหักล้างกับความเลวที่มนุษย์ผู้นั้นกระทำที่จารึกอยู่ในบัญชีหนังสุนัขโดยฝีมือของ สุวาน (หรูหรา ปิยะวัฒน์) ซึ่งอารมณ์และคำพูดคำจาของท่านก็สมชื่อเนื่องจากท่านต้องสัมผัสกับความชั่วร้ายที่มนุษย์สร้างขึ้นนับหมื่น ๆ ปี การทำงานของท่านมัจจุราชนั้นจะว่าง่ายก็ง่ายถ้าวิญญาณดวงนั้นเป็นคนดีหรือคนชั่วอย่างชัดเจน เช่น ดีก็ดีราวนางเอกละครหลังข่าว เลวก็เลวเหมือนผู้ร้ายหนังไทยรุ่นเก่า แต่ในความเป็นจริงของสังคมปัจจุบัน มนุษย์ทุกผู้ทุกนามหามีความดีหรือชั่วอย่างชัดเจนไม่ ที่สำคัญ โลกในยุคโซเชียลความเลวที่คนกระทำอาจถูกลากเอามาประจานได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดมนุษย์ประเภทคนดีประดิษฐ์หรือคนชั่วผู้ประเสริฐขึ้นมา ซึ่งมนุษย์ประเภทนี้ทำให้ท่านมัจจุราชและทีมงานต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะตัดสินพิพากษาส่งให้ผู้นั้นขึ้นไปเสวยสุขบนสวรรค์หรือตกนรกหมกไหม้ลงไปชดใช้กรรม และยังมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องตายก่อนวาระที่แท้จริงจะมาถึงด้วยความผิดพลาดในระบบราชการนรกที่ไม่แตกต่างจากโลกมนุษย์ วิญญาณเหล่านั้นยังไม่ควรที่จะถูกตัดสินพิพากษาโดยท่านมัจจุราช ดังนั้นในระหว่างที่วิญญาณเคราะห์ร้ายได้โอกาสดูงานเมืองนรกสลับกับล่องลอยอยู่บนโลกมนุษย์เพราะยังถูกรั้งไว้ด้วยกิเลสทั้งสาม ไม่ว่าจะเป็นความโลภ ความโกรธ ความหลง ในขณะที่ต้องถูกคุกคามด้วยวิญญาณชั่วร้ายต่าง ๆ นานา ยมทูตต้องทำงานหนักเพื่อปกป้องวิญญาณดวงนั้น ในขณะที่ท่านมัจจุราชและทีมงานต้องหาทางแก้ไขไม่ว่าจะให้ขึ้นสวรรค์ก่อนกำหนด ตกนรกแบบทางด่วน หรือมีโอกาสกระทำความดีเพื่อเมื่อถึงเวลาตายอันถูกต้องจะได้ไม่ต้องมาเสียอกเสียใจให้ดราม่าท่วมนรก พิภพมัจจุราช ละครส่งเสริมคุณธรรมให้สังคม ที่จะย้ำให้ผู้ชมได้ตระหนักว่ากฎแห่งกรรมนั้นมีอยู่จริง คนเราทุกผู้ทุกนามเมื่อทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ไม่มีผู้ใดสามารถหลีกหนีกฎแห่งกรรมไปได้ และเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมทุกเพศทุกวัย พิภพมัจจุราชจึงสำแดงชีวิตมนุษย์ในเรื่องราวที่ทุกคนจับต้อง และสัมผัสได้เป็นเรื่องความรักโลภ โกรธ หลง ไม่ซับซ้อน แฝงอารมณ์ขันของการมองโลกของทีมมัจจุราช ผ่านความผิดพลาดของมนุษย์ ติดตามชมละคร พิภพมัจจุราช ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7 HD กด 35 ละคร พิภพมัจจุราช เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2566 (ที่มา : ช่อง 7, กันตนา)

ไวรัสวัยเลิฟ ชุด Pretties Kitties ซูเปอร์กำลังจะตาย

เรื่องย่อ : ไวรัสวัยเลิฟ ชุด Pretties Kitties ซูเปอร์กำลังจะตาย (2564/2021) เจน, โบว์, นุ่น 3 สาวพริตติ้ตัวท็อปอันดับต้น ๆ เพื่อนรักตัวติดกันชนิดที่ว่าเจอเจนอยู่ที่ไหนก็ต้องเจอโบว์และนุ่นอยู่ด้วย เวลารับงานก็รับเป็นแพ็กแบบไม่ยอมแยกกันเด็ดขาด กินนอนอยู่อพาร์ตเมนต์ห้องเดียวกัน เวลามีเงินก็ใช้ชีวิตหรูหรา ดาวน์รถ นิยมของแบรนด์เนม ใช้เงินอย่างกับน้ำ จนวันหนึ่งเกิดวิกฤตโควิดขึ้น ทั้ง 3 สาวตกงานทันที เงินที่มีอยู่ติดตัวเหลือกันไม่กี่พัน ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดเพื่อหาเงินจ่ายค่าห้อง เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง พากันงัดวิธีทั้งถูกและผิด เป้าหมายก็คือช่วยกันหาเงินให้ผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้ เจนตัดสินใจขายของออนไลน์ อีก 2 สาวคอยช่วย โดยมีแฮงค์ หนุ่มหน้าตาดี ที่คอยช่วยเหลือ และแนะนำการป้องกันตัวจากโควิด 19 ด้วยความเต็มใจ และคอยจีบนุ่นไปด้วย เหมือนว่าชีวิตจะกลับมาดีขึ้น แต่เจนกลับต้องใช้เงินก้อนเมื่อพ่อป่วยหนัก จังหวะเดียวกับแซม หนุ่มเพลย์บอย มาเสนองานให้เจน แต่แฮงค์ขัดว่าไม่อยากให้เจนรับ เพราะแฮงค์มีประวัติไม่ดีเรื่องผู้หญิง เจนสงสัยว่าทำไมแฮงค์ถึงรู้ แฮงค์แถเอาตัวรอดไปได้ แฮงค์และเพื่อน ๆ อยากช่วยเจน แต่เจนไม่อยากสร้างความลำบากให้เพื่อน ๆ นุ่นเห็นแฮงค์กอดกับสาวใหญ่ นุ่นร้องไห้ผิดหวัง เจนกับโบว์มาเห็น ทั้งสามกอดกันร้องไห้ และตัดสินใจไม่เชื่อใจแฮงค์อีกต่อไป และยังรับงานของแซมด้วย และเจน นุ่น โบว์ ก็ตกอยู่ในอันตราย เพราะบางคนมีแผนร้าย 3 สาวเจอลวนลาม และยังเสี่ยงกับการติดโควิด 19 ด้วย ส่วนแฮงค์ก็มีความลับที่เขาไม่ได้บอกกับ 3 สาว แม้แต่นุ่นผู้หญิงที่เขาหลงรัก ใครจะช่วยให้ 3 สาว เจน โบว์ นุ่น พ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ? ในวิกฤตนั้นมีความรัก ! แต่จะสมหวังไหม ? ต้องติดตามชมกันต่อได้ใน ไวรัส วัยเลิฟ ชุด ซูเปอร์กำลังจะตาย (Pretties Kitties) ที่ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35

ไวรัสวัยเลิฟ ชุด หอซ่อนรัก 2564

เรื่องย่อ : ไวรัสวัยเลิฟ ชุด หอซ่อนรัก (2564/2021) คงไม่มีใครอยากโดนกักตัว 14 วัน เพราะโควิด 19 ในหอพักปิดตาย แต่ดันเป็นโชคดีของ คิมหันต์ หรือ คิม (ปีเตอร์ ชลพัชร) หนุ่มน้อยปี 1 คณะบริหารธุรกิจ ที่จะได้ใกล้ชิดถึง 14 วันกับคนที่เขาแอบปลื้มมานาน นั่นก็คือ ถาปัตย์ หรือ ถา (บอส ธวัชนินทร์) หนุ่มคณะสถาปัตย์หล่อเข้มเน็ตไอดอล โดยคิมหารู้ไม่ว่าหอพักแห่งนี้เก็บงำความลับอันดำมืดของโศกนาฏกรรมความรักเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นหอพักต้องสาปที่เฮี้ยนกว่าใคร นอกจากคิมและถาก็ยังมีผู้ที่จะมาร่วมประสบการณ์ความสยองครั้งนี้ด้วยนั่นก็คือ เจ๊เมษ (ทับทิม ภรัณยา) บิวตี้บล็อกเกอร์สายฮามีคนติดตามเหยียบล้าน ซึ่งเป็นรุ่นพี่สายรหัสของคิม พ่วงด้วยทีมงานอีก 2 คน นั่นก็คือ โจ๊กเกอร์ (เคน ฮาเซกาวา) และ เป่าเปา (แอล ณัฏฐ์พัชร์) ทั้งสามซวยเพราะความโลภโหยหายอดไลก์ เลยมัวแต่ไลฟ์สตรีมเรียกเรตติ้งจากเหตุการณ์อพยพครั้งใหญ่ของชาวหอจนหนีออกไปไม่ทัน ทำให้ต้องติดแหง็กอยู่ที่นี่ และก็มารู้ทีหลังว่าจริง ๆ แล้ว คิม น้องรหัส จะหนีไปตั้งแต่แรกก็ได้แต่ไม่ทำ เพราะจงใจที่จะโดนกักตัวเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดนายถาปัตย์ ที่เขามัวแต่ไลฟ์คืนก่อนวันเกิดเหตุยันสว่าง ทำให้เผลอหลับยาว มารู้ตัวอีกทีก็พบว่าหอร้างไปแล้ว เจ๊เมษจอมวางแผนอยากช่วยน้องรหัสให้ได้ใกล้ชิดกับคนที่แอบปลื้ม โดยได้รับความร่วมมือจากโจ๊กเกอร์และเป่าเปา ในการสร้างสถานการณ์หลอกผี เพื่อให้คนทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน โดยอิงจากตำนานโศกนาฏกรรมรักสามเส้าของ วิน (เน็ต ธนัฏชา) วิศ (ซัน ชีวานนท์) และ แก้ว (ดารัณ เศรษฐิณิช) รุ่นพี่ที่เคยอยู่หอนี้เมื่อ 10 ปีก่อน ที่ทำให้หอพักแห่งนี้ต้องกลายเป็นตำนานเล่าขานจนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่แก๊งเจ๊เมษกำลังปฏิบัติภารกิจพิชิตใจถา โดยการสร้างสถานการณ์หลอกผีเพื่อให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน ผีพี่วินก็ดันปรากฏตัวขึ้นมาจริง ๆ เล่นเอาชาวแก๊งหวีดลั่นหอจนจับไข้หัวโกร๋น แต่เหตุการณ์นี้กลับทำให้ถากับคิมสนิทกันมากยิ่งขึ้น แต่ยังมีความลับและเหตุผลที่ถาเข้ามาอยู่ในหอพักนี้ที่ทุกคนไม่รู้มาก่อน ในตำนานโศกนาฏกรรมรักสามเส้าที่เล่าลือกันจนกลายเป็นปริศนาของวิญญาณเฮี้ยน สุดท้ายพวกเขาร่วมมือกันค้นหาความจริง ไขความลับปริศนา เพื่อปลดปล่อยวิญญาณไปสู่สุคติ และปลดล็อกปริศนาที่ต้องการหาคำตอบ จนกลายเป็นความผูกพัน มิตรภาพของกลุ่มคนติดหอ ให้เห็นว่าในสถานการณ์เลวร้ายยังมีเรื่องราวและมิตรภาพดี ๆ ซ่อนอยู่เสมอ ติดตามชมซีรีส์ ไวรัส วัยเลิฟ ชุด หอซ่อนรัก ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. ทางช่อง 7 HD กด 35

ไวรัสวัยเลิฟ ชุด นักรบชุดขาว 2564

ไวรัสวัยเลิฟ ชุด นักรบชุดขาว (2564/2021) รักต่างวัยที่ไม่มีทางเป็นไปได้ระหว่างคุณหมอสาวผู้เคร่งเครียดทุ่มเทพลังกายต่อสู้กับการรักษาผู้ป่วยในสถานการณ์โควิด 19 จนละเลยสุขภาพของตัวเอง กับหนุ่มนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เสเพล ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ดูไร้สาระ เตชินท์ (ชิน) นักศึกษาหนุ่ม คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 4 ใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวนั่งเรียนออนไลน์ในหอพัก แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสื้อในผู้หญิงลอยมาพาดบ่าเขาจัง ๆ ชินหันไปโวยว่าเรียนอยู่รีบไล่ผู้หญิงกลับบ้าน อาจารย์กับเพื่อนเห็นก็พากันแซว... ชินเขินไปลุกไปบิดขี้เกียจที่ระเบียบ สายตาเขามองไปเห็น พีรยา (พาย) คุณหมอสาวที่เพิ่งเลิกเวร เหนื่อยล้ากลับเข้าบ้านพอดี พายหันมาเห็นชินยืนมองอยู่ก็ชักสีหน้าไม่พอใจใส่ เพราะคิดว่าชินเป็นพวกถ้ำมอง รีบเดินเข้าห้องพอ ตกดึกชินออกมาส่องห้องพาย เห็นพายกำลังออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพอที่จะเป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้เจ็บป่วยช่วงเวลาสำคัญนี้ได้ แต่พายไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย จึงเต้นแบบตลก ๆ ทำให้ชินที่มองอยู่ก็ขำกับท่าทางน่ารัก ๆ พ ยายามทำท่าต่าง ๆ ตามยูทูบ จนพายรู้สึกตัวว่ามีคนแอบมอง ชินโบกมือให้พายรูดม่านปิด ชินหน้าจ๋อย... แต่ก็อยากให้กำลังใจคุณหมออย่างพาย ให้มีกำลังใจที่กำลังต่อสู้กับโรคโควิด 19 และคิดขึ้นมาได้ว่าตนเองมีโดรนใช้บินในงานวิชาวิศวะอยู่ จึงเอาโดรนออกมาเริ่มปฏิบัติการรักข้ามตึก โดยส่งโดรนเขียนไอดีไลน์ติดไว้บินไปจอดตรงหน้าพายที่กำลังทำแพลงกิ้ง ดูคลิปขอแต่งงานอยู่ พายตกใจล้มกลิ้งแล้วรีบเด้งลุกขึ้นมามองเห็นชินตะโกนบอกให้ดูข้อความที่โดรน พายเอาสเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดแล้วกลับเข้าห้อง ทำให้ชินหน้าจ๋อย... ไม่รู้ว่าคุณหมอคนสวยจะได้อ่านข้อความหรือยัง ชินลุ้นให้พายแอดไลน์มา แต่ก็ไม่มีวี่แววเลย ชินพยามหาทางให้ฝ่ายสาวคุยด้วย เช่น แกล้งป่วยไปให้พายตรวจ แต่กลับถูกดุว่าที่โรงพยาบาลเป็นเขตเสี่ยง ถ้าไม่ป่วยห้ามมา ชินนั่งส่องบ้านพายจนเผลอหลับ แต่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะพายแอดไลน์มา ชินรีบ Facetime หาพาย แต่ยังไม่ทันได้คุย มีสาวเคาะห้องเรียกชินก่อน ทำให้พายเข้าใจผิดตัดสายทิ้ง คิดว่าชินโทรมาแกล้งชินโทรหาพาย แต่โดนพายด่าเพราะเหนื่อยกับงาน แล้วยังต้องมาเจอเด็กงี่เง่าไร้สาระอย่างชินมากวนอีก จะไม่คุยด้วย แต่ชินขอเวลา 5 นาที รายงานประวัติส่วนตัวและที่สำคัญบอกว่าตนเองโสด ที่โทรมาเพราะอยากให้กำลังใจพายที่เสียสละเพื่อคนในชาติ... สู้ ๆ นะครับนักรบชุดขาว !! คำพูดนั้นทำให้พายมีกำลังใจขึ้นมา พายขอบคุณ ได้ยินเสียงชินไอ เลยรีบซักตารางชีวิตในช่วงอาทิตย์นี้อย่างละเอียด จนชินงง พายย้ำว่าถ้ายังอยากคุยกันก็ห้ามปกปิดข้อมูล เพื่อนชินโทรมาบอกว่าเพื่อนที่มาหาเมื่อคืนติดโควิด ชินเครียดกลัวตาย พายสั่งให้กักตัวคอยรายงานอาการให้เธอรู้ตลอด 14 วัน ความรักต้องห้ามระหว่างคุณหมอกับคนไข้จึงเกิดขึ้นพายทำตามหน้าที่ของหมอ ให้คำปรึกษาคนไข้ด้วยวิธีการรักษาออนไลน์ ชินได้โอกาสจีบพายเลยคอยรายงานอาการของตนเอง 3 เวลาหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน และมักจะมาด้วยวิธีแปลก ๆ เช่นแต่งชุดหมีเต้นบ้าบอ ร้องเพลงดีดกีตาร์ จัดผับในห้อง ฯลฯ เพื่อที่ให้เขาไม่ฟุ้งซ่าน และทำให้พายได้มีรอยยิ้มในการหน้าที่หมอซึ่งหนักอยู่แล้ว ชินเห็นว่าอุปกรณ์การแพทย์ขาดแคลน เลยคิดประดิษฐ์หุ่นยนต์ตรวจคนไข้เพื่อป้องกันความเสี่ยงของหมอและพยาบาล ที่อาจติดโรคจากคนไข้ได้ แต่แล้วนรกของชินก็เริ่มขึ้นเมื่อเขามีอาการป่วย และแย่ลงทุกที โทรปรึกษาพาย พายก็แนะนำให้กินยา ดูอาการว่าเหนื่อยหอบ มีอาการปอดอักเสบไหม ชินกลัวตาย เสียใจ แต่ก็ได้พายให้กำลังใจ หารู้ไม่ว่าตอนนี้พายเองก็กำลังกักตัวเองอยู่ เพราะมีคนไข้ปกปิดข้อมูล ชินอ้อนพายอยากให้มาเยี่ยม แต่พายบอกไม่ว่างติดงานอยู่ ชินอาการหนักต้องไปหาหมอตามลำพัง เสียใจที่พายเห็นงานสำคัญกว่าเขา ชินสารภาพความจริงว่าแอบชอบพายอยู่ พายบอกให้ตัดใจเพราะอายุต่างกัน และเธอเป็นหมอ ส่วนเขาเป็นคนไข้ มันผิดจรรยาบรรณ ขอถอยความสัมพันธ์กับชิน ชินรู้ผลว่าเขาเป็นไข้หวัดใหญ่แต่กลับไม่ดีใจ เพราะเสียใจเรื่องที่ต้องเลิกกับพาย ชินกำลังมาใช้ชีวิตปกติ... มองบ้านพายแล้วตัดสินใจส่งโดรนไปเพื่อบอกลา แต่เขากลับต้องตกใจที่เห็นพายอาเจียนจนเป็นลมล้มอยู่ในบ้าน ชินรีบออกไปหาพาย แต่พายไม่เปิดประตูบ้าน ไล่ชินกลับไป เธออาจติดเชื้อ ชินไม่สนใส่หน้ากากอนามัยเข้าไปอุ้มร่างพายไปส่งโรงพยาบาล ชินเป็นห่วงกลัวพายติดโควิด แต่ความจริงพายทำงานหนักจนเพลียความเครียดเลยทำให้น็อกไป พายกลับมาเยียวยาตัวที่บ้านพัก ชินคอยส่งของเยี่ยม ส่งกำลังใจ ช่วยให้พายผ่อนคลายจะได้มีแรงกำลังมาสู้ทำหน้าที่หมออีกครั้ง แต่ความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร ต้องไปติดตามกันต่อในซีรีส์ ไวรัส วัยเลิฟ ชุด นักรบชุดขาว ที่ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. ทางช่อง 7 HD กด 35 จ้า...

วงเวียนหัวใจ 2563

เรื่องย่อ : วงเวียนหัวใจ (2564/2021) หัวใจของเธอ…เหมือนวงเวียนที่ไร้จุดศูนย์กลาง หมุนกระท่อนกระแท่น…วาดวงกลมไม่เต็มวง ความรักของเขา…ทำให้วงเวียนหัวใจของเธอมีจุดศูนย์กลางมั่นคง วงกลมที่วาดขึ้นจากใจสองใจจึงเป็นวงกลมเต็มวง เป็นรักแท้…ที่เติมเต็มหัวใจทั้งสองใจ…. ทันทีที่ โบว์ (นาว ทิสานาฏ) สาวสวยนักเรียนนอก เดินทางถึงไทย เธอก็ได้รับข่าวร้ายว่า วราพงษ์ (ไต้ฝุ่น ตากเพชร) แฟนหนุ่มที่รักกันมายาวนาน ตัดสินใจแต่งงานกับ วิธนี (พลอย รัญดภา) น้องสาวของ ทศ (พอร์ช ศรัณย์) มหาเศรษฐีเจ้าของไร่องุ่นไปเสียแล้ว โบว์พกพาหัวใจที่บอบช้ำไปนั่งปล่อยอารมณ์คนเดียวในผับแห่งหนึ่ง และถูกมิจฉาชีพในคราบหนุ่มนักธุรกิจแอบใส่ยาในเครื่องดื่ม เพื่อล่อลวงเธอไปทำมิดีมิร้าย ระหว่างที่โบว์ครองสติไม่อยู่ กำลังจะถูกพาออกไปจากผับ ทศมาเจอ และเข้าไปช่วยเหลือได้ทันเวลา แต่โบว์มึนยาจนพูดจาไม่รู้เรื่อง ทำให้ทศต้องเปิดห้องพักในโรงแรมให้หญิงสาวนอนพักชั่วคราว ฤทธิ์ยาทำให้โบว์ร้องห่มร้องไห้คร่ำครวญถึงคนรักที่ทอดทิ้งไป แถมยังอาละวาดใส่ทศสารพัด จนชายหนุ่มต้องคอยจัดการให้หญิงสาวหมดฤทธิ์นอนหลับไปได้ในที่สุด ท่ามกลางค่ำคืนอันแสนสั้น ความรักถูกจุดขึ้นในหัวใจของทศอย่างรวดเร็ว เขารู้ตัวว่าได้ตกกหลุมรักผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้เสียแล้ว โบว์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เสื้อเชิ้ตของทศที่เธอสวมอยู่ ทำให้โบว์หลงเข้าใจผิดว่าได้เสียตัวให้กับทศ ยังไม่ทันที่ทศจะได้อธิบายอะไร โบว์ก็รีบวิ่งหนีออกจากโรงแรมด้วยความอับอาย ไม่กล้าแม้แต่จะเล่าเรื่องนี้ให้กับ แบม (นินิว กัญญารัตน์) พี่สาวที่เธอไว้วางใจฟัง หญิงสาวได้แต่เก็บความทุกข์นี้ไว้คนเดียว วราพงษ์ เป็นผู้ชายอ่อนแอ และโลเลไม่แน่นอน เมื่อรู้ข่าวว่าโบว์กลับมาเมืองไทย จึงพยายามนัดเจอ ทันทีที่ได้พบกันโบว์ขอเลิกกับวราพงษ์ แต่ความรักที่ยาวนานทำให้เธอหวั่นไหวไปกับคำแก้ตัวของคนรัก เขายืนยันว่ายังรักเธอ แต่เพราะโบว์ไปเรียนต่อต่างประเทศความห่างไกลทำให้เขาเผลอไผลไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับวิธนีจนท้อง ทำให้เขาต้องรับผิดชอบโดยการแต่งงาน และขอร้องให้โบว์รอเขาก่อน ในวินาทีที่โบว์แข็งใจจะบอกเลิกให้เด็ดขาด วิธนีสะกดรอยตามมาเจอและด่าทอ ตบหน้าโบว์ พูดจาเสียดแทงใจว่าโบว์เป็นได้แค่เมียน้อย แย่งสามีชาวบ้านอย่างไม่มียางอาย อารมณ์โกรธทำให้โบว์อยากเอาชนะ จึงสวนกลับว่าวิธนีต่างหากคือเมียน้อยตัวจริง เพราะมาแย่งวราพงษ์ไป วิธนีโรคหัวใจกำเริบจนวราพงษ์และโบว์ต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล ทศ รีบตามมาดูน้องสาว และได้เห็นภาพวราพงษ์จับมือโบว์อย่างสนิทสนม ความผิดหวังแล่นจู่โจมหัวใจของทศ ผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่เขาเฝ้าคิดถึง คือโบว์ผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาทำลายครอบครัวของน้องสาวคนเดียวที่เขารักมากที่สุดในชีวิต คำบอกเล่าของวิธนีหลังออกจากโรงพยาบาล ยิ่งยืนยันแน่ชัดว่าโบว์คิดจะแย่งวราพงษ์คืนไป วิธนีโทรศัพท์มาหาโบว์ แต่ คุณหญิงบุษบา (ขวัญฤดี กลมกล่อม) แม่ของโบว์เป็นคนรับสาย วิธนีด่าคุณหญิงให้อบรมสั่งสอนลูกอย่าให้มาแย่งสามีชาวบ้าน จนคุณหญิงตกใจเป็นลม นายพลเริงศักดิ์ (ตฤณ เศรษฐโชค) พ่อของโบว์โกรธมาก คิดว่าลูกสาวจะไปแย่งสามีคนอื่นจริง จึงต่อว่าโบว์ด้วยถ้อยคำรุนแรง โบว์น้อยใจพ่อ ความเป็นคนนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจจึงประชดประชันว่าตนเองยังรักวราพงษ์ และจะไม่เลิกกับเขาเด็ดขาด ความอดทนของนายพลขาดผึงจึงหลุดปากตัดขาดกับโบว์ หญิงสาวหอบเสื้อผ้าออกจากบ้านโดยไม่ฟังคำทัดทานเตือนสติของผู้เป็นพี่สาว ที่ไม่อยากให้น้องสาวทำผิดศีลธรรม ทำลายครอบครัวคนอื่น คอนโดหรูใจกลางเมือง กลายเป็นที่หลบซ่อนตัวของโบว์ เธอตั้งใจจะหลบหน้าวราพงษ์แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น วราพงษ์บุกไปหาโบว์ถึงคอนโด ร้องไห้เสียใจที่ไม่สามารถตัดใจจากโบว์ได้ ความผูกพันที่เคยมีต่อกันทำให้หญิงสาวใจอ่อน ทศสืบหาตัวโบว์จนตามมาเจอที่คอนโดแห่งนี้ เขาเห็นเธอเดินลงมาส่งวราพงษ์ เข้าใจผิดว่าสองคนอยู่ด้วยกันแล้ว ทศคิดว่าเขาควรทำอะไรสักอย่างเพื่อแยกโบว์และวราพงษ์ออกจากกัน เพื่อช่วยน้องสาวและหลานที่กำลังจะเกิดขึ้นมาให้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ และที่สำคัญที่สุดเขาไม่อาจปฏิเสธหัวใจตัวเองได้เลยว่า เขาหวงแหนโบว์ และไม่อาจทนเห็นผู้หญิงคนนี้ตกเป็นเมียน้อยของน้องเขยตัวเองได้ ชัย (วิน ชวินทร์วุฒิ) เพื่อนสนิทของทศ คุ้นเคยกับครอบครัวของโบว์เป็นอย่างดี เป็นผู้ที่ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวของโบว์แก่ทศ ทศจึงตัดสินใจบุกไปพบนายพลเริงศักดิ์บิดาของโบว์ในทันที พร้อมรับสารภาพอย่างลูกผู้ชายว่า ตนเองได้รู้จักกับโบว์โดยบังเอิญ ความมึนเมาด้วยกันทั้งคู่ทำให้เกิดได้เสียกันในคืนนั้น เขาจึงมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอแต่งงานกับลูกสาวคนเล็กของท่านนายพลฯ อย่างลูกผู้ชาย นายพลเริงศักดิ์ชกหน้าทศด้วยความแค้นเคือง และจะแจ้งความดำเนินคดีกับทศให้ถึงที่สุด แต่ลูกสาวคนโต รีบห้ามปรามไว้เพราะเกรงว่าน้องสาวจะเสียชื่อเสียง ทศไม่ลดละความพยายาม ไปขอร้องให้ คุณเรือง (จิ๊บ วสุ) พ่อของชัยซึ่งรู้จักกันดีกับท่านนายพลฯ ไปทำหน้าที่สู่ขอโบว์ท่านนายพลฯ และคุณหญิงฯ กำลังร้อนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างโบว์กับวราพงษ์ กลัวว่าลูกสาวจะแอบอยู่กินกับวราพงษ์ในฐานะภรรยาน้อย ขณะกำลังกังวลและหมดหนทางอยู่นั้น คุณเรืองก็มาสู่ขอโบว์ให้ทศและหว่านล้อมให้ท่านนายพลฯ คิดได้ว่า ไหน ๆ ข้าวสารก็กลายเป็นข้าวสุกแล้ว การให้โบว์แต่งงานกับทศ ย่อมดีกว่าปล่อยลูกสาวไปเป็นเมียน้อยชาวบ้าน แล้วต้องระทมทุกข์ชั่วชีวิต อีกทั้งนายพลรู้จากคุณเรืองว่า ทศเป็นลูกชายคนเดียวของเพื่อนเก่าแก่ที่เคยสนิทกันมากของท่านนายพลฯ คือ คุณสุทน และ ดาราศรี เจ้าของธุรกิจพันล้าน ทั้งเหมืองแร่ทางใต้และไร่องุ่นใหญ่โต แต่พ่อแม่ของทศเสียตั้งแต่ทศยังเด็ก ฐานะของทศก็เพียบพร้อม ที่สำคัญที่สุดคือยังไม่มีพันธะ ทศย่อมมีคุณสมบัติเหนือกว่านายวราพงษ์ แต่ปัญหาก็คือโบว์ ไม่ยอมรับว่ามีสัมพันธ์กับทศ และดื้อหัวชนฝาไม่ยอมแต่งงานกับทศเด็ดขาด ! แต่ด้วยความรักที่มีต่อลูก ท่านนายพลฯ จึงตัดสินใจเลือกทางที่จะให้โบว์ไปอยู่กับทศที่ไร่องุ่น แผนการจับคู่จึงเริ่มขึ้น... แบมทำตามแผนของบิดา ด้วยการชวนโบว์ไปดูที่ดินในต่างจังหวัด โดยอ้างว่ามารดาอยากซื้อที่ตรงนี้ไว้เพราะเป็นแปลงที่สวยมาก โบว์ยอมไปเป็นเพื่อน แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับกลายเป็นไร่องุ่นของทศ บุศยาภรณ์ทิ้งน้องไว้ที่นี่หนีกลับกรุงเทพฯ ด้วยความเสียใจที่หลอกน้องมา โบว์โกรธมาก และเสียใจเมื่อรู้ว่าพ่อแม่และพี่สาวรู้เห็นกับทศ จึงแผลงฤทธิ์ด้วยการอาละวาดขว้างปาข้าวของในกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอจนเกลื่อนไปทั่วห้อง แต่ทศไม่ว่าอะไร กลับช่วยจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ให้อย่างดี จนบุปผชาติแปลกใจ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ระหว่างอยู่ที่ไร่องุ่น ทศต้องอดทนกับความเอาแต่ใจและหยิ่งผยองของโบว์ ที่คอยแกล้งให้เขาหัวปั่นอยู่ตลอดเวลา แถมยังต้องคอยระวังไม่ให้เธอหลบหนีออกจากไร่ไปได้ และยื่นคำขู่ว่าถ้าเธอคิดหลบหนี หรือพูดเรื่องเขาฉุดเธอกับคนอื่น ๆ เขาจะนำเรื่องที่เธอเมามายจนเสียตัวให้เขาประจานไปให้ทั่ว แม้โบว์จะแสดงท่าทีเกลียดชังเขาหนักข้อขึ้นทุกที แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งรักเธอมากขึ้น และคอยหึงหวงเมื่อคิดว่าโบว์แอบคิดถึงวราพงษ์คนรักเก่า ระหว่างนี้ นายพลเริงศักดิ์ได้รู้ความจริงว่า ภรรยาของวราพงษ์ก็คือน้องสาวของทศ ท่านนายพลฯ โกรธจัดที่โดนทศปกปิดความจริง จึงเรียกตัวทศมาพบถึงกรุงเทพฯ ทศยอมรับผิดโดยให้เหตุผลว่าถ้าทุกคนรู้ว่าวิธนีคือน้องสาวเขา ท่านนายพลฯ คงไม่ยอมยกโบว์ให้อย่างแน่นอน แต่เขายืนยันหนักแน่นว่ารักโบว์จริง ท่านนายพลฯ จึงยกโทษให้ เพราะเชื่อสายตาตัวเองว่าทศเป็นลูกผู้ชายพอ การปรากฏตัวของ ใบตอง (ฟิล์ม ฉัตรดาว) ลูกสาวของ ประสิทธิ์ (ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) นักธุรกิจค้าไวน์ในท้องถิ่น ทำให้โบว์เกิดความคิดที่จะเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ใบตองกับทศ เพราะเธอสังเกตเห็นว่าใบตองชื่นชอบทศ และแวะมาเยี่ยมเยือนทศอยู่เสมอ ใบตองแอบเกลียดชังโบว์เมื่อรู้จากปากทศว่า โบว์เป็นคนที่ทศจะแต่งงานในอีกไม่ช้า โบว์เองก็หลงไว้ใจใบตอง จนบางครั้งเผลอระบายความในใจเรื่องคนรักเก่า และสารภาพว่าเธอไม่ได้รักทศแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่กล้าเล่าว่าโดนทศฉุดมา ความเป็นหญิงที่สุภาพเรียบร้อย พูดน้อย และจิตใจดี ทำให้โบว์และทศดูไม่ออกเลยว่า ใบตองซุกซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใน เธอวางแผนกลั่นแกล้งโบว์หลายอย่างเพื่อให้ทศเข้าใจโบว์ผิด จนเกิดความระหองระแหง ปั้นปึ่งใส่กันหลายครั้ง แต่ด้วยความรักที่ทศมีต่อโบว์ เขาก็ต้องเป็นฝ่ายงอนง้อเธอทุกคราวไป ความดีของทศทำให้โบว์เริ่มหวั่นไหวและรู้สึกหัวใจแปลบ ๆ เวลาที่เห็นทศแสดงความสนิทสนมกับใบตอง เพื่อประชดประชันที่เธอพยายามผลักไสเขาให้คนอื่น ส่วนทศเองก็ไม่อาจเสแสร้งฝืนใจรักใบตองได้ จึงปฏิเสธใบตองอย่างละมุนละม่อมว่าเขารักใบตองแบบน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น ใบตองเสียใจอย่างรุนแรง ด้วยความรักที่มีต่อทศ เธอจึงตัดสินใจจ้าง ไอ้ต้า (เต้ นันทศัย) คนงานในไร่ ฉุดโบว์ไปข่มขืน แต่ทศตามมาช่วยได้ทันเวลา ทศเฝ้าดูแลโบว์ซึ่งล้มป่วยเพราะพิษไข้ ความห่วงใยของทศทลายกำแพงแห่งความเกลียดชังของหญิงสาวจนพังทลาย โบว์เริ่มรู้ตัวว่า เธอลืมวราพงษ์หมดแล้วเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับทศ โบว์เริ่มมั่นใจแล้วว่า เธอรักผู้ชายคนนี้ ในวันที่โบว์ตัดสินใจจะตอบตกลงแต่งงานกับทศ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ใบตองสืบรู้ว่าคนรักเก่าของโบว์ก็คือสามีของน้องสาวทศ จึงส่งข่าวให้น้องสาวทศรู้ ว่าทศพาผู้หญิงแปลกหน้ามาซุกซ่อนไว้ที่ไร่ ถึงขนาดจะแต่งงานด้วยกัน วิธนีซึ่งหวงพี่ชายมาก รีบสั่งให้วราพงษ์พาเธอเดินทางมาที่ไร่ในทันที การปรากฏตัวของวิธนี และวราพงษ์ เหมือนสายฟ้าฟาดกลางใจโบว์ เธอได้ยินการทะเลาะกันระหว่างวิธนีกับทศ วิธนีต่อว่าพี่ชายที่มาวุ่นวายกับคนที่เธอเกลียด แต่ทศกลัวน้องสาวโรคหัวใจกำเริบจึงพยายามอธิบายให้น้องสบายใจว่าที่ไปยุ่งเกี่ยวกับโบว์ เพราะต้องการกีดกันผู้หญิงคนนี้ออกจากวราพงษ์ โบว์เสียใจหนักวิ่งร้องไห้หนีออกจากไร่ วราพงษ์ตามไปทัน รีบอาสาพาโบว์กลับกรุงเทพฯ วิธนีแทบคลุ้มคลั่งที่รู้ว่าสามีไปกับโบว์ โบว์ขอให้วราพงษ์เลิกยุ่งเกี่ยวกับเธอและกลับไปหาครอบครัว โดยไม่กล้าบอกว่าเธอรักทศ แต่วราพงษ์ก็ยังคงเห็นแก่ตัว ไม่ยอมเลิกยุ่งกับโบว์ ใช้ลูกตื้อว่าถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็ขอได้พบได้คุยกันบ้าง โบว์ใจอ่อนสงสาร ยินดีจะคบกันแค่เพื่อน แบมรู้ข่าวว่าน้องสาวหนีกลับมากรุงเทพฯ แล้ว รีบพาแม่ไปหา ความสงสารแม่ทำให้หญิงสาวโกรธแม่ไม่ลงเรื่องทศ แต่ก็ไม่อยากกลับบ้านเพราะไม่พอใจที่พ่อร่วมมือกับทศ และมองความรักความปรารถนาดีของพ่อเป็นเรื่องของการห่วงชื่อเสียงของตนเอง ท่านนายพลฯ รู้ข่าวว่าแผนล้มเหลว จึงยื่นคำขาดให้ทศต้องหาทางแต่งงานกับโบว์ให้เร็วที่สุด ทศตามงอนง้อโบว์ แต่ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกันวราพงษ์เกิดรู้ความจริงว่า วิธนีไม่ได้ตั้งท้องจริง ที่ผ่านมาเป็นแค่คำหลอกลวงเพื่อหาทางผูกมัดเขาเท่านั้น วราพงษ์โกรธมาก ประกาศขอเลิกกับวิธนี และคิดกลับไปขอคืนดีกับโบว์ วิธนีหัวใจวายถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล วราพงษ์รีบมาแจ้งข่าวดีกับโบว์ ว่าเขาตัดสินใจจะหย่าขาดกับวิธนีแน่นอนแล้ว ขอคำมั่นจากโบว์ให้ตกลงแต่งงานกับเขา โบว์เกิดความสับสนขอเวลาคิดดูก่อน เธอตัดสินใจแอบไปดูอาการป่วยของวิธนี แต่ความจริงแล้วอยากเห็นหน้าทศมากที่สุด วิธนีพอเห็นหน้าโบว์รีบร้องห่มร้องไห้น่าสงสาร อ้อนวอนขอวราพงษ์คืน ถึงกับจะคุกเข่าขอร้องโบว์ จนต้องถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ทศคิดว่าโบว์มาหาเรื่องวิธนี เขาด่าทอเธออย่างเจ็บแสบ และกล่าวหาว่าเธอเป็นคนทำให้ครอบครัวของน้องสาวเขาแตกแยก แต่แล้วคำตอบของโบว์ทำให้ทศถึงกับหัวใจหยุดเต้น !! โบว์ประกาศตกลงแต่งงานกับทศ เธอปรารถนาให้วราพงษ์ตัดใจจากเธอและกลับไปทำหน้าที่ดูแลภรรยาที่กำลังเจ็บหนัก โบว์รู้สึกสุขใจเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รู้จักคำว่าเสียสละทำเพื่อคนอื่น เธอกลับบ้านไปกราบขอโทษพ่อ ความสงบสุขกลับคืนสู่ครอบครัวของโบว์อีกครั้ง ส่วนวราพงษ์เสียใจอย่างหนักเมื่อรู้ว่าโบว์จะแต่งงานกับทศ แต่ข่าวการป่วยหนักของภรรยาก็ทำให้เขาไม่อาจทอดทิ้งไปอย่างคนแล้งน้ำใจได้ หลังการแต่งงาน ทศและโบว์พาวิธนีมาพักรักษาตัวฟื้นฟูสุขภาพที่ไร่องุ่น วราพงษ์ต้องรับผิดชอบดูแลงานของทศทางกรุงเทพฯ แต่ก็ยังหมั่นเดินทางไปคอยดูแลภรรยาบ่อยครั้ง ความโลเลของวราพงษ์ทำให้เขาอดใจไม่ไหวพยายามเข้าไปพัวพันกับโบว์ จนทำให้ทศเกิดอาการหึงหวงโบว์ เพราะโบว์แม้จะยอมแต่งงานด้วย แต่ไม่ยอมนอนเตียงเดียวกับทศ เพราะยังคาใจคิดว่าทศแต่งงานเพราะช่วยน้องสาว ส่วนทศก็น้อยใจที่โบว์ยืนยันตลอดเวลาว่าแต่งงานกับเขาเพราะไม่อยากถูกคนประณามว่าเป็นฆาตกรทำให้วิธนีหัวใจวายตาย ชีวิตคู่ของคนทั้งสองเกิดรอยร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อใบตองก้าวเข้ามาเป็นตัวยุแยง โบว์พยายามเอาใจใส่วิธนีด้วยความห่วงใยเหมือนอยากจะชดเชยความผิดที่เคยทำร้ายหัวใจวิธนีโดยไม่ตั้งใจ แรกทีเดียววิธนีเริ่มใจอ่อนเพราะเริ่มสังเกตเห็นความรักที่พี่ชายมีต่อโบว์ แต่เมื่อโดนใบตองยุแหย่ใส่ร้ายโบว์ว่าพยายามยั่วยวนวราพงษ์ วิธนีหลงเชื่อจึงแกล้งสำออยให้พี่ชายเห็นว่าพี่สะใภ้เกลียดชังตน และคอยกลั่นแกล้งตนตลอดเวลา อีกทั้งคอยเป่าหูทศว่าโบว์ยังรักวราพงษ์อยู่ อ้อนวอนให้พี่ชายหย่ากับโบว์ เพราะเธออยากให้ใบตองมาเป็นพี่สะใภ้มากกว่า วราพงษ์เบื่อหน่ายวิธนีที่อารมณ์ฉุนเฉียวและหาเรื่องหึงหวงตลอดเวลา จึงระเบิดอารมณ์ทะเลาะกับวิธนีรุนแรง สุดท้ายวิธนีโกรธจัดจนเป็นลมต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทุกคนได้รับข่าวดี ว่าวิธนีตั้งครรภ์ ทศจึงขอร้องให้วราพงษ์อดทนเพื่อลูกที่กำลังจะเกิดมา และที่สำคัญที่สุด โบว์ยอมเปิดใจสารภาพกับวราพงษ์ว่าเธอมั่นใจแล้วว่ารักทศ และไม่คิดรักใครได้อีก ขอร้องให้วราพงษ์เริ่มต้นชีวิตใหม่สร้างครอบครัวที่มีความสุข เหมือนอย่างที่เธอตั้งใจเช่นกัน วิธนีแอบได้ยินโดยบังเอิญจึงเลิกคิดแค้นต่อโบว์ และนำไปสู่การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว ความรักที่มีต่อลูกเปลี่ยนหัวใจที่รุ่มร้อนของวิธนีให้เกิดสติ วิธนีขอหย่ากับวราพงษ์ด้วยเหตุผลว่าเธอไม่อยากให้ลูกเกิดมาเห็นพ่อแม่ไม่รักกัน วราพงษ์ไม่ได้รักเธอ อยู่ร่วมกันต่อไปจะส่งผลเสียต่อลูกในอนาคต ทศและโบว์พยายามทัดทานแต่ไม่เป็นผล ทศจึงขอให้แยกกันอยู่สักระยะ ถ้าวิธนีสามารถอยู่ได้ จึงค่อยหย่าขาดจากกัน แรกทีเดียววราพงษ์เต็มใจแยกทาง แต่หลังจากเขาไม่เจอหน้าวิธนีและเป็นห่วงลูก ทำให้รู้สึกขาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป สุดท้ายวรพงษ์ก็ได้คำตอบให้ตัวเอง ว่าวิธนีคือความผูกพันที่เขาไม่อาจตัดขาดจากชีวิตได้ เขาจึงกลับไปงอนง้อวิธนี แต่คราวนี้วิธนีกลับใจแข็งไม่ยอมคืนดีง่าย ๆ เพราะคิดว่าวราพงษ์คิดคืนดีเพราะลูกเท่านั้น ทำให้โบว์ต้องคอยเป็นกองกำลังสนับสนุนช่วยเหลือวราพงษ์หาทางให้วิธนีใจอ่อน มีการแอบปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน ให้ทศแอบเห็นหลายครั้ง จุดนี้เอง... ใบตองเอามายุแหย่ให้ทศเข้าใจผิดว่าโบว์กับวราพงษ์จะหวนมาคบกัน ความพยายามของวราพงษ์เป็นผลสำเร็จ เขาสารภาพรักวิธนีในวันที่เธอคลอดลูก เธอจึงยอมให้อภัย ใบตองเห็นเหตุการณ์นี้ยิ่งหวาดกลัวว่าตัวเองจะสูญเสียทศไปในไม่ช้า ใบตองจำเป็นต้องจัดการโบว์ขั้นเด็ดขาด !! ใบตองเชื่อว่า...ถ้าไม่มีวิธนี วราพงษ์จะต้องกลับไปหาโบว์อย่างแน่นอน แผนร้ายเกิดขึ้นในวันที่ทศกับวราพงษ์ต้องเข้าเมืองไปคุยธุรกิจไวน์กับพ่อของใบตอง จนเกิดเรื่องเลวร้ายไม่คาดฝัน ใบตองใส่ร้ายทั้งหมดเป็นเพราะโบว์ ครั้งนี้ทศไม่อาจให้อภัยโบว์ได้ และโบว์เองก็มีทิฐิเกินกว่าพิสูจน์ความจริงให้ทศเห็น โบว์ขอห่างจากทศ ทั้งที่ใจของทั้งคู่ยังรักกันมาก ต้องติดตามว่าวงเวียนหัวใจที่แสนสับสนของเขาและเธอจะหาจุดศูนย์กลางที่จะมาบรรจบกันได้อีกครั้งหรือไม่ ? ติดตามชมกันต่อได้ในละคร วงเวียนหัวใจ ที่ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 HD กด 35 ละคร วงเวียนหัวใจ เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2564

เงาบุญ 2563

เรื่องย่อ : เงาบุญ (2563/2020) หลายคืนมาแล้วที่ สิตา (พิมประภา ตั้งประภาพร) ต้องตื่นขึ้นกลางดึกเพราะได้ยินเสียงโหยหวนแปลกประหลาด ฟังไม่ได้สรรพเธอติดต่อสื่อสารกับใครไม่ค่อยได้สัญญาณโทรศัพท์อับคลื่นตลอด ฟังวิทยุก็ติด ๆ ดับ ๆ โทรทัศน์ภาพล้ม จนเพื่อน ๆ ต้องเชิญให้สิตาอยู่ไกลจากเครื่องมือสื่อสารทั้งหลาย บางคนลงความเห็นว่า สิตาเป็นตัวป่วนคลื่นระดับ 5 จี

แต่สิ่งที่ทุกคนและรวมถึงสิตาไม่เห็นและไม่รู้ ก็คือ มีเปรตตนหนึ่ง พยายามขอส่วนบุญกับสิตาอยู่ด้วยความทุกข์ทรมาน เปรตตนนั้นก็คือ สุธีร์ (ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง) บิดาของสิตานั่นเอง สุธีร์ทำบาปบางอย่างเอาไว้ ตายไปชดใช้ในนรก มาแสนนานแล้ว ทว่าเวลาในนรกนั้นผ่านไปช้า ต่างกับเวลาบนโลก ทั้งที่สิตาเพิ่งจะสูญเสียพ่อไปได้เพียงเจ็ดวันเท่านั้นเอง แต่สุธีร์ลงไปใช้กรรมในนรกแล้วหลายร้อยปีนรกยังไม่พ้นโทษ ต้องกลายกลับขึ้นมาเป็นเปรต ใช้ชีวิตอยู่ตรงกลางในภพภูมิที่ซ้อนทับอยู่บนโลกใบนี้ นั่นคือสิ่งที่สิตาได้ฟังมาจากปากของ พลู (ชาญณรงค์ ขันทีท้าว) หมอดูผู้กลัวผี แต่ก็มักจะเจอผีอยู่ตลอดเวลา ยิ่งกลัวยิ่งเห็น ยิ่งหลบยิ่งจ๊ะเอ๋ตลอด

สิตา ละทิ้งการเรียนระดับปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษทันทีหลังทราบข่าวร้ายจาก ป้าสายใจ (นริสา พรหมสุภา) ญาติผู้ใหญ่ที่เธอนับถือ ว่าสุธีร์ บิดาของเธอยิงตัวตาย วรชน (อรรคพันธ์ นะมาตร์) ชายหนุ่มที่คบหาดูใจระหว่างศึกษาอยู่ที่อังกฤษรู้สึกการฆ่าตัวตายครั้งนี้มีเงื่อนงำบางอย่าง เขาเป็นห่วงสิตา จึงตัดสินใจสละทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก เดินทางกลับเมืองไทยพร้อมสิตา

สิตาฝันถึงเด็กหัวจุกอยู่บ่อย ๆ ว่าจะมาขอเป็นลูกซึ่งเด็กหัวจุกตนนั้น เป็นกุมารทองแสนซ่าคิดว่าตัวเองบารมีเก่งกล้าเต็มประดา ทั้งที่ความจริง มีอิทธิฤทธิ์งู ๆ ปลาๆ ได้ผลบ้างไ ม่ได้ผลบ้างอยู่ตลอดเวลา ไอ้จุก (ภคพล ตัณฑ์พาณิชย์) เป็นกุมารทองที่พลูรับอุปการะเอาไว้โดยไม่เต็มใจ เป็นไม้เบื่อไม้เมาทั้งรักทั้งชังกับพลูอยู่ตลอดเวลา

สุธีร์เป็นข้าราชการระดับสูง ถูกสอบสวนคดีคอรัปชั่นที่ดินผืนใหญ่ในเขตปริมณฑล ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซ้ำยังถูกขุดคุ้ยเรื่องเงินตามน้ำและเงินใต้โต๊ะอีกหลายรายการ รัตติยา (อภิรดี ภวภูตานนท์) ผู้เป็นภรรยาคือตัวการที่ผลักดันให้สามีมัวหมองในชีวิตราชการ ก็เพราะเธอหลงเชื่อ พงศกร (กรเศก โคนินทร์) ชู้รักวัยหนุ่มหน้าตาดี หลังเกิดคดีแล้ว พงศกรก็ยุยงให้รัตติยายักย้ายถ่ายเทสมบัติเพราะหากถูกยึดทรัพย์แล้ว จะได้ไม่ต้องล้มละลายแต่ไม่สำเร็จ เพราะสุธีร์เซ็นพินัยกรรมให้สมบัติทั้งหมดตกเป็นของสิตา สุธีร์รู้เบื้องหลังอันโสมมของรัตติยา เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และตัดสินใจยิงตัวตายหนีความอับอาย รัตติยาบีบน้ำตาต่อหน้านักข่าวและโยนความผิดทั้งหมดให้แก่ความโลภของสามี ซึ่งถ้าสิตาไม่ได้ความซุกซนของกุมารทอง เธออาจจะต้องติดร่างแหต้องคดีไปกับพ่อเธอด้วย เพราะหลักฐานเท็จที่มีผู้ไม่หวังดีป้ายผิดให้เธอ ซึ่งยังความประหลาดใจให้กับอรชุดาที่หวังจะจัดการกับคนที่มีสิทธิ์ในกองมรดกของสุธีร์ให้สิ้นซาก ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแผนการของเธอ ที่จะจัดการสิตากันแน่

สิตา ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับเปรตสุธีร์ได้ เพราะผลกรรมของสุธีร์นั้นใหญ่หลวงนัก พลูล่วงรู้มาว่า ถ้าสิตาสามารถทำบุญอุทิศส่วนกุศลระบุเปรตได้ครบทั้ง 12 ประเภท ผลบุญจึงจะตกถึงสุธีร์ให้พ้นจากการเป็นเปรตได้ สุธีร์นั้นเป็นเปรตที่น่าเวทนามาก ปะทังความหิวโหยอยู่ด้วยการกินน้ำลาย กินเสมหะ กินอาเจียนเป็นอาหาร เรียกว่า วันตาสะเปรต ไอ้จุก พยายามสื่อสารกับใครก็ไม่ได้ผล ไม่มีใครเห็นมันนอกจากพลูคนเดียว ไอ้จุกรู้ดีว่า ถ้าสิตาตกลงปลงใจกับวรชนเมื่อไหร่ มันจะถือโอกาส จองการเกิดเป็นคนอีกครั้ง บ่อยครั้งที่ไอ้จุกว่างจากก่อเรื่องก็จะไปหมั่นว่ายน้ำ พลูสงสัยว่าทำไมไอ้จุกตัวเปียก มันบอกซ้อมว่ายน้ำ เพราะมันต้อง ว่ายแข่งกับลูกอ๊อดตัวอื่นอีกเป็นล้านดวง ถ้าจะเข้าไปเกิดในรังไข่ของสิตา พลูได้แต่เอือมระอา ว่าไอ้จุกเลอะเทอะ ไอ้จุกหมั่นทำความดี พยายามเป็นตัวกลางระหว่างสุธีร์กับสิตาอยู่เนือง ๆ แต่ก็เหมือนจะยิ่งช่วยยิ่งสร้างปัญหา รวมไปถึง ความรักของสิตากับวรชนด้วย ที่มันอยากจะได้เป็นพ่อเป็นแม่ซะเหลือเกินฃ

ขณะที่สิตาอยู่ในงานศพของบิดา โดยมีวรชนคอยปลอบใจอยู่ข้าง ๆ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด อรชุดา (อมีนา พินิจ) ก็ปรากฏตัวขึ้นในงาน พงศกรแนะนำว่าคือน้องสาวแท้ ๆ ของเขา แต่แท้ที่จริงคือภรรยาที่อยู่กินด้วยกันอย่างลับ ๆ มาระยะหนึ่งแล้ว รัตติยารับอรชุดาเข้ามาอยู่ในบ้านอย่างให้เกียรติว่าเป็นน้องสาวของสามี แต่สายใจและบรรดาคนใช้ที่ภักดีต่อสุธีร์ต่างรับรู้กันดีว่าอรชุดาคือเมียที่แท้จริงของพงศกร อรชุดาวางอำนาจบาตรใหญ่ภายในบ้านจนเป็นอิดหนาระอาใจของทุกคน ผู้ที่กล้าต่อกรกับเธอมีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือสายใจ สายใจเป็นคนชอบทำบุญ จึงมักแวะเวียนไปทำบุญที่วัดอยู่บ่อย ๆ นางชวนสิตาไปวัดเพื่อทำบุญให้แก่สุธีร์ ทำให้รัตติยาไม่ค่อยพอใจ แต่พงศกรซึ่งหลงรักสิตาตั้งแต่วันแรกที่เห็น กลับเข้าข้างสิตา ทำให้รัตติยาวางใจว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มกับลูกเลี้ยงคงเข้ากันได้ ส่วนอรชุดารู้ทันสามีของตน จึงปรามพงศกรและตั้งตัวเป็นศัตรูของสิตาอย่างเปิดเผย

วรชน ซึ่งไม่ค่อยเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติเท่าไหร่นัก แต่ก็ขัดไม่ได้กับความต้องการพิสูจน์เพื่อช่วยพ่อของสิตา ทำให้ทั้งคู่ถูกตามรังควานโดยเปรตที่มีฤทธิ์มากและดุร้าย คือ มหิทธิกเปรต พลูและไอ้จุกมักจะเจอกับอิทธิฤทธิ์ของมหิทธิกเปรตอยู่บ่อย ๆ ไอ้จุกเป็นมวยเด็กคนละรุ่นกับเปรตโอปะติกะ จึงทำได้แต่พาไอ้พลูหนีอยู่ตลอด บางทีพาหายตัวหนี แต่ก็หายตัวไปได้แค่เมตรเดียว ประมาณว่า วิ่งหนีเอาเร็วกว่าไหมไอ้จุก

วัดที่สายใจกับสิตาไปทำบุญอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ เจ้าปัญหาต้นเหตุที่ทำให้พ่อของเธอเสียชีวิต ซึ่งหลวงพ่ออาวุธ เป็นเจ้าอาวาสอยู่ หลวงพ่ออาวุธ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) ปฏิบัติธรรมมานาน จึงแนะนำให้สิตามาปฏิบัติธรรมที่วัด สายใจตามมาปฏิบัติธรรมด้วย วรชนถือโอกาสตามมาดูแล ตกกลางดึกทุกคนได้ยินเสียงร้องหวีดแหลมของบรรดาเปรตที่ประสานเสียงโหยหวนกันระงม ด้วยปากของเปรตเล็กเท่ารูเข็ม ทำให้เสียงที่ลอดจากริมฝีปากเป็นเสียงแหลมบาดแก้วหู ยามเสียงเปรตหวีดร้อง หมาก็พากันหอนทั้งวัด สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้มาปฏิบัติธรรมจำนวนมาก ซึ่งเปรตตนนั้นคือ สุจิมุขเปรต เป็นแฟนเก่าของพลู ที่ชอบด่าพระด่าเจ้า และยังคงตามขอส่วนบุญจากพลูอยู่ตลอดเวลา วรชนซึ่งยังไม่มีโอกาสได้เห็นเปรตจัง ๆ ในขณะนี้ จึงถามว่า ถ้าเปรตมีจริง ทำไมหลวงพ่ออาวุธไม่ไล่เปรตไปซะ หลวงพ่อตอบว่า พระไล่ผีได้ แต่ไล่เปรตไม่ได้ เพราะเปรตไม่ใช่ผี แต่เป็นโอปาติกะที่น่าสังเวชและทนทุกข์ทรมานกว่าผีมากนัก สิตายิ่งตั้งใจจะต้อง สร้างกุศลให้พ่อยิ่งขึ้นไปอีก แม้ว่าจะตัดกรรมให้สุธีร์ไม่ได้ แต่อย่างน้อย ก็จะเป็นหนทางที่ปลดปล่อยพ่อของเธอได้

หลวงพ่ออาวุธ สามารถสื่อสารเห็นไอ้จุก และรู้ดีว่า มันกำลังจะได้ไปเกิดกับสิตา ถ้าการสะสมบุญเป็นไปอย่างถูกวิธี อีกทั้งหลวงพ่อยังรู้ด้วยว่า พลูนั้น ถึงจะดูเป็นหมอผีเลอะเทอะ แต่ก็มีกุศลจิตจากชาติก่อน ช่วยให้เป็นคนดีอยู่ตลอดเวลา แม้ว่า ตัวพลูเองจะไม่ได้อยากจะช่วยเหลือใครสักเท่าไหร่ก็ตาม

หลวงพ่ออาวุธสงสัยว่าเสียงหวีดร้องของบรรดาเปรตนั้นดังกว่าทุกครั้งที่มีญาติโยมอุทิศส่วนกุศลให้ จึงนั่งสมาธิตรวจดู ก็พบว่าสุธีร์กลายเป็นเปรตมารอรับส่วนบุญของสิตา และที่ดินกว้างใหญ่ข้างวัดนั้นมีอีกภพภูมิหนึ่งซ้อนอยู่ เรียกกันในภาษาพระว่า เมืองบังบด ซึ่งก็คือภพภูมิของเปรตนั่นเอง ยามกลางวัน ที่ดินรกร้างกลางกรุงนั้นจะเป็นชุมชนเล็ก ๆ บ้านเรือนมีสภาพเก่าโทรมแบบที่พักของคนงานก่อสร้าง และบรรดาเปรตที่อยู่ ณ แห่งนั้นจะปรากฏตัวเป็นคนยากจนเข็ญใจใช้ชีวิตปะปนกับคนทั่วไปได้ แต่ในยามกลางคืนจะกลายสภาพเป็นเปรตมีลักษณะแตกต่างกันไปมา ตามแต่กรรมที่เคยก่อไว้ หลวงพ่ออาวุธแนะนำให้สายใจกับสิตาอุทิศบุญหลังจากปฏิบัติธรรมเสร็จ แต่สุธีร์ไม่ได้รับบุญที่ลูกสาวอุทิศให้เลย เพราะถูกเปรตอื่นแย่งชิงไปหมด ต้องอยู่กับความหิวโหยทุกข์ทรมานซึ่งเปรตที่คอยชิงเศษบุญจากสุธีร์อยู่เป็นประจำก็มีตัณหัฏฏิตเปรต คือ เปรตที่ถูกตัณหาเบียดเบียนจนเกิดทุกข์จากความหิวข้าวหิวน้ำอยู่เสมอสุนิชฌามกเปรต คือ เปรตที่มีตัวดำเหมือนตอไม้ที่ถูกเผาสุตตังคเปรต คือ เปรตที่มีเล็บมือเล็บเท้ายาวและคมราวกับมีดปัพพตังคเปรต คือ เปรตที่มีร่างกายสูงใหญ่เท่าขนาดของภูเขา

พงศกรบังคับรัตติยาให้เอาสมบัติต่าง ๆ ที่สุธีร์ยกให้สิตามาเป็นของตน แต่สิตาไม่ยอมวรชนก้าวเข้ามาปกป้องสิตาอย่างเปิดเผย โดยมี คชา (วรากร ศวัสกร) นายตำรวจหนุ่มคอยช่วยเหลือ คชาเป็นคนรักของ อนงค์นาฏ (บารมิตา สาครจันทร์) ครูสอนพลศึกษาเพื่อนรักของสิตาสมัยมัธยม เมื่อสิตามีพวกพ้องให้กำลังใจทำให้ อรชุดายุยงให้พงศกรหาทางใช้รัตติยาเป็นเครื่องมือด้วยวิธีการต่าง ๆ ด้วยความหลงชู้รักทำให้รัตติยาบังคับจิตใจสิตา จนสายใจต้องออกโรงต่อปากต่อคำด้วย แต่ต่อมาไม่นาน รัตติยาจับได้ว่าพงศกรกับอรชุดานั้นแท้จริงเป็นผัวเมียกัน จึงมีปากเสียงกับพงศกรอย่างรุนแรง รัตติยาตกบันไดคอหักตาย สิตาเสียใจมาก ในงานศพของรัตติยานั้น เสียงเปรตโหยหวนดังระงมทั้งวัด พระอาวุธรู้ว่าต่อไปนี้ จะไม่มีใครอยู่อย่างเป็นสุขอีกแล้ว ซึ่งรัตติยาได้ตายไปกลายเป็นเปรตกุณปาสเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินซากศพคนหรือสัตว์ เป็นอาหารภพของเปรตกับมนุษย์ เกิดรอยแยก เพราะความที่ไอ้จุกพยายาม พาสิตาหลบการหลอกหลอนของมหิทธิกเปรต ทำให้สิตาได้มีโอกาสเห็นสภาพที่แท้จริงของสุธีร์ ว่าลำบากและน่าเวทนาเพียงไหน สองพ่อลูกมีโอกาสได้สื่อสารกันเพียงไม่นาน ไอ้จุกก็ต้องพยายามพาสิตากลับไปโลกมนุษย์ให้ได้ ก่อนที่ประตูภพจะเหลื่อมทับปิดซ้อนกัน

รัตติยาตายไปเกิดอยู่ในภพภูมิเปรต ได้พบกับเปรตสุธีร์ เธอสำนึกผิด เปรตสองผัวเมียสัญญากันว่าจะปกป้องสิตาให้รอดพ้นจากอันตราย หลวงพ่ออาวุธพยายามช่วยเปรตทั้งสองแต่ช่วยไม่ได้ เพราะผู้ที่จะทำให้เปรตทั้งสองหลุดพ้นก็ต้องด้วยบุญบารมีของคนที่เป็นลูกเท่านั้น...เนื่องจากดวงจิตของเปรตทั้งสองผูกพันอยู่กับลูกสาวเพียงคนเดียว อรชุดาแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าชอบวรชน และจงใจแย่งวรชนมาจากสิตาให้ได้ พงศกรรู้ แม้จะหึงหวง แต่ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ตนได้ใกล้ชิดกับสิตา ซ้ำยังพบว่าหลวงพ่ออาวุธได้ทิ้งสมบัติไว้ให้แก่วรชนจำนวนมาก หากอรชุดาแย่งสมบัติมาจากวรชนได้และพงศกรได้ครอบครองสมบัติของสิตา ก็จะทำให้ทั้งสองร่ำรวยไม่มีที่สิ้นสุด พงศกรพยายามล่วงเกินสิตา แต่เปรตรัตติยาก็ขัดขวางทุกครั้งไป ความวุ่นวายทวีมากขึ้น เมื่ออรชุดาต้องอุปการะ ช่วงโชติ (ถิร ชุติกุล) น้องชายของตนที่เมายาเสพติด ทะเลาะวิวาทกับพ่อเลี้ยง จนพ่อเลี้ยงวิ่งหนีและถูกรถชนตาย กลายเป็นคูถขาทกเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินอุจจาระต่าง ๆ เป็นอาหาร

นางชดช้อย (ณหทัย พิจิตรา) ผู้เป็นแม่ก็ถูกช่วงโชติทำร้ายจนพิการขาหักอรชุดาจำใจรับแม่พิการมาเลี้ยงดู โดยจ้างสาวใช้ส่วนตัวชื่อสมพิศคอยดูแล แต่สมพิศไม่ค่อยได้ดูแลเท่าไหร่เพราะคอยสืบหาเรื่องราวภายในบ้านจาก แสง (จเร เชิญยิ้ม) และละมุด สาวใช้ผู้เป็นลูกมือของสายใจ ชดช้อยจึงเอาแต่ก่นด่าช่วงโชติที่ทำตนขาหัก ชื่นหทัย (รัญดภา มันตะลัมพะ) ลูกสาวคนเล็กที่หายไปจากบ้านหลายปีกลับมา อ้างว่าจะมาช่วยดูแลแม่ ทำให้อรชุดาจำใจรับน้องสาวเข้ามาอยู่ในบ้านเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งสายใจกับสิตาจึงอยู่ท่ามกลางศัตรูรอบด้าน วรชนเป็นห่วงมาก ขอร้องให้สิตาออกมาจากบ้านหลังนั้น แต่เธอยืนกรานว่าจะอยู่รักษาสมบัติของพ่อไว้

สิตาซึ่งสามารถพูดคุยกับไอ้จุกได้แล้วตอนนี้ พลูยกให้เป็นลูกบุญธรรมของสิตาไปก่อน ยังความปลาบปลื้มให้กับไอ้จุกเป็นอย่างมาก ที่พลูปลอดปล่อยมันให้เป็นอิสระ สิตาเหมือนเลี้ยงหมาเอาไว้ตัวหนึ่ง ไอ้จุกตามเธอต้อย ๆ บางทีถ้าไปเจอหมาที่เพิ่งตาย มันก็จะเข้าไปสิง เพราะอยากสัมผัสกับความรักของสิตาโดยตรง

ชื่นหทัยแอบมีความสัมพันธ์กับพงศกร แต่รู้ว่าพงศกรชอบสิตาจึงร่วมมือกับช่วงโชติทำร้ายสิตา โดยลวงสิตาไปข่มขืน วรชนตามไปช่วยเหลือ แต่เกือบสายไป สิตารอดพ้นมาได้เพราะเปรตพ่อแม่ที่ตามมาคุ้มครอง ช่วงโชติรอดตายแต่กลายเป็นคนเสียสติ ร่ำร้องพูดแต่เรื่องเปรต อรชุดากับพงศกรเชื่อว่าสุธีร์กับรัตติยาเป็นเปรตมาปกป้องลูกสาว

สายใจเคยเห็นเปรตรัตติยากับเปรตสุธีร์จึงสั่งแสงกับละมุดให้หุงข้าวใส่บาตรทุกเช้า แต่อรชุดาไม่ต้องการให้มีการทำบุญเกิดขึ้นในบ้าน จึงร่วมมือกับชื่นหทัยแอบเอาอาหารใส่บาตรไปทิ้ง และทำลายข้าวของที่จะใช้ทำบุญทุกอย่าง สายใจด่าทอสาปแช่งสองพี่น้อง ทำให้ถูกรุมทำร้าย วรชนมาช่วยไว้ได้ทัน แต่ทั้งสายใจและสิตาก็ยืนกรานว่าจะอยู่ในบ้านนี้ต่อไป เพราะเชื่อว่าจะเป็นเพียงที่เดียวที่ตนจะติดต่อกับพ่อแม่ซึ่งเสวยกรรมเป็นเปรต และจะช่วยให้ทั้งสองหลุดพ้นจากบ่วงกรรมนี้ได้ สิตา วรชน และพลู ต่างร่วมมือกัน พยายามติดต่อเปรตในภพภูมิ เพื่อให้ครบทั้ง 12 ประเภท แต่ก็ถูกตามขัดขวางจากเปรตตัวที่มีฤทธิ์ร้ายตลอดเวลา แต่สิต ก็พอจะรู้รู้ทาง และเห็นช่องอยู่บ้าง แม้จะริบหรี่เต็มที

วรชนตัดสินใจเช่าบ้านใกล้ ๆ บ้านของสุธีร์เพื่อจะได้ดูแลสิตาได้อย่างเต็มที่ คชากับอนงค์นาฏก็แวะเวียนมาเป็นประจำ ชื่นหทัยกับอนงค์นาฏไม่ชอบหน้ากัน จึงมีปากเสียงกันเป็นประจำ วันหนึ่งสมพิศปล่อยให้ชดช้อยอยู่ตามลำพัง จนเกือบตกลงไปในสระน้ำ สิตามาช่วยไว้ได้ทัน ทำให้ชดช้อยซาบซึ้งใจมาก และคอยพูดเตือนสติลูก ๆ นางเสียใจที่นางเลี้ยงลูกไม่ดี ทำให้อรชุดากับชื่นหทัยไม่พอใจแม่เป็นอย่างมาก

ชื่นหทัยออกมาจากห้องของพงศกรในค่ำคืนหนึ่ง สิตาออกมาจากห้องของตนพอดี ทำให้ชื่นหทัยกลัวว่าความลับของตนจะถูกเปิดเผย จึงหาทางทำร้ายสิตา แต่ในคืนเกิดเหตุ เคราะห์ร้ายตกเป็นของอนงค์นาฏ เพราะวันนั้นสิตาออกไปกับวรชน อนงค์นาฏกำลังจะถูกพงศกรข่มขืน เปรตรัตติยามาช่วยไว้ได้ และทำร้ายพงศกร โดยมีเปรตสุธีร์ตามทวงชีวิต พงศกรรอดตายเพราะเข้าไปอยู่ในห้องพระได้เสียก่อน พงศกรจึงจำเป็นต้องหาของดีมาปราบเปรตสองผัวเมียให้ได้ พงศกรใช้ไสยศาสตร์ผิด ๆ ถูก ๆ จนเกิดเรื่องราวเลยเถิดอยู่เป็นประจำ

ช่วงโชติกลายเป็นคนคุ้มดีคุ้มร้าย เผลอพูดเรื่องที่พงศกรเป็นเอเยนต์ใหญ่ส่งยาเสพติดชนิดต่าง ๆ คชาจึงนำกำลังตำรวจมาค้นบ้าน แต่ไม่พบอะไร อรชุดากับพงศกรหาเหตุว่าวรชนเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น พงศกรอาฆาตทุกคน และข่มขู่สิตาว่าจะหาหมอผีมาสะกดให้เปรตพ่อแม่ของตนไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกเลย ชื่นหทัยก็ประกาศและล้อเลียนเย้ยหยันว่าสิตามีพ่อแม่เป็นเปรต สิตาเป็นลูกสาวเปรต ข่าวเริ่มแพร่ไปในวงกว้าง เปรตสองผัวเมียไม่กล้ามาปรากฏตัวอีก เพราะเกรงว่าลูกสาวจะอับอาย วรชนมาปลอบใจถึงบ้าน และสัญญากับสิตาว่าจะรักและดูแลสิตาไปตลอด โดยไม่รู้ว่าตนเผลอกินยานอนหลับที่อรชุดาแอบผสมในน้ำดื่ม สิตาพบว่าวรชนอยู่ในห้องกับอรชุดาก็เสียใจมาก จึงเตลิดออกไปจากบ้าน คชาและวรชนออกตามหาแต่ไม่พบ

สิตาตัดสินใจเข้าไปในเมืองบังบด เปรตพ่อแม่ขอร้องให้ออกไป แต่สิตาไม่ฟัง เธอขออยู่ในภพภูมิของเปรตดีกว่าในเมืองมนุษย์ที่มีความเลวร้าย หลวงพ่ออาวุธพยายามช่วยสิตา แต่ก็ไม่สำเร็จ เปรตสุธีร์กับเปรตรัตติยาได้ขอร้องบรรดาเปรตทั้งหลายให้ช่วยกำจัดคนชั่วออกไปจากบ้านของตนในยามค่ำคืน บรรดาเปรตทั้งหลายจึงได้มาชุมนุมกันที่บ้าน สายใจ พงศกร ชื่นหทัย โชติช่วง อรชุดาและบรรดาคนรับใช้ต่างหวาดกลัวกันมาก จนต้องพากันไปหลบอยู่ในห้องพระ ต่างปิดหูเพราะได้ยินเสียงหวีดร้องโหยหวนแก้วหูแทบแตก อรชุดาหาหมอผีมาปราบ แต่ก็ไม่สำเร็จ ต่างถูกเปรตหลอกจนหนีและบางคนก็ต้องจบชีวิตลงพงศกรได้ปรึกษาพระ แต่หารู้ไม่ว่าคือพระที่เป็น ภิกษุเปรต กลับหลอกหลอนพงศกรจนหนีไปเกือบตาย

สิตาสามารถพบเจอเปรตอื่น ๆ จนได้ 10 ประเภท แต่ยังไม่สามารถทำบุญอุทิศส่วนกุศลเพราะขาดเปรตตัวสุดท้ายอย่างถูกวิธี สุธีร์กับรัตติยาจึงยังคงเป็นเปรตอยู่ การรบกวนภพภูมิของเปรต ทำให้เกิดความปั่นป่วน เปรตบางตัวอิทธิฤทธิ์เพิ่มพูน จนข้ามภพภูมิ ก่อความวุ่นวาย และน่ากลัวอยู่เสมอ ๆ แต่โชคดี ที่เธอมีไอ้จุกคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด และพลูที่คอยเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำอยู่ห่าง ๆ คนใช้พากันลาออกจนหมด เหลือเพียงสายใจคนเดียว ที่ยังรอคอยว่าสิตาจะกลับมาบ้าน วรชนไปปรึกษาหลวงพ่ออาวุธ หลวงพ่อให้เขาไปตามสิตาออกมาจากเมืองบังบด แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเธอขอร้องให้เปรตพ่อบังตัวเธอไว้ ในขณะที่เปรตอื่น ๆ พากันตามล่าเหล่าคนชั่ว สิตานั่งสมาธิขอร้องไม่ให้พ่อแม่ของตนเพิ่มกรรมด้วยการทำร้ายใครอีก แต่ทั้งสองไม่ฟัง ต้องไปติดตามบทสรุปของคนชั่ว และกรรมดีจะช่วยให้หลุดพ้นได้หรือไม่ ในละคร เงาบุญ ที่ออกอากาศให้ชมกันทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 HD กด 35 ละคร เงาบุญ เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 16 กันยายน 2563

ป่าปลูกรัก (2562/2019) ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งหนึ่ง ย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน เด็กหญิงร่มไม้(คารีสา สปริงเก็ตต์) ลูกสาวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ รู้สึกสะเทือนใจที่สุด เมื่อได้เห็นซากของลูกหมีขอที่ตนกับพ่อเคยไปแอบซุ่มดูความน่ารักของมัน ถูกพรานฆ่าอย่างทารุณ ภาพนี้สร้างความทรงจำอันแสนเจ็บปวดให้กับเด็กน้อย เธอตั้งปณิธานกับซากลูกหมีในวันนั้นว่า เมื่อเติบโตขึ้นเธอจะปกป้องคุ้มครองสัตว์ป่า และบ้านสีเขียวของพวกเขา ไม่ให้ใครหน้าไหนเข้ามาเยียบย่ำทำลาย วันเวลาผ่านจนเด็กน้อยเติบโตเป็นหญิงสาวที่หัวใจกล้าแกร่ง เธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มุ่งหน้าเข้ารับราชการเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในจังหวัดบ้านเกิดตนเอง เธอปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน ซื่อตรง และต่อสู้กับผู้บุกรุกป่าอย่างองอาจกล้าหาญ จนเป็นที่กล่าวขวัญว่าเธอคือนางฟ้าแห่งป่าแถบนี้ วันหนึ่ง ร่มไม้ได้รับแจ้งข่าวว่ามีผู้ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ในเขตหวงห้าม โดยทิ้งแต่ซากสัตว์เอาไว้ และน่าจะเป็นคนเดียวกับที่แอบเข้ามาล่าสัตว์หลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่ขนานนามมันว่า "พรานกรุง"(โอ๋ ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) ซึ่งลักลอบเข้าเขตอุทยานจากการช่วยเหลือนำทางของพรานป่าในพื้นที่ โดยพรานป่าจะลอบเข้าสำรวจพื้นที่ก่อนว่ามีสัตว์จะออกหากินตรงจุดไหนแล้วส่งข่าวให้พรานกรุงที่มีฐานะร่ำรวย อาวุธปืนทันสมัย กระสุน อุปกรณ์อำนวยการล่าเต็มพิกัด เพื่อแลกกับค่าจ้างสูงลิ่ว ร่มไม้ รีบบุกเข้าป่าพร้อมหัวหน้าชัยชนะ(เอ็กซ์ จาตุรงค์ โกลิมาศ) และเพื่อนร่วมทีม แต่เมื่อไปถึง พรานกรุงใจโฉดและไอ้กล้า(ไมเคิล เวลส์ช) พรานป่าต่างพากันหลบหนีไปหมด ซากสัตว์ที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆเพื่อทำอาหารกินกลางป่า เป็นภาพที่ร่มไม้ไม่อาจทนนิ่งเฉยอยู่ได้ เสียงร้องเล็กๆของช้างดังมาเข้าหูร่มไม้ เมื่อหญิงสาวกับเจ้าหน้าที่ช่วยกันค้นหา จึงพบลูกช้างตัวน้อยนิด ซุกตัวหลบอยู่อย่างน่าสงสาร ช้างน้อยร้องหาแม่ จนร่มไม้ต้องเข้าไปสวมกอดและพากลับไปดูแลที่เขตอนุรักษ์ ร่มไม้ตั้งชื่อช้างน้อยว่า "รถถัง" และไม่กี่วันหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ค้นพบว่า พังนวล แม่ของรถถังถูกยิงตายอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบซากสัตว์ ร่มไม้ เดินทางไปพบ อิสระ(บอม นนทัช ธนวัฒน์ยรรยง) เพื่อนนักข่าวเพื่อให้ตีข่าวเรื่องพรานกรุง อิสระเต็มใจทำให้เพราะแอบหลงรักร่มไม้มานานตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่กล้าจีบจริงจัง และในวันที่ร่มไม้จะเดินทางกลับ ได้ไปเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน !!! บนถนนที่รถติดยาวเหยียด มีหญิงชราป่วยหนัก แต่ลูกสาวไม่สามารถขับรถฝ่ารถติดไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ห่างเพียงไม่กี่เมตรข้างหน้าได้ ร่มไม้ที่อยู่บนแท็กซี่ที่จอดอยู่ติดกันทนไม่ได้ วิ่งไปโบกรถให้ช่วยเบี่ยงเปิดทาง จนได้เจอรถของเมืองเอก(แมน ธฤษณุ สรนันท์) ที่มัวแต่โทรศัพท์ทะเลาะอยู่กับนายบุรี(โอ๋ ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) บิดาอยู่ในรถ แม้ร่มไม้จะเอามือทุบกระจกเรียกก็ไม่ใส่ใจ จนร่มไม้ทนไม่ได้ต้องช่วยอุ้มคนแก่พาวิ่งไปบนบาทวิถีเพื่อพาส่งโรงพยาบาล เมืองเอกเห็นภาพร่มไม้ซึ่งแข็งแรงอดทน ก็รู้สึกทึ่งและอยากจีบร่มไม้ในทันที เขาตามไปจอดรถที่โรงพยาบาล พบว่าหญิงชราได้รับการช่วยเหลือทันท่วงที แต่ร่มไม้ได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ในวันเดียวกันมีคนเอาคลิปร่มไม้โพสต์ลงโซเชียล เมืองเอกไล่อ่านจากคอมเมนต์จนรู้ว่า ร่มไม้คือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชายหนุ่มกำลังเซ็งพ่อที่ไม่ยอมให้ทุนไปเปิดร้านนำเข้ารถสปอร์ต แต่จะบังคับให้เมืองเอกไปทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ จึงตัดสินใจเดินทางไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ระหว่างทางเข้าหมู่บ้านเพื่อจ้างคนพาเข้าไปยังเขตอนุรักษ์ เมืองเอกไปเจอกับนักเลงเจ้าถิ่นเกือบถูกนักเลงรุมยำ แต่โชคดีที่ร่มไม้เข้ามาช่วยไล่นักเลงไปได้ เมืองเอกยิ่งทึ่งร่มไม้หนักกว่าเดิม เพราะหญิงสาวบู๊เก่งต่อสู้กับผู้ชายแบบไม่กลัวเกรง เมืองเอกวางแผนโกหกร่มไม้ว่าตัวเองเป็นช่างภาพ รับจ้างถ่ายรูปสัตว์ป่าส่งเว็บไซต์สารคดีต่างๆ มีความสนใจอยากเข้าไปถ่ายรูปสัตว์ป่าในเขตอนุรักษ์ ร่มไม้หวังจะให้เมืองเอกช่วยปลุกจิตสำนึกให้คนรักป่าและสัตว์ป่า จึงอาสาช่วยพาเมืองเอกไปยังเขตอุทยาน ร่มไม้พาเมืองเอกเข้าป่า ระหว่างทางเกิดฝนตกน้ำหลาก ร่มไม้ต้องพาเมืองเอกลุยข้ามแอ่งน้ำเพราะสะพานโดนตัดขาด เป็นครั้งแรกที่เมืองเอกต้องเผชิญกับความยากลำบากจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ร่มไม้ก็สามารถพาเขาลุยน้ำฝ่าไปได้จนสำเร็จ แต่เมื่อไปถึงที่พักในเขตอุทยาน เมืองเอกก็ล้มป่วยด้วยพิษไข้ ต้องนอนรักษาตัว ทำให้ร่มไม้เปลี่ยนใจที่จะส่งเมืองเอกกลับไป เพราะรำคาญผู้ชายอ่อนแอ แต่พอเมืองเอกหายดี เขาก็พยายามพิสูจน์ว่าตัวเองอยู่ในป่าได้ด้วยการเอาใจหัวหน้าอุทยาน หัวหน้าอนุญาตให้เมืองเอกอยู่ต่อไป และมอบหมายให้ร่มไม้เป็นคนพาเมืองเอกเข้าป่าไปถ่ายรูปได้ ร่มไม้จำยอมทำตามคำสั่ง แต่ก็แกล้งให้เมืองเอกไปเลี้ยง "รถถัง" ถ้าสามารถทำให้รถถังชอบเมืองเอกได้ก็จะยอมช่วยเหลือเมืองเอกทุกอย่าง เมืองเอกรับคำท้าจึงต้องไปเลี้ยง "รถถัง" แต่ก็โดนช้างน้อยแสนรู้กลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา แต่สุดท้ายเมืองเอกก็เอาชนะใจรถถังได้ และพยายามหาทางใกล้ชิดกับร่มไม้อยู่ตลอดเวลา แต่ก็โดนร่มไม้พาไปตกทุกข์ได้ยากอยู่กลางป่า เมืองเอกเริ่มเรียนรู้ถึงความงดงามของป่า สัตว์ป่า และคน ที่ต้องพึ่งพาอยู่ในระบบนิเวศเดียวกัน ความใกล้ชิดทำให้ความรักก่อตัวขึ้นทีละนิด โดยเมืองเอกไม่รู้เลยว่าความรักของเขาไม่มีวันสมหวังได้ เพราะพรานกรุงที่ร่มไม้ตามล่า คือ นายบุรี บิดาของตนนั่นเอง ! นายบุรีทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกำลังปลูกสร้างรีสอร์ตขนาดใหญ่ที่รุกล้ำเข้าไปในเขตอุทยาน เมื่อหัวหน้าชัยชนะเข้าไปตรวจสอบกลับถูกคนของนายบุรีทำร้าย และให้ทนายใส่ความว่าเจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงคนของตัวเองก่อน ส่งผลให้หัวหน้าชัยชนะถูกพักงาน เพราะอำนาจเงินของนายบุรีที่จ่ายให้กับนักการเมืองท้องถิ่น แต่โชคยังเข้าข้างร่มไม้ นายพรานกล้าเกิดสำนึกผิด คิดมอบตัวเตรียมเดินทางไปพบหัวหน้าอุทยานเพื่อแฉว่า พรานกรุงคือนายบุรี แต่ยังไปไม่ถึงกลับโดนนายบุรีส่งคนมาฆ่าปิดปากระหว่างทาง เมื่อร่มไม้และเมืองเอกตามมาถึง ก็พบพรานกล้าเป็นศพไปแล้ว ร่มไม้โกรธมากบุกไปหาบุรีถึงรีสอร์ต จนโดนคนของบุรีทำร้าย เมืองเอกตามไปช่วยขัดขวาง ทำให้ความจริงเปิดเผยว่า เจ้าของรีสอร์ตคือพ่อของเมืองเอก ร่มไม้เข้าใจผิดคิดว่าเมืองเอกแฝงตัวเข้ามาอยู่กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อเป็นสายให้กับพ่อตัวเอง เพราะที่ผ่านมาพวกบุกรุกป่าจะรู้ตัวก่อนทุกครั้งเวลาเจ้าหน้าที่บุกไปจับ โดยหารู้ไม่ว่าสายของบุรีตัวจริงคือ ฝักแค(มิ้ง ชุติญา ลิ้มเจริญ) สาวชาวบ้านที่อาสามาเป็นคนครัวให้เจ้าหน้าที่ และหลงรักอยากได้เมืองเอกเป็นผัวนี่เอง ร่มไม้ทะเลาะกับเมืองเอกอย่างรุนแรง ไล่เมืองเอกให้ออกไปจากอุทยาน เมืองเอกกลับไปหาบุรีขอให้หยุดบุกรุกป่า แต่โดนบุรีตบหน้าประกาศตัดจากกองมรดกถ้าเมืองเอกไม่ยอมรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของรีสอร์ต เมืองเอกทำเป็นห่วงสมบัติจึงยอมตกลงอย่างง่ายดาย เพื่อหวังเข้าไปทำลายโครงการนี้ รถถังหนีหายจากคอกเข้าไปในป่า เมืองเอกขอออกตามหาพร้อมกับร่มไม้และกลุ่มเจ้าหน้าที่ จนพบว่า รถถังไปอยู่ตรงจุดที่แม่ถูกยิงตาย เมื่อพารถถังกลับมา รถถังปวดท้องถ่ายออกมามีแหวนของนายบุรี เมืองเอกเห็นแหวนจำได้ว่าเป็นของพ่อตัวเองแต่ไม่ยอมบอกร่มไม้ เขารีบติดต่อพ่อเพื่อถามเอาความจริง แต่กลับรู้ว่าบุรีเข้าป่าไปล่าสัตว์จึงรีบตามไป พร้อมๆ กับที่ร่มไม้ได้รับข่าวว่ามีคนบุกรุกเขตห้ามล่าสัตว์ จนเกิดการปะทะกัน ร่มไม้เกือบโดนบุรียิงตาย แต่เมืองเอกเอาตัวเข้าขวางจนยิงโดนบาดเจ็บสาหัส บุรีห่วงลูกไม่ยอมหนีจนโดนเจ้าหน้าที่จับตัวได้ อิสระลงข่าวเรื่องบุรี ทำให้เกิดแรงกดดันจากประชาชนทั่วทุกสารทิศ ทำให้รีสอร์ตถูกคำสั่งรื้อถอนทั้งหมด นักการเมืองท้องถิ่นต้องลาออก ธุรกิจของบุรีโดนต่อต้านจนบริษัทเกือบล้ม ดีที่ร่มไม้ออกหน้าให้สัมภาษณ์สื่อว่า เมืองเอกเป็นคนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ และเมืองเอกก็เข้าบริหารบริษัทแทนบุรี เปลี่ยนแปลงโครงการต่างๆ ในอนาคตให้เป็นโครงการป่ากลางเมือง รณรงค์ให้ผู้คนรักต้นไม้ รักสัตว์ โดยนำเอารูปถ่ายที่เคยถ่ายสัตว์ป่าเอาไว้ออกมาเผยแพร่ เมืองเอกขอแต่งงานกับร่มไม้ แต่ร่มไม้ขออุทิศตัวเพื่อทำงานอนุรักษ์ป่า เมืองเอกไม่ละความพยายาม ขอรดน้ำพรวนดินปลูกต้นรักต่อไป จนกว่าร่มไม้จะใจอ่อน

พชรมนตรา 2562

เรื่องย่อ : พชรมนตรา (2562/2019) "พชร" เพชรสีชมพู เพชรอาถรรพ์ที่มีค่าที่สุดในโลก และเป็นที่ต้องการของทุกคน จนเกิดการเข่นฆ่า แย่งชิง แต่หากมิใช่เจ้าของ ทุกคนที่ได้ครอบครอง ต่างมีอันเป็นไป... พ.ศ. 2540 ณ ป่าดงดิบ ริมชายแดนประเทศไทย ดร.อมร พา ประพจน์ ไปตามหา "เพชรสีชมพู" เพชรล้ำค่า ที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์ โดยมี วาโพ เป็นพรานนำทาง หลังการเดินทางเต็มไปด้วยความยากลำบาก พบอันตรายต่างๆ นาๆ จนได้พบวิหารหินเก่าแก่ ในวิหารหินมีรูปปั้นแมวขนาดใหญ่ รูปปั้นนั้นแปลกตรงที่ ตัวเป็นแมว แต่มีใบหน้าเป็นมนุษย์ผู้หญิง และที่นัยน์ตาแมวข้างหนึ่ง มีเพชรสีชมพูที่ชื่อว่า "พชร" ฝังอยู่ เมื่อได้เพชรพชร แทนที่ประพจน์จะเอาเพชรไปให้ทางราชการ เพื่อเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ เป็นสมบัติของชาติ ตามที่สัญญากับอมรไว้ ประพจน์กลับหักหลัง ให้ลูกน้องฆ่าอมรและวาโพ โดยตลอดเวลาที่มีการฆ่า จะอยู่ในสายตาของแมวดำตัวใหญ่ ท่คอยมองจ้องมาตลอด วาโพหนีได้อย่างหวุดหวิว และหลังจากนั้นก็ได้หายตัวไปพร้อม อัญชลี ลูกสาววัยสามปีของอมร 20 ปีผ่านไป ณดล ศุภมิตร นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จ ทั้งยังเป็นที่หมายปองของสาวๆ ได้มาเดินป่าบริเวณชายแดน ณดลได้พบกับ เพชร เด็กหนุ่มหน้าสวย แม่เพชรจะดูอ้อนแอ้น หน้าใสเหมือนผู้หญิงแต่กลับเดินป่าได้อย่างเชี่ยวชาญแถมยังมีฝีมือในการต่อสู้ ปีนป่ายต้นไม้อย่างยากที่จะหาใครทำได้ ณดลไปพบพวกล่าของสัตว์โดยบังเอิญ พวกนั้นคิดฆ่าปิดปากและปล้นเขา แต่โชคดีที่เพชรมาช่วยไว้ ณดลทึ่งในฝีมือการต่อสู้ของเพชรมาก ชวนให้มาทำงานเป็นลูกน้องคนสนิทที่กรุงเทพ วิทย์หรือวาโพพ่อของเพชรสนับสนุน แต่ย้ำให้เธอยังทำตัวเป็นชายปิดบังความเป็นหญิง เพื่อความปลอดภัย เพชรหรือน้ำเพชรไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลของพ่อนัก แต่ด้วยความเป็นเด็กกตัญญู เธอก็ทำตามที่พ่อสั่งมาตลอดชีวิต วิทย์ยังคอยย้ำเสมอว่าเธอต้องเชื่อฟัง และกตัญญูกับเขาให้มากกว่านี้ ด้วยอำนาจของเพชร ประพจน์ประสบความสำเร็จในธุรกิจด้านเพชรพลอยจนร่ำรวยมหาศาล แต่ด้วยอาถรรพ์นี้ก็ทำให้ประพจน์ต้องนอนฝันร้ายทุกคืน ฝันเห็นแมวดำและหญิงหน้าผีในชุดโบราณ ประพจน์ได้แต่เก็บความกลัว สยดสยองไว้ ไม่กล้าบอกใครแม่แต่ณดล บุตรชายคนเดียวของเขา เพราะกลัวจะรู้ถึงความเหี้ยมโหด ชั่วร้ายของเขาในอดีต เมื่อได้ทำงานใกล้ชิด น้ำเพชรได้รู้ว่าณดลนิสัยดีกว่าที่คิด เสียแต่มีสาวๆ มากไปหน่อย และสาวพวกนั้นก็มาปลื้มเธอไปอีกคน เพราะคิดว่าเป็นหนุ่มน้อยหน้าใส ทำให้น้ำเพชรแสนจะปวดหัวกับการทำงานให้เจ้านายหนุ่ม ณดลให้น้ำเพชรย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย ที่บ้าน ศุภมิตร น้ำเพชรรู้สึกได้ถึงความไม่เป็นมิตรของ นันทา น้องสาวของประพจน์ ที่พยายามเบ่งอำนาจ ควบคุมทุกอย่างในบ้าน รวมไปถึงบริษัท ความมีลบลมคมในของ วีระ ทนายความคู่ใจที่ทำงานกับประพจน์มาตั้งแต่หนุ่ม ทั้งยังมีเหตุการณ์แปลกๆ บ่อยครั้งที่น้ำเพชรรู่สึกได้ว่ามีใครบางคนจ้องมองเธออยู่ แม่เมื่อหันไปมอง มักเห็นแต่แมวดำตัวใหญ่ที่มองมา ทั้งที่บ้านศุภมิตรไม่ได้เลี้ยงแมว แม้อานาจของเพชรจะสร้างความร่ำรวยให้ แต่อีกด้านประพจน์ก็ต้องรับกรรมด้วยสุขภาพที่แย่ลงทุกที เขาต้องพิการ นั่งรถเข็นมาตลอดยี่สิบปี นับตั้งแต่ครอบครองเพชรสีชมพู สุดท้ายเป็นโรคมะเร็งที่หมอว่าเขาจะมีชีวิตได้อีกไม่เกินหนึ่งปี ประพจน์ซึ่งใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุขเลย เริ่มสำนึกในบาปที่ทำ จึงประกาศหาตัว อัญชลี โดยจะมอบเงินให้ยี่สิบล้าน เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ฆ่าอมร และหวังว่าผลบุญครั้งนี้จะช่วยให้อาการของเขาดีขึ้น หญิงสาวที่อายุรุ่นเดียวกับอัญชลี ร่วมหลายร้อยคนพากันมาบอกว่าเป็นอัญชลีตัวจริง ประพจน์สัมภาษณ์ทุกคน พบว่ามีแค่สามคน ที่รู้ความลับในอดีต และมีแววว่าจะเป็นอัญชลีตัวจริง นั่นก็คือ มาริสา ศิลปินสาวที่ชอบวาดรูป จัน หญิงสาวท่าทางก้าวร้าวไม่กลัวใคร และ ปัทมา พยาบาลสาวหน้าหวาน นิสัยดี อ่อนโยน มาริสาบอกจำได้ว่าประพจน์เตยให้ตุ๊กตาหมีกับเธอ ก่อนที่จะเข้าป่าไปกับพ่อ จันมีสร้อยข้อมือที่ประพจน์จำได้ว่าคล้ายกับที่เขาเคยให้ไว้กับอัญชลีมาก ส่วน ปัทมา บอกว่าจำได้ว่ามีคนถูกฆ่าตาย แล้วมีคนอุ้มเธอหนีไป เรื่องราวที่สามสาวบอกมา เหมือนต่างรู้คนละนิดในเรื่องเดียวกัน ประพจน์ไม่รู้จะตัดสินใจเลือกใคร จึงให้ทั้งสามสาวมาอยู่ในบ้าน เพื่อหาอัญชลีตัวจริงต่อไป มาริสาอยู่อย่างไม่สนใจใคร มีโลกส่วนตัวสูง ส่วนจันก็จะเรียกร้องแต่ความสะดวกสบาย จะเอาทุกอย่างที่เอาได้อย่างเห็นแก่ตัว ปัทมาเข้ามาใกล้ชิดกับประพจน์ ช่วยพยาบาลดูแลเขาอย่างดี จนประพจน์เอ็นดู ถูกใจเธอมาก ณดลงงมากที่อยู่ดีๆ ก็มีญาติสาวสามคนมาอยู่ด้วย น้ำเพชรรู้สึกว่าสามสาวปกปิดความลับบางอย่าง ความเป็นอยู่ในบ้านศุภมิตรเริ่มเปลี่ยนแปลงไป นันทา มักมีปัญหากับมาริสา จันเองก็ไร้ระเบียบ จนคนในบ้านระอา มีแต่ปัทมาที่ดูเป็นคนดี ประพจน์ชักสงสัยว่าปัทมาคืออัญชลีตัวจริง เพราะเธอดูมีจิตใจคล้ายอมรมาก แท้จริงแล้วทั้งสามคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอัญชลีเลย มาริสาเป็นลูกลับๆ ของ นันทา ที่ท้องแบบไม่มีพ่อ นันทาจึงต้องเก็บเรื่องลูกคนนี้เป้นความลับ แม้แต่ประพจน์ก็ไม่รู้เรื่องนี้ มาริสามีปมด้อยในใจ ยอมหลอกมาเป็นอัญชลีเพื่อหวังสมบัติทั้งหมดของประพจน์ ต่อหน้าคนอื่นจะทำตัวนิสัยดี แต่เพชรได้เห็นตอนเธอปล่อยความรุณแรง ก้าวร้าวยามเผลอตัว เพชรเตือนให้ณดลระวังมาริสา แต่ณดลกลับคุยตลกว่าไม่เคยกลัวผู้หญิง จัน เป็นเด็กบ้านแตก มาจากครอบครัวยากจน เป็นเมียน้อยลับๆ ที่วีระเลี้ยงไว้ วีระคิดใช้จันมาขโมยเพชรสีชมพู เพราะเงินยี่สิบล้านที่ประพจน์จะให้ เทียบไม่ได้กับเพชรที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน วีระทำงานกับประพจน์มานาน พอรู้เรื่องของอัญชลีบ้าง เลยมีข้อมูลให้จันมาหลอกประพจน์ได้ สามสาวทำท่าสนใจณดล ณดลให้ความสนิทสนมกับปัทมาที่สุด เพราะเธอดูน่าสงสาร เพชรต้องคอยรับมือกับความวุ่นวายของสาวๆ แทนเจ้านายหนุ่ม อาทิตย์ ทำนิทรรศการเรื่องเพชร มีตำนานความอาถรรพ์ของเพชรสีชมพู ที่มีทั้งแมวดำ และวิญญาณของหญิงในยุคโบราณมาเกี่ยวข้อง เพชรสะดุดใจ เพราะเรื่องราวช่างเหมือนกับที่ได้เห็นที่บ้านณดล ณดลสงสัยว่าพ่อเก็บอะไรไว้ในเซฟลับที่ห้องนอน แต่ประพจน์ไม่ยอมบอก เพราะถ้าณดลรู้จะต้องให้เอาเพชรไปมอบให้ที่พิพิธภัณฑ์ ซึ่งประพจน์ยอมไม่ได้ เขาขอตายพร้อมเพชรสีชมพู จันมักมีปัญหากับมาริสาและนันทาเสมอ นันทาให้ประพจน์ไล่ออกจากบ้าน แต่ประพจน์ไม่ทำเพราะยังสงสัยว่าจันอาจเป็นอัญชลีตัวจริง สามสาวมักพบเรื่องราวแปลกๆ เห็นเงาของหญิงลึกลับพร้อมแมวดำ ในบ้านเริ่มมีเหตุการณ์ร้ายๆ ทั้งสามสาวเริ่มฝันร้ายซ้ำๆ ในเรื่องเดิม มาริสาเกือบถูกรถชนอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ดีว่าณดลช่วยไว้ทัน โคมไฟขนาดใหญ่เกือบตกใส่จาน ประพจน์รู้ว่าทั้งหมดเกิดจากอาถรรพ์ของเพชรแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเขาเองก็แทบเอาชีวิตไม่รอดแล้ว วีระให้จันขโมยเพชรชมพู แต่เมื่อได้มา จันกลับประสาทหลอน เห็นการฆ่าตาย การทำร้าย นั่นเพราะกรรมเวรที่เธอเคยฆ่าคนตายมาก่อน เพชรค้นข้อมูลจนรู้ประวัติที่มาของจัน ณดลกับเพชรจะไปเอาเพชรคืน แต่จันกลับเป็นบ้า เพราะประสาทหลอน วีระเอาเพชรหนีไป แต่เขาก็เห็นแมวดำ และหญิงหน้าผีมาเล่นงาน ด้วยความโลภในใจ วีระเห็นเพชรทองเต็มไปหมด วีระวิ่งให้รถชนเพราะนึกว่ากำลังวิ่งเข้าไปที่กองสมบัติ วีระบาดเจ็บสาหัสและต้องพิการไปตลอดชีวิต ประพจน์ได้เพชรคืนมา อาทิตย์เตือนเรื่องอาถรรพ์ แต่ประพจน์ไม่สนใจ ประพจน์คิดมอบเงินให้ปัทมา เพราะเธอน่าจะเป็นอัญชลีตัวจริงมากที่สุด ประพจน์ตัดสินใจเล่าเรื่องในอดีตที่ฆ่าอมร ขอให้ณดลแต่งงานกับปัทมาเพื่อไถ่โทษ อาถรรพ์แห่งเพชรจะได้จบสิ้นสักที ณดลตัดสินใจแต่งงานกับปัทมา เพื่อหวังว่าจะช่วยพ่อได้ เพชรขอลาออก อ้างว่าจะไปช่วยพ่อที่ร้าน ณดลจำใจปล่อยไป อาทิตย์รู้สึกไม่ไว้ใจปัทมา นันทาให้คนสืบจนรู้ว่าปัทมา ไม่น่าเป็นอัญชลีตัวจริง แต่นันทาก็สืบไม่ได้ว่าปัทมาเป็นลูกใครกันแน่ นันทาว่าปัทมาเป็นพวกหลอกลวง แต่นอกจากประพจน์จะไม่เชื่อแล้ว ยังบอกอีกว่าเขารู้เรื่องมาริสามาตลอด รวมทั้งยังรู้ด้วยว่านันทา คิดรวบทุกอย่างเป็นของตัวเอง นันทาทั้งโกรธและอายที่พี่ชายรู้ทำ มาริสาจะเล่นงานปัทมา แต่กลับโดนปัทมาเล่นกลับจนเจ็บ นันทาโกรธมาก ขัดขวางปัทมากับณดลทุกทาง นันทาเจออาถรรพ์เห็นสาวหน้าผี เธอตกใจมากวิ่งหนีมาเจอปัทมา นันทาว่าปัทมาเป็นใครกันแน่ ปัทมาเล่นงานนันทาจนตกจากตึก แต่นันทาก็รอดได้อย่างปาฏิหาริย์ นันทาโวยวายว่าปัทมาเล่นงานเธอ แต่ไม่มีใครเชื่อ มาริสาไม่เชื่อ คิดหาหลักฐานเล่นงานปัทมา แต่ปัทมารู้ทัน เล่นงานมาริสาจนบาดเจ็บสาหัส นันทาแค้นใจมากแต่ทำอะไรปัทมาไม่ได ้เพราะประพจน์คอยเข้าข้างตลอด ณดลเองก็ใจหายที่ต้องแต่งงานกับหญิงอื่น เพราะเขามีความสุขมากที่ได้ใกล้ชิดกับเพชร แต่ณดลก็รับไม่ได้ที่เขาจะชอบชายด้วยกัน อาทิตย์นึกขำที่ณดลเป็นเสือผู้หญิง แต่กลับดูไม่ออกว่าเพชรเป็นผู้หญิง เพชรหรือน้ำเพชรขอให้อาทิตย์ปิดเรื่องเธอเป็นความลับ อาทิตย์พยายามหาข้อมูลในอดีต จนพอเดาได้ว่าเพชรสีชมพูอยู่ที่ประพจน์ เพชรกลับมาช่วยงานพ่ออย่างเศร้า ณดลมาขอให้เพชรกลับไปทำงานด้วยกันอีก แต่เธอปฏิเสธ หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องร้ายๆ กับน้ำเพชรตลอด อาทิตย์ว่ามีคนกำลังเล่นงานเธออยู่ อาทิตย์ค้นคว้าจนรู้ว่า วิธีแก้อาถรรพ์ของเพชรสีชมพู คือต้องทำพิธีขอขมาในสถานที่ซึ่งได้พบเพชรเป็นครั้งแรก ประพจน์คิดทำตาม หวังว่าเขาอาจหายจากโรคร้าย จึงเล่าเรื่องเพชรให้ณดลฟัง ณดลว่าหลังจากทำพิธีแต่งงานแล้ว เขาจะรีบเข้าป่าไปค้นหาวิหารเก่าเพื่อทำพิธีขอขมาให้พ่อ ณดลชวนเพชรให้ไปกับเขาด้วย เธอตอบรับเพราะเป็นห่วงเขา ก่อนวันแต่งงานของณดล วิทย์ปรากฏตัวขึ้น ประพจน์ตกใจมาก เพราะวิทย์ก็คือวาโพนั่นเอง วาโพมาทวงคืนเพชรสีชมพู จับปัทมาเป็นตัวประกัน ขู่จะฆ่า ประพจน์จึงยอมเอาเพชรให้ วาโพหนีไป โดยจับตัวปัทมาไปด้วย ณดลว่าวาโพต้องไปที่วิหารหินเก่าแก่ ณดล เพชรและอาทิตย์ออกเดินทางเข้าป่า ย้อนรอยอดีตหาวิหารเก่า ตามแผนที่ ที่ประพจน์เขียนขึ้นจากความทรงจำ ทั้งสามได้พบอุปสรรคเร้นลับ ต่างๆ นาๆ น้ำเพชรสังเกตเห็นแมวดำที่ตามมาตลอด ณดลเกือบพลาดหลายครั้ง แต่น้ำเพชรช่วยไว้ จึงตกลงในน้ำตก หลังจากถูกกระแสน้ำพัดมาไกลสองคน ณดลถึงได้รู้ว่าเธอเป็นหญิง ณดลทั้งดีใจและโกรธ ดีใจที่เขาไม่ได้หลงรักชายด้วยกัน แต่โกรธที่เสียฟอร์ม ดูไม่ออกว่าเธอเป็นหญิง โดนหลอกมาตลอด ณดลทำงอนใส่สารพัด น้ำเพชรต้องตามง้อ แต่เขายิ่งทำแสนงอนมากขึ้น จนเธอเลิกง้อ ไม่สนใจ ณดลกับน้ำเพชรจึงได้ปรับความเข้าใจกัน ณดลตั้งใจจะทำพิธีขอขมาแทนพ่อให้ได ้เพราะเขาจะไม่แต่งงานกับปัทมาแน่นอน น้ำเพชรดีใจมาก ทั้งสองดั้นด้นไปจนพบวิหารหิน เจอวาโพที่กำลังทำพิธีขอขมา น้ำเพชรแปลกใจที่ปัทมาไม่ถูกมัดหรือคุมขังอะไรเลย ณดลเข้าไปทำลายพิธ ีเพื่อชิงเพชรคืน ต่อสู้กับวาโพ น้ำเพชรเข้าช่วย วาโพว่าพาคนมาทำร้ายพ่อตัวเองรึ น้ำเพชรชะงัก วาโพเลยจับน้ำเพชรเป็นตัวประกัน ขู่ให้ณดลวางอาวุธ ไม่งั้นเขาจะฆ่าเธอ ณดลไม่เชื่อ รู้ว่าวาโพไม่มีทางฆ่าลูกตัวเอง วาโพถึงสารภาพความจริงว่า น้ำเพชรคืออัญชลีตัวจริง ส่วนปัทมาต่างหากคือลูกสาวของเขาและเพื่อหวังใช้ให้ปัทมาไปหลอกเอาเพชร เขาจึงไม่เคยให้น้ำเพชรกับปัทมาได้พบกัน ปัทมาถือโอกาสเล่นงานณดลตอนเผลอ ณดลกับน้ำเพชรถูกจับไว้ วาโพว่าพวกเจ้ามาได้ถูกเวลาเพราะการทำพิธีขอขมาถ้าจะให้ได้ผล ต้องบูชาด้วยเลือด วาโพคิดใช้เลือดของณดลแก้อาถรรพ์ของเพชร ก่อนวาโพจะลงมือได้ ณดลก็หลุดจากการถูกจับได้โดยไม่ผิดพลาดเหมือนเคย ณดลสู้กับวาโพอย่างดุเดือด ส่วนน้ำเพชรก็รับมือกับปัทมา ซึ่งเก่งด้านการต่อสู้ไม่แพ้เธอ ณดลเกือบเสียที แต่มีแมวดำมาช่วยไว้ วาโพชะงักร้องด้วยความกลัวว่า "แมวผี" วาโปเสียหลัก เจอหญิงหน้าผีมาหลอกซ้ำ ทำให้เขาถูกค่ายกลเล่นงานจนตาย เลือดของเขากระเด็นมาถูกเพชรสีชมพูที่กำลังทำพิธ ีปัทมาตกใจ คิดจะฆ่าน้ำเพชร แต่ต้องชะงักเมื่อได้เห็นหญิงหน้าผีในชุดโบราณมาขวางไว้ ปัทมาโดนอาถรรพ์แห่งเพชรเล่นงานจนกลายเป็นบ้า วิหารหินกำลังจะถล่ม น้ำเพชรร้องให้หนี แต่ณดลไม่ยอม เอาเพชรสีชมพูกับไปใส่ที่ในตารูปปั้นแมวจนได้ หลังจากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างแรง จนวิหารหินถล่มลงมา ทั้งสองหนีแทบไม่ทัน หญิงสาวหน้าผีในชุดโบราณปรากฏตัวขึ้น พร้อมชี้ทางหนีให้ ทั้งสองหนีมาได้อย่างหวุดหวิด ณดลบ่นว่าแล้วจะกลับบ้านยังไง อาทิตย์ก็โผล่มาพร้อมเครื่องบินส่วนตัว ที่จะมารับทั้งสอง ประพจน์ดีใจมากที่ได้พบอัญชลีตัวจริง เขาขอให้เธอยกโทษให้เรื่องอมร หลังจากนั้นประพจน์ก็เสียชีวิตอย่างสงบ ณดลว่าพิธีขอขมาได้ผล พ่อของเขาหลุดพ้นจากความเจ็บปวดสักที หลังจากนั้นณดลได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับน้ำเพชร และไม่มีใครได้พบกับอาถรรพ์ของเพชรสีชมพูอีกต่อไป

ยอดรักนักรบ (2562/2019) เมื่อนักร้องหนุ่มเลือดอีสาน ต้องจับพลัดจับผลูสวมรอยเป็นนาวิกโยธินหนุ่มที่หายตัวไป เพราะหน้าตาที่เหมือนกันราวฝาแฝด แต่นิสัยและความสามารถที่เปลี่ยนไป ทำให้เขาถูกจับผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก แพทย์หญิง คู่หมายของทหารหนุ่ม เขาจึงต้องฝึกหนักเพื่อให้ได้รับการยอมรับ และสามารถเอาชนะใจเธอได้ แต่ความลับไม่มีในโลก เหตุจำเป็นครั้งนี้ จึงมีชีวิตและหัวใจเป็นเดิมพัน “หัวใจกล้าหาใช่ไร้ความกลัว แต่หัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักนั้นทำให้ไม่ดหลือที่ให้กับความกลัว” นี่คือความจริงที่ยอดรักผู้ที่ชะตากรรมเล่นตลกกับชีวิตของเขาให้ผันตัวเองจากนักร้องมาเป็นเรือเอก นักรบ วีรบุรุษทหารกล้า อดีตนายทหารแห่งหน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจม เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษทางทหาร สังกัดราชนาวีไทยในเวลาเพียงแค่.. 30 วัน ยอดรัก (เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ) เป็นคนอีสาน พ่อแม่ยอดรักคือนักร้องลูกทุ่งในวง ครูสมัย (สุเมธ องอาจ) ครูเพลงชื่อดัง พ่อแม่ยอดรักตกระกำลำบากต้องเอายอดรักมาฝากหลวงพ่อ แห่งวัดหนองอียอให้ชุบเลี้ยง สิ่งเดียวที่ทำให้ยอดรักแตกต่างจากนักร้องคนอื่นๆก็คือน้ำเสียงปี่พระอภัยฯมีมนต์ขลังฉันใด เสียงยอดรักก็มีมนต์ขลังฉันนั้น เมื่อใดก็ตามที่เขาร้องเพลง มนต์สะกดของเสียงเพลงสามารถดลบันดาลให้ผู้ฟังเคลิบเคลิ้ม หลุดลอยออกไปจากโลกแห่งความจริงและไปล่องลอยอยู่ในโลกของมิวสิควิดีโอ เมื่อเสียงเพลงจางหาย ผู้คนทั้งหลายก็จะกลับมาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง ยอดรักไปประกวดร้องเพลงจนประสบความสำเร็จ ทางผู้จัดนัดอัดรายการในอีกสามสิบวันข้างหน้า แต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องไม่มีภาระผูกพันใดใด และเพื่อให้ฝันของเขาเป็นจริง ยอดรักยอมหักหลัง ซิ่ง (เดี่ยว เสกสรร) เพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก ยอมตัดสายสัมพันธ์ที่ ส้มจี๊ด (เจด้า-ศรัณย่า ชุณหศาสตร์) ลูกสาวครูสมัย และ ชบา (แก้ม-กวินตรา โพธิจักร) ภรรยาใหม่วัยยังสาวของครูสมัยที่ทอดรักเอาไว้ให้กับเขา และเขาแอบเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่เพียงผู้เดียว เหิม (ต๊อบ-ชัยวัฒน์ ทองแสง) และสหายแอบดักรอยอดรักระหว่างทางและทำร้ายยอดรักจนหมดสติเพื่อส่งไปเป็นแรงงานให้ตายในท้องทะเลกว้างเพื่อล้างแค้น ในวินาทีที่ร่างของยอดรักถูกมัดไร้อิสรภาพถูกโยนใส่เรือสินค้า น.นิลกาฬ อดีตเรือเอกนักรบ มุ่งโรมรัญ (เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ) ก็ได้พาเหล่าอดีตหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ล้วนแล้วแต่เป็นมือพระกาฬของกองทัพเรือที่ประกอบไปด้วย เรือตรีสมุทรยุทธการ (บิ๊ก-ณทรรศชัย จรัสมาส) ,จ่าฉลาม งามลออ (เติร์ก-ณัฐชนน ภูวนนท์) ,จ่าชะลอ ขอเอี่ยว (อั้ม-ถิร ชุติกุล),จ่าหมึก ข้าศึกคร้าม (ไวท์-กุลธวัช บัวเจริญ) ,จ่าจ้อ สาลิกา (ดนฐ์-กณิณ ปัทมนันถ์),จ่าเวช เทพรักษา (เคน ฮาเซกาวา) บุกเรือขนของเถื่อนของ เฮียกวง (หนุ่ม-ชมวิชัย เมฆสุวรรณ) ในการปฏิบัติการในครั้งนี้ ผจญ (โน้ต-วัชรบูล ลี้สุวรรณ) จึงเข้าร่วมมือกับหน่วยพิเศษของพลเรือตรีนาวิน มล้ายอริคล้าม (ทูน หิรัญทรัพย์) อดีตนายทหารเรือเพื่อให้แผนการใหญ่บรรลุเป้าหมาย ผจญได้ลั่นกระสุนใส่ร่างของนักรบเพื่อจบชีวิต ในขณะที่ร่างไร้วิญญาณของอดีตเรือเอกนักรบ ค่อยๆจมลงสู่เบื้องลึกของท้องทะเล ร่างไร้สติของยอดรักหนองอียอก็ลอยสวนทางขึ้นมา ด้วยความละม้ายคล้ายกันของบุรุษทั้งสอง สมุทรลูกน้องคู่ใจช่วยพาเขาขึ้นฝั่งเพื่อรับการรักษา สมุทรคิดว่านักร้องจากแดนอีสานคือ สุดยอดทหารกล้าแห่งราชนาวีผู้บังคับบัญชาของเขา เมื่อยอดรักฟื้นคืนสติ ภาพแรกที่เขาเห็นคือ เรือเอกแพทย์หญิงชลดา (ฐิสา-วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) ลูกสาวคนเดียวของนาวิน ในขณะที่ชีวิตของยอดรักกำลังเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ยอดรักในคราบนักรบได้แสดงความสุดยอดของพลังเสียงและถูกบันทึกไว้ในกล้องของสื่อมวลชนหลายครั้งหลายครา จนสื่อพากันเรียกชื่อทหารกล้านิรนามคนนี้ว่า “ฉลามเสือเสียงทอง” ในวันที่ยอดรักต้องเข้ากรุงเทพฯเพื่อร้องเพลงในโอกาสพิเศษของกองทัพเรือ ยอดรักได้ประกาศต่อหน้ากล้องถ่ายทอดไปทั่วประเทศเพื่อให้ผู้ชมที่กำลังเห่อฉลามเสือเสียงทอง นักร้องขวัญใจคนใหม่ว่าเขามีผู้หญิงที่เขารักแล้วและเขาเปิดตัวหมอชลดาให้ทุกคนได้รับรู้ และมันดีมากสำหรับชลดาเพราะไม่มีผู้ชายคนไหนเคยมอบของขวัญที่สุดแสนจะโรแมนติกให้เธอ แต่จู่ๆยอดรักต้องมาเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ทำให้เขาตัดสินใจยื่นใบลาออกจากหน่วยรบพิเศษ สำหรับคนเจ้าเล่ห์อย่างผจญ เขาสืบจนรู้ว่ายอดรักไม่ใช่ผู้กองนักรบแต่นี่คือโอกาสทองที่จะยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ผจญไดวางแผนทำลายชื่อเสียงของผู้กองนักรบตัวจริงเพื่อทำลายนาวินและหน่วยพิเศษของเขาจนทำให้นาวินและทีมพิเศษได้เดินทางไปจับกุมตัวยอดรักเพื่อมาสอบสวน ในคุกของหน่วยลับ นอกจากยอดรักจะบอบช้ำเพราะเป็นที่ระบายอารมณ์ของหน่วยพิเศษทีเข้าใจผิด เขายังต้องหัวใจสลายที่ทำให้ชลดาโศกเศร้าราวกับจะขาดใจที่เขาหลอกลวงทำให้เธอรักและมีความหวังว่าจะได้แต่งานกับผู้ชายที่เธอรอมานานแสนนาน ด้วยความช่วยเหลือของ ร.ต.อ.หญิงอลิสา (กิ๊ฟซ่า-ปิยา) และ กรุ๊นด์ (คริสโตเฟอร์ เชฟ) ที่ยอมเสี่ยงภัยเข้าไปช่วยยอดรักบุคคลเพียงคนเดียวที่อาจจะสืบสาวไปจนถึงต้นตอของผู้ที่คอยแอบช่วยเหลือกวงออกมาจากคุกลับ ยอดรักจึงได้รับอิสระภาพอีกครั้ง และทั้งสามรู้แล้วว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังแผนร้ายทั้งหมดก็คือผจญนั้นเอง สุดท้ายแล้วยอดรักจะจัดการกับผจญอย่างไร? และ ชลดาจะให้โอกาสยอดรักอีกครั้งได้หรือไม่ ยอดรักจะสามารถกอบกู้ชื่อเสียงของผู้กองนักรบ นาวินและหน่วยพิเศษกลับคือมาได้อย่างไร?

เรือมนุษย์ 2562

เรื่องย่อ : เรือมนุษย์ (2562/2019) มนุษย์มิต่างจากเรือที่ลอยวนอยู่ในห้วงมหรรณพแห่งกิเลสตัณหา หากไม่มีสติประคับประคองให้เรือชีวิตแล่นไปในทางที่ควร ก็มีแต่จะอับปางลงหรือไม่ก็ลอยเท้งเต้งอยู่ในทะเลกิเลสอย่างไม่มีทางออก “เรือมนุษย์” ละครโทรทัศน์แนวชีวิตเข้มข้นที่ฉายให้เห็นภาพของมนุษย์ในสังคมปัจจุบันที่ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาและความทะยานอยากในวัตถุ จนกระทั่งได้รับบทเรียนชีวิตอย่างสาสม มธุรส(นุสบา ปุณณกันต์) เป็นนักสังคมสงเคราะห์ เธอช่วยเหลือสังคมและใส่ใจเรื่องราวนอกบ้านมากกว่าจะทำหน้าที่แม่และเมียที่ถูกต้อง ทิ้งให้เพลา(หนุ่ม-สันติสุข พรหมศิริ) ผู้สามีอยู่กับลูกวัยรุ่นสามคน อันได้แก่ พิมพ์รส(พลอย-รัญดภา มันตะลัมพะ) พจนา(วิคเตอร์-ปวรพัฒน์ จารุศักดิ์วีรกุล) และมาลาทิพย์(มินนี่-ภัณฑิรา พิพิธยากร) โดยมีนิธิมา(เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) น้องสาวของสามีทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านเพียงคนเดียว แม้นิธิมาจะมีงานประจำทำรัดตัวแต่ก็ต้องอุทิศเวลาเกือบทั้งหมดดูแลหลานๆ ส่วนเพลาเป็นข้าราชการระดับสูงในกระทรวงแห่งหนึ่ง มักขลุกอยู่ที่ทำงานจนมืดค่ำ หรือไม่หลังเลิกงานก็ไปสนทนาธรรมกับพระ ทั้งมธุรสและเพลาจึงไม่มีเวลาดูแลลูกอย่างจริงจัง มธุรสชอบอวดโอ้ถึงฐานะความเป็นอยู่และชาติตระกูลในวงสังคม แต่ด้วยทรัพย์สินที่จะใช้จ่ายในแต่ละเดือนขึ้นอยู่กับเงินเดือนของสามีกับเงินเก็บเพียงบางส่วน ทำให้มธุรสต้องปิดบังความจริงไว้ เธอใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อซื้อหน้าตาในสังคม มธุรสมีเพื่อนสนิทที่เรียนมัธยมมาด้วยกันที่รู้เบื้องหลังกันดี ได้แก่ สิรินทร์(เงาะ-กชกร นิมากรณ์)ภริยามหาเศรษฐีเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวหลายแห่ง และเฟื่องทอง(ปู-มัณฑนา หิมะทองคำ) ผู้มีอาชีพนายหน้าค้าขายทุกอย่าง แม้กระทั่งการส่งผู้หญิงไปบำเรอกามนักธุรกิจใหญ่ ด้วยการเงินที่อัตคัดชักหน้าไม่ถึงหลัง ภายใต้คฤหาสน์ใหญ่โตแต่ต้องใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ทำให้มธุรสหงุดหงิด เจ้าอารมณ์กับทุกคนในบ้าน คนรับใช้จึงอยู่ไม่ทน เธอจึงจ้างเด็กเกียว(คารีสา สปริงเก็ตต์) ลูกนางไส(แก้ว-อภิรดี ภวภูตานนท์) ชาวบ้านในสลัมหลังหมู่บ้านมาทำงานบ้านแบบเช้าไปเย็นกลับ ด้วยความกร้านชีวิตของเกียว เธอจึงไม่ใส่ใจในคำบ่นด่าของมธุรส หากแต่พยายามปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เอาเงินค่าจ้างไปเลี้ยงดูพ่อกับแม่ เกียวรู้เห็นเรื่องราวภายในบ้านของมธุรสเป็นอย่างดี จึงไม่เคยให้ความนับถืออย่างจริงจังและชอบเอาเรื่องภายในบ้านของมธุรสไปเล่าให้ชาวบ้านในชุมชนของเธอฟังเป็นประจำ เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นเมื่อพิมพ์รสตั้งครรภ์ได้สองเดือน เธอปรึกษานิธิมาให้พาไปทำแท้ง แต่นิธิมาไม่เห็นด้วย กลับนำความไปปรึกษาเพลา เพลาและมธุรสโกรธมาก จึงคาดคั้นพิมพ์รสว่าผู้ชายที่ทำให้เธอท้องเป็นใคร เมื่อรู้ว่าคือชัยพร(ขุน-ชานนท์ อักขระชาตะ) บุตรชายของเดช(ตั๊ก-นภัสกร มิตรธีรโรจน์) มหาเศรษฐีผู้โด่งดังในตลาดหุ้น มธุรสก็เปลี่ยนใจให้พิมพ์รสเก็บลูกไว้เพื่อต่อรองกับเดช แต่ในขณะนั้นเดชเดินทางไปต่างประเทศ ดัมพ์(อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์) น้องชายของเดชจึงทำหน้าที่แทนโดยร่วมมือปรึกษากับนิธิมา และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองคน เฟื่องทองไม่พอใจที่รู้ข่าวเรื่องพิมพ์รสกับชัยพร เพราะตนเคยนำชุดา(ไหมแพร-ภัทรานิษฐ์ คำกำพุด) หลานสาวไปสังเวยเดช เดชหลงชุดาจนยอมรับให้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ และเฟื่องทองก็มีแผนที่จะนำฟ้าทอง(หมิว-สิริลภัส กองตระการ) น้องสาวของตนไปเป็นคู่หมายของดัมพ์ด้วย เฟื่องทองจึงสกัดทุกวิถีทางไม่ให้พิมพ์รสได้เป็นสะใภ้ของเดช แต่ดัมพ์กับนิธิมา หาทางออกด้วยการเช่าบ้านให้พิมพ์รสอยู่ เมื่อคลอดเสร็จแล้วค่อยกลับมาอยู่บ้าน นิธิมาจำต้องไปอยู่กับหลานด้วย มธุรสจึงต้องใช้บริการของเกียวมากขึ้น เกียวเข้านอกออกในทุกวันภายในบ้าน ความฉอเลาะช่างเจรจาและนวดเก่งทำให้ได้เสียกับเพลา นางไสดีใจที่ลูกสาวได้เป็นเมียเศรษฐีและเริ่มคุยฟุ้งในชุมชนของตน เดชกลับมาจากต่างประเทศ ทราบข่าวเรื่องชัยพรเขาโกรธมาก แต่เมื่อเห็นหน้านิธิมา ผู้หญิงที่สวยเรียบๆ แต่มีเสน่ห์มาก ทำให้เกิดเปลี่ยนใจและอยากได้นิธิมาเป็นเมียแทนชุดา จึงแวะเวียนไปเยี่ยมและหาทางสนิทสนมกับเพลาและมธุรสมากขึ้น ดัมพ์รู้ถึงความเจ้าชู้ของพี่ชายดี จึงพยายามเตือนนิธิมา เขาเกิดรักและหวงนิธิมาไม่ต้องการให้เดชวุ่นวายกับชีวิตของหญิงสาว ส่วนชัยพรเมื่อดัมพ์แก้ปัญหาได้แล้วก็ไม่ใส่ใจปัญหาที่ก่อไว้ กลับทำตัวเกเรจนกระทั่งมีเรื่องขึ้นโรงพักอยู่บ่อยๆ พิมพ์รสโกรธไม่ยอมพูดกับชัยพร ชุดารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างนิธิมากับดัมพ์ ทำให้เธอไม่พอใจ เพราะลึกๆแล้วเธอหลงรักดัมพ์ แม้พยายามใกล้ชิดและบอกกับดัมพ์ว่าต้องการใช้ชีวิตกับดัมพ์ แต่ดัมพ์ไม่สนใจชุดา จึงบอกเดชเรื่องดัมพ์กับนิธิมา เดชยื่นคำขาดว่าห้ามดัมพ์ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงของตน ดัมพ์รู้ดีว่าเดชหมายถึงนิธิมา ต่อมาเดชหาทางกำจัดดัมพ์ออกไปจากชีวิต อ้างบุญคุณว่า ดัมพ์เป็นเพียงลูกเมียเก็บของพ่อตน ได้รับการอุปถัมภ์จนเรียนจบก็ดีมากแล้ว เดชอ้างว่าเห็นดัมพ์กับชุดาคบชู้กัน ดัมพ์จำใจออกจากบ้านไปอยู่คอนโดที่ตนซื้อไว้ และเตือนนิธิมาให้อยู่ห่างๆเดช ส่วนชุดาต้องระเห็จออกจากคฤหาสน์ด้วยเงินก้อนโต เฟื่องทองไม่พอใจแต่ก็อนุญาตให้ชุดาอยู่ในคฤหาสน์ของตน และเดินหน้าหาวิธีให้ฟ้าทองไปเป็นเมียของเดชหรือไม่ก็ดัมพ์ เธอเชื่อว่าดัมพ์ต้องมีส่วนในกองมรดกของเดชด้วย แต่ฟ้าทองไม่สนใจและพยายามบ่ายเบี่ยงความพยายามของเฟื่องทอง ใครๆก็เข้าใจว่าฟ้าทองเป็นผู้หญิงเรียบร้อย สนใจแต่งานมากกว่าเรื่องคู่ครอง แต่แท้จริงแล้วฟ้าทองแอบมีความสัมพันธ์กันอย่างลับๆกับวีระ(ต้น-อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) สามีของเฟื่องทอง ผู้มีศักดิ์เป็นพี่เขยของตน เมื่อชุดาเข้ามาอยู่ในบ้านของเฟื่องทอง ทำให้ฟ้าทองระแวงว่าชุดาจะเป็นผู้หญิงไวไฟและแย่งชิงวีระไปจากตน ฟ้าทองผู้หญิงเรียบร้อยก็เปลี่ยนไปและมีปากเสียงกับชุดาเป็นประจำ เดชรุกคืบนิธิมามากยิ่งขึ้น เขาซื้อแหวนเพชรให้นิธิมาวงหนึ่ง แต่ดัมพ์แนะนำให้นำไปคืนทำให้มธุรสโกรธมาก เพราะฝันหวานว่า หากลูกสาวได้เป็นสะใภ้เดช และน้องสาวสามีได้เป็นเมียของเดช เธอคงมีส่วนได้ผลประโยชน์ไม่มากก็น้อย แม้สิรินทร์จะเตือนด้วยความหวังดีแต่มธุรสก็ไม่สนใจ เฟื่องทองแอบมาเยี่ยมมธุรสและเห็นความใกล้ชิดของเกียวกับเพลา จึงขยายเรื่องให้มธุรสอับอายคนในสังคมว่าสามีกับลูกจ้างในบ้านเป็นชู้กัน มธุรสหาเรื่องตบตีเกียว นางไสโพนทะนาเรื่องที่ลูกสาวตนได้เป็นเมียเศรษฐี และพยายามเรียกค่าเลี้ยงดูให้แก่ลูกสาว ที่สำคัญคือเกียวท้องอ่อนๆ อีกด้วย มธุรสยิ่งอับอาย มีปากเสียงกับเพลาอย่างรุนแรง เพลาประกาศเลิกกับมธุรสและพาเกียวมาเช่าอพาร์ทเมนต์ราคาถูกอยู่ มธุรสเสียใจมากถึงขั้นกินยาตาย นิธิมาจึงต้องกลับมาอยู่ดูแลมธุรสและหลานสองคน เดชรับพิมพ์รสซึ่งท้องแก่แล้วให้เข้ามาอยู่ที่บ้านของตน เขาเชื่อว่านิธิมาจะต้องมาเยี่ยมพิมพ์รส ซึ่งจะทำให้เขาใกล้ชิดกับหญิงสาวมากยิ่งขึ้น เมื่อพิมพ์รสมาอยู่ในบ้าน ชัยพรก็ไม่ใส่ใจภรรยาของตน ยังคงเที่ยวเกเรเหมือนเดิม จนกระทั่งขับรถชนคนตายเป็นคดีความ ร้อนถึงดัมพ์กับนิธิมาต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวอีก เดชจึงไม่พอใจที่ดัมพ์ต้องเข้ามาวุ่นวายกับเรื่องราวในชีวิตของนิธิมาทุกเรื่อง เฟื่องทองยุยงว่าให้รับเกียวเข้ามาอยู่ในบ้าน อย่างน้อยก็ให้เพลาได้กลับมา มธุรสจึงทำตาม ยิ่งกลับทำให้เกียวกับนางไสมีบทบาทในบ้านของตนมากยิ่งขึ้น เกียวมีปากเสียงกับพจนาและมาลาทิพย์เป็นประจำ นิธิมาต้องคอยห้ามทัพ แต่มธุรสทำอะไรไม่ได้มาก เพราะท้องของเกียวเริ่มโตออกมากขึ้น เพลาก็เหมือนเอ็นดูเกียวมากขึ้นด้วย เกรงว่าลูกในท้องของตนจะเป็นอันตราย ท่าทีของเพลาที่เป็นห่วงเกียวยิ่งทำให้มธุรสคลุ้มคลั่ง พิมพ์รสคลอดลูกสาว ในเวลาห่างกันไม่มากนัก เกียวก็คลอดลูกเช่นกันแต่ลูกของเกียวพิการร่างกายไม่สมประกอบ แต่ดูเหมือนทั้งเกียวและนางไสจะไม่ใส่ใจ เพลาจ้างคนเลี้ยง แต่ไม่ได้ให้อยู่ในบ้าน แต่รับลูกของพิมพ์รสมาเลี้ยงแทน วันหนึ่งเกียวแกล้งอุ้มลูกสาวของพิมพ์รสแล้วทำตก เด็กชักและแน่นิ่งไป รีบนำตัวส่งแพทย์ มธุรสแทบคลั่งอยากจะฆ่าเกียว แต่เกียวหนีเตลิดไป พร้อมเงินก้อนหนึ่งของเพลา เดชเริ่มทำใจยอมรับว่า ไม่สามารถพิชิตใจของนิธิมาได้ จึงหวนไปหาชุดาอีกครั้ง เมื่อชุดามีหลักยึดแล้วจึงเปิดเผยความลับเรื่องฟ้าทองกับวีระ เฟื่องทองแทบคลั่งออกตามล่าน้องสาวกับผัวที่รวมหัวกันสวมเขาตน รถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำอาการสาหัส วีระตัดสินใจเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับฟ้าทอง เกียวแอบขโมยลูกของตนไปจากคนเลี้ยง แล้วขู่เอาเงินก้อนใหญ่อีกก้อนหนึ่ง ให้นางไสมาด่าทอกดดันมธุรส เพลาจำใจจ่ายเพื่อขอลูกคืน เกียวเอามาคืนให้คนเลี้ยง และใช้จ่ายเงินก้อนนั้นโดยการเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิงจนได้พบกับชัยพร ทั้งคู่ถูกคอกันและคบกันอย่างเปิดเผย พิมพ์รสทำใจที่จะยอมรับความผิดพลาดในชีวิต ตัดสินใจเรียนต่อในมหาวิทยาลัย มธุรสได้บทเรียนในชีวิตมากมายจึงยอมอยู่อย่างสงบเลี้ยงหลาน เพลายอมรับความผิดพลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้น ครอบครัวกลับมาปรองดองกันอีกครั้งหนึ่ง นิธิมากับดัมพ์ร่วมกันออกแบบสร้างบ้านบนที่ดินผืนเล็กๆ ของดัมพ์ ทั้งสองสัญญากันว่าสร้างครอบครัวที่อบอุ่นมีแต่ความเข้าใจกัน จะร่วมกันถือหางเสือ “เรือ” ชีวิตให้ไปตามครรลองที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ปล่อยให้เรือเคว้งคว้างลอยเท้งเต้งตามยถากรรม

ถิ่นผู้ดี 2561

เรื่องย่อ : ถิ่นผู้ดี (2561/2018) ในซอยช้อนเงินช้อนทองอันเป็นถิ่นของผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดิน มักมีอะไรๆ ที่ไม่มีใครคาด ไม่มีใครคิด โดยเฉพาะกับครอบครัวในถิ่นผู้ดีอย่างตระกูลเลอเลิศพันธุ์ ของนายพลชูพงศ์ ที่ได้แต่งงานกับ คุณหญิงสะอาดจิต ผู้สืบสายตระกูลผู้ดีเก่าแก่ มีนิสัยชอบมองข้ามหัวคนอื่น มีอะไรจัดๆ เกินมนุษย์นาสามัญเป็นต้นว่า อนามัยจัด ขนาดเงินที่ได้มาก็เอาไปล้างน้ำและตากแดก เป็นสมัยนี้ก็คือเอาเจลกำจัดเชื่อโรค เช็ดบัตรเครดิตที่มีหลายสิบใบหลังใช้งานทุกครั้ง มองข้ามหัวคนราวกับหวั่นเกรงว่าคนอื่นจะสูดเอาความเป็นผู้ดีของพวกตนไปกระนั้น คุณหญิงสะอาดจิตจึงอบรมสั่งสอนลูกๆของตนให้เป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วเฉกเช่นตนเอง

ไม่ว่าจะเป็น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนุ่มครองฤทธิ์ ลูกชายคนโต ครองขวัญ ลูกสาวคนกลาง ที่ต่างถอดแบบผู้เป็นแม่มาแทบทุกอย่าง ยกเว้นลูกชายคนเล็ก ครองเดช ที่มีอาการป่วยด้วยโรคลมชักมาตั้งแต่เด็ก ทำให้คุณหญิงสะอาดจิตเป็นห่วงและหาคนมาคอยดูแลไม่ยอมให้ทำอะไร จนครองเดชกลายเป็นคนเอาแต่ใจอยากได้อะไรก็เอาอาการป่วยมาเป็นข้ออ้างข้อต่อรองเพื่อให้พ่อแม่ยอมตามใจอยู่เรื่อยไป จนชูพงศ์เอือมระอากับพฤติกรรมคนในบ้านแต่ไม่สามารถมีปากเสียงอะไรได้ จึงทำตัวเจ้าชู้ กรุ้มกริ่มแก้กลุ้มไปเรื่อยๆ

แม้ต้นซอยจะได้ชื่อว่าถิ่นผู้ดีเลอเลิศมาจากฟ้าจากสวรรค์ แต่ท้ายซอยกลับเป็นแหล่งชุมชนแออัดของชาวบ้านค้าแรงงาน เท้าติดดินกินข้าวแกง แสนอัตคัด อันสร้างความระคายเคืองให้คุณหญิงสะอาดจิตและลูกๆอยู่เสมอที่หน้าบ้าน ต้องกลายเป็นทางผ่านให้เหล่าวินมอเตอร์ไซด์ ซาเล้งและรถเข็นพ่อค้าแม่ขายสัญจรผ่านไปผ่านมา ที่ไม่ผ่านมาตรฐานความสะอาดและเหม็นสาบความจนลอยเข้าจมูก

แม้แต่โรงพยาบาลที่เป็นกิจการของครอบครัวก็ไม่ต้อนรับคนจนด้วยเช่นกัน ครองฤทธิ์เป็นผู้บริหารดูแลโรงพยาบาลอยู่ก็พลอยเห็นดีเห็นงามไปกับผู้เป็นแม่ จนไม่เห็นหัวใคร ทำตัวเผด็จการ ทำให้ ฝนโปรย พยาบาลสาวที่เพิ่งย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลของครอบครัวเลอเลิศพันธุ์ ทนความใจดำของครองฤทธิ์และครอบครัวนี้ไม่ได้ ยิ่งเกิดเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลไม่ยอมรับคนไข้ฉุกเฉินที่เข้ามาเพียงเพราะไม่มีเงินจ่าย ฝนโปรยต่อว่าครองฤทธิ์ และคุณนายสะอาดจิต ที่ไร้จรรยาบรรณ ทำให้เรื่องราวบานปลายใหญ่โต มีนักข่าวแห่มาทำข่าวที่โรงพยาบาลไม่ยอมรับรักษาคนจน ครองฤทธิ์โกรธมากไล่ฝนโปรยออกอย่างไม่ใยดี

เรื่องฝนโปรย โดนไล่ออกทำให้แก๊งชาวบ้านในชุมชนแออัดท้ายซอย อย่าง แจ่ม แม่ค้าส้มตำ สมร ช่างทำผม เท่ง คนเก็บขยะ และ ประกิต หนุ่มวินมอเตอร์ไซด์ รวมกลุ่มกันกร่นด่า เกลียดน้ำหน้าพวกผู้ดีต้นซอยหนักมากขึ้น เจอหน้ากันเมื่อไหร่ได้มีสงครามน้ำลายปะทะคารมใส่กัน แต่งานด่ากัน ผู้ดีอย่างคุณหญิงสะอาดจิตและครองขวัญก็ไม่เป็นสองรองใคร ทำเอากลุ่มท้ายซอยกระเจิงกลับไปได้เหมือนกัน คุณหญิงสะอาดจิตสาปส่งไม่ขอเจอพวกท้ายซอยและฝนโปรยอีก แต่โชคชะตาเหมือนกลั่นแกล้งหรืออยากสั่งสอนครอบครัวเลอเลิศพันธุ์ เมื่อครองเดชเกิดอาการชักจากโรคประจำตัวบนรถ คนขับรถทำอะไรไม่ถูกเพราะพยาบาลที่เคยประกบดูแลครองเดชเพิ่งลาออกไป ฝนโปรยผ่านมาเห็นเข้า จึงเข้าไปช่วยเหลือทำให้ครองเดชอาการดีขึ้น

ครองเดชประทับใจในความสวยของฝนโปรย จึงบอกให้แม่จ้างฝนโปรยมาดูแลตนที่บ้านแทนพยาบาลที่เปลี่ยนมาแล้วกว่าสิบคน คุณหญิงสะอาดจิตไม่อยากจ้างแต่ก็ต้องจ้างเพราะครองเดชทำท่าจะชักอีกหากถูกขัดใจ ฝนโปรยไม่ได้อยากทำงานพยาบาลพิเศษ แต่เมื่อ ดวง ผู้เป็นพ่ออดีตพลทหารเก่าประสบอุบัติเหตุตกจากรถโฟล์คลิฟต์ขาพิการ ทำให้ แก้ว แม่เลี้ยงและ ดาว น้องสาวต่างมารดาเดือดร้อนหนักเพราะแก้วไม่ได้ทำงานอะไร ดาวก็ยังเรียนไม่จบ ต่างตีโพยตีพายว่าเป็นความผิดของฝนโปรย ที่ดวงทำงานหนักส่งเสียให้ฝนโปรยได้เรียนจบพยาบาล ทำให้สุขภาพย่ำแย่จนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ฝนโปรยจึงต้องยอมไปเป็นพยาบาลส่วนตัวของครองเดชเพื่อมีเงินช่วยเหลือครอบครัว

ครองฤทธิ์ต้องมาอยู่ร่วมบ้านกับผู้หญิงที่เขาไม่ชอบหน้าก็ไม่พอใจ แถมถูกฝนโปรยคอยเหน็บแหนมพฤติกรรมผู้ดีจัดของตนต่างๆนานา จนอยากจะโยนฝนโปรยออกไปจากบ้าน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะฝนโปรยมีครองเดชและนายพลชูพงศ์คอยให้ท้าย ยิ่งชูพงศ์รู้ว่าฝนโปรยเป็นลูกสาวของดวง อดีตลูกน้องเก่า ก็ยิ่งเอ็นดู เห็นนิสัยใจคอเป็นคนมีน้ำใจ ตรงไปตรงมา เหมือนผู้พ่อไม่ผิดเพี้ยน ก็นึกอยากให้ลูกของตนเข้าใจหัวอกเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่มองคนที่เงินและยศถาบรรดาศักดิ์ มองเห็นคนเป็นคนสมกับเป็นผู้ที่มีความดีอย่างแท้จริงกับเขาบ้าง จึงหาโอกาสให้ครองฤทธิ์ได้ใกล้ชิดฝนโปรยเพื่อซึมซับนิสัยและความดีๆของอีกฝ่ายมาบ้าง

แต่ดูเหมือนคุณหญิงสะอาดจิตจะคิดเห็นตรงข้ามไม่อยากให้ลูกชายได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับคนจนๆอย่างฝนโปรย อยากให้ครองฤทธิ์ได้ลงเอยกับ รังรอง ลูกสาวเจ้าของบริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่ ที่ดูเหมือนจะถูกใจครองฤทธิ์อยู่เช่นกัน เพราะยังไงคนรวยก็ย่อมต้องคู่กับคนรวย เช่นเดียวกับครองขวัญที่กำลังติดพัน ธวัต ลูกชายของคุณหญิงนวลวรรณ ที่อยู่อาณาบริเวณถิ่นผู้ดีเช่นกัน แต่ธวัตกลับมาสนใจฝนโปรย เพราะธวัตไม่ได้ตัดสินคนที่ฐานะ สร้างความไม่พอใจให้ครองขวัญมาก ครองฤทธิ์เองก็คิดว่าฝนโปรยจะมาแย่งคนรักของน้องสาวจึงต้องออกหน้าคอยขัดขวาง โดยไม่รู้เลยว่าเขาทำเพื่อตนเอง ไม่ใช่เพราะน้องสาวสักนิด เพราะเกิดมาไม่เคยมีใครกล้าต่อปากต่อคำกับตนได้เท่าฝนโปรยมาก่อน ความใกล้ชิดทำให้ครองฤทธิ์มีใจให้ฝนโปรยโดยไม่รู้ตัว ท่ามกลางสายตาของชูพงศ์และครองเดช ที่แอบลุ้นทั้งคู่อยู่เงียบๆ

ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายกับการจับคู่ ไม่มีใครรู้เลยว่าคนป่วยอย่างครองเดชที่ต้องมีพยาบาลส่วนตัวคอยประกบ ครองเดชเบื่อหน่ายที่แม่และทุกคนในบ้านคิดว่าตนอ่อนแอ จึงแอบหนีออกไปเปรี้ยวเที่ยวกลางคืนอยู่บ่อยๆ นิชา พนักงานเสิร์ฟในผับจำครองเดชได้ เพราะนิชาอาศัยอยู่ที่ชุมชนท้ายซอย และเป็นหนึ่งในคนที่เกลียดพวกถิ่นผู้ดีด้วยเช่นกัน ยิ่งดึกยิ่งคึก ที่ผับครองเดชทำตัวปากดี ไม่ดูสังขารตัวเอง ไปมีเรื่องจนถูกตีกระบาลแตกเพราะดันไปจีบหญิงที่มีเจ้าของ อาการชักกำเริบจนทุกคนพากันตกใจ แต่ไม่มีใครคิดจะช่วยครองเดช แม้นิชาจะไม่ชอบหน้าครองเดช แต่ก็ทนเห็นคนตายต่อหน้าไม่ได้ โทรตามฝนโปรยให้ออกมาเอาตัวครองเดชกลับไป ครองเดชขอร้องฝนโปรยไม่ให้บอกเรื่องตนหนีเที่ยวกับใคร ฝนโปรยจึงตกกระไดพลอยโจนคอยเป็นต้นทางให้ครองเดชที่ยังไม่เข็ด แอบหนีเที่ยวและไปตามจีบนิชาเพราะประทับในความน่ารักและความขยันขันแข็งทำงานสารพัดเพื่อดูแลยายที่เลี้ยงตนมา

คุณหญิงสะอาดจิตและรังรองเริ่มระแวงสงสัยพฤติกรรมของครองฤทธิ์ที่ปากพูดว่าไม่ชอบหน้าฝนโปรยแต่พฤติกรรมกลับตรงข้าม ทำตัวติดฝนโปรยราวปาท่องโก๋ แม้จะอ้างว่าไปกันท่าช่วยครองขวัญก็ตาม ทำให้คุณหญิงสะอาดจิตคิดว่าฝนโปรยกำลังจับปลาทั้งอ่าว ไม่ใช่แค่ธวัตและครองฤทธิ์ แต่ยังมีชูพงศ์ที่คอยช่วยฝนโปรยอย่างออกนอกหน้า ครองเดชก็ทำท่าเห็นพยาบาลดีกว่าแม่เข้าไปทุกวัน ต้องหาทางกำจัดออกไปจากบ้าน คุณหญิงสะอาดจิตทำเป็นพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด อาศัยจังหวะปลอดคน ให้รวิตเอาพรรคพวกแว้นซ์ไปฉุดฝนโปรย

ครองฤทธิ์ตามมาช่วยไว้ได้ทัน แต่ถูกทำร้ายบาดเจ็บหนัก ต้องเข้าไปรักษาตัวที่อนามัยเล็กๆ ที่นั่น ครองฤทธิ์ฟื้นขึ้นได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ก็คิดไปว่าเพราะตนมีเงินจ่ายค่ารักษาจึงรอดมาได้ แต่ฝนโปรยว่าที่นี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าครองฤทธิ์เป็นใคร แต่ก็รักษาให้เป้าหมายเดียวคือรักษาชีวิตของเขาเอาไว้โดยไม่สนใจว่าจะมีเงินจ่ายหรือเปล่า เพราะที่ตัวครองฤทธิ์และฝนโปรยไม่มีเงินสักบาท บัตรหลักฐานอะไรก็ไม่มี ทำให้ครองฤทธิ์สะอึกกับสิ่งที่ตนเคยทำเอาไว้ จนคิดเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลโดยเปิดส่วนหนึ่งเป็นมูลนิธิช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากไร้ ทำเอาชูพงศ์น้ำตาไหลพรากกับความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของลูกชายคนโต นึกขอบคุณฝนโปรยเป็นอย่างมากจนอยากได้มาเป็นศรีสะใภ้

แต่คุณหญิงสะอาดจิตไม่ได้คิดอย่างสามีสักนิด ทำท่าอยากเป็นลมแทนที่จะมีคนจนที่ตนรังเกียจเดินเข้าออกในโรงพยาบาลของตน พยายามค้านหัวชนฝาตัดแม่ตัดลูกกับครองฤทธิ์ จนครองฤทธิ์กลุ้มใจ แต่ก็ไม่เกินปัญญาของครองฤทธิ์จะทำให้คุณหญิงสะอาดจิตยอมรับการสร้างมูลนิธินี้ แล้วครองฤทธิ์ก็ทำสำเร็จ เมื่อคุณหญิงสะอาดจิตได้เจอกลุ่มนักข่าวที่มาขอสัมภาษณ์ไปลงออกสื่อในความจิตใจงามของคุณหญิง ทำเอาคุณหญิงสะอาดจิตรีบพลิกหลังเท้าเป็นหน้ามือในฉับพลัน เพราะคำสรรเสริญของสังคมและคนในชุมชนท้ายซอย ออกมารับคำชื่นชมหน้าชื่นตาบาน

แต่ถึงแม้ครองฤทธิ์จะเปลี่ยนไปมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือนิสัยปากแข็งและปากร้าย ยังคงทำทีดูถูกดูแคลนฝนโปรยไม่เลิก ทำให้ฝนโปรยน้อยใจไปไหนมาไหนกับธวัตบ่อยขึ้น ยิ่งทำให้ครองฤทธิ์จิกกัดฝนโปรยไม่หยุดหย่อน ชูพงศ์เริ่มกลุ้มใจกลัวจะเสียคนดีๆอย่างฝนโปรยไปเสียก่อน จึงป่าวประกาศอยากได้ฝนโปรยมาเป็นลูกสะใภ้ ทำเอาคุณหญิงสะอาดจิตเป็นลมคอพับไปทันที งานนี้ชูพงศ์เอาจริงจากที่เคยหงิมๆ กับเมีย กลับมาในมาดนายพล ขู่หากคุณหญิงสะอาดจิตไม่ยอมจะพาเมียน้อยสาวกว่าสวยกว่ามาอยู่ในบ้านแทน งานนี้คุณหญิงสะอาดจิตจึงได้แต่ทำตาปริบๆ

ชูพงศ์ลงทุนไปขอฝนโปรยกับดวงที่บ้านโดยจะขอให้ฝนโปรยหมั้นและแต่งงานกับครองเดช ทำเอาครองฤทธิ์อึ้งไปไม่คิดว่าพ่อจะขอคนที่เขารักให้กับน้องชาย ครองเดชก็ทำท่าดีใจจะได้หมั้นกับฝนโปรย ในขณะที่รังรองโล่งอกที่ไม่ถูกแย่งคนรัก ครองขวัญก็ดีใจที่ธนัตจะได้เลิกสนใจฝนโปรยสักที ฝนโปรยรอฟังว่าครองฤทธิ์จะพูดอะไรบ้าง แต่ความเป็นผู้ดีปากแข็งกลายเป็นกำแพงกั้นระหว่างเขาและฝนโปรยเอาไว้ ครองฤทธิ์ได้แต่อวยพรให้ฝนโปรยมีความสุขกับครองเดช ฝนโปรยเสียใจอยู่ลึกๆจึงยอมตกลงหมั้นกับครองเดชประชดไป

เมื่อฝนโปรยกลายเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ สะอาดจิตและครองขวัญก็ต้องปั้นหน้าทำดีด้วยเพื่อรักษาความสงบสุขของตนเองเอาไว้ ในขณะที่ครองฤทธิ์ได้แต่ปวดใจอยู่เงียบๆ เฝ้ามองดูฝนโปรยและน้องชายเคียงคู่กัน ครองฤทธิ์เอาแต่ทำงานไม่สนใจใครเพื่อหวังจะลืมฝนโปรย ลงพื้นที่พาหมอพยาบาลไปช่วยชาวบ้านในชุมชน ทำให้รังรองรับไม่ได้เบื่อหน่าย ไม่อยากสนใจครองฤทธิ์อีก ในขณะที่ครองขวัญพยายามเอาใจธวัต และเข้าหาคุณหญิงนวลวรรณ และ สายรุ้ง หลานสาวอีกคนของคุณหญิงนวลวรรณ จนได้รู้ว่า คุณหญิงนวลวรรณมีน้องสาว คือคุณหญิงนภาวรรณ

หลังมีปัญหาหย่าขาดกับสามี คุณหญิงนภาวรรณพาลูกสาววัยแบเบาะกลับมาด้วย แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน วาทิต สามีของคุณหญิงที่เลิกรากันไป มาขโมย “วรุณประภา” ลูกสาวหายสาบสูญไป คุณหญิงนภาวรรณ ป่วยตรอมใจจนตายเพราะไม่ได้เห็นหน้าลูก ก่อนตายได้สั่งเสียพี่สาวขอให้ตามหาลูกสาวตนให้เจอและมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเธอให้ลูกสาว แต่จนทุกวันนี้ยังตามหาวาทิตและวรุณประภาไม่เจอ ธนัตเองก็พยายามช่วยติดตามเรื่องนี้จนรู้ว่าวาทิตเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ว่าวรุณประภาไปอยู่ที่ไหน

พอครองขวัญรู้ว่า สายรุ้งไม่ใช่หลานแท้ๆเป็นแค่หลานห่างๆที่คุณหญิงนภาวรรณรับมาเลี้ยงหลังจากลูกสาวตัวจริงหายไปก็ไม่คิดเกรงใจอีก หลานห่างๆหลายชั้นก็ไม่ต่างจากเด็กเก็บมาเลี้ยง ทำให้สายรุ้งเจ็บใจที่คุณหญิงนวลวรรณยังไม่ล้มเลิกการตามหาหลานสาวตัวจริง สายรุ้งพยายามทำตัวเป็นคนดีทุกอย่างเพื่อหวังว่าคุณหญิงนวลวรรณจะยกสมบัติของคุณหญิงนภาวรรณให้ตน แต่ถ้าหลานสาวตัวจริงกลับมาเธอคงไม่เหลืออะไรเลย จึงหาทางขัดขวางการสืบหาตัววรุณประภาอย่างเงียบๆ ทุกทาง

แก้วและดาวพากันอิจฉาฝนโปรยที่กำลังจะได้ดิบได้ดีแต่งงานกับคนรวย ต่อว่าดวงที่เห็นลูกนอกไส้ดีกว่าลูกในไส้ตัวเอง ส่งฝนโปรยไปสุขสบายแต่ลูกแท้ๆต้องมาตกระกำลำบาก ทำให้ฝนโปรยได้รู้ว่าตนไม่ใช่ลูกแท้ๆของดวง ดวงว่าถึงฝนโปรยไม่ใช่ลูกแท้ๆแต่ก็รักเหมือนลูก ฝนโปรยอยากรู้ว่าพ่อแม่แท้จริงของตนเป็นใคร ดวงไม่รู้แม่ของฝนโปรยเป็นใคร แต่พ่อของฝนโปรยชื่อวาทิต คนที่เคยมีบุญคุณกับดวงมาก่อน คืนนั้นวาทิตอุ้มฝนโปรยตากฝนมาหาตน ว่าเป็นลูกสาวแท้ๆและฝากดวงให้ดูแลชั่วคราว แล้วจะรีบกลับมารับกลับไปให้เร็วที่สุด แต่วาทิตก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย ดวงจึงตั้งชื่อฝนโปรย เพราะมาในคืนฝนตก ดวงเลี้ยงดูฝนโปรยเหมือนลูกสาวแท้ๆมาโดยตลอด

ธวัตตามรอยวาทิตจนรู้ว่าหลังวาทิตเข้ามาขโมยวรุณประภาไป ก็เดินทางไปทำงานที่เหมืองภาคใต้ หวังจะกลับมาร่ำรวยเทียมหน้าตาภรรยาเก่าได้ แต่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตไปก่อน และวาทิตไม่ได้พาลูกสาวมาด้วยแต่ฝากลูกไว้กับคนสนิท และคนสนิทนั้นก็คือดวง เมื่อจิ๊กซอว์ทุกชิ้นต่อกันครบ ทุกคนจึงได้รู้ความจริงว่า ฝนโปรย คือวรุณประภา หลานสาวของคุณหญิงนวลวรรณ ทุกคนในบ้านเลอเลิศพันธุ์พากันช็อคไปตามๆกัน โดยเฉพาะคุณหญิงสะอาดจิตที่เคยรังเกียจเดียดฉันท์ว่าที่ลูกสะใภ้จนกรอบ มาจากชุมชนแออัดที่เคยเหยียดหยาม กลับกลายเป็นหลานสาวคุณหญิงถิ่นผู้ดีเดียวกัน

คุณหญิงนวลวรรณคิดว่าฝนโปรยถูกบังคับให้หมั้นกับครองเดช จึงสั่งให้ถอนหมั้น หลานสาวของตนไม่มีความจำเป็นต้องไปแต่งงานเพื่อไปปรนนิบัติใครอย่างไม่เต็มใจ คุณหญิงสะอาดจิตรีบตามไปง้องอน อ้างโน่นนี่สารพัดว่าฝนโปรยเต็มใจหมั้นไม่มีใครบังคับ ตอนที่ฝนโปรยอยู่ที่บ้านเลอเลิศพันธุ์ก็ได้รับการดูแลอย่างดี ครองฤทธิ์แอบหวังลึกๆว่าฝนโปรยจะถอนหมั้นตามคำสั่งคุณหญิงป้า แต่ฝนโปรยกลับยืนยันจะแต่งงานกับครองเดช ทำให้ครองฤทธิ์ยิ่งเสียใจ นิชาเองก็เช่นกัน ทั้งๆที่ครองเดชเคยบอกรักตนแต่กลับไปหมั้นและจะแต่งงานกับฝนโปรย ครองเดชน้ำท่วมปากอยากบอกนิชาว่าทุกอย่างเป็นแผนของชูพงศ์ที่ต้องการให้ครองฤทธิ์ รู้ใจตัวเอง

สายรุ้งเห็นหลานสาวตัวจริงปรากฏตัวความหวังจะได้สมบัติพัสถานมากมายก็สลายไปหมด คิดหาทางกำจัดฝนโปรย จ้างคนมาลักพาตัวฝนโปรยไป แต่ครองฤทธิ์ตามไปช่วยยอมถือเงินไปจ่ายค่าไถ่ แต่โจรจะฆ่าทั้งฝนโปรยและครองฤทธิ์พร้อมกัน ครองฤทธิ์พยายามปกป้องฝนโปรย จนทำให้ฝนโปรยรู้ว่าครองฤทธิ์รักเธอแค่ไหน และเธอเองก็รักเขาเช่นกัน ธวัตพาตำรวจตามช่วย ทำให้รู้ว่าสายรุ้งเป็นคนว่าจ้างคนมาจะฆ่าฝนโปรย สายรุ้งพยายามหนีแต่ก็ถูกตำรวจจับได้ในที่สุด

ครองฤทธิ์และฝนโปรยรู้ใจตัวเองแล้วจึงไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกต่อกันอีก ครองเดชดีใจรีบถอนหมั้น จะได้ไปหานิชา ทำให้คุณหญิงสะอาดจิตอยากเป็นลมที่ลูกชายคนเล็กที่ประคบประหงมอย่างดีไปคว้าเด็กเสิร์ฟมาเป็นแฟน แต่ชูพงศ์ว่าเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วไง เป็นผู้ดีแล้วไง สุดท้ายก็คนเหมือนกัน ขอให้เป็นคนดีก็พอแล้ว ในที่สุดถิ่นผู้ดีที่ไม่ยอมให้คนต่างชั้นมาปะปนก็ต้องจัดงานใหญ่เชิญแขกเหรื่อมากมายโดยไม่จำกัดชนชั้น เพราะชาวสลัมท้ายซอยก็ได้รับเชิญให้มาร่วมยินดีในงานแต่งงานของครองฤทธิ์และฝนโปรยที่จะไม่ขอแบ่งแยกผู้ดีหรือคนจนอีกต่อไป

แม่สื่อปากร้าย ผู้ชายรสจัด 2561

เรื่องย่อ : แม่สื่อปากร้าย ผู้ชายรสจัด (2561/2018) กลิ่นจันทร์ (ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์) สาวสวยขี้งก เจ้าของบริษัทจัดหาคู่ชั้นแนวหน้าของประเทศ BECOME US มีอันต้องล่มทริปพักร้อน เมื่ออินธา (เมฆ-จุติ จำเริญเกตุประทีป) ผู้ช่วยหนุ่มตัวโย่งหน้าตี๋ แจ้งว่า ทวีป (เดวิด อัศวนนท์) ลูกค้ากระเป๋าหนัก ว่าจ้างให้เธอหาเจ้าสาวให้กับ แดนสุข ชินสุริเวท (พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว ที่ไม่ลงรอยกับผู้เป็นพ่อ ภายในระยะเวลา 3 เดือน โดยมีค่าตอบแทนสูงถึง 5 ล้านบาท ซึ่งแม้อินธาจะบอกว่าสถานภาพทางการเงินของทวีปไม่สู้ดีนัก แต่ด้วยเงินมัดจำก้อนแรก 1 ล้านบาท ทำให้กลิ่นจันทร์ผู้มีโรคประจำตัวคือภูมิต้านทานต่อเงินจึงตอบรับงานนี้ทันที โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของอินธาแม้แต่น้อย กลิ่นจันทร์ไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับแดนสุขเลย ทั้งรูปถ่าย ข้อมูลส่วนตัว เพราะทวีปให้เพียงสถานที่ที่เธอต้องไปพบแดนสุข นั่นคือ ร้านอาหารชื่อแปลกเรียกยากอย่าง "นิมมานรดี" (นิม-มา-นอ-ระ-ดี) ร้านที่อยู่สุดซอยงาช้างแถบชานเมือง ที่ซึ่งกลิ่นจันทร์ถูกรับน้องตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน โดยแดนสุข ชายหนุ่มหล่อคมเข้ม มีลักยิ้มมหาเสน่ห์ ส่ง โต (เอ็ดดี้ เฮง) พ่อครัวตัวอ้วน ออกมาต้อนรับกลิ่นจันทร์และทำให้เธอเข้าใจผิดว่านี่คือทายาทหนุ่มตระกูลชินสุริเวท กลิ่นจันทร์ซักถามข้อมูลหลายอย่างจนเกือบครบ ถึงเพิ่งมารู้ความจริงจาก ป้าใจดี (ศิรินุช เพ็ชรอุไร) หญิงสูงวัย ร่างท้วม ทำให้เหม็นขี้หน้าแดนสุขตั้งแต่นั้น แดนสุขรู้อยู่แล้วว่าจุดประสงค์ของกลิ่นจันทร์คืออะไร เขาจึงสั่งพนักงานใช้แผนเดิม ซึ่งทำให้แม่สื่อทั้งหลายหนีกลับแทบไม่ทัน แผนของแดนสุขเริ่มขึ้น เมื่อกลิ่นจันทร์ได้ฟังเรื่องฉาวจาก แหวว (เบบี้มายด์-ปรัชญานันท์ สุวรรณมณี) แคชเชียร์สาวที่นินทาว่าเจ้านายเป็นพวกซาดิสม์ เปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า พอมีเรื่องก็เอาเงินฟาดหัวให้เรื่องจบ บริกรหนุ่มเสริมว่า เจ้านายชอบทำท่ากรุ้มกริ่มใส่ตัวเอง กลิ่นจันทร์จึงขยะแขยงที่ต้องหาคู่ให้นายเสือไบจอมซาดิสม์ เธอยกสมญานามเสือร้ายให้เขาทันที นอกจากนี้ อินธาที่จ้างนักสืบเอกชนเจ้าประจำสืบเรื่องแดนสุขโทร. บอกกลิ่นจันทร์ว่า พ่อลูกคู่นี้ไม่ลงรอยกันเลย พ่อเจ้าชู้ จนแม่ขี้โรคตรอมใจตาย แต่พ่อไม่เสียใจ แถมพาเมียใหม่เข้าบ้าน ลูกชายจึงต้อนรับจนบ้านแทบแตก และเป็นเหตุให้แดนสุขต้องเร่ร่อนออกจากบ้านตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบห้า ทวีปตัดหางปล่อยวัดลูกชายนานสิบปี จนเร็ว ๆ นี้อยากแสดงสิทธิ์ความเป็นพ่อจับลูกคลุมถุงชน แต่ลูกรู้ทัน เลยย้อนเกล็ดคืน และบริษัทกลิ่นจันทร์ก็เป็นรายที่สามแล้วที่ทวีปว่าจ้าง สองรายแรก คือ บริษัทต่างชาติ และบริษัทคู่แข่งของกลิ่นจันทร์ แต่ทั้งคู่ก็โดนแดนสุขเล่นงานแบบอ่วมอรทัย จึงมีคำเตือนสั้น ๆ ว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น อย่าหลงในสิ่งที่ฟัง อย่าวางใจอะไรง่าย ๆ ข้อมูลจากอินธา ทำให้สมองของกลิ่นจันทร์ทำงานหนัก เธอทู่ซี้ช่วยแดนสุขทำงานทั้งวัน โดยไม่ได้กินอะไรเลย ทำให้เธอกลับบ้านนอนหลับเป็นตาย เช้าวันใหม่ เหมือนสวรรค์เข้าข้างกลิ่นจันทร์ เมื่อแดนสุขตกลงรับนัดแรกกับ นิต้าร์ (เจสสิก้า สมปอง) สาวสวย สุดเปรี้ยว หุ่นเซ็กซี่ ผมซอยสั้นเฉี่ยวสีแดงเพลิง หนึ่งในลิสต์ที่ทวีปให้เธอมา กลิ่นจันทร์ให้อินธาโทร. นัดปณิตาทันที โดยหญิงสาวปลายทางฝากข้อความถึงแดนสุขว่า ไปรำลึกความหลังกัน ซึ่งทวีปบอกเธอสั้น ๆ แบบกระอักกระอ่วนใจว่า หญิงรายนี้รู้จักแดนสุข เพราะเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อกลิ่นจันทร์บอกเวลานัด ก็ถูกแดนสุขบังคับให้กลิ่นจันทร์ไปรับเขาที่ร้านนิมมานรดี หาไม่เขาก็จะไม่ไป ทำให้กลิ่นจันทร์หงุดหงิดมาก กลิ่นจันทร์นึกย้อนถึงข้อมูลล่าสุดที่อินธาหามาได้ คือประวัตินัดดูตัวของแดนสุขที่ผ่านมา ทำให้เธอลมแทบจับกับความกล้าของเขา นัดแรกของนายสุดแสบ โดยบริษัทต่างชาติกับนางแบบดาวรุ่งลูกครึ่งสาวทายาทนักธุรกิจค้าอัญมณีอันดับต้น ๆ ของเอเชีย ซึ่งแดนสุขนัดกินมื้อค่ำที่ภัตตาคารจีนชื่อดังระดับห้าดาวใจกลางเมือง เขาสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ แล้วกินอย่างมูมมาม แถมยังกินไปบ่นไปถึงรูปลักษณ์ของสาวตรงหน้าว่าดูขาดสารอาหาร แถมเสริมหน้าอกกลมบ๊อกจากหมอไร้ฝีมือ นางแบบสาวจึงฝากรอยฝ่ามือไว้บนหน้าแดนสุข และจะไป แต่นายแสบรีบตะโกนบอกบริกรทันทีให้เก็บเงินที่หญิงสาวด้วย ทำให้หญิงสาวตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน แถมยังต้องรูดบัตรจ่ายค่าอาหารสังเวยความแสบรวมแล้วเกือบสองหมื่นบาท นัดสองของแดนสุข เป็นจิตแพทย์หญิงดีกรีอดีตดาวมหาวิทยาลัย เนี้ยบ หัวโบราณ เจ้าระเบียบ ครอบครัวผูกขาดอาชีพหมอทั้งตระกูล ทั้งคู่นัดพบกันที่ร้านกาแฟ นายตัวแสบแผลงฤทธิ์ด้วยการไอแบบไม่ปิดปาก แลดูน่ารังเกียจ และควักซองยามาเต็มโต๊ะ ด้วยความใจดีของหญิงสาวที่ช่วยหา สุดท้ายควานไปเจอถุงยางสีลูกกวาดสารพัดกลิ่น แดนแสบเลยเอ่ยถามคุณหมอว่าชอบกลิ่นนั้นด้วยหรือ นั่นเลยกลายเป็นนัดส่งท้ายก่อนที่บริษัทต่างชาติจะโบกมือลา พร้อมคำด่าชุดใหญ่ ผู้โชคร้ายรายต่อมา คือบริษัทชื่อดังอันดับหนึ่งในวงการหาคู่ของประเทศ ที่แม้จะพูดจาภาษาเดียวกัน แต่ชะตากรรมก็ไม่ผิดแผกจากเดิม แดนสุขยังคงทำตัวเป็น "อสุภาพบุรุษ" เสมอต้นเสมอปลาย แบบกักขฬะ ขวางโลก ไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น บริษัทนี้ทำสถิติดีที่สุดแค่ 4 นัด ในเวลา 5 เดือน และแม่สื่อมือดีวัยสามสิบกะรัตยอมยกธงขาวและลาพักร้อนยาว เพื่อตระเวนทำบุญสะเดาะเคราะห์ฟื้นฟูสภาพจิตใจ งานนั้นแดนสุขจึงได้ของฝากเป็นส่วนบุญเพียบ ส่วนนัดแรกกับบริษัทของกลิ่นจันทร์ ที่แดนสุขยอมเลือกหญิงสาวคนหนึ่งจากแค็ตตาล็อก นั่นคือ ปณิตา ทำให้กลิ่นจันทร์มีความหวัง แต่เมื่อทั้งสองพบกัน นัดดูตัวกลับกลายเป็นนัดกินเลี้ยงของ 2 เพื่อนซี้คู่กัดที่รำลึกความหลังในอดีตแบบเมามันสุดเหวี่ยง ทำให้กลิ่นจันทร์ถึงกับเซ็ง รุ่งขึ้น เมื่อกลิ่นจันทร์กลับเข้าบริษัท อินธาก็เล่าเรื่อง หมอเอ็กซ์ (ไต้ฝุ่น-ตากเพชร เลขาวิจิตร) ที่เพียรส่งกุหลาบแดงมาให้กลิ่นจันทร์สม่ำเสมอ จนอินธาคิดว่ากลิ่นจันทร์น่าจะให้โอกาสหมอเอ็กซ์บ้าง ไม่ใช่จมปลักอยู่กับอดีต แต่กลิ่นจันทร์รู้สึกเหมือนแผลเป็นครั้งเก่าอักเสบขึ้นมา เมื่อรื้อฟื้นเรื่องนี้ แผลจากผู้ชายคนหนึ่งที่มักมีกุหลาบให้เธอทุกครั้งที่เจอกัน แต่สุดท้ายเขาก็จากไปกับผู้หญิงคนใหม่ที่ร่ำรวย สวยกว่า ทิ้งให้เธอจมอยู่กับซากกุหลาบแห้งและน้ำตา ผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เวลาไม่ได้ช่วยอะไรเลย กลิ่นจันทร์สลัดความคิดนี้ทิ้งและกลับมาคิดเรื่องงานต่อ นัดครั้งที่ 2 ของแดนสุข เธอเลือกผู้หญิงเอง และกว่าที่กลิ่นจันทร์จะอ้อนวอนนายแดนแสบให้ไปพบอาจารย์หญิงได้ เธอต้องยอมแลกกับพรสามข้อที่แดนสุขตั้งขึ้นมา และยังไม่ยอมบอกว่าคืออะไร อาจารย์นารีวัน เกริกเกียรติไกล จบปริญญาเอก แต่ไม่ชอบให้ใครเรียกดอกเตอร์ สอนวิชาวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ไทย ชอบออกค่ายพัฒนาชนบท นอกจากสวยบาดใจแล้ว ยังเป็นแม่พระอย่างแท้จริง พ่อเธอเป็นอดีตนายพัน ปัจจุบันเปิดค่ายมวยกับสนามยิงปืน แม่เป็นอาจารย์สอนมารยาทไทย เธอมั่นใจว่าครั้งนี้ แดนสุขจะไม่กล้าทำตัวถ่อยเถื่อนแน่ แต่แดนสุขกลับทำสิ่งที่คาดไม่ถึง เมื่อเขาจัดมหกรรมมุกเสี่ยวมาใช้ จนอาจารย์หญิงทนไม่ไหว บอกศาลาไปอย่างไม่ไยดี ครั้งนี้ ความโกรธทำให้กลิ่นจันทร์จงใจทิ้งคนแสบสะบัดช่ออย่างแดนสุขให้กลับเอง ท่ามกลางถนนที่แดดร้อนเปรี้ยง และเมื่อต้องตอบทวีปอีกครั้งว่าเธอพลาด ลูกค้าจอมโฉดจึงขู่ว่านัดหน้าห้ามพลาดอีก ทำให้กลิ่นจันทร์ต้องเริ่มปฏิบัติการง้อแดนสุขทันที เพราะรายนั้นแค้นฝังหุ่นไม่น้อยจากการถูกทิ้งคราวที่แล้ว เธอบากหน้าไปง้อผู้ชายถึงที่ สารพัดวิธี ท้ายสุดด้วยความรั้นและจุ้นของกลิ่นจันทร์ เรื่องเลยจบลงด้วยเลือด เมื่อหญิงสาวได้รับแผลฉกรรจ์ที่ฝ่ามือเป็นของแถมกลับบ้าน จากการถูกลิ่มแก้วเล็กแหลมบางทิ่มติดเนื้อ งานนี้คนป่วยได้รับการดูแลอย่างดีจากจอมแสบ และสบโอกาสดี ที่อยู่ ๆ เธอก็สามารถกำจัดพรเพี้ยน ๆ ของนายแสบไปได้หนึ่งข้อ นั่นคือ กลิ่นจันทร์ตกลงไปกินอาหารเช้ากับแดนสุข ณ ที่แห่งหนึ่ง ซึ่งถูกเรียกว่า "หมู่บ้านแสนสุข" ซึ่งสุขแสนสมชื่อ คนในหมู่บ้านที่อายุน้อยสุดไม่น่าต่ำกว่าห้าสิบ เขาพาเธอมาหายาย ผู้หญิงที่มีรูปอยู่บนบอร์ดใหญ่กลางสวนสวย เธอช่วยจัดแจกันดอกไม้ ก่อนที่แดนสุขจะพาเธอไป ร้านโอเลี้ยงนายช้าง หรือ ลุงช้าง (อรุณ ภาวิไล) ที่ห้อยพระเต็มหน้าอก ลุงช้างอยู่กับ แม่ลออ (วิยะดา อุมารินทร์) ซึ่งทั้งคู่มักเรียกแดนสุขว่า แดนนี่ อย่างสนิทสนมรักใคร่ หลังจากอิ่มกาแฟและปาท่องโก๋แล้ว แดนสุขพากลิ่นจันทร์ไปนั่งเล่นริมน้ำ ด้วยครั้งหนึ่งแม่ของเขาชอบหนีมานั่งที่นี่บ่อย ๆ ทั้งคู่ได้พบลุงหมอดู ซึ่งทายว่าหญิงสาวจะได้ลาภก้อนใหญ่ ส่วนนายแสบ อีกไม่นานจะเสียของรัก ซึ่งทำให้เจ้าตัวหงุดหงิดไม่น้อย แต่กลิ่นจันทร์ก็รู้สึกได้ว่ามีความจ๋อยปนอยู่มาก แม่สื่อปากดีเลยบอกว่า เขาก็ไม่ต้องมีของรักจะได้ไม่ต้องเสียอะไรเลย ดูอย่างเธอที่ไม่มีทางตาถั่วตกหลุมรักใครง่าย ๆ แต่แดนสุขกลับบอกว่า ยังไงคนเราก็บังคับตัวเองไม่ให้ตกหลุมรักไม่ได้ ตราบใดที่โลกนี้ยังมีแรงดึงดูด ซึ่งเธอก็ชักไม่แน่ใจว่าจะเผลอใจรักนายแสบหรือยัง เพราะนายแสบอาจจะแค่แกล้งทำดี หลอกให้เธอตกหลุมรักจนเสียงาน และพลาดเงินก้อนโตก็เป็นได้ กลิ่นจันทร์วางแผนแก้เกมหลีของนายแดนแสบ ด้วยตัวช่วยสุดเพอร์เฟกต์อย่างหมอเอ็กซ์ หรือนายแพทย์อธิวัฒน์ ศิระชลัทธร เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ผู้ชายที่กลิ่นจันทร์ให้สโลแกนไว้ว่าเป็นผู้ชาย 3 ส. นั่นคือ สำอาง...สนุก...สบาย แม้จะออกแนวตี๋ไม่หล่อจัด แต่ก็เข้าขั้นตรึงสายตาที่พบเห็น แต่งตัวดี มีรสนิยม มั่นใจในตัวเองสูงถึงสูงจัด เธอตอบรับคำชวนของหมอหนุ่มไปรับประทานอาหารเย็น ซึ่งการนัดครั้งนี้ หมอเอ็กซ์ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการส่งเธอไปแปลงโฉมแบบแรง หรู เลิศ ตั้งแต่เที่ยงจรดเย็น น่าแปลกที่เธอควรจะดีใจที่ดูดี แถมยังหรูหรา แต่กลับไม่คุ้นเคย และเริ่มรู้สึกได้ว่าหมอเอ็กซ์ชอบเธอที่รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนครั้งแรกที่เจอกันเท่านั้น แถมแผนของกลิ่นจันทร์ยังเละไม่เป็นท่า เมื่อนัดดินเนอร์ครั้งที่สองของเธอกับหมอเอ็กซ์มีมารผจญอย่างนายแดนแสบที่สะกดรอยตามมาก่อกวน แถมเมื่อแผนก่อกวนสำเร็จ แดนสุขยังถือโอกาสบังคับใช้พรข้อที่สอง ด้วยการขอให้เธอไปร่วมงานวันเกิดเขา ที่งานวันเกิด กลิ่นจันทร์มีโอกาสได้รู้จักกับเพื่อนของนายแดนแสบอย่างตงตง (เซินเจิ้น-พสธร ทรงถาวรทวี) และ หมิงหมิง (พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) สองพี่น้องเชื้อสายจีน ลูกเจ้าสัวเทียน (กฤตย์ อัทธเสรี) เจ้าของโรงแรมเทียนปาร์ค คนพี่ดูอวดดี เย่อหยิ่ง ส่วนคนน้องเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารัก งามหมดจด อ่อนหวาน น่าทะนุถนอม แถมยังออกอาการว่าปลื้มนายแดนแสบแบบออกนอกหน้าอีกด้วย หลังงานวันเกิดแดนสุข เป็นวันที่ BECOME US ครบรอบสามปี ลูกน้องต่างพากันฉลองในออฟฟิศอย่างสนุกสนาน แต่สิ่งที่ทำให้กลิ่นจันทร์หมดสนุก คือ หมิงหมิงที่มาโดยไม่ได้รับเชิญ และบอกว่า เธอชอบแดนสุข และอยากว่าจ้างกลิ่นจันทร์เป็นแม่สื่อ แม้ว่างานนี้จะมีแต่ได้กับได้ กลิ่นจันทร์กลับร้องไห้ออกมา ทั้งที่เคยปฏิญาณไว้ว่าจะไม่ตกหลุมรักใครอีก แต่เธอกลับหลงรักนายแดนแสบอย่างถอนตัวไม่ขึ้น กลิ่นจันทร์ต่อสู้กับความรู้สึกตัวเอง แต่สุดท้าย เมื่อคิดได้ว่า ปลายทางของเธอกับเขาไม่มีทางเป็นจริง เธอจึงโทร. นัดให้แดนสุขมาพบกับหมิงหมิง พร้อมรายงานให้ทวีปทราบ ซึ่งงานนี้เธอจะพลาดอีกไม่ได้เด็ดขาด แต่แดนสุขไม่มาตามนัดแถมยังไม่มีใครติดต่อเขาได้ กลิ่นจันทร์จึงไปดูจนพบว่าเขาป่วย นอนซมอยู่ที่บ้าน เธออยู่ดูแลเขาจนค่ำ ระหว่างนั้น ทวีปกับ สุรินทร์ (ภูมิใจ ตั้งสง่า) ที่ติดตามนายทุกฝีก้าวมาที่บ้านพอดี เขาต่อว่าลูกชายต่าง ๆ นานา ส่วนลูกชายก็ตอบกลับแบบไม่ยอมกัน ทั้งที่สองพ่อลูกต่างรักและห่วงใยกันมาก แต่ม่านหมอกแห่งทิฐิยังบดบัง ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง ถึงขั้นทวีปตบหน้าลูกชายก่อนจะกลับไปด้วยความบอบช้ำ ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกจากปากแดนสุข นอกจากแววตาที่เจ็บปวด แดนสุขรู้ใจตัวเองแล้วว่าชอบกลิ่นจันทร์ จึงสารภาพรักกับกลิ่นจันทร์ และคอยเอาอกเอาใจเต็มที่ จนกลิ่นจันทร์สับสนเริ่มทำตัวไม่ถูก แต่สุดท้ายกลิ่นจันทร์ก็ต้องเก็บข้อมูลของแดนสุขด้านที่แดนสุขไม่เคยบอกใครมาก่อนนอกจากกลิ่นจันทร์ เพื่อเอาไปให้หมิงหมิง กลิ่นจันทร์ทำเพื่อตัวแดนสุขเอง เพราะคิดว่าแดนสุขจะได้ลงเอยกับผู้หญิงที่ดี แล้วก็จะได้ไม่มีปัญหากับทวีปอีก แดนสุขบอกกับทวีปว่าเขาชอบกลิ่นจันทร์และไม่ต้องหาผู้หญิงคนไหนให้อีกแล้วหวังให้ทวีปได้เข้าใจ แต่ทวีปกลับโกรธมาก พ่อลูกทะเลาะกันตัดขาด เจ้าสัวเทียนมาอาละวาดโวยวายกับทวีป เรื่องที่ทวีปจะให้หมิงหมิงลงเอยกับแดนสุข และหาคนที่เหมาะสมกับหมิงหมิงไว้แล้วนั่นคือหมอเอ็กซ์ แต่ทวีปย้อนกลับว่าช่วยไม่ได้ ถ้าทั้งสองจะรักกัน หมอเอ็กซ์ยังคงไม่ล้มเลิกขอกลิ่นจันทร์แต่งงาน กลิ่นจันทร์ยังไม่ตอบอะไร แต่หมอเอ็กซ์ก็จะรอจนกว่ากลิ่นจันทร์จะพร้อม กลิ่นจันทร์เองก็ชักลังเลคิดว่าถ้าเป็นหมอเอ็กซ์อาจจะไม่มีปัญหาอย่างที่อินธาบอกก็ได้ แต่ลึก ๆ แล้วเธอก็ยังอดเป็นห่วงแดนสุขไม่ได้ แดนสุขจริงจังกับกลิ่นจันทร์มากถึงขั้นคิดเรื่องแต่งงาน เจ้าสัวเทียนพยายามทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางไม่ให้หมิงหมิงได้สานสัมพันธ์กับแดนสุข แดนสุขเองก็เริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมหมิงหมิงถึงรู้เรื่องของเขาได้มากขนาดนี้ แต่ก็ยังเชื่อใจว่ากลิ่นจันทร์คงไม่หักหลัง กลิ่นจันทร์รู้สึกผิดต่อแดนสุขจึงจะไปขอโทษและบอกความจริงตามที่หมอเอ็กซ์แนะนำ แต่ไม่ทันที่จะบอก หมิงหมิงก็มาขัดจังหวะเสียก่อน หมิงหมิงไม่พอใจที่กลิ่นจันทร์ยังมาหาแดนสุขอยู่บ่อย ๆ จึงเผลอบอกแดนสุขว่า กลิ่นจันทร์เป็นคนเล่าเรื่องทุกอย่างของแดนสุขให้ฟัง แดนสุขโมโหมาก เพราะคิดว่าเธอกับเขาเข้าใจความรู้สึกซึ่งกันและกันแล้ว แดนสุขเสียใจ คิดว่ากลิ่นจันทร์เห็นแก่เงินมากกว่าเขา แดนสุขโกรธ และผิดหวังกับกลิ่นจันทร์มากจนไม่ให้อภัย และไล่กลิ่นจันทร์ไปจากชีวิตเขา ตงตงไปคาดคั้นหมอเอ็กซ์เรื่องอาการป่วยของทวีป หมอเอ็กซ์ไม่ยอมบอก ทั้งคู่จึงมีเรื่องกัน ทวีปมาหาหมอ โดนลูกหลงจากตงตงไปด้วย แดนสุขโกรธมากที่ตงตงทำให้พ่อต้องบาดเจ็บ พ่อลูกได้มีโอกาสคุยกันดี ทวีปจึงขอร้องให้แดนสุขลองคบกับหมิงหมิงดู และถ้าครั้งนี้แดนสุขยังยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับหมิงหมิง ทวีปก็จะไม่มาวุ่นวายและไม่บังคับแดนสุขอีกต่อไป แดนสุขทั้งประหลาดใจทั้งสับสนไปหมดว่าพ่อคิดอะไรอยู่ แต่เพื่ออยากประชดกลิ่นจันทร์ด้วย จึงยอมทำตามที่ทวีปขอ หุ้นของบริษัท ชินสุริเวท ตกอย่างหนัก เพราะตงตงปล่อยข่าวว่าทวีปเป็นมะเร็ง แดนสุขรู้ข่าว สุรินทร์จึงต้องเล่าเรื่องของทวีปให้แดนสุขรู้ แดนสุขไม่พอใจคิดว่าทวีปเอาเขากับหมิงหมิงมาเป็นเครื่องมือ แต่กลิ่นจันทร์ก็เตือนสติแดนสุขว่าสิ่งที่ทวีปพยายามทำมันอาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่ทุกอย่างก็ทำเพื่อตัวแดนสุข ทวีปรู้อยู่แล้วว่าชินสุริเวทกำลังจะไปไม่รอด จึงไม่อยากให้แดนสุขต้องเสียทุกอย่างไป ถึงอยากให้แดนสุขเปิดใจคบกับหมิงหมิง กลิ่นจันทร์ขอให้แดนสุขไปหาทวีปแทนที่จะมาคิดอะไรอีก เพราะทวีปจะอยู่ได้อีกไม่นาน แดนสุขช็อก เมื่อรู้ว่าพ่อเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แดนสุขรีบมาหาพ่อ และทั้งคู่ก็ปรับความเข้าใจกัน กลิ่นจันทร์แอบเป็นห่วงแดนสุขอยู่ห่าง ๆ เมื่อร้านนิมมานรดีโดนชาวเน็ตถล่ม ทำให้ไม่ค่อยมีคนเข้าร้าน แถมหมิงหมิงอยากจะช่วยกลับยิ่งทำให้เรื่องแย่ไปกันใหญ่ กลิ่นจันทร์จึงคิดหาทางช่วยแดนสุขด้วยการจัดกิจกรรมปาร์ตี้คนโสดขึ้นที่ร้านนิมมานรดี เพื่อช่วยเรียกลูกค้าให้แดนสุขอีกทาง ด้านตงตงก็รอซ้ำแดนสุขอยู่ตลอด โดยจ้างนักรีวิวอาหารมาใส่ร้ายร้านนิมมานรดี แต่สุดท้ายทุกคนก็ช่วยกันจนทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เจ้าสัวเทียนพยายามยัดเยียดหมอเอ็กซ์ให้หมิงหมิง จนทั้งคู่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากขึ้น งานมีตติ้งประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี แต่แดนสุขกลับประกาศปิดร้านนิมมานรดี กลิ่นจันทร์รู้ข่าวก็ตกใจ รีบแวะไปดูที่ร้านก็พบว่าร้านปิดป้ายขายแล้ว กลิ่นจันทร์ไปหาแดนสุขที่บ้านคุณยายวรรณก็ไม่พบ เงินที่ได้จากการขายหุ้นยังไม่พอที่จะใช้หนี้ แดนสุขจำใจต้องยอมขายร้าน และคุณยายก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของแดนสุข สุรินทร์ไม่เห็นด้วย แต่แดนสุขก็ยืนยันไม่อยากให้สุรินทร์ต้องลำบากไปด้วย กลิ่นจันทร์เสียใจน้อยใจมากที่แดนสุขไม่บอกเธอสักคำ ทำเหมือนไม่เห็นความสำคัญของเธอเลย แถมยังหายหน้าไปอีก แดนสุขกำลังยุ่งเรื่องจะเปิดร้านใหม่ แถมยังคลาดกับกลิ่นจันทร์ตลอดไม่มีโอกาสจะได้บอกกลิ่นจันทร์ ตงตงยังหาเรื่องแดนสุขไม่เลิกโดยจะขอซื้อร้านนิมมานรดีต่อ แดนสุขจึงให้นิต้าร์ช่วยปั่นกระแสราคาที่ดินตรงร้านนิมมานรดี แล้วก็ไปอัปราคาหลอกขายให้ตงตงในราคาแพง ตงตงโกรธมากเมื่อรู้ว่าถูกแดนสุขหลอก จึงไปอาละวาดแดนสุข แดนสุขโดนตงตงทำร้ายจนสมองได้รับความกระทบกระเทือน อาจจะทำให้แดนสุขกลับมาไม่เหมือนเดิม กลิ่นจันทร์เสียใจและเป็นห่วงแดนสุขมาก และยิ่งเมื่อได้ฟังเทปที่แดนสุขอัดเสียงของตัวเองเล่าเรื่องต่าง ๆ ไว้ ก็ทำให้กลิ่นจันทร์รู้ว่าแดนสุขรักเธอมากแค่ไหน และกลิ่นจันทร์ก็รักแดนสุขมากเช่นกัน สำหรับกลิ่นจันทร์ ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าการมีเขาอยู่ใกล้ ๆ รอยยิ้ม อ้อมกอด และเสียงหัวเราะ มันช่างเป็นสมบัติที่มีค่ากับเธอมากมาย แต่แดนสุขจะกลับมาเป็นแดนสุขคนเดิมหรือไม่ต้องติดตามชมในละคร แม่สื่อปากร้ายผู้ชายรสจัด ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.45 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และ Facebook LIVE ทาง Official Fanpage BBTV Channel 7 หรือสามารถรับชมการออกอากาศย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV ละคร แม่สื่อปากร้ายผู้ชายรสจัด เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561