สามปอยหลวง (2483)
สามปอยหลวง (2483/1940) ประเสริฐ กับ วลี หนุ่มสาวชาวกรุงพบกันโดยบังเอิญที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ขณะจองตั๋วรถไฟไปท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งสองทำความรู้จักกันจนเกิดเป็นความรัก ประเสริฐเป็นข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ จะไปพักที่โรงแรม ส่วนวลีจะไปพักอยู่บ้านของ แสง พ่อค้าเมืองเชียงใหม่ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าแก่ของพ่อ เมื่อถึงเมืองเชียงใหม่ ประเสริฐแวะเวียนไปหาวลีทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งประเสริฐเห็นวลีกับ ไสว ลูกชายของแสง เกิดความเข้าใจผิดจึงตัดพ้อต่อว่าวลี แล้วหนีเข้าป่าไปล่าสัตว์เพื่อระบายอารมณ์ ประเสริฐประสบอุบัติเหตุลื่นตกไหล่เขา เคราะห์ดีที่ได้สาวชาวไร่ช่วยชีวิตไว้ ทราบภายหลังว่าเธอชื่อ อุ่นเรือน เมื่อหายจากอาการบาดเจ็บอุ่นเรือนอาสาพาเขาไปเที่ยวยังที่ต่างๆ ประเสริฐซึ่งผิดหวังจากสาวเมืองกรุง จึงประทับใจในความใสซื่อบริสุทธิ์ของสาวชาวไร่อย่างอุ่นเรือน แล้วทั้งสองจึงตกเป็นของกันและกัน ทางด้านวลี เธอร้อนใจออกตามหาประเสริฐอย่างเอาเป็นเอาตาย จนกระทั่งบุกป่าฝ่าดงมาถึงชุมชนชาวไร่ วลีปราดเข้าไปซบประเสริฐทันทีที่ได้พบ ปรากฏเป็นภาพบาดตาบาดใจแก่อุ่นเรือนอย่างยิ่ง แต่ประเสริฐสำนึกในความดีของอุ่นเรือน จึงยืนยันที่จะไม่กลับไปเมืองกรุงกับวลี เพื่ออยู่ครองรักกับอุ่นเรือนในหุบเขาต่อไป
ชายสองโบสถ์ (2483)
พรายตะเคียน (2483)
พรายตะเคียน (2483/1940) ภาพยนตร์ผีของไทยที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน และเป็นตัวอย่างที่ทำให้ได้เห็นถึงลักษณะของภาพยนตร์สั้นที่ใช้ฉายประกอบเรื่อง ลูกกำพร้า ภาค 3-4 (2483/1940) ภาพยนตร์ขนาดยาวในอดีต โดยเล่าเรื่องราวผีนางพรายตะเคียนที่มาหลอกชาวบ้าน ฉากตัวละครวิ่งหนีผีกระจัดกระจายในเรื่องนั้นถือเป็นต้นแบบสำคัญของหนังผีไทยในยุคต่อ ๆ มา และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ครั้งที่ 4 ในปี พ.ศ. 2557 ภาพยนตร์ผีของไทยที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน และเป็นตัวอย่างที่ทำให้ได้เห็นถึงลักษณะของภาพยนตร์สั้นที่ใช้ฉายประกอบภาพยนตร์ขนาดยาวในอดีต สร้างโดยบริษัท ศรีบูรพาภาพยนตร์ ของผู้สร้างหนังยุคบุกเบิก สดศรี ภักดีจิตต์ หรือชื่อจริงว่า สดศรี ภักดีวิจิตร เล่าเรื่องราวผีนางพรายตะเคียนที่มาหลอกชาวบ้าน ฉากตัวละครวิ่งหนีผีกระจัดกระจายในเรื่องนั้นถือเป็นต้นแบบสำคัญของหนังผีไทยในยุคต่อ ๆ มา
ลูกกำพร้า ภาค 3-4 (2483)
หนามยอกหนามบ่ง (2483)
หนามยอกหนามบ่ง (2483/1940) เย็นวันหนึ่ง ณ หมู่บ้านนาแค ธง ลูกน้องฝีมือดีของ พ่อขุน กำนันบ้านนาแค จำใจต้องไปทวงเงินค่าที่นากับ ตาเพชร พ่อของ แวว คนรัก แต่ตาเพชรไม่มีเงินพอ จึงต้องขายแววเพราะกลัวอิทธิพลของพ่อขุน แววเข้ามาเป็นคนคอยรับใช้ ดวง บุตรสาวของพ่อขุน แต่มักจะถูก มิ่ง ลูกชายของพ่อขุนพยายามเข้าหาและคอยพูดจาปั่นหูว่าธงในแง่ไม่ดี เมื่อธงรู้จึงเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกัน แต่ธงเป็นฝ่ายแพ้ แววถูกกักตัวเป็นเวลา 7 วัน ส่วนธงถูกสั่งห้ามไม่ให้พบแวว จนเมื่อ พ่อขุนต้องการให้ธงไปปล้นควาย ธงยอมทำตามแต่มีข้อแม้ว่าเมื่อขโมยควายมาได้แล้ว พ่อขุนต้องปล่อยแววให้เป็นอิสระ เมื่อธงจากไป มิ่งก็วางแผนเตรียมจัดพิธีแต่งงานระหว่างตนกับแวว ธงกลับมาเร็วกว่ากำหนดจึงได้ทราบว่าหลงกลสองพ่อลูก ธงจึงไปชิงตัวแววและเดินทางไปที่เวียงคอยเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของแวว พ่อขุนออกหมายจับธงและพรรคพวก พร้อมออกค่าหัว จนได้ทราบข่าวว่า ธงไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่เวียงคอย จึงนำกำลังคนเพื่อที่จะไปจับตัวธงจนเกิดการต่อสู้กัน ธงต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้เพราะพ่อขุนนำตัวพ่อของแววมาขู่เพื่อให้แววมอบตัว สุดท้ายแววก็ตอบตกลงแต่งงานเพื่อปลดหนี้ให้พ่อ ธงจึงหายไปพร้อมความแค้นแววที่หักหลังตน สองปีผ่านไป หมู่บ้านนาแคต้องเผชิญกับความแร้นแค้น ไม่มีเกวียนไหนกล้าใช้เส้นทางผ่าน กระทั่งมีหนุ่มลาวโซ่ง ชื่อ แสน นำเกวียนมาแวะที่หมู่บ้านนาแค แท้จริงแล้ว แสนก็คือธงที่เข้ามาสืบข่าวคราวในหมู่บ้านนาแค ขณะนั้น มิ่งได้ขึ้นเป็นกำนันแทนพ่อขุนที่เริ่มแก่ตัวมิ่งมักจะทำร้ายแววกับลูกอยู่เสมอ เพราะคิดว่าลูกที่เกิดมาเป็นลูกของธง ส่วนตัวเองอยากได้ สร้อย น้องสาวคนสวยของ สอน เป็นเมียอีกคน จึงบังคับให้ ดวง แต่งงานกับสอน ธงกลับมาบ้านนาแคเพื่อชำระแค้น แต่บัดนี้กรรมได้ตามสนองแววและพ่อขุนแล้ว ธงจึงอโหสิให้ และรีบไปช่วยดวงที่ถูกมิ่งฉุดไปเวียงดอย ธงฆ่ามิ่งเพื่อชิงตัวดวงได้สำเร็จ ความแค้นแต่หนหลังจึงจบลง
แผลเก่า (2483)
แผลเก่า (2483/1940) เป็นเรื่องเก่าของชาวบางกะปิ ที่บรรยายความรักของหนุ่มลูกบ้านนั้น ซึ่งมีความรักที่คุระอุอยู่ในอกเหลืออดกลั้น มันว่า... "ยิ่งมืดก็จะยิ่งฝ่า ยิ่งหนาก็จะยิ่งบุก... เรียมเอ๋ย พี่จะตายให้อ้ายหนุ่มลูกบ้านนี้ มันรู้ทั่วกันว่า อ้ายขวัญ มันรักของมันยังไง.." ว่าด้วยเรื่องราวความรักที่ไม่ราบรื่นนักของหนุ่มสาวชาวบางกะปิ ขวัญกับเรียม เพราะญาติฝ่ายหญิงไม่เห็นด้วยจึงพยายามกีดกันทุกประการ ถึงกับจับเรียมล่ามโซ่เอาไว้แต่ขวัญก็แอบมาหาจนได้ ในที่สุดญาติฝ่ายหญิงเลยขายเรียมให้กับคนชาวกรุง ภายในระยะหนึ่งปีที่ผ่านไป เรียมเปลี่ยนสภาพจากสาวบ้านนอกเป็นสาวชาวกรุงอย่างทันสมัย ถึงกับมีหนุ่มๆมาติดพันอยู่หลายคน ต่อมาเรียมได้ข่าวว่าแม่ป่วยหนักเลยกลับไปยังบ้านเดิมเพื่อพยาบาลแม่ เป็นโอกาสให้ขวัญได้พบปะกับเรียมอีกครั้ง ความรักซึ่งมีอยู่แต่เดิมก็คุระอุยิ่งขึ้น เมื่อแม่ของเรียมถึงแก่กรรมลง ขวัญได้บุกเข้ามาทำการเคารพศพโดยไม่เกรงต่อญาติฝ่ายหญิงจึงถูกลอบทำร้าย ขวัญได้สังหารเสียหลายคนแต่ขวัญถูกยิงจึงตะเกียกตะกายไปที่ศาลเจ้าต้นไทร ณ ที่ที่เคยสาบานรักกัน เรียมวิ่งตามมาถึงพลางกระโดดลงน้ำว่ายเข้าไปหา เมื่อขวัญเห็นว่าชีวิตความรักของเขาและเธอหมดหวังเพียงแต่นี้เอง ขวัญเลยเอามีดจ้วงแทงเรียมจนจมหายตายไปด้วยกัน
สามเกลอผจญภัย (2483/1940) ภาพยนตร์ตลกที่จะทำให้ท่านต้อง หัวเราะท้องคัดท้องแข็งยิ่งกว่าตลกของฝรั่ง คือเรื่อง "สามเกลอผจญภัย" ภาพยนตร์ไทยตลกชั้นพิเศษ ประกอบการตื่นเต้นหวาดเสียว เพียบพร้อมไปด้วยการชกต่อย ภูติผีปีศาจ และเพลงไพเราะ ท่านที่ชอบภาพยนตร์ตลกของฝรั่ง โปรดมาตัดสินภาพยนตร์ตลกของไทยเราบ้าง (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ กรกฎาคม พ.ศ. 2483)
ไม่เคยรัก (2483)
ไม่เคยรัก (2483/1940) โรจน์ สืบทอดกิจการร้านนิยมไทยจำหน่ายสินค้าไทยต่อจากบิดา เขาคร่ำเคร่งกับการทำงานจนไม่สนใจเรื่องอื่นรวมทั้งเรื่องความรัก จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ขณะที่โรจน์ขับรถไปทำงาน บังเอิญขับรถชนรถสามล้อ ซึ่งมีสาวงามชื่อ วนิดา โดยสารอยู่ โรจน์หลงรักวนิดาตั้งแต่แรกเห็นและตามไปส่งที่บ้าน จึงได้รู้ว่าวนิดาเป็นหลานสาวของ พระพฤกษาพิทักษ์ ซึ่งหลงใหลในกล้วยไม้ ขากลับโรจน์พบ สนิท ซึ่งมาติดพันวนิดา และเป็นผู้ที่ มาลี แม่ของวนิดาหมายมั่นจะให้แต่งงานกับลูกสาว สนิทมีนิสัยเจ้าชู้ ทำให้วนิดาใจโอนเอียงไปทางโรจน์ แต่แล้ววันหนึ่ง โรจน์ขึ้นไปรับ ผ่องพรรณ น้องสาวซึ่งป่วยหนักมารักษาที่กรุงเทพ กาจ นักหนังสือพิมพ์ซึ่งมีความแค้นโรจน์ในเรื่องส่วนตัว บังเอิญเห็นจึงนำไปเขียนข่าวกล่าวหาว่าโรจน์ล่อลวงสาวบ้านนอกมากรุงเทพ ทำให้วนิดาเข้าใจผิด โรจน์โกรธมากจึงฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ศาลพิจารณาตัดสินให้หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นแก้ข่าว วนิดากับโรจน์จึงเข้าใจกันในที่สุด
Placeholder
ลูกทุ่ง (2482)
ลูกทุ่ง (2482/1939) ณ ลุ่มน้ำท่าจีน จังหวัดสาลี อันเป็นเขตกสิกรรม ครอบครัวของพ่อชมดำรงชีพด้วยการทำไร่ไถนามาหลายชั่วอายุคน พ่อชมมีลูกชายด้วยกันอยู่สองคน คือ ช่วย คนพี่คิดจะเจริญรอยตามพ่อ สืบทอดอาชีพกสิกร แต่ ชู คนน้องมักใหญ่ใฝ่สูงอยากจะเป็นขุนนางท่ามกลางเสียงคัดค้านของพ่อชม ชูจึงต้องดิ้นรนหาทางได้เล่าเรียนด้วยตัวเอง และโชคชะตาก็เข้าข้างชู เมื่อวันหนึ่ง ขุนกสิกิจเดินทางมายังจังหวัดสาลีเผอิญถูกตาต้องใจชูเข้า เพราะตัวเองมีแต่ลูกสาวไม่มีลูกชาย จึงขอรับอุปการะชูให้ได้เข้าเรียนที่กรุงเทพ หลายปีผ่านไป ชูไต่เต้าจนได้เป็นนายอำเภอสมอย่างที่หวัง ไม่เพียงแต่หน้าที่การงานจะก้าวหน้า เรื่องของหัวใจก็กำลังปลูกต้นรักอยู่กับ ผจง ลูกสาวสุดสวยของขุนกสิกิจนั่นเอง ไม่นานหลังจากนั้นก็มีเหตุให้ชูต้องกลับยังบ้านเกิด เนื่องจากขุนกสิกิจได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระยากสิกิจมาประจำอยู่ที่จังหวัดสาลี บัดนี้ ดำ กับ แจ๋ว เพื่อนเล่นในวัยเด็กของชูผันตัวไปเป็นอันธพาลปล้นทรัพย์ชาวบ้าน เป็นที่เดือดร้อนนัก ร้อนถึงหน้าที่ของนายอำเภอที่ต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ชาวบ้าน แต่นายอำเภอชูกลับแสดงท่าทีเจ้ายศเจ้าอย่าง เป็นเหตุให้ชาวบ้านต่างพากันเกลียดชัง ดีที่ช่วยคอยช่วยเหลือไกล่เกลี่ย ช่วยจึงเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน รวมทั้งพระยากสิกิจกับผจงลูกสาวที่เกิดหลงใหลได้ปลื้มในตัวช่วย เพราะนับถือคนประกอบอาชีพกสิกรรมอันเป็นกระดูกสันหลังของชาติเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อช่วยรู้ว่าผจงเริ่มมีใจให้ จึงเริ่มไว้ตัว ด้วยรู้ว่าน้องชายสมัครใจรักผู้หญิงคนนี้ และแล้วเหตุร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อแจ๋ววางแผนออกปล้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ช่วยจึงปลอมตัวเป็นโจรเพื่อเกลี้ยกล่อมให้แจ๋วกลับใจ เคราะห์ร้ายครานี้ ตำรวจก็สืบทราบแผนการเช่นกัน จึงนำกำลังล้อมจับ ช่วยจึงติดร่างแหไปด้วย ผจงไปขอร้องให้แจ๋วช่วยบอกความจริงกับตำรวจ แจ๋วซึ่งสำนึกในบุญคุณของช่วยอยู่แล้วก็ยอมทำตาม ทำให้ช่วยพ้นผิดและได้ครองรักกับผจง ชูจึงได้สำนึกและกลับตัวเป็นข้าราชการดีตั้งแต่นั้นมา

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ