2549
ไทยถีบ (2549/2006) พ.ศ. 2485 เมื่อกองทัพญี่ปุ่นรุกคืบเข้าสู่เอเชียอาคเนย์ เพื่อยึดครองพื้นที่ในการทำสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร ประเทศไทยในเวลานั้น ยินยอมให้กองทหารญี่ปุ่นใช้เส้นทางผ่าน เพื่อลำเลียงกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังเอเชียกลาง ท่ามกลางความขัดแย้งของคนในชาติบางกลุ่ม ซึ่งประกาศขอต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นทุกรูปแบบ คม วังหิน (หมอก - ทศพร รถกิจ) จอมโจร 18 มงกุฎชื่อกระฉ่อน วางแผนปล้นครั้งใหญ่ โดยมีทองคำที่กองทัพญี่ปุ่นลำเลียง ผ่านเส้นทางเดินรถไฟทางภาคใต้เป็นเดิมพัน คม วังหิน เดินหมากเคลื่อนไหวอย่างเงียบ ๆ ดึงเอาผู้คนหลากหลายวงการเข้ามาร่วมแผนการลับ อันประกอบด้วย นักเลงคู่แค้น อย่าง ใหญ่ ท่าเรือ (ธันญ์ ธนากร), แหลม 18 อวน (สหัสชัย ชุมรุม) เจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลในแถบพื้นที่ภาคใต้, นายพลสันต์ (สมเล็ก ศักดิกุล) นายทหารเจ้าเล่ห์ที่ไว้ใจไม่ได้ ขณะเดียวกัน โต ตีนหนัก (เทพ โพธิ์งาม) ผู้นำขบวนการไทยถีบ ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกัน เป็นขบวนการใต้ดินต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น ก็รู้เรื่องขบวนรถขนทองของญี่ปุ่น และวางแผนเตรียมขัดขวางการขนทองครั้งนี้ กลุ่มไทยถีบได้รับการร้องขอจากเสรีไทยกลุ่มหนึ่ง ให้ช่วยเหลือ ซีน่า (ซาร่า เล็กจ์) สายลับฝ่ายสัมพันธมิตรที่ถูกฝ่ายทหารญี่ปุ่นจับตัวไป โดยมี แพ๊ตตี้ (อัมธิดา เงินเจริญ) สายลับสัมพันธมิตรอีกคน จะเข้ามาร่วมงานด้วย การเคลื่อนไหวของท่านนายพลสันต์ กับ สองจอมโจร ใหญ่และคม ในช่วงเวลาที่ขบวนรถไฟขนทองมูลค่ามหาศาลของญี่ปุ่น กำลังเดินทางผ่านเส้นทางประเทศไทยพอดิบพอดี ทำให้สายลับ แพ๊ตตี้เข้าใจผิดว่าใหญ่และคมเป็นหัวหน้ากลุ่มไทยถีบ จึงเข้าติดต่อตามแผนการที่นัดเอาไว้กับกลุ่มไทยถีบ และเพื่อไม่ให้แผนปล้นทองของตัวเองเปิดเผยไป จอมโจรทั้งสองจึงตกกระไดพลอยโจน จำยอมร่วมทำงานกับสายลับแพ๊ตตี้ ทั้ง ๆ ที่เวลาที่ขบวนรถไฟขนทองกำลังมาถึง และใกล้เข้ามาทุกขณะ เมื่อโจรถูกเข้าใจผิดว่าเป็นวีรบุรุษ ทั้งฝ่ายวีรชนและจอมโจรต่างก็มีแผนการล้ำลึกอยู่ในมือ วีรกรรมระดับชาติกำลังจะเปลี่ยนเป็นความโกลาหล ทั้งฝ่ายวีรชนและจอมโจร ต่างก็มีแผนการล้ำลึกอยู่ในมือ วีรกรรมระดับชาติกำลังจะเปลี่ยนเป็นความโกลาหล เรื่องอลเวงระหว่างสองจอมโจรหนุ่มรูปหล่อ, กลุ่มไทยถีบผู้หาญกล้า, สายลับสาวสวยสองสาว รวมถึงท่านนายพลผู้ทรงอิทธิพล จะลงเอยอย่างไร...
ลาง หลอก หลอน | BLACK NIGHT (2549/2006) NEXTDOOR – ฮ่องกง กรกฎาคม ตามจันทรคติ เป็นเดือนแห่งเทศกาลของภูตผี ผู้คนจุดธูปเผากระดาษตามท้องถนนเพื่อเซ่นไหว้ผีเร่ร่อน เหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นซ้ำๆ ในคืนอาถรรพ์ เมื่อเจนสาวชาวไต้หวัน (แสดงโดย Annie LIU) มาเยี่ยม Joe แฟนตำรวจหนุ่ม (แสดงโดย Dylan KUO) แต่กลับพบว่าเขาเริ่มมีสัมพันธ์สวาทกับเพื่อนบ้าน สาวสวยจากจีนแผ่นดินใหญ่ Hosie (แสดงโดย Race WONG) และเมื่อความรักและความคาดหวังที่แรงกล้า กลับถูกตอบแทนด้วยความหลอกลวง ความหายนะจึงจำต้องเกิดขึ้น. ท่ามกลางเสียงแปลกประหลาดจากการกระทบกันของลูกหิน เสียงประตูถูกเคาะอย่างฉับพลัน เมื่อมองผ่านรูกุญแจประตูเห็นเป็นเงารูปร่างน่ากลัว… เรื่องราวของสามชีวิตในชะตาที่โยงใยกันจนเป็นเงื่อนปมได้คลี่คลายออกอย่างระทึกขวัญ และให้แง่คิดแบบ ขนหัวลุก DARK HOLE – ญี่ปุ่น ว่าที่เจ้าสาว Yuki (แสดงโดย Asaka SETO) ต้องทนทรมานกับฝันร้ายของเธอมาตลอด วันหนึ่งเธอสังเกตเห็นเด็กในชุดสีเหลือง ซึ่งเคยเห็นในฝันบ่อยๆ ได้ปรากฏตัวขึ้นในชีวิตจริง มีแต่เพียงเธอเท่านั้นที่สังเกตเห็นเด็กคนนี้ได้ แต่เมื่อใดที่เธอจำเขาได้จริงๆ เขาก็จะหายไปเหลือเพียงน้ำกองหนึ่ง เธอรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ประหลาดนี้ คู่หมั้นของเธอ Satoshi (แสดงโดย Takashii KASHIWABARA) จึงแนะนำให้เธอไปพบจิตแพทย์ Dr. Kawai (แสดงโดย Tomorowo TAGUCHI) และในที่สุดจิตแพทย์ท่านนี้ก็สามารถค้นพบสาเหตุของฝันร้ายของเธอได้หลังจากรักษาเธอมาหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากเธอสูญเสียความทรงจำในวัยเด็กเมื่อตอนอยู่ชั้นประถม และบังเอิญช่วงนั้นทั้งเพื่อนและแม่ของเพื่อนเธอได้ตายไปอย่างประหลาดและ เป็นปริศนา Yuki กลัวมากเมื่อเธอพบความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างความฝันของเธอและอุบัติเหตุครั้งนั้น หนึ่งระหว่างการรักษาโดยการสะกดจิต เธอได้เปิดเผยความลับถึงเรื่องที่เธอมีสัตว์เลี้ยงที่แสนประหลาด… THE LOST MEMORY – ไทย ปราง (แสดงโดย พิชญ์นาฎ สาขากร) แม่หม้ายและ ซัน ลูกชาย (แสดงโดย เด็กชายอธิพันธ์ ฉันทอภิชัย) ทั้งคู่ ดูน่าจะมีความสุข เว้นแต่ว่ามีชายคนหนึ่งคอยติดตามเธอทุกแห่งหน เธอเชื่อว่าเขาถูกจ้างวานโดย วิทย์ อดีตสามีเธอ (แสดงโดย ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) เธอเชื่อว่าเขามุ่งร้ายที่จะจับลูกชายเธอไป ชีวิตเธออยู่ท่ามกลางความหวาดผวาจนแทบจะเป็นบ้า ระหว่างการสืบหาความจริงนั้น เธอได้พบห้องเช่าแห่งหนึ่งที่ดูคุ้นตา และเริ่มจำได้ว่า แพรว เพื่อนของเธอ (แสดงโดย นัชชา บุตรศรี) ซึ่งเคยเป็นเพื่อนรักของเธอและวิทย์ ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่ความทรงจำของเธอเลือนหายไปอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนึกก็ยิ่งพบว่าเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวในอดีตนั้นหลอกหลอนเธอเหมือนหนังเก่า ที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ ความทรงจำที่ลึกที่สุดมันเจ็บปวดเกินกว่าที่จะรับได้ มันยังคงสถิตย์ในห้วงลึกของจิตใจเธอ และความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่าง วิทย์ กับ แพรว ก็คือกุญแจไขปริศนาของมรสุมในอดีตเธอ
รักจัง (The Memory) (2549/2006) รักจัง บอกเล่าเรื่องราวความรักของ ฟิล์ม (รัฐภูมิ โตคงทรัพย์) นักร้องซูปเปอร์สตาร์ชื่อดัง กับ จ๋า (พอลล่า เทเลอร์) ปาปารัสซี่สาว ที่ตามถ่ายภาพฟิล์มถึงอำเภอปาย เพื่อเอาไปขายให้กับสำนักพิมพ์ แต่แล้วฟิล์มก็เกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง รถของฟิล์มตกเขาจนทำให้ฟิล์มความจำเสื่อม แต่ฟิล์มได้รับความช่วยเหลือจาก ลอซู (อื้ด โปงลางสะออน) โดยมี อาล่า (ลาล่า โปงลางสะออน) และอาลู่ (ลูลู่ โปงลางสะออน) และเมื่อจ๋าเจอฟิล์มอีกครั้งและได้รู้ว่าฟิล์มความจำเสื่อม จ๋าจึงได้โอกาสสร้างข่าวเพื่อขายให้กับสำนักพิมพ์ แต่เมื่อจ๋ารู้จักฟิล์มมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกของเธอกับฟิล์มนั้นเปลี่ยนไป แต่เมื่อความจำของฟิล์มกลับคืนมา จึงทำให้ฟิล์มหลงลืมความทรงจำระหว่างเขากับจ๋า จนเหลือเพียงความทรงจำที่เลือนลาง ที่รอคอยวันที่ความทรงจำเหล่านั้น กลับคืนมา
โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง (2549/2006) นักเลงในสมัยยุคเก่า 2 คนมาสร้างตำนานความฮาและความตื่นเต้น ระหว่าง "บุญเท่ง" กับ "เสือน้อยโหน่ง" บุญเท่งหนุ่มคณะลิเกที่โด่งดังที่สุดในยุคสยาม ได้รู้จักกับน้อยโหน่งจากการที่น้อยโหน่งมาช่วย "ลิ้นจี่" น้องสาวของบุญเท่งจากอันธพาลที่มาเกี่ยวพัน วันหนึ่งมีกองถ่ายทำภาพยนตร์ชาวต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "นางสาวสุวรรณ" ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก ซึ่งมีนางเอกคือ "คุณนวลจันทร์" ซึ่งเป็นลูกสาวของเจ้าของโรงภาพยนตร์ ได้มาใช้สถานที่ของคณะลิเกของบุญเท่งในการถ่ายทำ ทำให้ชาวคณะลิเกไม่พอใจ จึงทำให้เกิดการต่อสู้เพื่อจะยึดสถานที่คืน บุญเท่งกับน้อยโหน่งจึงอาสาเป็นคนไปทำลายกองถ่ายภาพยนตร์ แต่เรื่องราวในการทำลายกองถ่ายกลับไม่เป็นไปตามที่ได้วางแผนกันไว้
น้ำพริกลงเรือ (2549/2006) น่านน้ำอ่าวไทยทะเลฝั่งตะวันออก ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ ดินแดนนี้มีปัญหามากในการลักลอบขนถ่ายสินค้าเถื่อน ยาเสพติด และอาวุธสงคราม ผู้ค้ารายใหญ่ที่ราชนาวีจับตามอง แต่ยังไม่สามารถจับได้คาหนังคาเขา เพราะมีเครือข่ายในการทำงานกว้างขวาง ซึ่งเป็นของ เสี่ยเม้ง (สมชาย ศักดิกุล) และ มิสเตอร์ยูริ (แบล็ค ผมทอง) จากญี่ปุ่น ซึ่งการขนถ่ายนี้จะมาทางทะเลอ่าวไทย แล้วมาแอบไว้ที่เกาะ และยังไม่สามารถสืบได้ว่าเป็นเกาะที่ไหนด้วย เหตุนี้ทางกองทัพเรือจึงได้รับหมอบหมายจากทางรัฐบาลให้จัดหน่วยเฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อจับเสี่ยเม้งและมิสเตอร์ยูริให้ได้ หมายปราบขบวนนี้ให้สิ้นซาก ผู้พันกุ้ง (โน้ต เชิญยิ้ม) ได้ถูกเรียกตัวเข้ามารับหน้าที่ ในการทำงานชิ้นนี้ โดยท่านผู้บัญชาการทหารเรือได้จัดบุคคลที่จะร่วมงานกับผู้พันกุ้งให้ด้วยและให้ไปตามตัวมา เพราะบุคคลเหล่านี้เป็นอดีตทหารมือดีของกองทัพเรือที่ออกจากข้าราชการไปแล้ว ประกอบด้วย หมูหวาน (อัมรินทร์ นิติพน) เป็นมือเฮกเกอร์ข้อมูล ชำนาญในการโกงพนันทุกชนิด คนที่สองคือ ต้นหอม (เบญจพล เชยอรุณ) ทหารหน่วยนาวิกโยธิน เก่งในการดำน้ำ และอึดมากแต่เพราะจิตใจเป็นผู้หญิง จึงลาออกจากราชการมาเป็นนักเต้นทิฟฟานี่ คนที่สามคือ ไข่เค็ม ( เกริก ชิลเลอร์) มือระเบิดที่ออกจากราชการเพราะภารกิจผิดพลาด ทำให้เพื่อนร่วมทีมเสียชีวิต คนที่สี่คือ ไต๋ก๋งกะปิ (อี้ด โปงลางสะออน) นักแม่นปืน มีความชำนาญเรื่องน่านน้ำไทย อย่างหาตัวจับยาก และสุดท้ายคือ ผู้กองพริก (ศุภักษร ไชยมงคล) หญิงสาวหนึ่งเดียวที่เก่งกาจในการต่อสู้ด้วยมือเปล่า และตั้งชื่อชุดปฎิบัติการนี้ว่า น้ำพริกลงเรือ ทั้งหมดรับงาน โดยมีรางวัลเป็นส่วนแบ่ง จากค่าหัวที่ทางการต่างประเทศตั้งไว้ ผู้พันกุ้งได้พาทีมน้ำพริกลงเรือทั้งหมดมาเก็บตัว และฝึกเพื่อให้ร่างกายได้พร้อมที่จะทำงาน และเมื่อถึงเวลาที่จะปฎิบัติงาน ทั้งหมดบุกไปที่เกาะซึ่งเสี่ยเม้งจัดงานปาร์ตี้สาวประเภทสองบังหน้า กลุ่มน้ำพริกลงเรือจึงต้องปลอมตัวเป็นสาวประเภทสองปะปนเข้าไปในงาน และใช้ความสามารถจนจัดการเสี่ยเม้งและพรรคพวกลงได้ งานนี้ทีมน้ำพริกลงเรือประสบความสำเร็จแต่พวกเขาก็ ต้องแลกกับชีวิตเพื่อนร่วมทีมไป......
ไพรรีพินาศ ป่ามรณะ (2549/2006) ในปี 2530 คำกอง ลีซอ และ นาซอ (ตอนเด็ก) เดินทาง เข้าไปในป่าพญาเมฆ เพื่อหาขุมทรัพย์ตามที่ลายแทงบอกไว้ แต่ต้องมาเจอกับงูยักษ์ตามไล่ล่า จนทำให้ลีซอที่เป็นพ่อของนาซอเสียชีวิต ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้เอง จึงทำให้นาซอเข้าใจว่าคำกองเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อของตัวเองเสียชีวิต จึงเกิดความเค้นต่อคำกอง ในปี 2547 หมวดวุฒิ (วัชระ ตังคะประเสริฐ) กับพรรคพวกจับนักโทษที่แหกคุกออกมาได้คนหนึ่ง สอบปากคำจนรู้ว่าพวกนักโทษที่เหลือนั้นได้หลบหนีไปทางป่าพญาเมฆ ในปัจจุบันนี้ คำกอง ได้บวชเป็นพระอยู่ในวัดแห่งนึ่งใกล้ ๆ กับป่าพญาเมฆ หมวดวุฒิกับพรรคพวกได้เดินทางมายังวัด เพื่อสอบถามร่องรอยของนักโทษกับหลวงพ่อคำกองผู้เป็นพ่อของหมวดวุฒิ หลวงพ่อคำกองได้ดูรูปถ่ายก็รู้ทันทีว่านักโทษที่อยู่ในรูปนั้นคือ นาซอ (ชลัฏ ณ สงขลา) โจรที่ปล้นฆ่าอันโหดเหี้ยม ลูกชายคนเดียวของลีซอเพื่อนเก่า ในคืนนั้นเองนาซอและพรรคพวกที่แหกคุกออกมา ก็ได้กลับมาฆ่าหลวงพ่อคำกอง และได้แย่งลายแทงสมบัติกับพวงกุญแจของหลวงพ่อไป จากนั้นนาซอและ หนานเมือง (สุรชัย แสงอากาศ) ก็ได้เดินทางเข้าป่าพญาเมฆ เพื่อไปหาขุมทรัพย์ตามที่ลายแทงบอกทันที หมวดวุฒิก็ได้ออกตามล่าพวกนาซอที่หลบหนีเข้าป่าทันทีที่รู้ข่าว โดยมีนายพรานกระเหรี่ยงเป็นคนนำทาง และมีการปะทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มโจร ซึ่งต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่าย พวกนาซอได้หลบหนีเข้าไปในป่าอาถรรพ์ หมวดวุฒิจึงตามไปแต่นายพรานกระเหรี่ยงไม่กล้าเข้าไป จึงนำข่าวนี้ไปบอกพรานเฒ่าแทน พอ พรานเฒ่า (ประทีป หาญอุดมลาภ) รู้ข่าว ก็รู้สึกเป็นห่วงหมวดวุฒิ จึงได้ออกเดินทางตามไปกับหลานสาวชื่อ กระแต (ณัฐนันท์ จันทรเวช) ด้านพวกนาซอนั้นก็ได้เจอกับ ฝูงต่อพญาเสือ นับแสนตัว รุมทำร้ายจนทำให้ลูกน้องคนหนึ่งเสียชีวิต ทางด้านหมวดวุฒิที่ตามมาติด ๆ นั้นกลับมาเจอ ฝูงตุ๊กเข้ ไล่กัด ด้วยเหตุการณ์ณ์ครั้งนี้เองจึงทำให้ทั้งสองฝ่ายต้อง หนีเข้าไปในป่านารีผล ป่านารีผล ในคืนนี้เองทำให้จ่าวีได้เจอกับพวก นารีผลที่เป็นสาวสวย มาหลอกยั่วยวนให้หลงใหล และหลอกดูดพลังชีวิตจนตาย จ่าหมึกผู้ที่เห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เกือบพลาดท่าเสียทีพวกนารีผล แต่โชคดีที่หมวดวุฒิและพรานเฒ่ามาช่วยไว้ทัน นาซอและพรรคพวกที่เหลือโดนหมวดวุฒิจับได้ แต่ว่าหมวดวุฒิและพรรคพวกนั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับการช่วยเหลือจากสาวชาวบ้านที่ชื่อว่า สีอ่อน (จิรภัทร์ วงศ์ไพศาลลักษณ์) และ คำแพง (ณัฏฐรี วิบูลย์เลิศ) สีอ่อนและคำแพงนั้นจะคอยช่วยหาสมุนไพรเพื่อมารักษาหมวดวุฒิและพรรคพวก ชาวบ้านในหมู่บ้านของสีอ่อนทำการต้อนรับอย่างดีกับพวกที่สีอ่อนและคำแพงพามา ในคืนนั้นเองพรานเฒ่าได้มอบของสิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อคำกองได้ฝากไว้ให้หมวดวุฒิ นั่นก็คือ มีดอาคม กระแตหลานสาวของพรานเฒ่า เริ่มมีความสงสัยกับผู้คนในหมู่บ้านของสีอ่อนว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะว่าเธอได้อ่านสมุดบันทึกของหลวงพ่อคำกองที่ให้เธอมา แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ ...ความลับของขุมทรัพย์จากเหรียญกาละกำลังรอวันเปิดเผย... ...อดีต ปัจจุบัน อนาคต เกี่ยวข้อง ต่อเนื่อง และส่งผลถึงกัน... ...การเผชิญหน้ากับความจริง และความตาย ที่รอเขาอยู่เบื้องหลังเหรียญกาละ... ...กลายเป็นที่มาแห่งจุดจบที่คาดไม่ถึง...
คำพิพากษาของมหาสมุทร Invisible Waves (2549/2006) เรื่องราวของ คิโยชิ กุ๊กชาวญี่ปุ่นที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแถบมาเก๊า เหตุการณ์ได้ผูกเงื่อนตายไว้ตรงที่ เขาเป็นชู้กับ เซ โกะ ภรรยาเจ้าของร้านอาหาร และเรื่องที่ชวนสั่นประสาทก็เกิดขึ้น หลังจากที่ทั้งคู่ดื่มด่ำกับอาหารมื้อค่ำ และเธอก็สิ้นใจตายพร้อมกับแก้วไวน์จิบสุดท้ายที่เธอดื่ม !! ภายหลังเหตุการณ์ฆาตกรรม เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น… เมื่อผู้หญิงที่ถูกฆ่าตาย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เหยื่อเท่านั้น แต่นักฆ่าก็กลับกลายเป็นเหยื่อ ของการฆาตกรรมในครั้งนี้ด้วย!
เด็กหอ (2549/2006) ชาตรี (ชาลี ไตรรัตน์) อายุ 12 เรียน ม.1 ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำอย่างฉุกละหุก สาเหตุเป็นเพราะ ชาตรี รู้ความลับบางอย่างของคุณพ่อ การต้องย้ายโรงเรียนกลางเทอมเป็นเรื่องโหดร้ายมาก ไหนจะห้องเรียนใหม่ ไหนจะเรือนนอนที่ไม่สนิทใจเหมือนอยู่บ้าน ที่แย่ที่สุด คือ ต้องนอนเตียงเก่าของคนอื่น ชาตรี ไม่ค่อยมีเพื่อน มีที่สนิทกันจริงๆ แค่คนเดียว เขาสองคนมักแอบไปนั่งเล่นที่สระน้ำเก่าหลังโรงเรียนเสมอๆ อาจด้วยทั้งความเหงา ความซน หรือความรู้สึกอะไรบางอย่าง จึงตัดสินใจใช้สระว่ายน้ำเก่าหลังโรงเรียนเป็นเครื่องระบายความเหงาและความเศร้าอยู่เป็นประจำ มีเรื่องเล่าว่าหลายปีมาแล้ว ก่อนที่โรงเรียนจะสร้างสระว่ายน้ำใหม่ สระแห่งนี้เคยเป็นที่เล่นน้ำของพวกเด็กๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ปัจจุบันสระกลับถูกปิดตาย มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับสระน้ำนั้น ถ้าคุณเชื่อเรื่องเล่าในโรงเรียนประจำ และสัญญาว่าจะไม่บอกใคร ชาตรีพร้อมจะเล่าความลับบางอย่างให้คุณรู้
อสูรสาว (2549/2006) มนต์เสน่ห์แห่งพงไพร และความหิวกระหายแห่งอสูรสาว ที่กำลังหลอกล่อให้ทุกคนติดกับ ในป่าลึกที่แฝงได้ด้วยอันตรายรอบด้าน กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งได้พยายามเข้าไปค้นหาช้างเผือก จนกระทั่งพวกเขาได้พบกับหญิงสาวรูปงาม โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า นั่นคือกับดักอันตรายที่กำลังหลอกล่อให้พวกเขาติดกับ มันคืออสูรสาวผู้หิวกระหาย ฆ่าและกินเนื้อมนุษย์เป็นอาหาร จึงไม่มีใครสามารถรอดพ้นเงื้อมือมันไปได้
แค่เพื่อนค่ะพ่อ (2549/2006) มีน เด็กหนุ่มวัยรุ่น อายุ 16 ปี ได้ย้ายบ้านจากกรุงเทพฯ มาอยู่ต่างจังหวัด เนื่องจากอาชีพของพ่อมีน ด้วยความที่มีนค่อนข้างจะเรียบร้อยจนดูว่าไม่ค่อยมีปากมีเสียงกับใครเขา แถมยังเป็นเด็กจากกรุงเทพเสียอีก จึงเป็นจุดสนใจของเด็กนักเรียนเจ้าถิ่นอย่างอู๊ด แอนด์ เดอะแก๊งค์ อันประกอบไปด้วย อู๊ด เด็กหนุ่มหัวโจก แม้ว่าภายนอกจะดูค่อนข้างเกเร แต่ก็มีจิตใจดี รักยายตัวเองเป็นที่สุด, ตี๋ ลูกไล่ของอู๊ด และแว่น นักประดิษฐ์ประจำกลุ่ม คอยกลั่นแกล้งสารพัด มาวันหนึ่งมีนได้ช่วยเหลือย่าของอู๊ดจากการเป็นลมไว้จึงทำให้ทั้งสองเริ่มเข้าหากัน และกลายเป็นเพื่อนสนิทต่อมา เช่นเดียวกับวัยรุ่นทั่วไป มีนไปชอบเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อฟาง ฟางเป็นนางรำของโรงเรียนและสิ่งนี้เองที่เป็นสาเหตุให้มีนแอบชอบฟางนับแต่เห็นครั้งแรก แต่ว่าทุกอย่างไม่ได้ง่ายดายนัก เพราะว่าการจะเข้าให้ถึงฟางนั้นต้องผ่านด่านสาหัสมาให้ได้ก่อน ซึ่งก็คือ กำนันเปี๊ยก พ่อของฟางนั้นเอง เนื่องจากฟางเป็นลูกคนเดียว กำนันเปี๊ยกจึงให้ความดูแล ทะนุทนอมอย่างมาก แม้ว่าฟางเองจะดูมีใจให้กับตัวมีนไม่ใช่น้อย ภาระสำคัญจึงต้องตกมาเป็นหน้าที่ของอู๊ดและเพื่อนในการหาวิธีให้มีนผ่านกำนันเปี๊ยกไปให้ได้ ทั้งช่วยงานในฟาร์ม สรรหาวิธีหลอกล่อสารพัด จนกระทั่งเป็นเหตุให้กำนันเปี๊ยกเสียหน้าครั้งใหญ่ต่อหน้าครูอาจารย์ พาลโมโหถึงขนาดไม่ให้ลูกสาวมาโรงเรียนเพื่อจะได้ไม่ต้องมาเจอกับมีนอีก ถึงมีนจะยังคงเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากเพียงใด มีนก็ยังคงพยายามหาหนทางเพื่อให้เขาและฟางได้กลับมาพบหน้าพูดคุยกันอีกครั้ง แล้วมีนก็ได้ตระหนักว่าอุปสรรคครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่พ่อของฟางอีกต่อไป แต่อยู่ที่ตัวของฟางเองต่างหาก!!!
กระสือ วาเลนไทน์ (2549/2006) สิบสี่กุมภาพันธ์ สองพันสี่ร้อยแปดสิบสี่ วันแสนดี วันที่รัก ปักใจสอง หวังให้เธอ เคียงอยู่ เป็นคู่ครอง ไม่หวังปอง สิ่งอื่นใด ในโลกา แต่ชะตา กลับกลั่นแกล้ง ไม่เข้าข้าง จำต้องห่าง ร้างไกล ให้โหยหา ขอจงรอ รอพี่หน่อย นะแก้วตา รอพี่มา กลับใกล้ชิด นิจ…นิรันดร์ ในยุคสมัยที่ “มนุษย์” เมินเรื่อง “นรก-สวรรค์” ไม่สนใจใน “กฎแห่งกรรม” ไม่ศรัทธา “การทำความดี” ไม่ใยดีในเรื่อง “ความรัก” และไม่ปักใจเชื่อว่า “กระสือ” จะมีจริง ผู้กำกับ “ยุทธเลิศ สิปปภาค” จะยำแกนเรื่องทั้งหมด มาให้ได้สัมผัสกันแบบ “ดราม่า” จริงจัง แต่ไม่เจือจางอารมณ์ “ขันพองสยองเกล้า” ที่จะทำให้คุณต้องกลับไปทบทวนคำตอบของ “Do You Believe in Destiny?” กันใหม่อีกหลายตลบ ผ่านการแสดงหนังใหญ่ครั้งแรกของนักแสดงหญิงรุ่นใหม่ “พลอย จินดาโชติ” และนักแสดงชายเจ้าบทบาท “ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์” กับการถ่ายทอดความรักของพยาบาลสาวและภารโรงหนุ่ม ท่ามกลางบรรยากาศโรงพยาบาลเก่าแก่ ที่มีเสียงร่ำลือหนาหูถึง “กระสือสาว” นางหนึ่ง…อยู่บ่อยครั้ง ในภาพยนตร์รักซาบซึ้งชวนสยอง ของยุทธเลิศ “กระสือวาเลนไทน์” 9 กุมภาพันธ์ 2549 แล้วคุณจะซึ้งจนขนหัวลุก ณ โรงพยาบาลเก่าแก่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ…มีเรื่องราวความรักถือกำเนิดขึ้น พยาบาล “สาว” (พลอย จินดาโชติ) แสนสวยบุคลิกดี ซึ่งถึงแม้ว่าเธอเพิ่งจะย้ายมาประจำการ ณ โรงพยาบาลแห่งนั้นได้ไม่นานนัก แต่เธอก็เป็นที่รักใคร่ชอบพอของเพื่อนร่วมงานทุกคนในโรงพยาบาล ไม่เว้นแม้แต่ภารโรง “หนุ่ม” (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) คนซื่อที่ถูกชะตากับพยาบาลสาวตั้งแต่แรกเห็นในวันวาเลนไทน์ของปี 2549 นี้ด้วย “ดอกกุหลาบ” ดอกแรกที่สาวได้รับจากภารโรงหนุ่มโดยบังเอิญในวันแห่งความรักนั้น นำไปสู่จุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ประหลาดและความผูกพันกันอย่างคาดไม่ถึง หรือพรหมลิขิตที่สาวเชื่อมั่นอยู่เสมอจะชักพาให้เธอพบกับความรักครั้งใหม่ หลังจากที่ถูกหักอกกับรักครั้งเก่า จนต้องพกพาความบอบช้ำย้ายเข้ามาทำงาน ณ โรงพยาบาลแห่งนี้…ที่ความรักกำลังดำเนินไป ก่อนหน้านี้สาวมักจะมีอาการประหลาดที่ต้องตื่นขึ้นมาอาเจียนในทุกๆ เช้า และทุกครั้งสิ่งที่เธออาเจียนออกมานั้นดูไม่แตกต่างจากรกเด็กที่เธอเคยเห็นในห้องคลอดเลยสักนิด รวมทั้งเธอยังมีอาการเห็นภาพซ้อนแวบเข้ามาในสมองอย่างไม่มีที่มาที่ไป และภาพที่เห็นนั้นล้วนแล้วแต่เป็นภาพของโรงพยาบาลแห่งเดียวกันนี้ในยุคสงครามเมื่อกว่าหกสิบปีที่ผ่านมา เท่านั้นไม่พอ สาวยังได้พบกับ “ภาพถ่ายเก่าๆ ใบหนึ่ง” ในกล่องเหล็กซึ่งถูกวางอยู่ในห้องพักของเธอมาเนิ่นนาน ในภาพนั้นเป็นภาพของหนุ่มในชุดทหารสมัยสงครามถ่ายคู่กับเธอในชุดพยาบาลในยุคเดียวกัน และด้านหลังภาพถ่ายเป็นลายมือของหนุ่มที่เขียนถึงเธอ จากข้อความบางอย่าง มันได้บ่งบอกว่าในชาติที่แล้วทั้งสองคนนี้คือคู่รักกัน แต่ยังไม่ทันที่สาวจะนำภาพถ่ายใบนั้นไปให้หนุ่มคลายความเคลือบแคลงสงสัยของเธอลง อุบัติเหตุหนึ่งกลับทำให้หนุ่มกลายเป็นอัมพาต และไม่สามารถสื่อสารใดๆ ได้นอกจากแค่การกะพริบตา หรือเวรกรรมกำลังจะตามมาสนองคู่รักเมื่อชาติที่แล้วคู่นี้อย่างเท่าทัน ขณะเดียวกันในค่ำคืนแห่งความสับสน สาวกลับค้นพบความจริงอันน่าสะพรึงกลัวภายในร่างกายของเธออย่างยากที่เธอจะเชื่อได้…มันคืออะไรกัน หรือเธอเองจะมีส่วนผูกโยงกับ “กระสือสาว” ที่ถูกร่ำลือถึงบ่อยๆ ณ โรงพยาบาลเก่าแก่แห่งนี้…เรื่องราวความรักกำลังจะจบลง
Ocean Butterfly ผีเสื้อสมุทร (2549/2006) คนโบราณเตือนไว้ เวลาอายุครบเบญจเพส ให้หนุ่มสาวพึงระวังตัว แต่คงไม่เคยมีใครเตือน "ว่าน" ให้ระวังตัว อย่าเข้าใกล้... ตู้ปลา ในวันเกิดอายุครบ 25 ปีนี้ "ว่าน" (ต้อง ศุภัชญา) สาวเปิ่น เฉิ่ม เบอะเริ่มได้ยินเสียงพูดคุยที่ไม่รู้ที่มา โดยเฉพาะเวลาว่านอยู่ใกล้ตู้ปลา จะว่าว่านอกหักที่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกก็ไม่น่าจะมีอาการแปลกประหลาดแบบนี้ ว่านตัดสินใจไปไขปริศนาที่ทะเล เพราะท่าทางตัวเองจะอาการหนักขึ้น แต่ว่านจำต้องร่วมเดินทางไปกับ "แทน" (ธันญ์ ธนากร) ช่างภาพถ่ายรูปธรรมชาติ ตั้งแต่เจอกับแทน เวลาว่านมีปัญหายุ่ง ๆ ทีไร แทนก็มักจะปรากฏตัวอยู่คอยช่วยอยู่ใกล้ ๆ เสมอ เมื่อมาถึงทะเล ว่านรู้สึกคุ้นเคยมีอิสระมากขึ้น ได้สัมผัสท้องทะเล ว่านรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งดำน้ำลงไปใต้ทะเลลึก ยิ่งอัศจรรย์ใจเพิ่มขึ้น ว่านค้นพบว่า ตนมีความสามารถพิเศษเวลาอยู่ใต้น้ำ แทนพาว่านมาพักที่เกาะผีเสื้อ แทน เริ่มสังเกตว่า ว่านโตเป็นสาวเต็มตัว ไม่ใช่เด็กเปิ่น เฉิ่มเหมือนที่เคยเห็น ความรู้สึกดี ๆ ระหว่างว่านกับแทนค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น กิตติ (เอ อนันต์) เจ้าของรายการโทรทัศน์ที่วางแผนจัดฉากถ่ายภาพสัตว์ประหลาดใต้ทะเล หวังสร้างให้เป็นข่าวฮือฮา แต่ระหว่างจัดฉากถ่ายทำกลางทะเลอยู่นั้น กล้องถ่ายติดภาพสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดใต้น้ำ กิตติมั่นใจว่าตนพบขุมทรัพย์เข้าให้แล้ว กิตติตั้งใจจะเอาตัวเป็น ๆ ของผีเสื้อสมุทร มาเปิดเผยให้โลกรับรู้ให้ได้ บนเกาะผีเสื้อ ช่วงเวลาที่ความรู้สึกดี ๆ ระหว่างว่านกับ ทนก่อตัวขึ้นที่เกาะผีเสื้อ ว่านได้พบกับ "เฒ่าโล้" (ชาย เมืองสิงห์) ชายชราแห่งท้องทะเล เฒ่าโล้ คล้ายรู้ความลับของว่าน แต่เฒ่าโล้ก็เพียงแต่เตือนว่านว่า ร่างกายว่านจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างแท้จริงหากโดนน้ำ แทนตัดสินใจจะช่วยว่านค้นหาอาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวว่าน แทนไม่รู้เลยว่า ความรักกำลังพาเขาดำดิ่งลงไปสู่ปริศนาลี้ลับแห่งใต้ท้องทะเล
ล่าค้างคาวพันธุ์อมตะ (2549/2006) ภารกิจเสี่ยงตายของเหล่านักล่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝูงค้างคาวปีศาจ ผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้ทำการทดลองเกี่ยวกับค้างคาว จนพวกมันกลายพันธุ์เป็นค้างคาวพันธุ์เพชฌฆาต ที่ออกอาละวาดไปทั่วหมู่บ้าน ทำให้ หมวดกฤษ ผู้คอยดูแลหมู่บ้านนี้พร้อมกับเพื่อนตำรวจหญิงต้องออกมาช่วยกันปราบค้างคาว รวมทั้งหาทางจับกุมกลุ่มผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ด้วย.....
ผมอาถรรพ์ (2549/2006) “ ผมอาถรรพ์ ” เล่าเรื่องราวการถ่ายทำรายการ Reality TV. ที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งนำพาให้กลุ่มหนุ่มสาวทั้งผู้เข้าร่วมรายการและทีมงานต้องมาพบกับเรื่องราวสยองขวัญในบ้านที่มีอดีตอันน่ากลัวแฝงอยู่ โดยบ้านหลังนี้เคยมีเจ้าของเป็นหญิงสาวผมสวยที่ชอบกินผมเป็นอาหาร นานวันเข้าเธอไม่กินเฉพาะผม แต่เธอเริ่มจะกัดกินเนื้อบริเวณศีรษะด้วย จนสามีของเธอต้องจับเธอไปขังในห้องลับและฆ่าตัวตายตามกันไป..!! แต่วิญญาณของเธอยังคงวนเวียนอยู่และหลอกหลอนผู้มาเยือน เมื่อทุกคนได้รู้ความจริง พวกเขาต่างหาทางออกจากบ้านหลังนี้ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถมีลมหายใจออกจากที่นี้ไปได้
ฤทธิ์เหล็กไหล (2549/2006) *ปีอาจไม่ตรง* ความโลภ ของขลัง ความคงกระพัน และการแย่งชิง นายยนต์ มีเหล็กไหลฝังอยู่ในตัว มีดดาบฟันแทงไม่เข้า กำนันเปี๊ยก จอมอิทธิพล อยากได้ไว้ครอบครองจึงไปติดต่อขอซื้อ แต่นายยนต์ยอมไม่ขายให้ และนำเหล็กไหลออกจากตัวเอง เอาไปฝังในตัวของลูกชาย 2 คน คือ อัคคี และวายุ กำนันเปี๊ยกรู้ข่าวจึงส่งมือปืนไปฆ่าทั้งสอง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะอิทธิฤทธิ์ของเหล็กไหลป้องกันไว้ กำนันเปี๊ยกจึงใช้กำลังและระเบิดสังหารจับอัคคีไว้เป็นตัวประกัน วายุจึงฝ่าอันตรายไปช่วย ในที่สุดกำนันเปี๊ยก ก็ถูกระเบิดของตัวเองตาย