ผจญภัย
เรื่องย่อ : ภูลังกา (2567/2024) เรื่องราวตำนานของ ภูลังกา ดินแดนลับแล ที่ถูกเล่าขานมากว่า 100 ปี กับภารกิจตามหามณีนพรัตน์ อัญมณีคู่บ้านคู่เมืองบังบดที่หายไป โดยมี เข็มอัปสร (ผิงผิง ณิชา) เจ้าหญิงแห่งเมืองบังบด ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ตามหามณีนพรัตน์ในครั้งนี้ โดยมีชายหนุ่มจากโลกมนุษย์ ณพนา (เพชร โบราณินทร์) คอยให้การช่วยเหลือ งานนี้เข็มอัปสรกับณพนาจะต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคอะไรบ้างในดินแดนสุ ดเร้นลับนี้ แล้วทั้งคู่จะสามารถรวบรวมมณีนพรัตน์ได้หรือไม่ ตามลุ้นและเอาใจช่วยพวกเขาได้ใน “ภูลังกา” (ที่มา: ช่อง one)
เรื่องย่อ : ภูผาผีคุ้ม (2564/2021) การผจญภัยของเจ้าชายที่หลงไปสู่หุบเขาลึกลับ ชาวบ้านต่างร่ำลือว่ามีภูตผีปีศาจอาศัยอยู่ เจ้าชายรอดตายมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ แต่ทว่าความทรงจำที่ผ่านมาหายไป เขาเติบโตมามีความรู้ผิดชอบชั่วดี ด้วยการช่วยเหลือจากผีทั้ง 8 และได้ชื่อใหม่ว่า ผา เมื่อเขาได้รู้ความจริงว่าผีทั้ง 8 ที่เลี้ยงดูเขามา คือวิญญาณเฝ้าสมบัติ ภารกิจการออกผจญภัยเพื่อตามหาเจ้าของสมบัติที่แท้จริงเพื่อปลดปล่อยวิญญาณผีทั้ง 8 พร้อมการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจึงเริ่มต้นขึ้น เตรียมพบกับเรื่องราวสุดท้าทายในดินแดนเหนือจินตนาการ ของเจ้าชายผู้มีพลังภูตผี ในดินแดนที่เต็มไปด้วยมนตรา อสุรกายสุดอันตราย และสิ่งลี้ลับที่รอการค้นพบ พร้อมภารกิจกอบกู้บัลลังก์ ติดตามชมละคร ภูผาผีคุ้ม
เรื่องย่อ : ดงพญาเย็น (2564/2021) เรื่องราวของ เพชร พญาไพร (พ้อยท์ ชลวิทย์) พรานหนุ่มผู้มีคาถาอาคม และเก่งกาจในเรื่องต่อสู้ได้ถูกว่าจ้างจาก คุณจันทร์ (เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน) สาวสวยจากพระนคร ให้ช่วยนำทาง ออกตามหาพ่อที่พลัดหลงเข้าไปในเมืองขวางทะบุรี เมืองลับแลในตำนานซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายในป่าดงพญาเย็น โดยมี สร้อย (ชาร์เลท วาศิตา) สาวสวยลึกลับฉายาหมอเทวดา อาสาร่วมเดินทางไปกับขบวนคาราวานด้วย แต่การผจญภัยครั้งนี้กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะป่าอาถรรพ์แห่งนี้เต็มไปด้วยอุปสรรค และอันตรายจากอสูรร้ายที่พร้อมจะคร่าชีวิตทุกคนที่มาเยือน !! เพชรจะสามารถพาคุณจันทร์ไปพบกับพ่อที่หายตัวไปได้หรือไม่ แล้วพวกเขาต้องเจอกับอุปสรรคอะไรบ้างในป่าอาถรรพ์สุดอันตรายแห่งนี้ ตามลุ้นและเอาใจช่ายพวกเขาได้ในละคร ดงพญาเย็น
เรื่องย่อ : ธิดาวานร (2564/2021) เจ้านันตะทร หัวหน้าชนกลุ่มน้อยทางเหนือ กับเจ้านางทรายคำ ซึ่งเล่าลือว่ามีทรัพย์สมบัติมหาศาล ทำให้สะมะแอ คนสนิท กับ แสนไท ลูกชายจอมโลภ ฆ่าเจ้านันตะทร แล้วบังคับให้เจ้านางทรายคำบอกที่ซ่อนสมบัติ แต่เจ้านางทรายคำหนีมาได้ และนำลูกสาววัยแบเบาะใส่แพลอยน้ำไปพร้อมตุ้มหูเพชร และล็อกเกตสลักชื่อ "MENGKALIA" (เมงกาเลีย) ดำรงกับบัวบาน เศรษฐีสามีภรรยาที่เพิ่งกลับจากไปบนบานขอลูก เห็นเด็กลอยมาที่ลำธารเลยช่วยเหลือไว้ โดยเรียกหนูน้อยว่า เมงกาเลีย ตามล็อกเกต พร้อมตั้งชื่อจริงว่า อิยะวดี ตามป้ายที่ข้อมือ ทุกอย่างกำลังจะดำเนินไปด้วยดี แต่ดำรงกลับพลาดท่าไปได้กับนาถยา ม่ายสาวที่มีลูกติดคือ เอมฤดี นาถยาคิดฆ่าบัวบาน จึงตัดสายเบรกรถทำให้รถตกหน้าผา โชคดีที่ทรายคำช่วยชีวิตไว้ และได้รู้ว่าบัวบานคือคนที่ช่วยชุบเลี้ยงอิยะวดีลูกสาวของเธอ หลังกำจัดบัวบานได้ นาถยาก็หลอกอิยะวดีไปฆ่าที่หน้าผาอีกคน ขณะเดียวกันที่พนาพร้อมกับพ่อ พินิจ และแม่ อรุณี ซึ่งเป็นนักธุรกิจอัญมณีชื่อดัง กำลังหนีการตามล่าของมาเฟีย คำรณ พนาหลงป่ามาเจออิยะวดีที่กำลังปีนกิ่งไม้ที่ยื่นไปในเหว แต่เขาช่วยเธอไม่ทัน ทำให้อิยะวดีตกลงไปพร้อมเป้ของพนาที่มีมือถือ และเพชรชมพูที่คนร้ายตามล่าอยู่ พนาเสียใจที่ช่วยอิยะวดีไว้ไม่ได้ และคิดว่าเธอคงตายไปแล้ว แต่อิยะวดีตกไปค้างบนกิ่งไม้ก้นเหว ขณะที่ พรานเส็ง กับพวกเข้ามาจับสัตว์ไปขาย แม่ลิงตัวหนึ่งโดนยิงบาดเจ็บและโดนแย่งลูกไป แม่ลิงนั่งเสียใจและได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จึงไปช่วยและพาไปไว้ในถ้ำ แม่ลิงได้เลี้ยงอิยะวดี ซึ่งอิยะวดีก็รักแม่ลิงเรียกแม่ลิงว่า แม่มา ด้านพนาหลังจากที่เขาออกจากป่ามาได้ เขาลองโทรศัพท์เข้าหาเบอร์ของตนเอง ซึ่งมีการกดรับสาย แต่เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงลิงและเสียงเด็กพูดมาว่า แม่มา แม่มา พนาพยายามพูดเพื่อจะได้รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็ไร้ผล ทรายคำที่กลายร่างเป็นเสือสมิงเพราะยอมตกเป็นเหยื่อโดนเสือกิน เพื่อช่วยให้บัวบานรอดพ้นจากเสือ แต่บัวบานกลับถูกสะมะแอและแสนไทจับตัวไป โดยให้ทำหน้าที่ดูแล มะเมี้ยะ หลานสาวของเขา ที่ตั้งใจว่าจะใช้เธอเป็นเครื่องบูชายัญ ในการเปิดทางเข้าเมืองอัญมณี เมื่อเธออายุครบ 18 ปี วันเวลาผ่านไป อิยะวดีเติบโตขึ้นเป็นสาวชาวป่าโดยมีลักษณะคล้ายลิงเพราะถูกเลี้ยงดูโดยแม่มา ส่วนพนาโตขึ้นเป็นหนุ่มที่ชอบการยิงธนู และการพิทักษ์ป่าเขา สัตว์ป่า วันหนึ่งเมื่อพนาได้เข้ามาในป่า เขาได้มาเจอกับหญิงสาวที่ดูท่าทางเหมือนลิง พนาเกิดสงสัย และอยากรู้ถึงความเป็นมา จึงพยายามสื่อสารและเข้าหา พร้อมที่จะช่วยเหลือ ความผูกพันเริ่มก่อตัวเป็นความรัก แต่ตัวพนานั้นก็ยังมีอรุณีที่เฝ้าคอยตามติด เพราะหวังที่จะได้เขามาเป็นคนรัก พนาขอคำปรึกษาจาก บุราณ นักโบราณคดีเพื่อนสนิท เรื่องอิยะวดีรวมถึงเรื่องเพชรชมพู เพราะเขาต้องการนำไปคืนที่เมืองอัญมณี บุราณพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับเมืองอัญมณี พร้อมกับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความฝันของเขา ที่มักจะฝันเห็นผู้หญิงผมยาว และชายในเครื่องแบบนักรบโบราณที่มีหน้าตาคล้ายกับเขาราวกับฝาแฝด พนาและบุราณจึงตัดสินใจ เข้าป่าเพื่อสืบหาเรื่องราวทั้งหมด การเดินทางที่เต็มไปด้วยความอันตราย ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นความรัก จะนำพาทุกคนให้เจอกับบทสรุปเช่นไรต้องติดตาม
แก้วกลางดง (2562/2019) '...เมือง กับ ป่า... ก็ย่อมมีกฎเกณฑ์ต่างกัน หากในความรัก...ไม่มีกฎเกณฑ์ใดมาแบ่งแยก ออกคำสั่ง หรือ กำหนดได้!' พันธสัญญาแห่งเมืองและป่าเริ่มต้นขึ้น... เมื่อ ''ไอ้ลาย'' (เสือโคร่งดุร้าย) ออกอาละวาดล่า ''เหยื่อ'' ในป่าอีกครั้ง !! และ ''เหยื่อ'' ของมันในครั้งนี้ ดันเป็น ทรงเผ่า ผู้ถึงคราวเคราะห์ ต้องสลัดคราบ 'สถาปนิก' มาสวมวิญญาณ 'อดีตนักยิงปืน' และ 'นักวิ่งทีมชาติ' เพื่อหนีเอาตัวรอด จนเกือบโดนเสือตะปบตาย !! ถ้าไม่ได้ พรานจั่น ผู้ยึดคติจับเสือด้วยมือเปล่า สละชีวิต กระโดด เข้าปกป้องเขา ไว้เสียก่อน !! เรื่องราวอาจจบลงอย่างสะเทือนใจแค่นั้น หากก่อนตายพรานจั่นไม่ได้ขอฝากฝังลูกสาวคนเดียว ของเขา ไว้กับทรงเผ่า ชายหนุ่มผู้ไม่เคยผิดคำสัญญากับใคร !! ดังนั้น แม้จะยังไม่เคยมี ''ลูก'' และเป็นโรคเกลียด ''เด็ก'' แต่ทรงเผ่าก็ตั้งใจว่าจะเลี้ยง ''เด็กสาวชาวเขาคนนี้'' ให้ดีที่สุด โดยไม่รู้เลยว่า จะต้องมารับมือกับ ''เด็กเปรต"
เรื่องย่อ : โก๊ะ ๘ ตะลุยแดนมหัศจรรย์ (2557/2014) หลังจากที่ทุกคนรู้ว่า พรานแดน (ธันญ์ ธนากร) คือ “โก๊ะ” ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ การผจญภัยครั้งใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อองค์หญิงม่านฟ้าคนรักของ บุญชู (อานัส ฬาพานิช) ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้บุญชูต้องข้ามมิติกลับสู่โลกอดีต เพื่อติดตามไปเพียงลำพัง แต่บุญชูเกิดพลัดตกเขา และได้รับการช่วยเหลือจาก ปลายฟ้า (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) นักชีววิทยาสาว ที่ถูกลมตรีทูตพัดข้ามมิติมาพร้อมกับ มังกะโบ (ค่อม ชวนชื่น) มะเจย (โป้งเหน่ง เชิญยิ้ม) อาเจ (คม ชุปเปอร์โจ๊ก) ลูกหาบจอมกะล่อน พร้อมทั้ง อาซาน (ชูษี เชิญยิ้ม) และ สังวร (เหลือเฟือ มกจ๊ก) ชาวกระเหรี่ยงที่มีนิสัยคล้ายกัน บุญชูเดินทางกลับไปที่ปุระนคร แต่พบว่าเวลาได้ผ่านมาเกือบ 100 ปีแล้ว เขาได้พบกับ คำแก้ว นางกำนัลคนสนิทของม่านฟ้า ที่มีอายุล่วงเลยมาเกือบ 80 ปี แต่ไม่มีใครได้พบเห็นม่านฟ้าอีกเลย บุญชูยังคงติดตามหาม่านฟ้าต่อไปจนกระทั่งได้พบกับ จิ๊บ (จิลล์ โรเจอร์) ใบเตย (นาฎชนก ศรีสุราช) บัวตอง (ณธษา เวชประสิทธิ์) และ สันต์ (กณิณ ปัทมนนถ์) ที่ออกตามบุญชูมาด้วยความเป็นห่วง ทั้งหมดได้ประสบกับเรื่องราวตื่นเต้นพิสดารเหนือธรรมชาติมากมายในระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเสือสมิงที่แปลงร่างเป็นคน แฝงตัวมาในกลุ่มของลูกหาบและลอบฆ่าคนไปทีละคน ทำให้ อาโป (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) หนุ่มชาวป่าผู้มีบุคลิกเงียบขรึมและดูลึกลับ ที่อาสาเป็นคนนำทางให้ ถูกสันต์สงสัยว่าจะเป็นเสือสมิงเพราะทุกครั้งที่มีคนตายอาโปจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเสมอก่อนที่จะกลับมาในเช้าของอีกวัน นอกจากนี้ทุกคนยังได้เจอกับกองทัพซอมบี้ทหารญี่ปุ่นที่ตายในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเป็นผีดิบ การข้ามมิติไปเยือนวิมานฉิมพลีได้พบเห็นพญาครุฑ พญานาค กินนร กินรีและมักกะลีผล และยังได้เพื่อนใหม่เป็นคิงคองยักษ์นามว่า “เจ้าปุย” (พีรพงศ์ วรรณเผือก) เพิ่มมาอีกตัว แถมยังถูก อเล็กซ์ (เจจินตัย อันติมานนท์) กับทีมสังหารตามล่ามาทวงลายแทงสมบัติคืน แทบจะเอาชีวิตไม่รอดหลายครั้ง การค้นหาม่านฟ้ายังคงลางเลือนไร้ความหวัง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบุญชูกับปลายฟ้า กลับงอกงามขึ้นทุกวันจนกลายเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว แต่ความรักของทั้งคู่กลับต้องสะดุดลงอีกครั้งเมื่อ นนท์ (พศิน ศรีธรรม) หนุ่มไฮโซว่าที่คู่หมั้นของปลายฟ้าเดินทางมาพบกัน บุญชูจึงจำต้องหักห้ามใจตัวเองและถอยห่างจากปลายฟ้า ในที่สุดนนท์ก็เผยธาตุแท้ออกมาว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษ อย่างที่สร้างภาพให้ใครๆเห็น ปลายฟ้าจึงขอตัดความสัมพันธ์กับนนท์ แต่นนท์ไม่พอใจจึงวางแผนกับอเล็กซ์ จัดฉากให้บุญชูกับ เคท (รฐกร สถิรบุตร) น้องสาวของอเล็กซ์ ดูเหมือนมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งจนปลายฟ้าเข้าใจผิด การผจญภัยอันน่าตื่นเต้นยังไม่จบเพียงเท่านั้น ทั้งหมดยังได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกครั้ง ได้พบกับเหล่าเสรีไทยและยุวชนทหารผู้ร่วมกันต่อต้านญี่ปุ่น และพบว่าอเล็กซ์กับพวกได้ปล้นทองคำ ของกองทัพญี่ปุ่นไปเป็นจำนวนมากแล้วข้ามมิติกลับกลับมา แต่สุดท้ายบุญชูและคณะก็สามารถชิงทองคำทั้งหมดกลับไปคืนให้กับรัฐบาลญี่ปุ่นได้สำเร็จ การผจญภัยสุดตื่นเต้นระทึกใจเกินคาดเดาของคณะเดินทางอีกมากมาย ติดตามชมความสนุกสนาน “โก๊ะ ๘ ตะลุยแดนมหัศจรรย์” ได้ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7 สี เริ่ม 28 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
เรื่องย่อ : โก๊ะ ๗ (2554/2011) “บุญชู” (อานัส ฬาพานิช) ลูกชายของพรานโก๊ะนายบ้านท่าแพ ได้มาอยู่ในโลกปัจจุบัน เป็นนักโบราณคดีหนุ่มที่ศึกษาค้นคว้า และตามเก็บสมบัติแห่งชาติไม่ให้ตกไปส่งมือโจร ชื่อเสียงของบุญโด่งดังในการค้นหาวัตถุลับค่ามากมาย จนทำให้ “อเล็กซ์” (ดนัย สมุทรโคจร) มาจ้างบุญชูตามหาหลุมฝั่งศพปู่เขาสมัยสงครามโลกครั้ง 2 บุญชูคิดมากเรื่องการเดินทางเพราะเสี่ยงอันตรายมาก และตัวเขาเองยังมีปัญหาที่ฝันถึง “ม่านฟ้า” (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) เจ้าหญิงแห่งปุระนครอยู่ตลอดเวลา
ในที่สุดบุญชูก็ยอมรับงานเพราะขาดเงินสนับสนุนงานวิจัย “จิ๊บ” (จิลล์ โรเจอร์), “สันต์” (อติรุจ สิงหอำพล) และ “ใบเตย” (ธิชาชา บุญเรืองขาว) ลูกทีมบุญชูเห็นชอบในการเดินทางครั้งนี้ บุญชูพาทุกคนเดินทางไปหา “พรานบุญ” (คมกฤช ยุตติยงค์) พรานคู่ใจ แต่เขาได้ตายจากแล้วผู้ใหญ่บ้านแนะนำ “พรานแดน” (ธัญญ์ ธนากร) เป็นผู้นำทาง พรานแดนแม้จะดูกะล่อนแต่บุญชูก็รู้สึกผูกพันทำให้ตกลงจ้างพรานแดนนำทาง แต่ไม่มีชาวบ้านยอมเป็นลูกหาบ “มังกะโบ” (ค่อม ชวนชื่น), “มะเจย” (โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม) และ “อาเจ” (คม ซุปเปอร์โจ๊ก) 3 กระเหรี่ยงที่หนีเข้าเมืองยอมรับอาสาเพราะรู้ความลับว่าอเล็กซ์จะไปหาสมบัติ ไม่ใช่ไปตามหลุมศพ
พรานแดน นำทางแบบมั่ว ๆ เข้าป่ามรณะ ทั้งคณะต้องเจอกับผีพรายจากการปากเสียของสันต์แต่ก็หนีรอดมาได้เพราะลม ตรีทูต ทำให้ทุกคนข้ามผ่านกาลเวลาหลงไปในยุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เจอกับ “ทามาดะ” (เอกพงษ์ ผูกพัน), “ฮาโตริ” (หยอง ลูกหยี) และ “ซึบะ” (จเร เชิญยิ้ม) ทหารญี่ปุ่นและได้เข้าไปช่วยเหลือ “กล้า” (โปรย ซุปเปอร์โจ๊ก) หัวหน้ากลุ่มเสรีไทยที่ถูก “หนานคำ” (อมตะ อินทานนท์) หักหลัง “บัวตอง” (ตั้งโอ๋ อรวรา) น้องสาวของกล้ารู้สึกผูกพันธ์กับแดนจนทำให้พัดหลงมาด้วยลมตรีทูตพาย้อนยุคเข้า สู่ยุดกรุงศรีอยุธยา และในยุคนี้ บุญชูได้พบกับ “รำเพย” (กุลธิดา พรพิชยานุรักษ์) เชลยสาวชาวไทยบุญชูและพรรคพวกได้ช่วยเหลือชาวบ้านให้รอดพ้นจากการเป็นเชลยจน ทำให้ “แม่ทัพใหญ่” (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) และ “เล่าอู” (ชูษี เชิญยิ้ม) ตายเป็นผีตามหลอกหลอน มังกะโบ, มะเจย และ อาเจ
พรานแดนพยายามจะพาทุกคนกลับโลกปัจจุบันแบบมั่ว ๆ โก๊ะ แต่แล้วจิ๊บถูก พญานาคศิงขร ดึงไปใต้น้ำ พรานแดนรีบลงไปช่วยเพราะได้ความช่วยเหลือจาก “กุมารทอง” (ด.ช.กริชษฎาพณ ชูพินิจ) บุญชู พยายามจะไปช่วยจิ๊บแต่ถูก “หลวงพ่อณาณ” (นงค์ เชิญยิ้ม) ห้ามไว้และส่งบุญชูข้ามมิติไปช่วยเหลือเจ้าหญิงม่านฟ้าสร้างกองกำลังต่อสู้กับพวกกบฏ แต่งานยังไม่สำเร็จก็ถูกพรานแดนดึงกลับมาสู่โลกปัจจุบันเสียก่อนบุญชูคิดมาก เรื่องเจ้าหญิงม่านฟ้า
บุญชูอยากไปปุระนครจริง ๆ เพื่อช่วยเจ้าหญิงม่านฟ้า แต่ระหว่างพวกเขาต้องฝ่าการผจญภัยกับ “จอมเมฆินทร์” (กวี วงศ์จันทรา) ผีดูดเลือดเมื่อผ่านมาได้ต้องมาเจอกับ 2 กลุ่มคนป่าก็คือ “ท่านแหม่มบา” (อ่าง เถิดเทิง) หัวหน้าผ่ากาดำ และ “ท่านวาซู” (โยกเยก เชิญยิ้ม) หัวหน้าผ่ากาขาว แต่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหญิงม่านฟ้า ที่ปลอมมาเป็นสาวชาวบ้าน ในที่สุดทุกคนได้ผ่านพ้นเรื่องวุ่น ๆ ไปช่วย เจ้าหญิงม่านฟ้า และ “เจ้าภูพิงค์” (กันต์ รัตนาภรณ์) พี่ชายของเจ้าหญิงม่านฟ้าจาก “อำมาตย์คำปัน” (นาท ภูวนัย) และ “คำลือ” (ธนายง ว่องตระกูล) 2 พ่อลูกที่คิดกบฏ โดยมี “สางลี” (ดามพ์ ดัสกร) ผู้ไม่มีวันตายจอมเวชมนต์ค่อยช่วยเหลือ แต่เพราะบารมีหลวงพ่อณาณทุกคนจึงรอดมาได้ แต่ไม่อาจช่วยเหลือ “เจ้าภูหลวง” (ยอดชาย เมฆสุวรรณ) เจ้าหลวงแห่งปุระนครไว้ทัน แม้จะปราบกบฏได้แต่ต้องสูญเสียพ่อทำให้เจ้าหญิงม่านฟ้าเสียใจมาก เจ้าภูพิงค์รับรู้ว่าน้องสาวรักผูกพันกับบุญชู จึงยอมปล่อยเจ้าหญิงม่านฟ้าให้ไปผจญภัยกับบุญชูแม้อาจจะไม่ได้เจอกันอีกก็ตาม
ทั้งคณะถูกลมตรีทูตพัดย้อนกลับไปสงครามโลกครั้งที่ 2 บัวตองได้กลับไปช่วยเหลือกล้าพี่ชาย และเปิดโปร่งหนานคำที่ทำทุกอย่างเพราะอยากได้สมบัติญี่ปุ่น ทำให้ทามาดะต้องสละชีพเพื่อช่วยเหลือทุกคนเพราะเขาหลงรักจิ๊บ บุญชูรู้ความลับว่าอเล็กซ์หวังสมบัติจึงขอยกเลิกข้อตกลงทั้งหมดและพร้อมจะพา ทุกคนกลับบ้าน แต่ลมตรีทูตพาทุกคนหลงเข้ามาในยุคอยุธยาอีกครั้ง และได้เจอกับ “พนา” (เกวลี เณรจิ๋ว) เด็กที่มีความสามรถคุยกับสัตว์ได้ เธอเป็นลูกสาวของ “ก้าน” (ฉัตร มงคลชัย) นายบ้านอำพันทั้งหมดต้องต่อสู้กับเสือสมิงที่แสนจะโหดร้าย แถมยังต้องมาเจอกับ “ตองสู” (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) และ “อาซาน” (ชูษี เชิญยิ้ม) ผีแม่ทัพใหญ่กับเล่าอูกลับชาติมาเกิดที่คอยตามราวี มังกะโบ, มะเจย และ อาเจ ที่คอยสร้างเรื่องปวดหัวให้บุญชู และพรานแดนตามแก้ให้ กว่าจะผ่านพ้นไปได้ทุกคนก็สะบักสะบอม
ทั้งคณะผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ จนทำให้จิ๊บกับพรานแดนเริ่มผูกพันธ์กันมากขึ้น ส่วนบุญชู และเจ้าหญิงม่านฟ้า ต่างก็เห็นอกเห็นใจกันจนกลายเป็นความรัก ในยุคอยุธยานี้ ทุกคนได้เจอกับ “แผน” (จรัญ งามดี), ทองดี, ทองใบ และ สีนวล ต่อสู้กับพม่า ทั้งหมดจึงเข้าช่วยเหลือ แต่กว่าจะผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ทั้งหมดต้องผจญกับความรักความแค้น ของ “จอระเด” (ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง) นายกองผู้โหดเหี้ยมและ “นายกองสุระเน” (ธิติวัฒน์ ธนวัฒน์ภัทร์กุล) ผู้อารีย์ ภายใต้การนำทัพของ “มังกะยอ” (สกล มงคลเกตุ) แต่ “เมยานี” (ธาราทิพย์ สุขดรุณพัฒน์) ลูกสาวของแม่ทัพกลับมีใจให้เชลยไทย “ซอเรยา” (รุ่งระวี บริจินดากุล) นางกำนัลคนสนิทคอย ช่วยเหลือ เจ้าหญิงม่านฟ้าเองก็เข้าใจผิดคิดว่าบุญชูมีใจให้สีนวล เจ้าหญิงม่านฟ้าน้อยใจจนถูกจับไปค่ายพม่า บุญชูลอบเข้าไปช่วยเจ้าหญิงม่านฟ้า จอระเด ให้ “มหาอิน” (ศุภคุณ สุรทวีคุณ) คนไทยที่ทรยศพวกเดียวกันไปสืบว่าใครมาช่วยเหลือเชลย พอรู้ว่าเป็นกลุ่มบุญชู และพรานแดน จอระเดจึงเข้าถล่ม ทั้งหมดเข้าต่อสู้ ใบเตยใช้ความชำนาญในการดัดแปลงอาวุธเข้าลุยกับข้าศึก โดยมีกำลังเสริม “ทวน” (อิทธิกร สาธุธรรม) ทหารพระเจ้าตากที่มาช่วยเหลือ “แก่น” (เกษหทัย เกษโกศล) น้องสาวที่ถูกจับเป็นเชลย ในที่สุดทั้งหมดก็ผ่านพ้นเรื่องร้าย ๆ ไปได้และกลับสู่โลกปัจจุบัน
พรานแดนระลึกได้ว่าเขาคือพรานโก๊ะกลับชาติมาเกิด และได้เจอกับบุญเรือนที่ต่างวัยกันมากแล้ว บุญเรือนขอให้พรานแดนเริ่มต้นใหม่กับจิ๊บ เพราะเธอคืออดีตไปแล้ว บุญชู กับเจ้าหญิงม่านฟ้าก็เข้าใจกัน เจ้าหญิงม่านฟ้าพร้อมจะอยู่กับบุญชูเพื่อผจญภัยค้นหาสมบัติแห่งชาติเพื่อเก็บรักษา เป็นทรัพย์แผ่นดินต่อไป….. ติดตามหาคำตอบได้ใน ละคร “โก๊ะ ๗” ที่ออกอากาศทุกวัน เวลา 18:45 น. เริ่มตอนแรก วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2554 ทาง ช่อง 7
เรื่องย่อ : ธิดาวานร 3 (2554/2011) อิยะ วดี หนีมาอยู่กับแม่มานาตาลี ไม่ยอมกลับเข้าเมือง มิใยใครจะมาขอร้องอ้อนวอน อิยะวดีก็ไม่ยอมกลับไป แต่ก็มิได้เพิกเฉยต่อการดูแลสัตว์เจ็บป่วยป้องกันไม่ให้โดนทำร้าย ขับไล่พวกบุกรุก ต้นน้ำลำธารและป่า มี มะเมี๊ยะ มาร่วมขบวนการ อิยะวดีกับพวกแม่มาเดินทางในป่าด้วยการโหนเถาวัลย์ ส่วนมะเมี๊ยะเดินทางในป่า ด้วยการใช้เส้นผมตวัดเกาะเกี่ยวกิ่งไม้ไปกับอิยะวดี และยังใช้เส้นผมทำร้ายผู้บุกรุกได้ด้วยทั้งสองมีความสุขมาก พนา บุราณ มาแวะเวียนหาเป็นประจำ รวมทั้ง อรุณี ละเอ พินิจ ดำรง และ บัวบาน ทุกคนขอร้องอิยะวดีให้กลับเข้าเมือง มีเพียงละเอคนเดียวที่กลับไปเยี่ยมบ้านให้พ่อหมอทำนายดวงชะตาของอิยะวดี ที่มีแต่เรื่องราวร้ายๆ แปลกประหลาดเกิดขึ้นบ่อย ๆ ทราบว่าอิยะวดียังไม่หมดกรรม จะต้องประสพเคราะห์กรรมใหญ่อีกครั้ง จากเงื้อมมือมนุษย์ด้วยกัน ละเอจึงเห็นด้วยที่อิยะวดีจะอยู่ในป่าไปสักพักจนกว่าจะหมดกรรม แต่ไม่มีใครเห็นด้วย เป็นเช่นนั้นอยู่สองปีผ่านไป
ในที่สุดอิยวะดีก็หนีกรรมไม่พ้นบัวบานไม่สบายต้องผ่าตัดใหญ่ อิยะวดีจำใจกลับเพราะรักแม่ห่วงแม่ มะเมี๊ยะออกมาจากป่ามาพักอยู่กับอรุณี อรุณีรับมะเมี๊ยะเป็นลูกเช่นเดียวกับที่เคยรับอิยะวดี บุราณคอยดูแลมะเมี๊ยะ ครูหอมนวล กลายเป็นเลขาและคู่หูคู่ซี้ของอรุณีคอยอบรมบอกกล่าวเรื่อง สังคมคนเมืองให้มะเมี๊ยะรับรู้แบบที่มะเมี๊ยะไม่เต็มใจ
ส่วน พวก คำรณ พวงมาลี(เอมฤดี) แสงแก้ว(นาถยา) พากันหลบหนีไปอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย หนีเข้า หนีออกไปมา อยู่พักหนึ่งอย่างลำบากยากแค้น ด้วยความที่ต้องพึ่งพาคำรณทำให้คำรณเริ่มมีอำนาจเหนือสองคนแม่ลูก แสงแก้วลุ้นให้พวงมาลีเป็นภรรยาของคำรณตามที่คำรณต้องการ หารู้ไม่ว่า คำรณแอบไปมีกิ๊ก เจ้าเล่ห์ชื่อ มายาวดี พวงมาลีตั้งท้องและคลอดลูกสาวชื่อ น้องไพร แต่คำรณยังคลางแคลงใจว่าอาจเป็นลูกติดท้องมากับแสนไท
มายาวดีพาคำรณไปพบกับ หม่องติ๊ด มาเฟียใหญ่แห่งสองชายแดน หม่องติ๊ดกำลังต้องการมือขวาชั้นดีแทนที่คนเก่าที่โดนยิงตายขณะต่อสู้กับ ตำรวจ คำรณ แสงแก้ว พวงมาลีและน้องไพร จึงมีชีวิตที่ดีขึ้นจากเงินบาป ทั้งสามสาบานว่าจะแก้แค้นพวกอิยะวดีและพนาให้ได้ คำรณเริ่มขยายเครือข่ายเข้ามาในเมือง เพื่อสืบเรื่องราวของพนาและอิยะวดี บางครั้งก็ย่ามใจลงทุนปลอมตัวมาเอง เช่นเดียวกันทางการก็ยังไม่เลิกตามหาตัวทั้งสามเอามาลงโทษตามกฎหมาย
วันที่ดำรงและบัวบานมารับอิยะวดีเข้าเมือง พนากับบุราณตั้งใจจะไปส่งอิยะวดีกับมะเมี๊ยะ แต่เกิดเหตุ มีคนมาตัดไม้ทำร้ายป่า เผาป่าฆ่าสัตว์ในป่า ทั้งหมดประกอบด้วยพรานเส็ง มะสังและลีกอ รีบไประงับเหตุด่วน อิยะวดีจึงกลับบ้านกับพ่อแม่ตามลำพัง ส่วนอรุณีกับหอมนวลมารับมะเมี๊ยะไปอยู่บ้านดอย ละเอ คัดค้านว่าอย่าเพิ่งไปรับอิยะวดี ไม่มีใครฟัง ละเอสุดทัดทานพยายามสวดมนต์ช่วยอิยะวดี ส่วนอิยะวดีนั่งรถมากับพ่อแม่กลับบ้าน แว่วได้ยินเสียงสวดมนต์ดังแว่วมาตลอดเวลา พึมพำสวดตามทั้งสามไม่รู้ตัวว่าสายของคำรณติดตาม กว่าจะรู้ตัวก็มาถึงจุดที่คำรณ พวงมาลี แสงแก้ว ดักรอทำร้าย
สาม คนโดนถล่มอย่างรุนแรงรถพลิกคว่ำระเบิด อิยะวดีกระเด็นออกมาจากรถทั้งที่ปากยังสวดมนต์ตามเสียงที่แว่วมา ส่วนดำรงกับบัวบาน เสียชีวิตติดอยู่ในรถ
พนากับบุราณ ระงับเหตุเสร็จ รีบติดตามมาเพราะห่วงประกอบกับบุราณสังหรณ์ใจในคำทำนายของละเอ แต่ก็พลาดไปเส้นยาแดงผ่าแปด ทั้งหมดมาพบรถพลิกคว่ำระเบิด พยายามจะเข้าไปช่วยกลับโดนพวกคำรณยิงปะทะใส่ พนาเห็นอิยะวดี กำลังตะเกียกตะกาย บาดเจ็บ พยายามฝ่าวงล้อมเข้าไปจะช่วย แต่ไม่ทัน อิยะวดีโดนรุกไล่คลานหนีจนตกลงไปในหน้าผาน้ำตกสูงลิ่วต่อหน้าต่อตา พนาจะกระโดดตาม แต่อิยะวดีลอยละลิ่วลงไปเบื้องล่างก่อน
อิยะวดีตกลงไปในกระแสน้ำเชี่ยวกราก พัดไหลไปไกลพอสมควร ศีรษะกระแทกโขดหินสลบไป กำลังจะจมน้ำ จระเข้ของมะเมี๊ยะมาว่ายน้ำเล่นพบเข้าจึงเอาตัวดันอิยะวดีมาเกยไว้ริมฝั่ง ลำธารแห่งหนึ่ง อิยะวดีสลบไปเจ็ดวันเจ็ดคืน ระหว่างที่สลบอยู่อิยะวดี ได้รับการดูแลจากลิงแฝดแสนรู้สองตัวพี่น้อง
อิ ยะวดีฟื้นขึ้นมา ความจำเสื่อม ไขว้เขว อิยะวดีเข้าใจว่าลิงสองตัวคือลิงอุอุ๊กับลิงอิอิ๊ที่พบในสวนสัตว์สิงค์โปร์ อิยะวดีทำตัวเป็นลิงเหมือนตอนเด็ก ๆ ตะโกนเรียกหาแม่มาแม่มาตลอดเวลา รอนแรมไปในป่ากับอุอุ๊ อิอิ๊ ลืมทุกอย่างเบื้องหลังจนหมดสิ้น แต่ยังคงรักสัตว์และดูแลสัตว์ในป่าต่อไป
พนา อรุณี จัดการพิธีศพของบัวบานและดำรงเสร็จรีบออกตามหาอิยะวดี ทั้งพี่นก แม่มานาตาลี ช่วยกันตามหาตลอดเวลาแต่ไม่พบ เพราะอิยะวดีไปไกลมากคนละเขตแดนป่า พวกแม่มานาตาลีเข้าไปไม่ได้ พี่นกหาจนพบ ทักทายอิยะวดีแต่อิยะวดีจำไม่ได้ อุอุ๊ อิอิ๊ช่วยกันไล่ส่งพี่นกไป พี่นกเสียใจมาก มะเมี๊ยะไปหาจระเข้ รู้ข่าวจากจระเข้ว่าพาอิยะวดีไปส่งไว้ริมลำธารแห่งหนึ่ง มะเมี๊ยะ พนา บุราณ ทุกคนไปยังริมลำธารดังกล่าวไม่พบอีก พนาพยายามสลักรูปหัวใจให้อิยะวดีเห็น และแล้ว คืนวันหนึ่งพนาได้ยินเสียงอิยะวดีตะโกนเรียกหาแม่มาแว่ว ๆ มาแต่ไกล
พนา รีบร้อนออกไปตามเสียงโดยไม่บอกใคร พนาได้พบอิยะวดีผมยาวขึ้น กู่ร้องอยู่บนต้นไม้ พนาเรียกอิยะวดี อิยะวดีไม่รู้จักพนา แถมทำท่าขู่ใส่พนา มิใยพนาจะพยายามอย่างไรอิยะวดีก็โกรธเช่นเดิม สุดท้ายลิงแฝดสองตัวออกมาขับไล่พนา ด้วยการระดมปาด้วยสารพันสิ่ง ส่วนอิยะวดีหนีหายไป พนาเสียใจผิดหวังมาก พาพรรคพวกตามหาอิยะวดีต่อไป
พบเจอกันหลายครั้ง พนาและพวกจึงสันนิษฐานได้ว่า อิยะวดีความจำเสื่อม หรือไม่ก็แกล้งทำไม่รู้จัก เพราะไม่อยากออกจากป่า แต่พนาก็ตั้งใจว่าจะพยายามต่อไปไม่สิ้นสุด จนกระทั่งสองปีผ่านไป คำรณ พวงมาลี แสงแก้วโดนไล่ล่าจากทางการทั้งเรื่องผิดกฎหมาย และเรื่องฆาตกรรมบัวบานกับดำรง ต้องหนีข้ามแดนไปกลับโชคร้าย เจอกองกำลังไม่ทราบฝ่ายผลักดันไล่ล่าจำต้องหนีหัวซุกหัวซุน
คำรณวางแผนจะเอาน้องไพรไปเป็นเหยื่อล่อเพื่อเบนความสนใจ แสงแก้วกับพวงมาลีตกใจมากจึงลอบเอายานอนหลับใส่ให้น้องไพรกินจับตะกร้าลอย น้ำ อธิษฐานให้ปลอดภัย พบคนใจดีมีเมตตาดูแล คำรณ
รู้เรื่องเนื่องจากแอบได้ยินสองแม่ลูกบอกกันว่าน้องไพรคือลูกของคำรณต่างหาก ส่วนลูกของแสนไทนั้นแท้งไปแล้ว คำรณยิ่งโกรธมากตบตีทำร้ายสองแม่ลูกอย่างรุนแรง แสงแก้วกับพวงมาลีนั่งกินน้ำตาแทนข้าวทุกวัน ตั้งใจว่าจะตามหาน้องไพรให้พบสักวัน คำรณก็เช่นกันเสียดายที่ทำให้น้องไพรต้องโดนลอยน้ำไปใจแทบขาด
น้องไพรลอยมาตามน้ำ อิยะวดีกำลังว่ายน้ำเล่นกับลิงอุอุ๊ อิอิ๊ พลางตะโกนเรียกหาแม่มา เจอรูปหัวใจที่ต้นไม้ที่ก้อนหิน ฉุกคิดหยุดมอง เหมือนจะจำได้ แต่ก็จำไม่ได้เพราะเลือนรางมาก การพูดจาก็กลับกลายเป็นพูดได้สั้นๆเป็นคำหรือสองสามคำ บางครั้งอิยะวดีก็เหม่อลอย ว้าเหว่ เหมือนคิดถึงอะไรบางอย่างได้แล้วก็เลือนหาย ขณะนั่งเหม่อลอยที่โขดหิน อุ๊อ๊อิอิ๊ ชี้ให้ดูตะกร้าลอยน้ำมา อิยะวดีกับสองลิง พากันไปเอามาเปิดดู เห็นเด็กน้อย วัยสี่ขวบหลับปุ๋ยอยู่ในตะกร้าผูกติดขอนไม้ท่อนใหญ่โดยรอบกันจมน้ำ อิยะวดีดีใจมากที่ได้พบมนุษย์ตัวเล็ก ๆ หลุดปากเรียกออกมาว่า ลูก ลูกมา อิยะวดีโอบกอดเห่กล่อมเป็นทำนองเพลง ฮัมไปมาไม่มีคำเนื้อร้อง ลิงแฝดสองตัวมาด้อมมองสงสัย ตื่นเต้นไปด้วย อิยะวดีกล่อมเด็กจนตัวเองเอาเด็กหลับคาอ้อมอก พักหนึ่งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเด็กร้องไห้ น้องไพรตื่นขึ้นมาตกใจแปลกที่ แปลกคนอุ้มแถมมีลิงสองตัวมองอยู่ น้องไพรตะโกนหาแม่แม่แม่ ๆ ๆ สลับร้องไห้ อิยะวดีตั้งตัวเป็นแม่ของน้องไพร ชี้ตัวเองว่าแม่มา มีภาพในหัวบังเกิดขึ้น เป็นลิงแม่มาโอบกอดเด็กน้อยไว้บนตัก
เด็กน้อยเรียกหาแม่มา ๆ ๆ ๆ ลิงแฝดไปหากล้วยหาผลไม้มาให้น้องไพรกิน อิยะวดีรักน้องไพรยิ่งกว่าใด ๆ น้องไพรก็รักอิยะวดีติดแจ เรียกแม่มาทุกคำ อิยะวดีเรียกน้องไพรว่า ลูกมา สองคนสื่อสารกันง่าย ๆ สั้น ๆ ทั้งภาษาใบ้ สายตาความรู้สึก และคำพูดสั้นแต่ซาบซึ้ง ที่เริ่มนึกได้ทีละน้อย เช่นรักลูกมา รักแม่มา อิยะวดีชี้บอกว่าลูกมาชื่ออะอ๊ะ บางครั้งฝันเห็นพนา ที่ฝันบ่อยที่สุดคือภาพบัวบานกับดำรงติดในรถที่ระเบิดไฟครอกตาย ฝันทีไร อิยะวดีจะกรีดร้องคำว่า แม่มาพ่อมา แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนหน้าพบน้องไพร ลิงแฝดปลอบโยน เช็ดน้ำตาให้กอดด้วย มาตอนนี้ มีน้องไพร เช็ดน้ำตากอดหอมแล้วร้องไห้ตาม ทำให้อิยะวดีหยุดร้องเพราะสงสารน้องไพร ที่น่าแปลกอีกอย่าง คือน้องไพรมีปานสีแดงรูปหัวใจคู่อยู่ที่แผ่นหลังถ้าใส่เสื้อผ้าจะไม่เห็น อิยะวดีพยายามคิดว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เอามาเปรียบเทียบกับที่พนาเขียนไว้ในบางแห่ง อิยะวดีเริ่มขีดเขียนรูปหัวใจบ้าง ทำให้พนาได้พบร่องรอยของอิยะวดีเพิ่มขึ้น
บุราณยังคงขึ้นร่องเชียงใหม่กรุงเทพเป็นประจำ พามะเมี๊ยะไปด้วย มะเมี๊ยะตื่นเต้นตกใจ กลัวผู้คนแปลกหน้า แต่บุราณคอยปลอบโยน บุราณพามะเมี๊ยะไปพบเพื่อนฝูง บางคนหัวเราะเยาะมองความไร้เดียงสาของมะเมี๊ยะเป็นความเปิ่นความโง่เขลาตัว ตลก โดยเฉพาะ พิยะดา กับเพื่อนที่หมายปองบุราณ ชอบแอบกลั่นแกล้ง จนมะเมี๊ยะขวัญเสีย วิ่งหนีเตลิดเปิดเปิง ตามหาตัวกันจ้าละหวั่น มะเมี๊ยะหนีด้วยการเอาเส้นผมตวัดตามที่สูง หนีลงไปบ่อจระเข้สร้างความแตกตื่นไปทั้งเมือง จระเข้ไม่กัดมะเมี๊ยะแถมทำท่าสยบ หนังสือพิมพ์ลงข่าว ทีวีมาถ่าย บุราณต้องขอร้องให้ยุติทั้งหมด ไปให้ห่างที่สุด มะเมี๊ยะจึงยอมมาหาบุราณ บุราณพามะเมี๊ยะกลับมาเชียงใหม่ ครูหอมนวลกับอรุณีดูแล มีแอนโตนิโอเป็นเพื่อน ไปเยี่ยมจระเข้บ้าง แอนโตนิโอเกิดปัญหากับหอมนวล น้อยใจว่าอรุณีรักหอมนวลสนิทกับหอมนวลมากกว่าตัวเอง หนีออกจากบ้าน มะเมี๊ยะต้องออกติดตามไปรับกลับมา
การ ตามหาอิยะวดีของพวกพนา มะเมี๊ยะ บุราณ แม่มานาตาลีดำเนินต่อไป พนาทุกข์ใจกว่าใคร ๆ ละเอนั่งสมาธิมองหาและส่งเสียงเรียกอิยะวดี อิยวะดีได้ยินแต่จำไม่ได้ว่าตัวเองชื่ออิยะวดี มะเมี๊ยะส่งจระเข้ออกตามหาเผื่อว่าอิยะวดีจะมาเล่นน้ำตามลำธาร ในที่สุดก็ได้ร่องรอยของอิยะวดีเพราะพ่อหมอข้ามฝากมาช่วยเพ่งมองหา ทุกคนจึงพากันติดตามหาอิยะวดีตามร่องรอยที่พ่อหมอบอกให้ คำรณข่มขู่คุกคามสองแม่ลูกจนหงอ ไม่กล้าหือสองคนเริ่มเสียใจในสิ่งที่ทำไปทีละน้อย อยากจะหนีจากคำรณเพื่อไปตามน้องไพร คำรณก็ไปลากตัวกลับมาทุกครั้ง คำรณเข้ากับมายาวดีกิ๊กใหม่ ได้ดีมาก
หม่องติ๊ด สร้างเมืองแม่ม้ายให้มายาวดีหลอก ฉุดคร่ากักขังหน่วงเหนี่ยวสาวสวยจำนวนมาไว้ให้อาณาจักรที่สร้างภาพว่าเป็น เมืองแม่ม้าย หรือเมืองคนอกหัก ไม่กินเนื้อสัตว์ รักษาศีล หลอกคนแก่เอาไว้เป็นคนรับใช้ มีพวกทอมเป็นบอร์ดี้การ์ด พวกสาวสวย มาแล้วมักหายไป มายาวดีบอกทุกคนคือพวกนั้นฟื้นฟูจิตใจดีแล้วจึงขอกลับบ้าน แต่ความจริงถูกส่งไปขาย มายาวดีมีลูกน้องฝาแฝดสวยงามแต่ชั่วร้ายสองคนชื่อ เมธาวดี และมาธาวดี คอยช่วยมายาวดีหลอกล่อหญิงสาวและหญิงแก่มากักขัง
มายาวดีอิจฉาพวงมาลีที่สาวสวยกว่า แม้ว่าคำรณจะดูมีความสุขกับมายาวดี แต่มายาวดีรู้ดีว่าคำรณรักพวงมาลีมากที่สุด จึงหาทางแกล้งจับตัวสองแม่ลูกไปไว้ในเมืองแม่ม้ายของตัวเอง ตั้งใจจะเอาพวงมาลีไปขายต่อ ส่วนแสงแก้วเอาไปรับใช้ ใช้วิธีตีสนิทแล้วหลอกสองคนว่าจะพาหนีให้พ้นจากคำรณ ที่แท้เอาไปกักขัง
เวลาผ่านไปอีกสองปีอิยะวดี เริ่มนึกภาพเก่า ๆ ได้มากขึ้น ได้ยินเสียงเรียกของละเอบ่อยเข้า อิยะวดีเริ่มอยากรู้ว่าใครคืออิยะวดี เสียงเรียกนั้นเริ่มดังใกล้มากขึ้น อิยะวดีขีดรูปปานหัวใจของลูกมาอะอ๊ะ ไว้ตามต้นไม้ ทำให้พนาเริ่มมีกำลังใจเพราะพบสัญลักษณ์ที่เคยมีต่อกันไว้
ลิงอุ๊อุ๊อิอิ๊ สอดรู้สอดเห็นกองคาราวานของพวกพนา ที่รอนแรมมาตามหาอิยะวดีเห็นอาหาร น่ากิน เสื้อผ้าของพวกพนา แอบหยิบฉวยขโมยมาให้อิยะวดีกับอะอ๊ะ อิยะวดีมองผ้ามองของที่ได้มา คุ้นเคยมาก จึงพยายามคิดว่าจะเอามาทำอย่างไร ในที่สุดจิตใต้สำนึกก็บอกให้อิยะวดีทำเสื้อผ้าจากที่ได้มาให้อะอ๊ะใส่ เอาอาหารกระป๋องมาเปิดกินพวกพนาแปลกใจมากเพราะของหายทุกวัน บางทีหายกลางวัน บางทีหายกลางคืน จึงวางแผนล่อจับขโมย พบว่าผู้ที่ขโมยคือลิงสองตัว จึงพากันสะกดรอยตามลิงทั้งสอง
มะเมี๊ยะเอาเส้นผมตวัดรัดลิงสองตัวไว้ได้ ลิงร้องโวยวาย อิยะวดีตกใจออกมาช่วยลิงทั้งสอง โดยมีอะอ๊ะติดหลังมาด้วย พนา บุราณ มะเมี๊ยะถึงแก่ตะลึง เพราะผู้ที่มาช่วยคืออิยะวดีนั่นเอง แต่อิยะวดีไม่ยอมรู้จักทุกคน พยายามจะเล่นงานทุกคนแบบเอาเป็นเอาตาย
น้อง ไพรเห็น พนา บุราณ ดีใจมากตะโกนเรียกพ่อพ่อมา อิยะวดี ขณะที่อิยะวดีและลิงจะเพลี่ยงพล้ำโดนพวกพนาจับได้ เกิดพายุใหญ่กระหน่ำพัดมา อิยะวดีน้องไพรลิงแฝดหนีไปอยู่บนต้นไม้ พายุถอนรากถอนโคนปลิวไปต่อหน้าต่อทุกคนที่พยายามจะเจรจากับอิยะวดี ทุกคนกับอิยะวดีจึงพลัดพรากจากกันอีกครั้ง
ต้นไม้ลอยตามแรงพายุไปตกใกล้เมืองแม่ม้ายของมายาวดี ทุกคนสลบทั้งลิงอิยะวดีน้องไพร พวกพนาก็บาดเจ็บเสบียงปลิวหายหมด ต้องกลับบ้านมือเปล่าอีกครั้ง พวกอิยะวดีฟื้นขึ้นมา พบว่าลอยมาไกลมาก หิวโหยและบาดเจ็บ ได้ยินเสียงเพลงแว่วมาจากไม่ใกล้ไม่ไกล อิยะวดีกระเตงลูกมา มีลิงแฝดลัดเลาะไปตามต้นไม้ตามเสียงเพลง มองเห็นอาณาบริเวณสวยสดงดงามมีลำธาร มีบ้านเล็กบ้านน้อย เต็มไปหมด อิยะวดีรู้ทันทีว่าที่นี่มีคนมีอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ประกอบกับเห็นหญิงสาวสวยแต่งกายแปลก ๆ ออกแนวโบราณกำลังร้องรำทำเพลง มีมายาวดี เมธาวดีประกอบซ้ายขวาเหมือนองครักษ์ กำลังชมการแสดงของพวกสาวสวย พวกคนแก่กำลังพัดวีให้ อิยะวดีและพวกดีใจตื่นตาตื่นใจมาก ที่สุดลิงแฝดลักลอบขโมยอาหารและเสื้อผ้าของพวกเมืองแม่ม้ายมาให้ลูกมากับอิ ยะวดีดัดแปลงใส่แทนตัวเก่าที่ฉีกขาด
อิยะวดีนึกได้จากส่วนลึกของจิตใจ ว่าควรมีเสื้อผ้าเปลี่ยนให้น้องไพร ควรทำผมสวย ๆ ให้น้องไพร อิยะวดีจึงคิดปักหลักใกล้เมืองแม่ม้ายเพราะอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ น้องไพรจะได้สบายขึ้น อิยะวดีทำซุ้มโพรงหรือเข้าไปอยู่ในถ้ำ ใกล้เมืองแม่ม้าย พวกในเมืองแม่ม้าย เริ่มแปลกใจทะเลาะตบตีกันเอง หาว่ามีการขโมยของเช่นเสื้อผ้าและอาหารของกันและกัน ความแตกตอนที่พวงมาลีกับแสงแก้วที่โดนจับมากำลังหลับสนิทเพราะอ่อนเพลีย โดนลิงแฝดมาขโมยอาหารและเสื้อผ้า ทำให้มายาวดีรู้ว่าที่แท้ไม่มีใครขะโมยกันเองแต่เป็นลิง คิดว่าเป็นลิงซุกซน จึงไม่สนใจให้ป้องกันของกันเอง
พวกพนาพักฟื้นเพียงไม่กี่วันก็ออกเดินทางต่อไปในทิศทางที่เห็นต้นไม้ลอยไป วันก่อน แต่ไม่ง่ายเหมือนครั้งก่อน เนื่องจากไม่มีสัญลักษณ์หัวใจคู่ที่อิยะวดีเคยทำไว้พนาไปเจอเอาพวกของมาเฟีย หม่องติ๊ด นำโดยคำรณแต่ปิดหน้าพรางเอาไว้ พนาจึงไม่รู้ว่าคือคำรณที่ออกตามหา แสงแก้วและพวงมาลีเพราะคิดว่าหนีหายไปไม่รู้ว่าโดนมายาวดีหลอกไปขัง คำรณฉวยโอกาสเล่นงานพนากับพวก
บุราณ บาดเจ็บ มะเมี๊ยะพากระโดดน้ำดำหายลงไปในลำธาร พลางเอาผมสะบัดสู้ใส่พวกสมุน คำรณจึงรอดหนีไปได้ และพยายามจะช่วย พนาที่บาดเจ็บจนมุมกำลังจะโดนฆ่า อิยะวดีพาน้องไพรใส่หลังออกมาเล่นน้ำริมลำธาร พนาเห็นอิยะวดีตะโกนบอก อิยะวดีช่วยพนาด้วย อิยะวดีได้ยินคำว่าพนา เหมือนได้ยินชื่อที่ติดในหัวใจ น้องไพรจำพนาได้เรียกพนาว่าพ่อมา มาพ่อมา ช่วยพ่อมา อิยะวดีตัดสินใจช่วยพนา คำรณเห็นอิยะวดีมาช่วยพนา มีเด็กมาด้วย เข้าใจว่าเป็นลูกของพนากับอิยะวดีไม่รู้ว่าที่แท้ลูกตัวเองเพราะจากกันหลาย ปีทำให้จำหน้าเด็กไม่ได้ (ตอนที่ใส่ตะกร้ามากับตอนนี้ให้คนละคนไม่อย่างนั้นจะหน้าหมือนกันหรือไม่ก็ ทำผมคนละแบบ )คำรณอิจฉาที่สองคนมีลูกจึงคิดฆ่าทั้งสามคน ปาด้วยระเบิด แต่ลิงแฝดรับระเบิดไว้ได้ ปากลับใส่พวกคำรณหนีกันกระเจิดกระเจิง
อิยะวดีพาพนามารักษาอยู่นานพอสมควร ลิงแฝดขโมยเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มอาหารและหายาสมุนไพรมารักษาพนาจนอาการดี เป็นลำดับ น้องไพรติดพนาหนึบเรียกพนาว่าพ่อมาเรียกตัวเองว่าลูกมาอะอ๊ะ ช่วงนี้พนามีความสุขมาก มีอิยะวดีดูแล แม้จะยังความจำเสื่อม แต่พนาได้โอกาสเจ็บไม่เลิกค่อย ๆ สะกิดความจำของอิยะวดีให้รื้อฟื้น อิยะวดีกับพนาเหมือนคนรักกันครั้งใหม่ ต่างพอใจกันและกัน แต่แล้วก็เกิดอุปสรรคอีกจนได้
คำรณบอกกับมายาวดีให้จับตัวอิยะวดีไปยกให้หม่องติ๊ด มายาวดีรู้ว่าอิยะวดีคือหัวหน้าลิงสองตัวที่มาขโมย จึงรับปากหาทางจับอิยะวดี ในที่สุดก็จับสำเร็จ พนาที่กำลังจะสัมฤทธิ์ผลเรื่องพาอิยะวดีและน้องไพรกลับบ้านคอยแล้วคอยอีก อิยะวดีไม่กลับมาพนาจำต้องอยู่ต่อไปเพื่อดูแลน้องไพรที่ร้องไห้ เรียกแม่มา ๆ ๆ ตลอดเวลา
อิยะวดีโดนจับไปขังรวมกับสองแม่ลูก แสงแก้ว พวงมาลี ครั้งแรกมายาวดีตั้งใจจะส่งพวงมาลีให้หม่องติ๊ด แต่มาพบอิยะวดีจึงตัดสินใจส่งให้ทั้งสองคน อิยะวดีต้องอยู่รวมกับพวงมาลีและแสงแก้ว ที่ยังคงเกลียดชังและจ้องเล่นงาน อิยะวดีจำสองคนไม่ได้ แต่สองคนจำอิยะวดีได้ ทั้งสามจึงมีปัญหาตลอดเวลา ทะเลาะตบตีกันจนป่วนไปหมด ถึงเวลาพาสองคนไปมอบตัวให้หม่องติ๊ดในตัวเมือง อิยะวดีคิดแผนหนีตลอดทาง พวงมาลีเอาแต่ร้องไห้ อิยะวดีจะหนีกลับไปหาพนากับอะอ๊ะ พวงมาลีรู้ดีว่าอิยะวดีเก่งต้องพาหนีได้จึงหลอกล่อให้พาหนี
อิยะวดีก็พาพวงมาลีหนีมาได้ พวงมาลีขอร้องให้อิยะวดีกลับไปช่วยแสงแก้ว อิยะวดีรับปาก แต่ขณะที่กำลังจะพาแสงแก้วออกมา อิยะวดีวางแผนจะพาทุกคนหนีเพราะรู้ว่า ทุกคนโดนหลอก ป่วนไปทั้งเมืองทุกคนหนีได้ปลอดภัย แต่คนที่โดนจับกลับเป็นอิยะวดี เพราะโดนสองแม่ลูกหักหลังตะโกนเรียกการ์ดมาจับ อิยะวดีโดนจับไปทรมาณอย่างทารุณ
พนา ตัดสินใจพาน้องไพรบุกไปที่เมืองแม่ม้าย เพราะพบสัญลักษณ์ที่อิยะวดีทิ้งไว้ ลิงแฝดขโมยยานอนหลับของมายาวดีมาแอบใส่ให้พวกการ์ดของมายาวดีกิน เข้าไปช่วยอิยะวดีออกมาได้ พนาอ้อนวอนให้อิยะวดีตามไปกับพนาเพื่อเห็นแก่น้องไพรสำเร็จ
แสงแก้ว พวงมาลีหนีออกมาได้ หันไปค้าของผิดกฎหมายเพื่อยังชีวิต เพื่อมีเงินตามหาน้องไพร ไม่ได้ย้อนกลับไปหาคำรณอีก คำรณยังคงตามหาน้องไพรกับพวงมาลี และเริ่มเบื่อหน่ายมีปัญหากับมายาวดี คำรณคิดตั้งตัวเป็นใหญ่หักหลังหม่องติ๊ด วางแผนการใหญ่หลอกใช้มายาวดี ในที่สุดมายาวดีกับหม่องติ๊ดก็ติดกับดัก คำรณแอบแจ้งทางการว่าเป็นผู้หวังดี ว่ามีการส่งมอบของผิดกฎหมาย คำรณแอบยักยอกของหม่องติ๊ดเกือบทั้งหมดใส่ในกล่องนมเด็ก เพื่อส่งมอบให้เอเยนต์รายใหญ่หน้าใหม่ ซึ่งที่แท้ก็คือพวงมาลีและแสงแก้วนั่นเอง ทั้งสามพบกันคืนดีกันอีกครั้ง
พนาพาอิยะวดี กับอะอ๊ะกลับเข้ามือง มีอุอุ๊ อิอิ๊มาส่งถึงชายเขตป่า มีแม่มานาตาลีมารับที่เขตแดนของตัวเอง อิยะวดีพยายามทำทุกอย่างเพื่อน้องไพร ด้วยความอดทน แม้ว่าจะอยากกลับเข้าไปในป่าก็ตาม มีบางครั้งอิยะวดีพาน้องไพรและมะเมี๊ยะไปดูแลสัตว์ในป่า ขอไปเยี่ยมลิงแฝดบ้าง พนารับปาก พี่นกสื่อข่าวนัดหมายให้ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ คำรณ พวงมาลี แสงแก้วส่งยาเสพย์ติด และออกตามหาน้องไพร ลิงแฝดสองตัวพบเห็นการขนยาของทั้งสามจึงบอกพี่นกให้รู้มาแจ้งกับอิยะวดี พนาแจ้งต่อกับเจ้าพนักงาน
พวกคำรณก็สืบทราบเช่นกันว่า พวกพนากำลังพากันมาในป่า จึงจัดการวางแผนสังหารหมู่พวกพนา ในที่สุดทั้งสองฝ่ายมาพบกันปะทะกัน ฝ่ายพนาอาวุธสู้ไม่ได้จึงเริ่มพ่ายแพ้น้องไพรตกใจวิ่งหนีออกไปกลางวงปะทะ พวกคำรณจับเด็กมาเป็นตัวประกันโดยไม่รู้ว่านั่นคือลูกหลานตัวเอง หลอกล่อให้พนากับอิยะวดีออกมาให้สังหารหมู่สามคนพ่อแม่ลูก อิยะวดีกับพนาถลันตามมาจะเอาน้องไพรคืน
น้อง ไพรสลัดมือจากพวงมาลีกัดแสงแก้ว เพื่อให้หลุดพ้นไปหาอิยะวดีกับนาตาลีโดยเร็วทำให้เสื้อด้านหลังขาด เห็นแผ่นหลัง ขณะที่คำรณขว้างระเบิดใส่สามคนที่กำลังกอดกัน พวงมาลีตกตะลึงเพราะมองเห็นปานแดงรูปหัวใจคู่ของน้องไพร เช่นเดียวกับแสงแก้วที่เห็นปานแดงนั้น สองคนตะโกนเรียกน้องไพร และห้ามคำรณไม่ให้ขว้างระเบิดใส่น้องไพรลูกตัวเอง ไม่ทันแล้ว คำรณขว้างมา พนารวบน้องไพรดึงอิยะวดีกระโดดหลบ มีมะเมี๊ยะตวัดเส้นผมปัดระเบิดกระเด็นไปโดนเอาแสงแก้วกับพวงมาลีที่วิ่งไปหา น้องไพรระเบิดโดนสองคนเข้าเต็ม ๆ
คำรณแทนที่จะช่วย สองคนกลับหนี โชคร้ายเจอเอาหม่องติ๊ดกับมายาวดีที่แหกคุกออกมายิงคำรณต้องหนีกลับมาที่แสง แก้วและพวงมาลี ตำรวจมาสมทบทันเวลาจับพวกหม่องติ๊ดได้ คำรณพวงมาลี แสงแก้ว มาสารภาพผิดกับอิยะวดี เด็กที่รับรู้แล้วว่าอะอ๊ะคือลูกสาวของพวงมาลีกับคำรณ พยายามขอกอดน้องไพรก่อนตาย แต่น้องไพรไม่ยอมเข้าไปหาทั้งที่อิยะวดีกับพนาขอร้องให้ไปหาสามคน มิหนำซ้ำยังบอกตะโกนว่าเกลียด ๆ ๆ ใส่สามคน สามคนเสียใจเจ็บช้ำรู้สึกถึงการสูญเสียที่เคยทำกับอิยะวดีแต่ก็สายเกินไป จึงขอฝากให้ดูแลน้องไพรด้วย พนากับอิยะวดีรับปาก
หลังจากเหตุการณ์ร้ายผ่านไป อิยะวดีกลับมาอยู่บ้านดูแลน้องไพรให้มีชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป อิยะวดีทำหน้าที่พิทักษ์ป่าร่วมกับพนา ร่วมกับบุราณและมะเมี๊ยะ พ่อหมอบอกว่าอิยะวดีหมดกรรมแล้ว ต่อไปนี้ชีวิตมีแต่ดีงามตลอดไป อิยะวดีตัดสินใจร่วมชีวิตกับพนามีลูกเป็นน้องไพร มะเมี๊ยะกับบุราณก็ตัดสินใจร่วมชีวิตกัน มีการฉลอง ท่ามกลางฝูงสัตว์ในป่า ไม่มีการเลี้ยงหรูหราไม่มีการแต่งตัวสวยงาม แต่ทุกคนก็ยินดีมีความสุขสนุขกันทั่วหน้า อย่าลืมติดตามชม ละครธิดาวานร 3 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.40 น. ทางช่อง 7 สี
เรื่องย่อ : โก๊ะซ่า ท้ามิติ (2552/2009) เปิดเรื่องต่อจากภาคสอง เมื่อพรานโก๊ะ (วุธ-อัษฏาวุธ เหลืองสุนทร) และเหล่านักศึกษาช่วยให้ชาวท่าแพชนะศึก และเหล่านักศึกษาพากันเดินทางกลับไปยังมิติเวลาของตัวเอง ทำให้บ้านท่าแพกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง แต่นายกองจอระแน (ค่อม ชวนชื่น) และทหารข้าศึก รวมทั้งเล่าอู (ชูษี เชิญยิ้ม) ที่พ่ายแพ้กลับไปได้ถูกแม่ทัพใหญ่ (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) สั่งลงโทษและสืบสวนหาความจริงว่าทำไมถึงสู้ชาวบ้านที่มีเพียงหยิบมือเดียวไม่ได้ เมื่อรู้ว่าทหารต้องพ่ายแพ้กับกลุ่มหนุ่มสาวที่เรียกตัวเองว่านักศึกษา และยังได้เห็นรูปถ่ายของจ๋อมหรือจอมขวัญ (จิลล์ โรเจอร์) ที่เล่าอูนำติดตัวมา แม่ทัพก็เกิดความสนใจเพราะจ๋อมมีหน้าตาคล้ายกับภรรยาของตัวเองที่เสียชีวิตไปแล้ว จึงสั่งให้นายกองจอระแนทำการแก้ตัวใหม่ยกทัพมาพร้อมกับมังสอยู (จุ๊บ-อิทธิกร สาธุธรรม) ผู้เป็นบุตรชาย ไปบุกบ้านท่าแพอีกครั้ง ซึ่งพรานโก๊ะกับชาวบ้านไม่มีพวกนักศึกษาคอยช่วยเหลือก็สู้ไม่ได้ บ้านท่าแพจึงถูกตีทำลายแหลก และทำให้บุญหลายกับดาวเรืองถูกทหารฆ่าศึกฆ่าตาย ส่วนพรานโก๊ะก็ถูกทำร้ายจนสลบไป ส่วนเฒ่าหอม (ชุมพร เทพพิทักษ์) กับบุญชู (นราธิษณ์ ภรธนเดช) หนีไปได้ และได้กลับมาช่วยพรานโก๊ะให้ฟื้น แต่ปรากฏว่าพรานโก๊ะความจำเสื่อม จำใครไม่ได้ทั้งนั้น สองตาหลานจึงพยายามหาทางรักษาและได้ขอความช่วยเหลือจากดอกรัก (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) กับ รานี (ฮาย อาภาพร นครสวรรค์) ที่กลับไปยังดินแดนของตัวเอง รวมทั้งไปหาหาญที่บ้านท่าสร้าง แต่กลับพบ เหิน (ปราบปฏล สุวรรณบาง) ที่เป็นน้องชาย แต่ไม่มีใครรักษาพรายโก๊ะได้ ทุกคนจึงตัดสินใจพาพรานโก๊ะทะลุมิติสู่เวลาปัจจุบันด้วยหวังว่าพวกนักศึกษา หรือหลวงตามั่น (นงค์ เชิญยิ้ม) อาจหาทางรักษาพรานโก๊ะได้ ส่วนพวกนายกองจอระแนและเล่าอูแม้จะมีชัยแต่ก็ไม่ได้อะไรมานอกจากมือเปล่า แม่ทัพใหญ่จึงสั่งให้ทุกคนติดตามพวกนักศึกษามาให้ได้ เพราะเล่าอูเสนอว่าพวกเขาอาจจะหาทางไปยังโลกของนักศึกษาได้ จึงติดตามขบวนพวกพรานโก๊ะมา เฒ่าหอมและบุญชูพาพรานโก๊ะทะลุมิติเวลามาพบกับบุญเรือน (เมย์ อรวรรษา ฐานวิเศษ) พรานสาวชาวกระเหรี่ยงที่มีใบหน้าเหมือนบุญหลาย แต่นิสัยขี้โมโหคล้ายกับพรานโก๊ะ บุญเรือนไม่ยอมเชื่อว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับบุญหลาย และรู้สึกตลกเมื่อถูกเด็กหนุ่มอย่างบุญชูมาเรียกว่าแม่ แต่ก็จับพลัดจับผลูตามทุกคนเข้ากรุงเทพฯ เช่นเดียวกับพวกนายกองจอระแนและเล่าอูที่เดินทางเข้ากรุงอย่างทุลักทุเล เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องในกรุงเทพปัจจุบันสักเท่าไหร่ จึงสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับทุกคนที่พบเห็นรวมทั้งพวกของตนเองด้วย โดยเฉพาะเมื่อเหล่านายกองจอระแนและพวกข้าศึกไปเห็นปืนใหญ่ที่หน้ากระทรวงกลาโหม และพยายามจะเอาไปเป็นอาวุธสำคัญ ทุกคนที่เห็นเลยนึกว่าพวกนี้เป็นคนบ้าหรือไม่ก็เมายาจนเพี้ยนไป ขบวนของพรานโก๊ะตามมาจนพบ โอสถ (เอ๊าะ กีรติ เทพธัญญ์) ก็ทราบว่าโอสถเรียนจบแล้ว และได้เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความจนของโอสถ จึงเป็นเหตุให้พ่อแม่ของจอมขวัญสาวคนรักกีดกันความรัก และบังคับให้จอมขวัญหมั้นหมายไปกับเทพวิมาน (นัท อติรุจ สิงหอำพล) หนุ่มหล่อพ่อรวย ที่ตนเองไม่เต็มใจและจู้จี้ (โยโย่ ศิมลมาศ) น้องสาวก็ไม่ชอบหน้าเทพวิมานเหมือนกัน โอสถพยายามรักษาพรานโก๊ะแต่ก็ยังไม่ได้ผล ซึ่งพอดีกับพวกของนายกองจอระแนและเล่าอูได้บังเอิญพบกับจอมขวัญและจู้จี้ จึงจับตัวทั้งสองและหาทางกลับไปสู่มิติเวลาของตนเอง โอสถจึงตัดสินใจชวนพรรคพวกออกตามหา เพราะพ่อแม่ของจอมขวัญให้คำมั่นว่า ถ้าใครพาจอมขวัญกลับมาได้ ย่อมเหมาะที่จะดูแลชีวิตจอมขวัญตลอดไป ส่วนอีกทางหนึ่งก็เพื่อรักษาความจำของพรานโก๊ะ เพราะคิดว่าถ้าได้เห็นบรรยากาศเก่า ๆ ความจำของพรานโก๊ะอาจกลับมา ขบวนการตามล่าตามรักจึงเกิดขึ้น โอสถจะช่วยสาวคนรักได้หรือไม่ จอมขวัญในเงื้อมือของแม่ทัพใหญ่ที่คิดว่าภรรยาของตนกลับชาติมาเกิดจะเป็น อย่างไร และพรานโก๊ะจะหายจากความจำเสื่อมได้หหรือไม่ และเมื่อหายจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าบุญหลายเมียรักเสียชีวิตไปแล้ว พบความตื่นเต้นสนุกสนานนี้ได้ ในละครโก๊ะซ่า ท้ามิติ เริ่มวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2552 เวลา 18.45 น. ทุกวัน ทางช่อง 7 สี
เรื่องย่อ : ธิดาวานร 2 (2552/2009) อิยะวดี (อาเมเรีย จาคอป) ถูกจับบูชายันต์ใส่ชุดออกแนวขอมผสมล้านนา ปล่อยผมสยายถูกตรึงอยู่บนแท่นไม้ มีไฟอยู่ด้านล่าง อิยะวดีใส่เครื่องทับทิมสีแดงเต็มยศ มีบรรดาหญิงสาวสวยมากมายแต่งตัวสวยเช่นกันห้อมล้อมอยู่ มีลิงสองตัวพยายามจะเข้าไปที่แท่นบูชาแต่โดนจับไว้ ที่อิยะวดีบอกกล่าวกับทุกคนในที่นั้นไว้ว่าจะขอเฝ้ารักษาขุมทรัพย์แห่ง สุสานอัญมณีเพื่อป้องกันและทวงคืนอัญมณีจากผู้บุกรุกทุกชาติภพไปตราบจนกว่า ผู้บุกรุกเหล่านั้นจะอ่อนล้าและหมดกำลังไม่สามารถมาปล้นอัญมณีที่สุสานแห่ง นี้ได้อีก ขาดคำเห็น สะมะแอ (ชุมพร เทพพิทักษ์) แสนไท (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์)เจ้ากุนริกา แห่งรมยนคร และทหารผู้บุกรุกกำลังขนอัญมณีและทำร้ายหญิงสาวทั้งหลาย มีฝูงลิงกำลังช่วยกันต่อสู้ต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น เพราะเกิดไฟลุกท่วมสรรพสิ่งทั้งหลายระเบิดเป็นจุล พวกบุกรุกร้องโอดโอย เห็นหน้าของอิยะวดียิ้มพอใจในกองเพลิง ในที่สุดผู้บุกรุกก็เสียชีวิต นี่คือความฝันของอิยะวดีนั่นเอง
เรื่องย่อ : ธิดาวานร (2551/2008) ธิดาวานรเป็นเรื่องแฟนตาซีแนวหนังวอลท์ดิสนี่เพื่อเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ เช่นผืนป่า ต้นไม้ ลำธาร และสัตว์ทั้งหลายในป่า ต้องการให้คนที่ชมเรื่องนี้ เกิดความรักธรรมชาติ และสนใจเรื่องภาวะโลกร้อน เพราะการรักษาดูแลธรรมชาติคือสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ลดภาวะโลกร้อน ป้องกันการเกิดภัยธรรมชาติ เช่นน้ำท่วม เป็นการเดินเรื่องราวผจญภัยของเด็กน้อยจนเป็นสาวชื่อเมงกาเลียที่มาพลัดหลงอยู่ในป่า จนกระทั่งออกจากป่าและได้พบกับสิ่งเลวร้าย จนในที่สุดพบครอบครัวอันเป็นที่รักคือพ่อและปู่ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานของการนำเสนอ หนูน้อยเมงกาเลีย วัยห้าขวบลูกสาวของ นายดำรง เศรษฐีหนุ่มหล่อภาคเหนือกับภรรยาสาวสวยชื่อ บัวบาน เมงกาเลียมีพี่เลี้ยงชื่อ ละเอ มาจากอีกฟากฝั่งของแม่น้ำเมยที่เชียงราย ละเอจงรักภักดีต่อคุณหนูของเธอมาก ตั้งชื่อเล่นให้หนูน้อยว่าเมงกาเลีย แต่ชื่อจริงคือกาสะลอง ละเอค่อนข้างออกแนวไสยศาสตร์ ทำนายทายทักและมีสัมผัสที่หกแต่ทุกคนก็ไม่ขำ ไม่ค่อยเชื่อคำพูดของละเอ ละเอบอกให้บัวบานระวังตัวจะโดนแย่งของรักและตกอยู่ในอันตรายทั้งบัวบานและเมงกาเลียไม่มีใครเชื่อ ดำรงเข้ากรุงเทพไปติดต่อธุรกิจโดยที่ไม่ได้พาภรรยาและลูกสาวไปด้วย ดำรงได้พบกับนาถยา หม้ายสาวลูกติดชื่อ เอมฤดี อายุไล่เลี่ยกับเมงกาเลียแก่กว่าสักสองปี นาถยาหวังหาที่พึ่งเพื่อเป็นหลักให้เธอและลูกสาว โดยไม่สนใจว่าดำรงจะมีภรรยาและลูกแล้ว ทำแกล้งมาทางเหนือเพื่อมาติดต่องานกับดำรง และฉวยโอกาสมอมยาดำรง และกลายเป็นภรรยาน้อยของดำรงสำเร็จ จากนั้นนาถยาก็เริ่มแผนการขั้นที่สอง คือเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน แสร้งทำตัวอ่อนน้อมน่าสงสารกับบัวบานที่พูดไม่ออก แต่ทำเฉพาะต่อหน้าดำรงเท่านั้น พอลับหลังก็หลอกล่อพูดจาทิ่มแทงให้บัวบานเสียใจเตลิดออกจากบ้านไปเพื่อจะไปบ้านบนภูเขาที่บัวบานกับดำรงมักพาลูกไปเที่ยวพักผ่อนที่นั่น นาถยาแอบจ้างคนมาตัดสายเบรกให้เกือบขาดเพื่อให้ดูเป็นอุบัติเหตุ บัวบานขับรถเสียใจมุ่งหน้าขึ้นเขา ในที่สุดเบรกรถก็ขาดรถเสียหลักตกเขากลิ้งหายลงไป ในเหวบัวบานหายตัวไป ดำรงส่งคณะผู้เชี่ยวชาญตามหาบัวบานนานนับเดือนได้แต่กู้ซากรถที่แหลกเละเทะทั้งคันกลับคืนมา แต่ไม่มีวี่แววของบัวบานทำให้นาถยาดีใจมาก เริ่มแผนขั้นที่สามต่อไปด้วยการแต่งงานกับกับดำรง ละเอพยายามเตือนดำรงให้ระวังว่าเมงกาเลียกำลังตกอยู่ในอันตราย และจะมีชะตากรรมเหมือนกับบัวบาน ละเอกลับโดนดำรงดุว่าเหลวไหล นาถยาทำดีกับดำรงเอาอกเอาใจ นานวันเข้าดำรงยอมรับนาถยาเป็นภรรยาออกหน้าออกตา ยกเว้นจดทะเบียนสมรสเพราะดำรงต้องการรอว่าบัวบานอาจยังไม่ตายจึงให้นาถยารอไปสิบปี นาถยาแกล้งทำรักใคร่เมงต่อหน้าผู้คน พอลับหลังให้ลูกสาวคือเอม รังแกเมงเสมอๆ ละเอพยายามบอกดำรง ดำรงก็หาว่าละเอใส่ร้ายนาถยา นาถยาวางแผนขั้นที่สี่ต่อไปด้วยการให้เมงมีอันเป็นไป เหมือนกับบัวบาน ตลอดเวลาละเอเคยพยายามใช้สัมผัสที่หกตามหาบัวบาน ละเอมักฝันร้าย ในฝันเห็นบัวบานโดนเสือคาบไปกิน ต่อมาวันหนึ่ง นาถยาแกล้งบอกให้ดำรงจัดให้ละเอข้ามกลับบ้านไปเยี่ยมญาติ และหาทางให้ดำรงไปติดต่อธุระที่กรุงเทพและรับอาสาดูแลเมงเอง พอทุกคนไปกันหมดแล้วนาถยาก็จับเมงใส่รถเอาไปปล่อยไว้ในป่าแล้วหนี เมงเดินสะเปะสะปะร้องไห้อยู่ในป่าจนมืดค่ำ ในวันเดียวกันนั้น พนา อายุแปดถึงสิบขวบ กับ นายพินิจ และ นางอรุณี นักธุรกิจอัญญมณีชื่อดังทางภาคเหนือ ได้เดินทางโดยใช้รถไฟ เพราะต้องการเลี่ยงหลบจาก นายคำรณ มาเฟียที่จะพยายามฉกเพชรสีชมพูหลายสิบกะรัตของพวกเขา ทั้งสองเอาเพชรสีชมพูใส่ลูกเทนนิสติดกาวแนบเนียนมากแล้วใส่ไว้ในเป้ของลูกชาย สั่งให้สะพายเป้ติดหลังไว้ตลอดเวลาห้ามปลดออกเด็ดขาด พนาเชื่อฟังอย่างดี ขณะนั่งรถไฟมากลางทางที่เป็นป่าก็เกิดเหตุรถไฟเกิดเสียหลักไถลออกนอกรางในตอนกลางคืน ผู้คนบาดเจ็บกันมากมายต่างหาทางออกจากรถไฟ พนาหลุดออกมาได้ตามหาพ่อแม่ และพลัดหลงไปในป่า ส่วนพ่อแม่ปลอดภัยตามหาพนาไม่พบ พนาเดินสะเปะสะปะไปในป่า ขณะที่เมงก็เดินร้องไห้ ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย และก่อนที่จะหลงนาถยาสั่งให้มาตามหาแม่ แม่ของเมงตกลงไปในเหวให้ไปหาในเหว เมงจึงมายืนมองที่เหวแห่งหนึ่งที่คิดเอาเองว่าแม่คงตกลงไปตรงนี้ เมงปีนไปที่กิ่งไม้ซึ่งยื่นไปในเหวมองลงไปตกใจกลัวร้องไห้จะกลับเข้ามาก็กลับไม่ได้ เมงร้องไห้จ้าดังลั่น พนาซึ่งเดินหลงมาได้ยินเสียงร้องของเด็กจึงวิ่งไปดู พนาเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังไต่อยู่บนกิ่งไม้ที่ยื่นไปในหน้าผา พนาตกใจมากกลัวก็กลัวสงสารเด็กก็สงสาร ในที่สุดพนาก็ตัดสินใจไต่ไปที่กิ่งไม้ใกล้ๆ กันเพื่อช่วยเด็กหญิง แต่เป้ของพนาเกะกะมากและไปเกี่ยวกับกิ่งไม้หลุดไปจากหลัง พนาเอื้อมมือจะไปช่วยเด็กหญิง เด็กหญิงไม่เข้าใจโผมาหาแล้วพลัดตกลงไปเบื้องล่าง พนาตกใจมากเกาะแน่นอยู่กับกิ่งไม้โทษตัวเองว่าเขาทำให้เด็กหญิงตกเหวตาย แต่เมงกลับตกลงไปติดอยู่ที่กิ่งไม้อีกต้นที่อยู่ต่ำลงไปอีกและเกาะร้องไห้อยู่เช่นนั้น ในป่านั้นเอง พรานเส็ง ได้พาพวกเข้ามาจับสัตว์ในป่าไปเพื่อเอาไปขาย มุ่งจับเฉพาะสัตว์ตัวลูกแล้วจะฆ่าแม่ แม่ลิงตัวหนึ่งโดนยิงบาดเจ็บเพราะไม่ยอมให้จับลูก ในที่สุดก็โดนแย่งลูกไปจนได้ แม่ลิงตามไปอีกโดนยิงล้มลงตามไม่ทันจึงถอยกลับมาเสียใจตีอกชกหัวร้องไห้เอาสมุนไพรรักษาตัวเอง แม่ลิงไปนั่งซุกอยู่บนกิ่งไม้ต้นเดียวกับที่เมงนั่งเกาะร้องไห้อยู่ แม่ลิงเห็นเมงเกิดความคิดถึงลูกมองว่าเมงเป็นลูกน้อยที่โดนจับไปมาแทนที่ลูกได้จึงเข้าไปช่วยเหลือพาเมงไปดูแล ส่วนพนาเมื่อฟ้าสางแล้วพ่อ แม่ และคณะติดตามหาพบพนาเกาะกิ่งไม้อยู่จึงเข้าช่วยเหลือ แต่ไม่พบเป้ของพนา พนาบอกว่าตกลงไปในเหวลึกแล้ว พ่อ แม่จึงทำใจว่าคงไม่มีโอกาสพบอีก ส่วนเรื่องเด็กหญิงที่พลัดตกลงไป พนาไม่ได้บอกใครเพราะกลัวความผิด และคิดว่าบางทีเมงอาจจะรอด ตลอดมาพนามักฝันร้ายถึงเด็กหญิงคนนั้นเช่นเดียวกันกับเมงที่ฝันดีถึงพนาตลอดมา ดำรงเสียใจมากนาถยาอ้างว่าไม่รู้ว่าเมงหายไปไหน คงวิ่งหนีออกไปเล่นนอกบ้าน นาถยาทำเป็นร้องไห้ร้องห่มที่ตามหาเมงไม่พบ ดำรงต้องเข้าไปปลอบ ฝ่ายละเอกลับมาจากฝั่งโน้น แอบไปฝึกวิชาอาคมเพิ่มมาอีกใช้สัมผัสที่หกพยายามติดต่อกับบัวบานและเมง ละเอบอกว่าเมงยังไม่ตาย ดำรงมีความหวังแต่นาถยาไม่เชื่อพร้อมกับแอบด่าว่าละเอหาว่าเพ้อเจ้อ สิบปีต่อมา นาถยาคาดคั้นให้ดำรงจดทะเบียนด้วยสักที ดำรงตกลง แต่คืนนั้นเองดำรงก็ฝันถึงบัวบานและเมงกาเลียมาอ้อนวอนร้องไห้ตรงหน้าและบอกว่ากำลังจะกลับมาในไม่ช้า เช้าขึ้นดำรงจึงเปลี่ยนใจโดยไม่บอกสาเหตุกับนาถยาแต่บอกว่าขอเวลาอีกสามปี นาถยาไม่พอใจมากสงสัยว่าละเอแอบพูดอะไรหรือเปล่าจึงทำให้ดำรงปลี่ยนใจ สิบปีต่อมาสำหรับ เมงกาเลีย กลายเป็นเด็กสาวสวยงามแต่โดนความมอมแมมบดบังจนดูคล้ายปีศาจตัวน้อยๆ เมงสามารถพูดจากับสัตว์และสื่อสารกับสัตว์ ห้ามสัตว์ทะเลาะกัน นำฝูงงู ฝูงช้าง ฝูงนก ฝูงแมลงไปต่อสู้ขับไล่ผู้บุกรุกป่า เมงรักแม่ลิง รักต้นไม้ทุกต้นรักป่าและลำธาร เมงจึงมักมีปัญหากับพวกนายพราน โดยเฉพาะพรานเส็งที่แก่ลงไปมากแต่ยังชอบพาคนมาจับสัตว์ไปขายต่างชาติบ้าง เอาไปเล่นละครสัตว์บ้าง นักมายากลบ้างนอกจากพวกนายพรานดังกล่าว ยังมีพวกมาเฟียคำรณหาเพชรสีชมพูของพินิจพ่อพนาอีก คนพวกนี้เคยเห็นเมง สนใจเมงมาก ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ บ้างก็ว่าเป็นปีศาจ บ้างว่าเป็นมนุษย์โบราณที่หลงเหลืออยู่ แต่สรุปแล้วทุกคนต่างต้องการจับตัวเมงไปทั้งนั้น จับไปขาย จับไปเล่นละครสัตว์ จับไปสอบถามหาเพชรสีชมพู ยกเว้นพวกชาวบ้านตามราวป่า ที่หาว่าเมงคือภูตผี เพราะบางวันเมงติดตามพวกฝูงสัตว์มาเที่ยวราวป่า บางวันก็ขี่ช้างมา บางวันก็ไต่ต้นไม้มากับพวกลิง บางครั้งพบอาหารแปลกๆ ก็ทดลองกินจนหมด ชาวบ้านต่างหวาดกลัวจนต้องไปหาหมอผีมาไล่ผีประหลาด แต่ไม่เคยมีใครไล่สำเร็จหรือทำให้เมงพ่ายแพ้ เมงนั้นวันดีคืนดีมักได้ยินเสียงเรียกมาจากที่ไกลๆ ว่าเมงกาเลีย จนเมงจำคำว่าเมงกาเลียได้แม่นยำและมักพูดคำนี้ออกมาเสมอแต่ไม่มีใครเข้าใจ ความจริงเสียงนั้นคือเสียงของละเอที่พยายามส่งโทรจิตให้เมงนั่นเอง ทางฝ่ายบัวบานแม่ของเมง โดนเสือกินเข้าไปและสิงอยู่ในร่างเสือ และจิตใจยังคิดถึงลูกเสมอจึงพยายามวนเวียนตามหาเมง และได้พบว่าเมงอยู่กับแม่ลิง วันแรมสิบห้าค่ำเดือนมืดทีไร เสือที่กินบัวบานจะกลายร่างเป็นหญิงสาวสวย เดินร้องเพลงบ้าง คอยหลอกล่อผู้คนที่คิดจะมาทำร้ายเมงบ้าง จนเลื่องลือไปทั่วว่าป่าแห่งนี้มีทั้งเสือสมิงและปีศาจประหลาด ส่วนพนามักชอบหาโอกาสเข้ามาในป่าแห่งนี้ ไม่ใช่เพื่อสืบหาเพชรสีชมพู แต่สืบร่องรอยของเด็กผู้หญิงที่เขาเคยพบ แต่ก็ไม่มีวี่แววเพราะมักเฉียดไปมากับเมง แต่ส่วนใหญ่เมงมักเป็นคนเห็นพนาเสียเอง เมงนึกชอบใจพนาที่ดูใจดีอ่อนโยนและรักป่า รักต้นไม้ รักสัตว์ เมงเคยแอบช่วยเหลือพนาให้รอดพ้นจากน้ำมือของมาเฟียและนายพรานที่จะทำร้ายพนาเนื่องจากไปขัดขวางการทำร้ายสัตว์ และทำลายป่า แต่ไม่สามารถจำได้ว่านั่นคือเด็กผู้ชายที่พยายามช่วยเหลือเธอเมื่อยังเด็ก ที่อาศัยหลับนอนของเมงคือถ้ำใหญ่ มีน้ำตกอยู่หน้าถ้ำ วันที่แม่ลิงอุ้มเมงมาเลี้ยงก็เอาเมง ซ่อนไว้ในถ้ำนี้ แม่ลิงได้พบเป้ของพนาที่ตกอยู่เอามาให้เมง เมงแกะเป้ออกมาเล่นเจอเพชรสีชมพู จึงเก็บไว้ วันดีคืนดีก็เอาออกมาเล่น และนอกจากนั้นเมงยังมีลอคเก็ตอันหนึ่งที่นาถยาถอดออกมาจากคอ แล้วโยนลงมาในเหวตอนปล่อยเมง ไม่คิดว่าเมงจะรอด เมงได้พบสร้อยลอคเก็ตอันนี้จึงเอามาเก็บไว้ในเป้ ของพนาบางวันก็เอามาใส่เล่น วันหนึ่งตอนที่เมงโตเป็นสาวรุ่นแล้ว เมงออกมาเที่ยวเล่นกับฝูงสัตว์ตามปกติ เมงจะมีนกเหยี่ยวตัวใหญ่คอยสื่อสารและบอกข่าวล่วงหน้า แต่วันนั้นนกไม่อยู่ บินไปหากินไกลมาก เมงจึงชะล่าใจออกมาเที่ยวเล่นโดยไม่รู้ว่าที่กำลังไปเล่นมีมนุษย์ใจร้ายกำลังมาตามหาสมบัติ เมงถือเพชรสีชมพูมาเล่นด้วยและได้พบกับมาเฟียคำรณและพวกเห็นเพชรที่เมงเดาะเล่นอยู่ดีใจมากจะจับตัวเมง เมงหนี พวกนั้นไล่ยิงเมง เมงหนีมาเจอกับพนา พนาช่วยเมงไว้ ระหว่างหนีเมงได้โยนเพชรสีชมพูทิ้ง พนาจึงไม่เห็นเพชร พนาช่วยเมงที่บาดเจ็บหลบจากพวกมาเฟีย พยายามพูดจาซักถาม เมงพูดไม่เป็น พูดไม่รู้เรื่อง ได้แต่ส่งภาษาแปลกๆ แต่พูดคำคล้ายมนุษย์คำเดียวคือเมงกาเลีย ทำให้พนารู้จักคำนี้ไปด้วย นอกจากนั้นพนายังพยายามสอนให้เมงเรียกตัวเขาว่าพนา เมงพยายามเรียกในที่สุดเมงก็เรียกพนาได้ และจำแม่นว่านี่คือพนา พนาพาเมงไปอาบน้ำในลำธาร จับเมงโยนลงไป ในที่สุดพนาก็พบว่าเมงสวยงามมาก ไม่ได้ดูสกปรกมอมแมมเหมือนผีที่เขาเคยได้ยินพวกชาวบ้านร่ำลือ พนาเชื่อแปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าเมงคือเด็กหญิงที่เขาเคยช่วยเอาไว้ เขาพยายามจะพาเมงเข้าไปในเมืองแต่ไม่สำเร็จ เมงโกรธมากเมื่อพนาฉุดดึงให้ออกมาจากป่า เมงอาละวาดทำร้ายพนาแล้วหนีไป ต่อมาพนาพยายามเข้ามาตามหาเมงอีกแต่ไม่พบเพราะเมงคอยหลบหลีก แต่เมงก็ยังนึกถึงพนาเสมอ เป็นความรู้สึกที่อบอุ่นแบบไม่เคยมีมาก่อน พนาก็นึกถึงแต่เมง พนาเลิกทำอย่างอื่นเพียรแต่จะเข้าป่าแต่ไม่ได้บอกใครว่ามาทำอะไร ส่วนพวกมาเฟียคำรณต่างพากันคิดว่าพนาเข้ามาหาเพชรสีชมพูตามคำสั่งของพินิจจึงฉวยโอกาสลอบทำร้ายพนา เมงมาพบเข้าจึงช่วยเหลือพนา และช่วยกันกับแม่ลิง และฝูงสัตว์พาพนาไปรักษาตัวในถ้ำ พวกมาเฟียพยายามติดตามกลับโดนเสือโผล่มาสะกัดอยู่พักหนึ่ง ไม่เพียงแค่นั้นเสือยังกลายร่างเป็นผู้หญิงอีกตอนกลางคืนทำให้พวกมาเฟียต้องถอยหนีกลับออกไป เมงรักษาพนาจนหาย พนาพบเป้ของตัวเอง ค้นหาในเป้ไม่พบเพชรสีชมพู พยายามถามก็ไม่เข้าใจกัน แต่กลับได้พบลอคเก็ตสลักชื่อกาสะลองเอาไว้ เมงและพวกลิงและฝูงสัตว์ พากันมาส่งพนาที่ราวป่าคืนเดือนหงายคืนหนึ่ง พนาได้สอนให้เมงเรียนรู้ความรู้สึกดีๆ อีกมากมาย เมงติดพนาแจแต่ก็ยังไม่ยอมเข้าเมืองอีกเช่นเคย ต่อมาเมงโดนพวกเล่นกลใช้อุบายจับเมงไปหัดเล่นกล พนากลับเข้ามาหาเมงไม่พบเมง พนาว้าวุ่นมาก พนาได้พบนกเหยี่ยวที่แอบติดตามว่าเมงโดนจับไปไหน กลับมาส่งข่าว พนาจึงติดตาม ไปพบเมงโดนจับไปเล่นกลและละครสัตว์ ขังเอาไว้ในกรงเหมือนสัตว์ทั่วไปกับลิงตัวหนึ่ง พอจะไปช่วยกลับไม่ทันพวกออกงานวัดมาแย่งจับเมงกับลิงตัวนั้นไปออกงานวัดอีกต่อ เดือดร้อนถึงนกเหยี่ยวต้องบินไปตามหาเมง จนเจอและช่วยออกมาทั้งลิงและเมงในที่สุด เมงกับลิงตัวนั้นกลายเป็นเพื่อนกัน ลิงพยายามบอกเมงว่าถูกจับมาและแม่โดนยิงคงตายแล้ว ทั้งหมดกลับเข้าป่าและแยกย้ายกันไป ลิงตัวนั้นมีตำหนิที่เท้า พนาห่วงเมงมากพยายามจะพาเมงออกจากป่าเกรงว่าจะโดนลอบทำร้ายและจับตัวอีก เมง ปฎิเสธ เมงกับพนาใช้ภาษาใบ้ ใช้วิธีวาดรูปสื่อสารกันประกอบด้วย เมงบอกว่าห่วงแม่ลิง ทิ้งไม่ได้ พนาจำใจกลับเข้าเมืองและติดต่อกับเมงผ่านนกเหยี่ยว พนาพยายามหาทางพาเมงเข้าเมืองและพาแม่ลิงมาอยู่ด้วย อ้อนวอนพ่อ แม่ จนที่สุดพ่อ แม่ก็ยินยอมแต่ไม่ยอมให้ปล่อยแม่ลิงให้ขังไว้ แม่ลิงไม่ยอมให้ขัง ในกรง เมงก็ไม่ยอมให้ขังแม่ ในที่สุดจึงเอาแม่ลิงไว้ในห้องเหมือนคนทั่วไป ผู้คนในบ้านต่างหวาดกลัวแม่ลิงและเมง เอมฤดีเป็นคนรักของพนา มาหาพนาที่บ้านพบเมงอยู่ในบ้าน ไม่พอใจมากๆ แอบสอบถาม กับสาวใช้บางคนที่ไม่ชอบเมงได้ความว่ามาจากในป่า เอมไปเล่าให้นาถยาฟัง นาถยาสงสัยมากว่าอาจเป็นเมงก็ได้ สั่งห้ามไม่ให้เอมบอกกับดำรงเรื่องนี้เด็ดขาด และพยายามหาทางกลั่นแกล้งเมงต่างๆ นานาแต่ก็กลับโดนย้อนรอยแปลกๆ ขำๆ เสียท่ากลับไปทุกที ทำให้เอมเกลียดเมงมากขึ้น ประกอบกับได้ยินทุกคนเรียกเมงว่าเมงกาเลียยิ่งทำให้เอมกับนาถมั่นใจว่าใช่แน่ถึงกับพยายามหาทางเล่นงานเมง ที่บ้านพนา พินิจ และอรุณีแม่ของพนาดีกับเมงมาก พยายามจะให้เมงตามหาพ่อแม่ให้พบ พยายามให้เมงเรียนรู้เรื่องของคนในเมือง แต่เมงกลับไม่ค่อยมีความสุขมากนัก รวมทั้งแม่ลิง แต่แม่ลิงอยากให้เมงอยู่ในเมืองเพื่ออนาคตที่ดี ส่วนตัวเองหนีกลับเข้าป่า เมงกลับตามหาแม่ลิง ไม่ยอมอยู่ต่อไป แม่ลิงหนีซ่อนไม่ให้เมงพบ เมงจะกลับเข้าไปในป่าอีกจนไปเจอเอาพวกนายพรานที่ไปเข้ากับมาเฟียคำรณเข้า ระหว่างเดินทางกลับเข้าป่าแม่ลิงได้พบเพชรสีชมพูจึงเอากลับไปไว้ในถ้ำและบอกกับนกเหยี่ยวของเมงไว้ เมงกับพนาตามหาแม่ลิงพบกับพวกคำรณและนายพราน แม่ลิงตัดสินใจเสียสละกระโดดหน้าผาหายไปเพื่อให้เมงปลอดภัย พวกคำรณไม่สามารถจับแม่ลิงมาเป็นตัวประกันให้เมงกับพนายอมแพ้ได้จึงเลิกราไปหาวิธีอื่น แม่ลิงตกลงไปบาดเจ็บ เจอเอาลิงหนุ่มตัวหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือทั้งสองมองหน้ากัน ลิงหนุ่มยกเท้าที่เป็นแผลให้ดู ทั้งสองต่างคิดถึงวันที่โดนคนใจร้ายทำให้พรากจากกัน จำกันได้โผเข้ากอดกัน ด้วยความยินดีลิงหนุ่มแบกแม่ลิงไปดูแล เมงกลับเข้าเมืองด้วยความโศกเศร้าคิดถึงแม่ลิง พนาคอยปลอบโยน เมงพูดภาษาคนได้มากขึ้นเริ่มออกงาน อ่านหนังสือออก เขียนได้ แต่ก็สร้างมุกตลกๆ ให้คนรอบข้างขำเพราะเมงมักพูดผิด พูดกลับกัน เมงได้พบดำรงในงานแต่ไม่รู้จักกัน เพราะเมงได้ชื่อใหม่ว่ามาณวิกาแล้ว ดำรงเข้าใจว่าเมงเป็นหลานของพินิจ เมงเองก็เข้าใจว่าดำรงเป็นพ่อของเอมฤดี แต่เหมือนมีความผูกพันกันทำให้ทั้งสองถูกคอกันมาก จนทำให้เอมกับนาถยาอยากกำจัด เอมจึงไปเข้ากับพวกคำรณให้จัดการเมง ดำรงตามไปช่วยเอาไว้กับพนา พนาเรียกเมงว่าเมงกาเลียทำให้ดำรงตกใจ และสนใจสอบถามจนกระทั้งรู้ความจริงว่าเมงคือลูก พนาได้มอบสร้อยและลอคเก็ตกาสะลองให้ดำรงดู ดำรงยิ่งมั่นใจว่าเมงคือลูก คำรณโดนจับได้ และซัดทอดว่านาถยากับเอมฤดีจ้างวาน ทั้งหมดจึงติดคุกไปด้วยกัน เมงได้พบพ่อและกลับมาอยู่กับพ่อ และละเออีก เมงพยายามฝากข้อความสื่อสารไปหานกเหยี่ยว ในที่สุดนกเหยี่ยวก็มาหาเมง เมงบอกว่าอยากไปเยี่ยมพวกเพื่อนๆ จึงขออนุญาตพ่อไปกับพนา ที่นั่นเมงได้พบกับพวกสัตว์ของเมง และได้พบเป้ที่แม่ลิงเอาเพชรสีชมพูมาใส่ไว้ให้ เมงสงสัยว่าแม่ลิงยังไม่ตาย ในที่สุดนกเหยี่ยวก็พาเมงกับพนาไปพบแม่ลิงที่แก่และเดินขาเป๋ ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำอีกแห่ง มีลูกลิงหนุ่มที่พลัดพรากกลับมาดูแล ลิงหนุ่มจำเมงกับพนาได้ต่างดีใจที่ได้พบกัน ลิงหนุ่มและแม่ลิงบอกว่าไม่ต้องห่วงแม่ลิงอีกต่อไปแล้ว ให้เมงกลับไปอยู่กับพนาและอยู่กับมนุษย์ ติดต่อส่งข่าวถึงกันผ่านนกเหยี่ยว คิดถึงกันก็มาหากันได้ ทั้งหมดจากกันแบบอาลัยอาวรณ์ พวกสัตว์ทั้งหลายพากันมาส่งเมงที่ราวป่า ต่อมา เมงตัดสินใจเรียนศึกษาผู้ใหญ่จนจบและสอบเข้าเรียนวนศาสตร์ และมาอยู่ในบ้านบนเขาหลังที่แม่กับพ่อเคยพาเมงมาพักตอนเด็กๆ กับละเอ โดยมีพนาทำงานป่าไม้อยู่ใกล้กันนั้น ทั้งสองสัญญากันว่าจะช่วยกันดูแลรักษาป่า ลำธาร สัตว์ และสภาพป่าให้คงเดิม เพราะป่าคือชีวิตของเรา พวกชาวบ้านและหมอผีไม่กลัวเมงอีกต่อไป บางวันแม่ลิงกับลิงหนุ่มก็มาเยี่ยมเมง บางวันก็มีช้างและสัตว์อื่นๆ มาเยี่ยมเมง เมงกับพนามีแผนการจะแต่งงานกันในอนาคต และอยู่รักษาผืนป่าตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ออกอากาศ ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี
เรื่องย่อ : เรื่องย่อ : เจาะเวลาหาโก๊ะ (2551/2008) หลังจากที่นักศึกษาชายหญิงทุกคน สามารถเดินทางผ่านเวลากลับจากโลกอดีตในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 กลับมาสู่ในโลกปัจจุบันได้ แต่พรานโก๊ะกลับขอใช้ชีวิตต่อไปอยู่ที่บ้านแพ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดนเมืองกาญจนบุรีแห่งนั้น เพราะนอกจากจะมีเลือกรักชาติรักแผ่นดินอันเข้มข้นแล้ว ที่สำคัญคือความรักที่โก๊ะมีต่อ บุญหลาย ลูกสาวของ เฒ่าหอม ซึ่งเป็นจอมใจของเขา โก๊ะจึงตัดสินใจอยู่ใช้ชีวิตคู่กับบุญหลายและช่วยชาวบ้านปกป้องหมู่บ้านท่าแพให้อยู่รอดปลอดภัยจากข้าศึก
ส่วนนักศึกษาที่กลับมาไม่สามารถที่จะเล่าเรื่องที่พวกตนไปผจญภัยให้กับใครฟังได้ เพราะอยากที่จะมีคนเชื่อนอกจากคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันเหลวไหล หรือพวกเขาเพ้อเจ้อกันไปเองเพราะพิษไข้ป่า เรื่องราวของพรานโก๊ะกับชาวท่าแพจึงเป็นแค่ความทรงจำอันงดงามและอยู่ในความคิดถึงของทุกคนเท่านั้น ยกเว้น โอสถ ที่ความทรงจำของตัวเองเจือความเจ็บปวดจากความผิดหวังเพราะเมื่อกลับมาไม่นาน จำนรรจ์ ก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยและไปเรียนต่อที่อเมริกา
ไม่นานนักก็มีนักข่าวว่าเธอมีคนรู้ใจใหม่ ทิ้งให้โอสถเศร้าซึมอยู่เดียวดาย และทางแก้ไขด้วยการเล่าเรื่องการต่อสู้ของตนเองกับทหารข้าศึกให้เป็นที่สนุกสนานกับพวกนักศึกษารุ่นน้อง แต่ก็มักจะถูกมองว่าพูดโม้หรือเพ้อเจ้อ โดยเฉพาะนักศึกษาปีหนึ่งที่ชื่อ จอมขวัญ หรือ จ๋อม ที่มักจะคอยขัดคออยู่เสมอโดยไม่เกรงกลัวรุ่นพี่ เธอมีดีกรีเป็นนักแม่นปืนระดับแชมป์แถมยังมี เอกสิทธิ์นักศึกษาหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยมาคอยติดพัน
หนึ่งเทอมผ่านไป เมื่อนักศึกษาสอบเสร็จและใกล้จะปิดภาคการศึกษา ในวันหนึ่งก็มีเสียงโฟนเรียกหาโอสถไปพบญาติที่ตึกอำนวยการในมหาวิทยาลัยทำให้โอสถแปลกใจคิดว่าใครอำเล่น เพราะตัวเองเป็นเด็กกำพร้าอาศัยวัดอยู่ ไม่มีญาติที่ไหน และพอหันมาโอสถก็ต้องตกใจและดีใจตื่นเต้นสลับกันไป เพราะชายคนนั้นคือ โก๊ะ หรือ พรานโก๊ะของทุกคนนั่นเอง โอสถดีใจที่ได้พบกับโก๊ะ แต่ก็ต้องแปลกใจที่ดูเหมือนโก๊ะจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
โก๊ะบอกว่า เป็นเพราะเวลาได้ผ่านไปเกือบสิบปี เขาเองยังไม่หวังว่าจะพบกับโอสถหรือเพื่อนๆ ของโอสถที่มหาวิทยาลัยนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาที่ไหนจึงลองเสี่ยงมาหา แต่โอสถยืนยันว่าพวกตนเพิ่งกลับมาได้แค่สี่เดือนเท่านั้น ทั้งสองเถียงกันเรื่องเวลาเพราะโก๊ะก็ยืนยันว่า บุญชู ลูกชายของตนกับบุญหลายอายุได้ 9 ขวบแล้ว นั่นแสดงว่า เวลาของโลกอดีตกับปัจจุบันมีความเคลื่อนไปไม่ตรงกัน
โก๊ะเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่พวกนักศึกษากลับไป เหตุการณ์ทางชายแดนค่อนข้างสงบลง แต่ก็ยังมีข้าศึกเข้ามาบ้างประปราย เฒ่าหอมจึงผูกข้อมือแต่งงานให้โก๊ะกับบุญหลาย บุญหลาย ขอให้โก๊ะรับดาวเรืองเป็นเมียอยู่ร่วมเรือนอีกคนด้วยความสงสาร และเห็นว่าดาวเรืองก็เคยปลื้มโก๊ะมาก่อน ดอกรักทนทรมานด้วยความผิดหวังแต่ไม่ยอมมีเมียหรือสนใจผู้หญิงคนไหน และลั่นคำพูดไว้ว่า ถ้าโก๊ะกับบุญหลายมีลูกสาวเมื่อไหร่ จะทนรอเพื่อจีบเอามาเป็นเมียของตนให้ได้ แต่ ดอกรักก็ต้องผิดหวังอีกหนเพราะบุญหลายคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย
ซึ่งโก๊ะตั้งชื่อว่า บุญชู พอ บุญชูเติบโตขึ้นมาก็มีนิสัยขี้โม้และอีกหลายๆ อย่างไม่ต่างจากโก๊ะผู้เป็นพ่อซักเท่าไหร่ แต่ที่มากกว่าคือ การเอาตัวรอด เล่ห์เหลี่ยมและซุกซนจนเป็นหัวใจของเด็กๆ ในหมู่บ้าน และไม่เกรงกลัวใครแม้แต่ดอกรักที่ยังตัดใจจากบุญหลายไม่ได้ จึงมักจะคอยยุให้ดาวเรืองพยายามชิงโก๊ะจากบุญหลายเพื่อให้ชีวิตคู่ของทั้งสองมีปัญหา แต่ดาวเรืองไม่ยอมเล่นด้วย จนกระทั่งในเวลาต่อมาก็เริ่มมีข้าศึกเข้ามารุกราน โก๊ะกับดอกรักและพวกชาวบ้านก็ยังต่อสู้ขัดขวางและขับไล่พวกข้าศึกออกไปได้ด้วยความสามัคคี แต่ก็เริ่มมีปัญหาเมื่อดินปืนร่อยหรอลง โก๊ะจึงไปเก็บขี้ค้างคาวในถ้ำเพื่อเอามาทำดินปืนตามตำราที่กำจัดเขียนให้ไว้ ดาวเรืองตามไปคอยช่วยเหลือแต่ทนกลิ่นเหม็นอับในถ้ำไม่ไหว โก๊ะจึงให้ออกไปตักน้ำข้างนอก ทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว และประตูเวลาเปิดออก ดึงเอาโก๊ะกลับมายังโลกปัจจุบัน
ดาวเรืองตกใจเมื่อโก๊หายไปจึงพยายามตามหา และกลับมาเล่าให้ทุกคนรู้ บุญหลายกับบุญชูเข้ามาตามในถ้ำแต่ก็ไม่พบอะไร ดอกรักดีใจและพยายามบอกกับบุญหลายว่า ไม่มีวันที่โก๊ะจะกลับมาได้อีกเพราะโก๊ะไม่ใช่คนของที่นี่ แต่บุญหลายกับบุญชูไม่ยอมเชื่อ และคอยภาวนาให้โก๊ะกลับมา แม้ว่าดอกรักจะใช้ความพยายามอย่างไร บุญหลายก็ไม่ใจอ่อนแถมยังถูกขัดขวางจากดาวเรืองและบุญชูอยู่ตลอดเวลา
ส่วนโก๊ะเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็ออกมานอกถ้ำแต่กลับได้พบกับโจรสองพ่อลูกคือ เล่าหยาง กับ เล่าอู ที่หนี การคุมขังของเจ้าหน้าที่ออกมาได้ ทำให้โก๊ะรู้ว่าตนเองกลับมาสู่เวลาในโลกปัจจุบัน โก๊ะหนีพวกโจรเข้าไปในถ้ำเพื่อรอให้เกิดแผ่นดินไหว และตนจะได้ย้อนเวลากลับไป แต่ก็ไม่เกิดซักทีจนนึกถึงครั้งทีกำจัดและนักศึกษาสามารถทำระเบิดและทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ จึงตัดสินใจออกจากถ้ำกลับเข้าเขตแดนไทยพบกับทองใบและเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อตามหาบรรดานักศึกษา และได้มาพบกับโอสถที่มหาวิทยาลัยนี่
โอสถพาโก๊ะไปพักที่วัดที่เขาอาศัยอยู่ โก๊ะได้กราบหลวงตามิ่งที่ซึ่งอวยพรให้โก๊ะประสบความสำเร็จและสวัสดีมีชัย วันรุ่งขึ้น โอสถพยายามนัดพวกเพื่อนๆ และรุ่นน้องให้มาพบกับ โก๊ะ แต่กลับไม่มีใครมาเพราะติดธุระหรือภาระของตนเอง จะมีก็แต่จัตวาและน้ำผึ้งเท่านั้นที่มาหาโก๊ะ รวมทั้งนักศึกษาปี 1 เช่น จอมขวัญ และเพื่อนๆ ได้แก่ ยิหวา ลักษมี อนุชา กำจร ซึ่งเป็นน้องชายของกำจัดและกำจัดบอกว่า มีความสามารถไม่แพ้ตนเอง และเอกสิทธิ์ที่ตามจอมขวัญมาด้วย กำจรยินดีช่วยโก๊ะถ้าเขาสามารถทำได้
บรรดานักศึกษาทุกคนสนใจที่จะตามไปดูการส่งตัวโก๊ะกลับเพื่อพิสูจน์ความจริงอันเหลือเชื่อ จอมขวัญยังพา จู้จี้ น้องสาวของตัวเองที่เป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ไปด้วยแม้จะถูกทัดทานจากทุกคนว่าอาจจะลำบากและมีอันตราย แต่จู้จี้ก็ดื้อตามมาจนได้ เอกสิทธิ์แม้จะไม่อยากมาเท่าไหร่แต่เมื่อจอมขวัญไม่เปลี่ยนใจจึงจำใจต้องตามมาด้วย
ทุกคนมาถึงท่าแพและพบกับทองใบ ทองใบไม่อยากให้จู้จี้ไปด้วย แต่โอสถสงสารจู้จี้จึงบอกกับทางทองใบว่าจะดูแลจู้จี้เอง ทำให้จู้จี้รู้สึกดีกับโอสถมากกว่าใครๆ แต่โอสถกับจอมขวัญก็ยังมีปัญหาเข้ากันไม่ได้ และมักจะกระทบกระทั่งกันด้วยคำพูดตลอดเวลาอยู่ดี เพราะจอมขวัญมักจะแซวโอสถเรื่องของจำนรรค์ โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นเพราะอะไรนอกจากรู้สึกหมั่นไส้ และก็ถูกโอสถย้อนให้เจ็บๆ เพราะเป็นคนปากไวไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ โก๊ะรู้สึกห่วงเมียและลูกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะรู้ว่าเวลาจะผ่านไปไว
ทางด้านในอดีต จอระแน นายกองคนใหม่ที่เป็นน้องชายฝาแฝดของนายกองคนเดิมที่ติดคุกเพราะพ่ายแพ้แก่พวกชาวบ้าน ได้อาสายกไพร่พลมาปราบชาวบ้านท่าแพเป็นการแก้ตัวให้กับพี่ชาย โดยมีเมืองประทุน หัวหมู่ทหารคนเดิมนำทางมาและ เม็งรายอ หัวหมู่คนใหม่ยกไพร่พลเดินทางมา ดอกรักพาพวกชาวบ้านเข้าซุ่มโจมตีแต่ต้องถอยหนีแตกพ่าย เพราะมีกำลังน้อยกว่า เมื่อจอระแนยกกำลังมาถึงหน้าหมู่บ้านก็วางแผนการณ์เข้าโจมตีโดยไม่ใช้กำลังให้เสียเลือดเนื้อแบบเดียวกับแผนการณ์ของสุกี้พระนายกองที่ใช้ศึกต่อสู้กับชาวบ้านบางระจันนั่นก็คือ ใช้ปืนใหญ่ระดมยิงเข้าไป จนชาวบ้านพากันได้รับบาดเจ็บล้มตาย และระส่ำระสายไปตามๆ กัน ดอกรักจึงคิดจะพาพวกชาวบ้านเข้าตีค่ายข้าศึกที่วางกับดักรอไว้อยู่แล้ว
ในวันรุ่งขึ้น โก๊ะก็พาทองใบและพวกนักศึกษาเข้าป่าเพื่อเดินทางไปยังถ้ำที่เป็นประตูแห่งกาลเวลา และด้วยธรรมชาติของพรานใหญ่อย่างโก๊ะก็พาทุกคนหลงทางและวิ่งหนีเสือกันกระเจิดกระเจิงอีกจนได้ ขณะที่โก๊ะออกมาปรึกษาโอสถและทองใบ เล่าหยางกับเล่าอูก็มาพบกับนักศึกษาจึงใช้ปืนขู่และจับพวกผู้ชายมัดไว้ ส่วนผู้หญิงจะพาไปบังคับขืนใจเป็นเมียของพวกตน แต่จู้จี้วิ่งหนีพ้นไปได้ และตามพวกโก๊ะมาช่วยไว้ทันท่วงที ทุกคนจึงจับเล่าหยางกับเล่าอูมัดติดกันไว้บ้าง และทิ้งไว้ในป่าจนพบกับเสือตัวใหญ่ ทำให้สองโจรพ่อลูกต้องเอาตัวรอดกันอย่างทุลักทุเลเต็มที
ส่วนโก๊ะพาทุกคนมาถึงถ้ำจนได้ พวกนักศึกษาขอตามเข้าไปในถ้ำเพื่อพิสูจน์ว่าโก๊ะหายไปต่อหน้าต่อตาจริงๆ กำจรกำลังจะทดลองวางระเบิดเพื่อให้ถ้ำเกิดความสั่นสะเทือนแต่ปรากฏว่าเกิดแผ่นดินไหวจริง และทุกคนก็ถูกดูดเข้าอุโมงแห่งกาลเวลา เมื่อทุกคนรู้สึกตัวว่าได้เดินทางมาสู่เวลาใหม่ก็ตกใจ โดยเฉพาะเอกสิทธิ์ที่โวยวายจะกลับไป จัตวากับน้ำผึ้งไม่กลัวอะไรมากนักเพราะตนเองเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว ทองใบก็ดีใจที่ได้มา เพราะคิดว่าวิชามวยไทยของตนเองอาจจะมีประโยชน์อะไรกับโก๊ะและชาวบ้านบ้าง โอสถไม่ตื่นเต้น เพราะคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะตามมา และตนเองไม่มีห่วงอะไรในโลกปัจจุบันอีกต่อไป
ส่วนพวกจอมขวัญ ยิหวา ลักษมี อนุชา และกำจร แม้จะตื่นเต้นและกังวลบ้างแต่ก็พอระงับอารมณ์ได้ และยังมีหวังว่ากำจรจะพาทุกคนกลับได้เช่นกัน จู้จี้ร้องไห้ตกใจตามประสาเด็กแต่โอสถคอยปลอบให้กำลังใจ จอมขวัญรู้สึกดีกับโอสถขึ้นบ้างแต่พอถูกโอสถถากถางก็กลับหมั่นไส้ใหม่ ทุกคนตัดสินใจตามโก๊ะออกจากถ้ำ โก๊ะเริ่มกังวลและไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นนอกถ้ำมีความเปลี่ยนแปลงไป เพราะหน้าถ้ำไม่เหมือนกับหน้าถ้ำสมัยที่เขาอยู่ในหมู่บ้านท่าแพ และทุกคนก็รู้ว่าถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งโก๊ะตัดสินใจยิงปืนขู่ก็ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงและเสียงวิ่งเกรียวกราวหนีไป
โก๊ะพาทุกคนเข้ามาที่หมู่บ้านและเห็นความแตกต่างของสิ่งก่อสร้างหลายอย่าง ไม่ทันที่จะตั้งตัวก็มีทหารหญิงกรูเข้ามาใช้หอกและดาบควบคุมพวกโก๊ะไว้ พวกผู้หญิงพาพวกโก๊ะไปหานายบ้านซึ่งเป็นหญิงชื่อ รานี ทุกคนจึงรู้ว่าที่นี่เป็นเหมือนเมืองลับแลที่อยู่ในความปกครองของผู้หญิง และผู้ชายเป็นได้แค่ทาสกับบริวารเท่านั้น เอกสิทธิ์โวยวายแต่ถูกทหารหญิงตบจนเงียบเสียงไป
รานีรู้สึกพอใจในตัวโก๊ะจึงจะรับไว้เป็นทาสรักแต่โก๊ะไม่ตกลง รานีจึงคิดจะยกพวกนักศึกษาหญิงให้กับองครักษ์ของตนที่ไม่มีใครยอมเป็นคู่ด้วย พวกผู้ชายไม่ยอม รานีบอกว่า ถ้าเช่นนั้นต้องต่อสู้กับองครักษ์ของตนที่ชื่อว่า จิ๋ว หลายคนอาสาแต่พอจิ๋วก้าวเข้ามาก็ต้องตกใจเพราะจิ๋วเป็นชายร่างยักษ์สูงกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป จิ๋วชี้จะเอาจอมขวัญไปเป็นเมีย ทุกคนมองเอกสิทธิ์ที่ถอดใจไม่กล้าสู้ จอมขวัญบอกว่ายอมตายดีกว่าและทำท่าล้วงเป้เพื่อหยิบอะไรบางอย่าง จู้จี้ร้องไห้ โอสถตัดสินใจรับอาสาต่อสู้ จิ๋วว่าตัวแค่นี้ไม่ครณามือและท้าให้เข้ามาได้สองคน โก๊ะเข้าช่วยโอสถอีกคนและร่วมมือกันโค่นจิ๋วลงได้
จอมขวัญยิบชิ้นส่วนของปืนออกมาจากเป้และประกอบเป็นปืนยาวแล้วเข้าจี้ตัวรานี ขณะที่เหตุการณ์กำลังตึงเครียดก็มีพวกโจรป่าเข้ามาโจมตีหมู่บ้านหรือเมืองของรานี พวกโก๊ะตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้และปราบพวกโจรลงได้ รานีจึงยอมปล่อยตัวทุกคนและเดินทางมาส่งที่ถ้ำด้วยความอาลัย กำจรทดลองวางระเบิดในถ้ำจนสั่นสะเทือนและเกิดแผ่นดินไหว ทุกคนถูกดูดเข้าสู่ห้วงเวลา และมารู้สึกตัวในถ้ำอีกหน แต่เป็นเวลาของบ้านท่าแพและเมื่อออกมาที่หน้าถ้ำ โก๊ะก็เห็นกระบอกน้ำที่ดาวเรืองทิ้งเอาไว้จึงรีบพาทุกคนเข้าไปในหมู่บ้าน แต่สิ่งที่พบก็คือ ซากปลักหักพังของกระท่อมและหมู่บ้านท่าแพที่ยับเยินด้วยปืนใหญ่และไฟไหม้ โก๊ะตกใจวิ่งร้องหาบุญชูและบุญหลายกับดาวเรือง
ในขณะที่กำลังจะหมดหวัง บุญชูก็โผล่เข้ามาทำให้โก๊ะดีใจมาก และบุญชูเล่าให้ทุกคนฟังว่า ทหารข้าศึกยิงปืนใหญ่เข้ามาทุกวันจนชาวบ้านบอบช้ำเต็มที่แล้วจึงเข้าโจมตี ดอกรักต้านไม่ไหวจึงตัดสินใจพาทุกคนถอยหนีไปอยู่ที่หมู่บ้านท่าสร้างและอาศัยอยู่ที่นั่น แต่ก็เกิดปัญหาเมื่อ หาญ นายบ้านหนุ่มใหญ่เกิดความพอใจในตัวของบุญหลายและดาวเรือง แต่ทั้งสองไม่ยินยอมพร้อมใจ ดอกรักเองก็คอยขัดขวางเกิดการปะทะกัน พอดีจอระแนยกกำลังตามไปและเกิดการต่อสู้ ส่วนบุญชูหนีมาเพราะยังแอบหวังว่าโก๊ะจะกลับมาหาและได้พบกับโก๊ะจริงๆ
โก๊ะจึงพาทุกคนเดินทางไปที่ท่าสร้างทันที และหาทางฝ่าทัพของจอระแนเข้าไปในหมู่บ้านในขณะที่หาญกำลังทำความตกลงกับดอกรักได้ด้วยการยกบุญหลายให้ดอกรักและตนเองยอมรับดาวเรืองคนเดียว แต่พวกโก๊ะเข้ามา ทั้งสองก็ต้องผิดหวัง เพราะบุญหลายกับดาวเรืองต่างโผเข้าหาโก๊ะทั้งคู่ หาญแสดงฝีมือขู่โก๊ะ แต่ทองใบแสดงฝีมือและชั้นเชิงมวยไทยจนปราบหาญกับดอกรักได้ ทองใบรับชาวบ้านเข้ามาเป็นศิษย์เพื่อฝึกสอนมวยไทยไว้ต่อสู้กับข้าศึก ส่วนพวกนักศึกษาก็เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ตนเองมีมา กำจรมีดินปืนจำนวนมากสำหรับทำระเบิด จัตวา และอนุชาก็มีปืนของเล่าหยางกับเล่าอู โอสถมีเครื่องมือช่าง ส่วนพวกจอมขวัญมีเสบียงอาหารและยารักษาโรคกับเครื่องเวชภัณฑ์ ทำให้โก๊ะสงสัยว่าทุกคนตั้งใจจะตามเขามาที่นี่
จู้จี้ เริ่มบ่นตามประสาเด็กหญิงที่เคยชินกับความสะดวกสบาย และชักคิดถึงบ้าน เลยถูกบุญชูคอยยั่วแหย่ให้โมโหหุนหัน แต่ก็ทำให้หายเหงาไปได้ เอกสิทธิ์พยายามประกาศตัวว่าเป็นแฟนกับจอมขวัญจนทุกคนหมั่นไส้เพราะไม่ค่อยช่วยทำอะไร และจอมขวัญก็อึดอัดใจ โอสถพาชาวบ้านตัดไม้สร้างเป็นรั้วหรือป้อมค่ายล้อมหมู่บ้านเอาไว้ พวกนักศึกษาชายช่วยกันทำระเบิดบั้งไฟ หาญท้วงว่าอานุภาพอาจสู้ปืนใหญ่จริงๆ ไม่ได้ อนุชาเสนอให้เปลี่ยนจากรับเป็นรุกดูก่อนและทำสงครามกองโจรกับข้าศึกเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจ และอาสาเป็นทัพหน้าไปกับโอสถ เพราะถูกต่อว่าจากพวกผู้หญิง
โดยเฉพาะจอมขวัญแต่พอโอสถจะไปจริงๆ จอมขวัญก็เกิดเป็นห่วงขึ้นมาและภาวนาให้โอสถกลับมาด้วยความปลอดภัย แต่พอแสดงความเป็นห่วงเมื่ออยู่กันตามลำพัง ก็ถูกโอสถเย้าแหย่จนอดโมโหอีกไม่ได้ ยิหวาสงสัยว่าเพื่อนจะมีใจให้โอสถ แต่จอมขวัญคิดว่าในใจของโอสถมีแต่จำนรรค์เท่านั้น และมีเอกสิทธิ์เป็นเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว
เอกสิทธิ์รู้สึกดีใจลึกๆ ที่โอสถไปเสี่ยงอันตราย และอดแช่งขออย่าให้โอสถกลับมา แต่เผลอพูดดังไปจนจู้จี้ได้ยิน จู้จี้ไม่พอใจจึงเข้ามาต่อว่าจนเอกสิทธิ์ไม่พอใจและเกิดการเถียงกับจู้จี้ที่รู้สึกว่าน่าจะภาวนาให้พวกเดียวกันปลอดภัย บุญชูมาได้ยินทำให้เห็นว่าจู้จี้เป็นเด็กที่มีความคิดและอะไรในตัวดีเหมือนกัน จึงคิดและเลิกแกล้งจู้จี้และทำดีด้วยแต่กลับถูกจู้จี้เล่นงานกลับคืนจนย่ำแย่
พวกโอสถเข้ามาในป่าเพื่อดักทัพของข้าศึก จอระแนสั่งให้เม็งรายอที่ชอบคุยทับถมเมืองประทุน เป็นกองหน้ายกพลล่วงหน้ามาก่อนเพื่อดูลาดเลา โอสถคิดจะดักซุ่มโจมตีแต่อนุชาเสนอแผนการที่ดีกว่านั้นคือ วิธีของพลายงามที่เสกใบมะขามเป็นผึ้งตัวต่อเล่นงานทัพของแสนตรีเพชรกล้าในวรรณคดีไทย และขอให้ชาวบ้านที่มีความสามารถในการจับผึ้งป่ามาขังไว้ในหม้อดินและปิดฝาขังไว้
เมื่อพวกของเม็งรายอเดินทางมาและเตะถูกเชือกที่ขึงดักอยู่ เชือกดึงหม้อดินตกลงมา ฝูงผึ้งป่าที่กำลังโกรธจัดเพราถูกจับขังก็กรูกันออกมาต่อยพวกเม็งรายออุตลุด จนเม็งรายอและทหารพากันแตกหนีไม่เป็นขบวน พวกชาวบ้านเลยพากันเข้าไปเก็บอาวุธที่ข้าศึกทิ้งไว้และขนกลับไปหมู่บ้านด้วยความดีใจ แต่ดอกรักบอกว่าแค่ข้าศึกที่เป็นกองหน้าแตกหนีไปเท่านั้น แถมยังไม่มีใครตาย อีกไม่ช้าก็คงจะมากันใหม่ และใช้วิธีสู้อย่างเก่าไมได้ อนุชากับกำจรและโอสถบอกพวกตนก็ยังไม่หมดมุขแค่นี้เหมือนกัน
เม็งรายอ และทหารหนีมาหน้าตาหัวหูบวมปูดไปตามๆ กัน จอระแนคิดว่าพวกชาวบ้านที่ท่าแพอาจจะมีวิชาอาคมเสกพวกสัตว์พิษได้ แต่ทุกคน ก็ต้องแปลกใจเมื่อเหล่าหยางกับเล่าอูเข้ามาหาและบอกว่าพวกตนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่พวกนักศึกษาวางแผนกัน เมืองประทุนบอกกับจอระแนว่าเล่าอูเป็นใคร เล่าอูกับเล่าหยางเอาของขวัญแปลกๆ ให้และบอกว่าจะช่วยจอระแนจัดการกับนักศึกษาและชาวบ้านท่าสร้าง จอระแนจึงรับสองคนพ่อลูกไว้และตั้งให้เป็นที่ปรึกษา สั่งให้หมอยาช่วยกันพิษเหล็กในผึ้งให้พวกเม็งรายอและทหารกองหน้าก่อนที่จะเคลื่อนพลต่อมา
ขณะที่ทุกคนกำลังปรึกากัน รานีกับจิ๋วก็เข้ามาหา ชาวบ้านตกใจนึกว่ายักษ์หรือเปรตที่ไหน รานีบอกว่าเป็นห่วงโก๊ะจึงตามมา บุญหลายกับดาวเรืองชักไม่ชอบใจด้วยความหึงหวงและเกิดปะทะคารมกัน โก๊ะเลยหนีไป โจมตีข้าศึกด้วยความรำคาญใจ จิ๋วขอตามไปด้วย จอมขวัญกับยิหวาและลักษมีก็ขอตามไปสังเกตการณ์ เมืองประทุนส่งทหารออกมาหาข่าว ยิหวาแต่งชุดเชียร์ออกมาเต้นยั่วให้พวกทหารตามจนถูกพวกโก๊ะจับได้ และสอบถามจนรู้ว่าเมืองประทุนคุมกองหน้ามา
โก๊ะจำได้ว่าเมืองประทุนค่อนข้างขลาดและกลัวผี ยิหวา กับลักษมีจึงช่วยกันแต่งหน้าให้จิ๋วจนมองดูเหมือนผีเปรตตัวสูงใหญ่ ขณะที่เมืองประทุนกับทหารกำลังจะพักก็ต้องตกใจเมื่อเห็นจิ๋วบุกเข้ามา ทุกคนวิ่งหนีและถูกจอมขวัญกับโก๊ะสุ่มยิงจนล้มกลิ้งไปตามๆ กัน จอระแนชักหนักใจที่พวกโก๊ะมีฝีมือและวิชาอาคมแปลกๆ เหมือนกับขุนแผนเจ้าเมืองกาญจน์สมัยก่อน แต่เล่าหยางกับเล่าอูบอกว่าเรื่องคนตัวสูงไม่มีอะไรแปลกตรงไหนเพราะพวกตนเคยเห็น โยกเยก เชิญยิ้ม เป็นนักแสดงตลกรูปร่างสูงใหญ่มาแล้ว พวกโก๊ะอาจจะมีคนตัวสูงปลอมเป็นผีมาหลอกก็ได้ จอระแน จึงสั่งให้เล่าหยางกับเล่าอูลองเป็นศึกกองหน้าดูบ้าง
พวกชาวบ้านพากันดีใจที่ได้ชัยชนะข้าศึก โดยไม่เสียเลือดเนื้ออีก แต่ดอกรักกับหาญก็ค้านว่าพวกข้าศึกก็ไม่เสียเลือดเนื้อเช่นกัน และพวกมันคงไม่ยอมถอยไปง่ายๆ แค่นี้ และเมื่อกำลังข้าศึกใกล้เข้ามา หาญจึงอาสาหาคนของตนยกออกไปรับข้าศึกดูบ้าง เอกสิทธิ์รู้สึกเสียหน้าจึงขอตามไปด้วยเพราะคิดว่าคงไม่น่ากลัวซักเท่าไหร่ แต่พอจะปะทะกันจริงๆ และถูกพวก เล่าหยางซุ่มยิงใส่ เอกสิทธิ์ก็ถอดใจวิ่งหนีให้ชาวบ้านใจเสีย และพอเข้าปะทะกันจึงสู้พวกทหารไม่ได้ทำให้หาญได้รับบาดเจ็บ ต้องพ่ายกลับมาอย่างบอบช้ำยับเยิน จอระแนชื่นชมเล่าหยางกับเล่าอูจนเมืองประทุนและเม็งรายอไม่ค่อยพอใจ
หาญเห็นชาวบ้านเสียขวัญจึงประกาศสละตำแหน่งนายบ้านให้เลือกหัวหน้าใหม่ เฒ่าหอมขอสละสิทธิ์เพราะคิดว่าตนแก่เกินไป ดอกรักสนใจอยากได้ตำแหน่งนี้เพื่อจะได้ดูดีมีความหมาย โอสถเสนอให้ใช้วิธีเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยใช้เสียข้างมาก มีคนเสนอให้โก๊ะรับตำแหน่งนายบ้านแข่งกับดอกรัก และเมื่อมีการเลือกตั้งคะแนนเสียงส่วนใหญ่ก็เป็นของโก๊ะทำให้โก๊ะได้เป็นนายบ้านคนใหม่แทนหาญ ดอกรักรู้สึกผิดหวังจนเตลิดออกจากหมู่บ้านอย่างคลุ้มคลั่ง และในที่สุดก็ถูกทหารของจอระแนจับตัวมาได้ จอระแนคิดจะฆ่าให้ตาย แต่เล่าอูคิดจะใช้ประโยชน์จากดอกรักจึงเข้ามาเกลี้ยกล่อมและเสนอผลประโยชน์จนดอกรักเริ่มหวั่นไหว
บุญชู พาลูกลิงแสนรู้ของตนเองไปเที่ยวในป่าและลิงหนีขึ้นต้นไม้ไม่ยอมลงมา บุญชูปีนตามขึ้นไปจึงรู้ว่าลิงหนีโขลงช้างป่าที่เข้ามาหากินใกล้ๆ บุญชูพาลิงกลับเข้าหมู่บ้านและมาเล่าให้โก๊ะฟัง โก๊ะจึงตัดสินใจออกไปล่อโขลงช้างป่าให้ตามมาและวิ่งเข้ากลางทัพข้าศึกจนจอระแนแทบจะถูกช้างป่าเหยียบตาย แต่พอตั้งหลักได้ก็ถูกพวกชาวบ้านมาตั้งค่ายบังเอาไว้
ทหารข้าศึกพยายามจะบุกเข้ามาให้ได้ แต่ถูกพวกโก๊ะและชาวบ้านยันเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เล่าอูแอบมาพบกับดอกรักและเอายาเบื่อมาให้ดอกรักวางยาพวกโก๊ะและนักศึกษา แต่ทุกอย่างอยู่ในสายตาของบุญหลายกับดาวเรือง ดาวเรืองเสียใจแต่บุญหลายพูดปลอบว่าคนเราอาจจะผิดพลาดกันได้ ทั้งสองไปปรึกษากับโก๊ะเพื่อให้จับตัวดอกรักไว้ โก๊ะมาขอให้โอสถกับจัตวาช่วยแก้ปัญหา โอสถเล่าให้ทุกคนฟังถึงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ของไทยว่าเป็นเพราะความแตกความสามัคคีและมีไส้ศึกที่ทรยศต่อชาติต่อแผ่นดินเกิดของตนเอง โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว และในที่สุดข้าศึกก็ไม่เคยคิดจะเลี้ยงคนทรยศไว้ ดอกรักเริ่มคิดหนักและเมื่อได้ยินบุญหลายกับดาวเรืองเล่าให้บุญชูและจู้จี้ฟังถึงวีรกรรมต่างๆ ของตนเอง และดาวเรืองก็บอกว่าภูมิใจในพี่ชายที่ชื่อดอกรักคนนี้
เล่าอูบอกกับจอระแนว่า ได้รับการนัดหมายจากดอกรักเรื่องวางยาพวกนักศึกษาและชาวบ้าน จอระแนไม่แน่ใจเพราะเคยได้รับการบอกเล่าจากพี่ชายจึงให้เม็งรายอพาทหารบุกเข้าไป เม็งรายอเห็นทุกคนนอนหลับก็คิดจะฆ่าฟัน แต่พวกโก๊ะลุกขึ้นมาเล่นงานทหารข้าศึกและเม็งรายอจนจับเยิน ชาวบ้านเริ่มระส่ำระส่าย พวกกำจรแก้เกมด้วยการตัดต้นตาลมาทาสีให้ดูเหมือนปืนใหญ่นับสิบกระบอกแล้วลากออกมาประจันหน้า แล้วยิงด้วยบั้งไฟจนทหารข้าศึกนึกว่าถูกระดมยิงจากปืนใหญ่จำนวนมาก
พอเห็นว่าข้าศึกเสียขวัญ พวกโก๊ะกับทุกคนก็เข้าประจัญบานทันที จอระแน เมืองประทุน และเม็งรายอ รวมทั้งทหารข้าศึกต่างบาดเจ็บล้มตายแตกพ่ายหนี แม้จะเป็นฝ่ายมีชัย แต่โก๊ะก็ต้องสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เมื่อบุญหลายกับดาวเรืองเข้าป้องกันบุญชูและจู้จี้จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในอ้อมกอดของโก๊ะ ก่อนที่จะสัญญาว่าจะขอตามไปรักโก๊ะในทุกชาติไป
โก๊ะไม่สนใจรานีที่คิดว่าตนเองอาจจะมีหวังเมื่อโก๊ะกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ดอกรักปลอบใจและมองว่าตนเองกับรานีหัวอกเดียวกัน แต่หาญก็เข้ายืนยันว่าตนเองก็ผิดหวังเหมือนกัน และถามว่ารานีจะเลือกใคร โก๊ะกับบุญชูพากันมาส่งพวกนักศึกษาที่ถ้ำขณะที่กำจรจะทำระเบิดก็เกิดแผ่นดินไหวทุกคนกลับสู่โลกปัจจุบัน ทันใดนั้นเล่าหยางกับเล่าอู ก็โผล่เข้ามาดูถูกพวกจอมขวัญ ยิหวา ลักษมีจับเอาไว้ได้ และช่วยกันมัดทั้งสองพ่อลูกไว้ ทุกคนออกจากถ้ำไปแต่ที่สวนเข้ามาคือเสือตัวใหญ่ที่ท่าทางหิวกระหาย ทำให้สองโจรถึงกับร้องลั่นอย่างหมดหวัง
พวกโก๊ะกลับมาพักที่บ้านของทองใบ โก๊ะกับบุญชูยังไม่หายโศกเศร้าในขณะที่มีเสียงขบวนแห่ขันหมากเข้ามา จู้จี้ชวนบุญชูออกไป ดูแต่พอเห็นเจ้าบ่าวบุญชูก็หน้าตื่นกลับเข้ามาเพราะเจ้าบ่าวหน้าตาเหมือนดอกรักราวกับพิมพ์เดียวกัน ทองใบมาส่งข่าวว่าเจ้าบ่ายชื่อ ดอกดิน กำลังจะแต่งงานกับเจ้าสาวชื่อ บุญเรือน โก๊ะรู้สึกสังหรณ์ใจ จึงวิ่งไปดูพร้อมกับบุญชู พอเจ้าสาวเห็นหน้าโก๊ะกับบุญชูก็ตกใจ เช่นเดียวกับบุญชูที่ร้องตะโกนเรียกแม่ เพราะเจ้าสาวหน้าเหมือนบุญหลายราวกับพิมพ์เดียวกัน แล้วเจ้าสาวหรือบุญเรือนก็ทิ้งทุกอย่างวิ่งเข้ามาหาและบอกว่า โก๊ะ กับ บุญชู คือ คนที่เธอฝันถึงตลอดมา ทำเอาเจ้าบ่าวหรือดอกดินแทบจะเป็นบ้าด้วยความเสียใจ แต่ดาวที่เป็นน้องสาวเข้ามาปลอบใจและชวนไปดูการแสดงของนักร้องลูกทุ่งที่ดอกดินติดใจคือ อาภาพร นครสวรรค์
จอมขวัญ ยังคงเถียงกับโอสถ แต่ทั้งคู่รู้ดีว่าเป็นการเถียงเพื่อได้ใกล้ชิดกัน ส่วนกำจรกับยิหวา และอนุชากับลักษมีก็ตัดสินใจว่าจะทดลองคบกันเพื่อศึกษา จู้จี้สัญญาว่าจะไม่ลืมเพื่อนที่ชื่อ บุญชู และทุกคนก็ร่ำลากันและเดินทางไปตามครรลองชีวิตของตน
สิบสามปีต่อมา มีกลุ่มนักศึกษามาเที่ยวป่าและพบกับพรานนำทางหนุ่มหน้าตาดีแต่พูดคล่องท่าทางกะล่อนเต็มที่ พร้อมกับแนะนำตัวว่าชื่อพรานโก๊ะ มีเสียงท้วงว่าพรานโก๊ะน่าจะแก่กว่านี้ พรานโก๊ะหนุ่มจึงบอกผมเป็นลูกชายชื่อ โก๊ะจูเนียร์ และสงสัยว่ามีคนรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ใช่พรานโกะ นักศึกษาสาวสวยจึงบอกว่าเธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่และยังรู้ว่าชื่อจริงของเขาน่าจะชื่อ บุญชู ซะมากกว่า ทำให้โก๊ะจูเนียร์มองเด็กสาวอย่างพิจารณาก่อนจะร้องเรียกว่า ยายจู้จี้
เรื่องย่อ : โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ (2549/2006) ป่าเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะเข้าใจได้ง่ายๆ นัก หลายครั้งการผจญภัยจึงเกิดขึ้นในป่า และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เรื่องสนุกนี้เริ่มต้นขึ้น เมื่อกลุ่มนักศึกษาชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ วางแผนที่จะออกเดินทางสำรวจป่า ซึ่งในกลุ่มนักศึกษาที่ร่วมเดินทางไปในครั้งนั้นก็มี “กำจัด” (นักรบ ไตรโพธิ์) หนุ่มนักประดิษฐ์ ที่มีความสามารถประมาณ แมกไกเวอร์ สามารถทำสิ่งที่ทุกคนไม่คิดว่าเขาจะทำได้ แต่เหตุจริงๆ ที่เขาร่วมเดินทางนั้นไม่ได้เริ่มมาจาก เพราะรักธรรมชาติอย่างสุดซึ้งหรอก แต่เพราะเขาหลงรัก “มยุรี” (อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์) คนรักของ “วิทยา” (ณรงค์ศักดิ์ ขุนทอง) ซึ่งเป็นที่หมายปองของชายทุกคนอย่างสุดหัวใจต่างหาก จึงได้ขอเดินทางไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มยุรี กลับไม่เคยรู้ตัวว่า กำจัด ชอบเธอเลย
มาถึงนาย “โอสถ” (กีรติ เทพธัญญ์) คนที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เพราะเขาคือชายหนุ่มอารมณ์ดี ผู้มีทุกอย่างเพียบพร้อมไปหมด เสียบอยู่อย่างเดียว คือ ปากหมา เป็นคู่กัดกับ “จำนรรค์” (ปาลิตา โกศลศักดิ์) สาวน้อยที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองว่า สามารถทำได้ทุกอย่างไม่แพ้ผู้ชาย
ก่อนที่กลุ่มนักศึกษาจะเดินทางเข้าป่า ก็ต้องมี พรานนำทาง แต่จนแล้วจนรอดก็หาไม่ได้ สุดท้ายจึงมาลงที่ “โก๊ะ” (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) พรานกำมะลอ ผู้หลงใหลในป่า และเพชรพระอุมา นิยายผจญภัยที่เขารัก โก๊ะ แนะนำตัวเองให้ทุกคนรู้จัก แล้วพยายามสร้างความเสื่อมใสให้เกิดขึ้น และก็ได้ผล เมื่อทุกคนทึ่งกับสิ่งที่โก๊ะเล่าให้ฟัง เว้นแต่โอสถที่ไม่ค่อยจะเชื่อใจโก๊ะ จึงขัดคออยู่เรื่อยๆ
ในวันเดินทางกลุ่มนักศึกษาแยกออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อลงแพ ด้วยความอวดเก่งของโก๊ะ กลุ่มนักศึกษาจึงพลัดหลงกัน และกลุ่มของโก๊ะเกิดหลงเข้าไปในเขตพม่า โก๊ะยังอวดเก่ง และนำทางอย่างมั่วๆ ต่อไป จนทำให้ถูกะเหรี่ยงจับได้ โอสถและโก๊ะ ถูกบังคับให้กลับไปเอาเงินค่าไถ่มา ทั้ง 2 คน จึงจำใจต้องไป
ขณะเดียวกันนั้น หัวหน้ากะเหรี่ยง พอใจมยุรี และอยากได้เป็นเมีย จึงสั่งให้ลูกน้องไปพาตัวมา กำจัดทนไม่ได้คิดแผนที่จะช่วยมยุรี โดยการเบี่ยงเบนความสนใจด้วยระเบิดที่ทำขึ้นเอง กะเหรี่ยงวุ่นวาย กลุ่มนักศึกษาหนีจากห้องขัง โดยกำจัดเข้าไปช่วยมยุรี และพากันหนีรอดออกมาได้
ฝ่ายโก๊ะ กับโอสถ เดินทางกันจนเหนื่อยอ่อน แต่ทหารกะเหรี่ยงที่คุมตัวทั้งคู่มา เกิดปะทะของทางการพม่าทั้ง 2 คนเกือบหนีออกมาได้ แต่ต้องมาเจอทหารพม่าจับตัวมาสอบสวนที่ค่าย ขณะนั้นได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้ทำให้ทั้งคู่หนีรอดมาได้
ทางด้านกลุ่มนักศึกษาที่นำโดยกำจัด ทุกคนออกเดินป่าอย่างหมดหวัง เพราะคิดว่าหลงป่า แต่เหมือนปาฏิหาริย์ที่ทั้งหมดมาเจอ โก๊ะ และโอสถจนได้
ทุกคนไม่เชื่อโก๊ะอีกแล้ว แต่ก็คล้อยตามให้โก๊ะนำทางต่อไปจนเจอถ้ำ จึงพักกันที่นี่ ตกดึกทุกคนต้องสะดุ้ง เพราะเสียงร้องของ “สวัสดี” (ชยพล หอมเกษร) ที่เข้าไปพบกระดูกในถ้ำ ทุกคนเริ่มกลัว แต่ไม่มีทางเลือกจึงต้องพักในถ้ำต่อไป จากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว
พอรุ่งเช้าทั้งหมดออกเดินสำรวจ และพบหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ดูแปลกตา นั่นก็เพราะทุกคนหลุดเข้ามาอยู่ในสมัยพระเจ้าตากสินเสียแล้ว
แต่แล้วทุกคนก็ถูกทหารพม่าที่นำโดย “ท่านนายกอง” (ค่อม ชวนชื่น) จับไปที่ค่าย กำจัดใช้ระเบิดที่ทำเองอีกครั้ง ทั้งหมดหนีออกมาได้ ทหารพม่าก็ไล่ตามมา แต่โชคเข้าข้างกลุ่มนักศึกษา เพราะกองกำลังชาวไทยที่นำโดย “ดอกรัก” (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) เข้ามาช่วยทุกคนไว้ได้ และพากลับหมู่บ้าน
โก๊ะเดินสำรวจหมู่บ้านจนไปถึงลานหลังหมู่บ้าน โก๊ะได้พบกับ “บุญหลาย” (อรวรรษา ฐานวิเศษ) และตกหลุมรักทันที ตกเย็นทุกคนเข้ามารวมตัวที่ลานหมู่บ้าน “เฒ่าหอม” (ชุมพร เทพพิทักษ์) หัวหน้าหมู่บ้านกำลังเตรียมการรบกับพม่า นักศึกษาเริ่มสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้นและในที่สุดก็รู้ว่าตัวเองหลุดเข้ามาในประตูกาลเวลา มาที่ปี 2420
นักศึกษาทุกคน ร่วมกันเสนอแผนการรบ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันเข้ามาช่วย ในระหว่างที่ทุกคนสร้างอุปกรณ์ในการรบ ความรักของหลายๆ คู่ก็ค่อยๆ งอกเงยขึ้น อย่าง “ชัยชนะ” (สัจจา ปุผาลา) กับ “ดาวเรือง” (มาเจตตา วิเศษสมบัติ) น้องสาวของดอกรักและมยุรี ที่เปลี่ยนใจมาชอบกำจัด เพราะความเป็นห่วงเป็นใยของเขา ส่วนคู่ของ
จำนรรค์ กับโอสถ ยังไม่มีการแสดงออก นอกจากจะเก็บไว้ในใจ แต่ทุกคนก็รู้ว่าทั้งสองคนมีใจให้กัน
กลุ่มชาวบ้านบุกไปปล้นเสบียงของพวกพม่าถึง 2 ครั้ง แต่ในครั้งที่ 2 หลายคนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเสบียงเริ่มร่อยหรอ เฒ่าหอมจึงขอให้นักศึกษาช่วยปล้นเสบียงอีกครั้ง ด้วยความเมา จำนรรค์จึงอาสาเข้าปล้นเอง ทุกคนจึงตกกระไดพลอยโจร ในการร่วมปล้นเสบียงอย่างทุลักทุเล แต่สุดท้ายก็สามารถทำสำเร็จ
อยู่มาวันหนึ่ง บุญหลายได้พูดถึงของสิ่งหนึ่งที่เธอเก็บได้ ซึ่งก็คือ วิทยุสื่อสารของ กำจัด ที่ตกไว้เมื่อครั้งหลุดเข้ามาในยุคนี้ใหม่ๆ เลยเอามาให้กำจัดดู กำจัดดีใจมากที่วิทยุใช้งานได้ เพราะนั่นหมายความว่า มีทางที่จะติดต่อกับเพื่อนในยุคปัจจุบัน
กำจัดลองวิทยุสื่อสาร โดยไปที่ถ้ำ เพราะคิดว่าคลื่นน่าจะชัด จึงไปกับมยุรี และจำนรรค์ ระหว่างทางทั้ง 3 คนเจอเสือ กำจัด กับมยุรีหนีได้ ส่วนจำนรรค์วิ่งหนีไปอีกทาง พอหนีพ้น กำจัดจึงกลับไปบอกทุกคนให้ช่วยตามหาจำนรรค์ที่วิ่งเตลิดไป “อัศวิน” (พรวิษณุ สุวรส) ขี่จักรยานตามหาแต่ไม่พบ กลับไปเจอกับทหารพม่าที่แอบมาตั้งค่ายอยู่ใกล้จึงรีบมาบอกทุกคน ทั้งหมดเตรียมการที่จะต่อสู้ กำจัดนำเครื่องดักฟังมาใช้ ทำให้รู้ว่าทหารพม่ากำลังตักน้ำดื่มเป็นเสบียง โอสถวางแผนโดยการวางยาลงไปที่น้ำดื่มของพม่า เมื่อถึงเวลาประจัญบานทหารพม่าต่างอ่อนแรงเพราะท้องเสีย กองกำลังชาวไทยจึงชนะอย่างง่ายดาย ทหารพม่าที่หนีไปได้เจอกับจำนรรค์เข้าพอดี จำนรรค์อาศัยความกล้าเอาไม้ตีหัว และปลอมตัวเป็นทหารพม่า ทางนายกองพม่าโกรธมากที่เสียทั้งทหาร เสบียง และอาวุธ จึงเตรียมการบุกใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
ทางฝ่ายดอกรักที่กำลังหาวิธีที่จะถอนฟัน จึงใช้คานยิงลูกหินที่กำจัดประดิษฐ์ขึ้นงัด แทนที่ฟันจะหลุดกลับเป็นตัวดอกรักที่กระเด็นไปตกที่ค่ายทหารพม่า และโดนจับในที่สุด ทุกคนหาทางช่วยดอกรัก เมื่อถึงเวลาประจัญบาน ทหารพม่าปรับวิธีรบ ด้วยการตีโอบด้านหลังจึงจับทุกคนไว้ได้ แต่
จำนรรค์ที่ปลอมเป็นทหารพม่าก็หาทางที่จะช่วยเพื่อนๆ โดยลอบตียาม และช่วยทุกคนออกมาได้
กำจัดใช้วิทยุติดต่อกับ “จ่าทองก้อน” (รัญ เมืองลพ) ได้ และเล่าเรื่องราวให้ฟัง จากนั้นก็บอกว่าจะกลับไปและให้ จ่าทองก้อนมารอรับออกจากป่า ทางกำจัดคิดได้ว่าวิธีที่จะกลับไปได้ ต้องทำให้ถ้ำเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง ซึ่งต้องใช้ดินปืนจำนวนมาก นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มี
กลุ่มชาวบ้านและนักศึกษาทุกคน ใช้วิธีการซุ่มโจมตีอันเหนือชั้น และพบดินปืนจำนวนมากในค่ายทหารพม่า นักศึกษาดีใจมากและเตรียมระเบิดถ้ำ เพื่อจะกลับบ้านแต่คนที่ไม่อยากกลับ คือ โก๊ะ นั่นเอง เพราะเขาอยากอยู่กับบุญหลายคนที่เขารัก และคิดว่าตัวเองเหมาะกับที่นี่ ทุกคนเลยไม่ผืนใจ โก๊ะฝากบอกคนที่บ้านด้วยว่าเขาอยู่ที่นี่กับคนที่เขารัก กำจัดเริ่มนับถอยหลัง เสียงระเบิดดังขึ้น ทุกคนได้กลับมาในยุคปัจจุบัน และการผจญภัยอันแสนมหัศจรรย์ก็จบลงด้วยดี ติดตามชมได้ทุกวัน เวลา 18:45 น. ทางช่อง 7 สี
เรื่องย่อ : อังกอร์ (2543/2000) นายทหารประจำฝ่ายป้องกันและปราบปรามของประเทศเขมรชอบล่าเสือเพราะมีความแค้นมาตั้งแต่เด็กเพราะเห็นพ่อถูกเสือฆ่าต่อหน้าต่อตา จนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอเสือขนาดใหญ่ ทุกครั้งที่ออกล่าเสือนางเสือตัวนี้ก็คอยตามล่านายพลเช่นเดียวกันเพราะนายพลได้ฆ่าคู่ของมันตาย คุณหญิง ภรรยานายพลมิน หลังจากแต่งงานกันมานานแล้วไม่มีลูก จึงได้ไปบนที่วัดอังกอร์ ในที่สุดก็ตั้งท้อง ก่อนคุณหญิงคลอด นายพลมินได้ออกไปล่าเสือตัวดังกล่าวซึ่งมีพลังและวิญญาณที่กล้าแข็งมาก ในขณะที่ มันกระโจนเข้าหา นายพลมินยิงสวนถูกแสกหน้ามันอย่างจัง มันจ้องหน้านายพลอย่างอาฆาต จนสิ้นลมไป เสียงเด็กร้องไห้จ้า เมื่อนายแพทย์ประจำตระกูลส่งเด็กหญิงแรกเกิดให้ นรินทร์ตกใจเมื่อเห็นเงาสีเขียววาบขึ้นมาในแววตาของเด็กน้อย คุณหญิงคลอดก่อนกำหนดและเสียชีวิตทันทีที่คลอด 20 ปีผ่านไป อังกอร์ โตเป็นสาวท่ามกลางความรักของท่านนายพลมินและนรินทร์แม่นมของอังกอร์อังกอร์เติบโตมาพร้อมกับ คอยที ลูกชายคนเดียวของนรินทร์ นรินทร์คอยดูแลคุณหญิง ตั้งแต่สามีเธอตาย นายพลมินเลี้ยงเธอมาอย่างดี ฉะนั้นเธอจึงรักอังกอร์เหมือนลูกของเธอ จนคอยที ได้เป็นผู้กองในหน่วยจู่โจมพิเศษและเป็นนายทหารคนสนิทของนายพลมิน อังกอร์เป็นหญิงสาวที่มีความสวยงามและมีความรู้ นายพลมินส่งเธอไปเรียนที่อังกฤษ เรียนวิชา แพทย์เป็นปีสุดท้าย และกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่องานครบรอบวันตายของแม่เธอและวันเกิดของเธอด้วย นายพลมินจัดงานวันเกิดให้อังกอร์ ความสวยของเธอเป็นที่เลื่องลือ มีนายทหารคนหนึ่งหมายปองที่จะครอบครองเธอให้ได้ ซึ่งก็คือ อ้ายคำปัน ลูกชายนายพลทหารฝ่ายการต่างประเทศ เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น พวกเขมรแดงปฏิวัติสำเร็จบุกเข้ายึดเมืองพนมเปญ ผู้กองกาญจน์ กลับมาบ้านพักได้พบอังกอร์ในสภาพบอบช้ำ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลของค่ายและจุดนี้เองที่ผู้กองรู้ว่า หมวดฤทธิ์และพวกสังหารลูกน้องเขาและค้าอาวุธเถื่อนกับพวกโจร ผู้กองตัดสินใจพา อังกอร์หนีกลับเขมรก่อนแล้วค่อยหาหลักฐานมัดตัวหมวดฤทธิ์และคนอื่นๆ ต่อไปโดยมีหมวดชาติไปด้วยเนื่องจากผู้กองไม่ชำนาญทาง แต่หมู่เข้มก็ให้กิ่ง ลูกสาวของตนช่วยนำทางไปอีกคน โดยหมู่เข้มอยู่สังเกตการณ์และหาทางรายงานผู้บังคับบัญชา ณ กองสอบสวนกลางให้รับรู้ต่อไป