อะเมซซิ่งโคกเจริญ (2544)

หลงไฟ (ไม่ได้ออกอากาศ) (2544/2001) ก้านแก้วนักศึกษาปีสุดท้ายที่ต้องดิ้นรนเพราะพ่อแม่ยากจนและยังถูกลุงที่อาศัยอยู่ปล้ำ จึงตัดสินใจเป็นสาว เอสคอร์ท โดยที่กุญชรแฟนหนุ่มผู้แสนดีไปรับราชการที่ต่างจังหวัดเก็บเงินเพื่อรอวันแต่งงาน กิจการของก้านแก้วไปได้ดี เธอเพลิดเพลินกับการรับรองแขก กุญชรยังพาซื่อส่งเงินมาให้ก้านแก้วเก็บไว้เพื่อแต่งงาน แต่เธอกลับไม่ใส่ใจ เธอได้รู้จักชลลูกเศรษฐี ทั้งคู่พึงพอใจกัน ชลถูกทางบ้านให้เลิกกับก้านแก้วแต่เขาไม่ยอม อีกทั้งชลยังไม่ได้ทำงานและติดการพนัน กุญชรและชลมาหาก้านแก้ว จึงรู้ว่าก้านแก้วมีสามี กุญชรเสียใจมากขอให้ชลอย่าทิ้งเขาอีกคน ก้านแก้วหมดคนที่เลี้ยงไปอีกคนอีกทั้งเงินก็หมด ทำให้มีปากเสียงกับชลและเลิกกัน ก้านแก้วถลำลึกลงไปอีก และเจอแมงดาที่หาแขกให้และยังถูกซ้อม ก้านแก้วจึงส่งจดหมายเพื่อไปทำงานที่เยอรมัน แต่ก็ไม่ต่างไปจากหญิงไทยที่ถูกหลอกให้ไปเมืองนอก เธอถูกหลอกไปขายตัว และท้ายสุด ชีวิตก้านแก้วก็ต้องจบลงด้วยความเศร้า ที่หลงผิดไปชั่วชีวิต

ปมไหม (2544/2001) เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ จิม ทอมป์สัน ราชาไหมไทย หายตัวไปอย่างลึกลับในป่าดิบประเทศมาเลเซีย คทา (พิเศก อินทรคันชิต) นักหนังสือพิมพ์ ผู้ที่เคยศรัทธาจิมตั้งแต่เมื่อครั้งเรียนหนังสืออยู่ที่อเมริกาต้องเข้ามาทำข่าวชิ้นสำคัญนี้โดยการสนับสนุนของ เต่า (อภิชาต ชูสกุล) บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษฉบับเดียวในยุคนั้น และการช่วยเหลือจาก เล็ก (อรรถพร ธีมากร) ช่างภาพตัวแสบประจำสำนักพิมพ์ การสืบสวนเริ่มขึ้นเพียงการพยายามจะตีแผ่ประวัติของ จิม ให้คนอ่านได้รู้จักว่ามีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ คทาเป็นอย่างดีในเรื่องนี้ก็คือ ปานใจ (ประภา นาคประสิทธิ์) สาวชาวบ้านครัว ผู้มีฝีมือการทอผ้าไหมเก่งที่สุด ผู้ที่ จิม ทอมป์สัน ไว้วางใจในการทอผ้างานสำคัญ ๆ เสมอ ๆ แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด การหายไปของ จิม ทอมป์สัน ไม่ใช่การหายไปแบบธรรมดา แต่กลับเป็น "ปมไหม" ที่มีเงื่อนงำลึกลับซับซ้อนเกินกว่า จะเป็นการหายไปด้วยอุบัติเหตุธรรมดา ทำให้คทาต้องลงมือสืบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง และนี่เป็นการตัดสินใจ ที่ทำให้คทาคิดไม่ถึงว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้า อยู่กับสิ่งที่เป็นอันตรายมากที่สุดในโลกยุคนั้น ภาพยนตร์กึ่งสารคดีชุดนี้ถ่ายทำเป็นฟิล์มขนาด 16 มิลลิเมตร จะพาผู้ชมย้อนกลับไปในปี พุทธศักราช 2510 เมื่อบ้านเมืองกำลังตกอยู่ภายใต้การปกครอง ของรัฐบาลทหารโดยปราศจากรัฐธรรมนูญ และโลกกำลังตื่นวิตกไปกับภาวะสงครามเวียดนาม และสงครามเย็น

แรงเงา 2544

เรื่องย่อ : แรงเงา (2544/2001) มุตตา หญิงสาวผู้มีนิสัยอ่อนหวานดูบอบบาง ทำงานเป็นเสมียนเล็ก ๆ ที่กระทรวงแห่งหนึ่ง หล่อนหายหน้าไปนับจาก นพนภา ภรรยาของหัวหน้ากอง เจนภพ มาด่าประจานหล่อนที่กระทรวงเรื่องแย่งสามี ด้วยความที่เป็นคนอ่อนแอ ไม่กล้าสู้รบปรบมือกับใคร ทำให้มุตตาไม่สามารถอดทนต่อความอับอายได้ จึงหลบหนีไปอยู่ที่อื่นเป็นเวลา 1 เดือน ช่วงที่มุตตาหายไป วีกิจ หลานชายของเจนภพ ซึ่งมีใจให้กับมุตตาห่วงใยมุตตา และติดตามข่าวคราวของมุตตาอยู่เสมอ เมื่อมุตตากลับมา นพนภารู้ข่าวเข้าก็กลับมาด่าประจานอีก มุตตาหมดความอดทนจึงตบหน้านพนภาไปหนึ่งครั้ง เมื่อเจนภพรู้เข้าก็โกรธ เรียกให้มุตตามาขอโทษนพนภา มุตตาปฏิเสธพร้อมกับยื่นใบลาออก ทำให้เจนภพโกรธมากขึ้นไปอีก เหตุการณ์นี้สร้างความลำบากใจให้กับมุตตาเป็นอย่างมาก มุตตาจึงตัดสินใจย้ายที่พักเพื่อหลบหนีจากผู้คน เมื่อวีกิจรู้เข้าก็ออกตามหามุตตา แต่ไม่พบ เจนภพได้รับโทรศัพท์จากมุตตาเพื่อขอนัดพบด้วยความรัก และปรารถนาที่ยังมีอยู่ในตัวเธอ เจนภพจึงไปพบกับมุตตาตามนัด และขอให้เธอกลับไปทำงานด้วยอีก แต่เธอปฏิเสธ หลังจากนั้นมุตตาก็นัดเจอกับเจนภพบ่อยครั้งขึ้น พร้อมกับโทรศัพท์ไปหานพนภาด้วยการปลอมตัวเป็นผู้หวังดี บอกว่าเจนภพกำลังอยู่กับผู้หญิง ทำให้นพนภาเกิดอารมณ์หึงอย่างรุนแรง และไปอาละวาดกับเจนภพ มุตตาใช้มารยายั่วยวนเจนภพจนเขาคลั่งไคล้ในตัวเธอ มุตตาจึงยื่นข้อเสนอให้เจนภพหย่ากับนพนภา เมื่อวีกิจรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างมุตตาและเจนภพ ก็ขอร้องให้เธอเลิกคบกับเจนภพเสีย วีกิจยังสงสัยในตัวของมุตตามาก เพราะเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จึงนำลายเซ็นไปให้เพื่อนที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ ผลปรากฏว่าไม่ใช่ลายมือจากคนคนเดียวกัน วีกิจจึงโทรไปหามุตตาตามเบอร์ที่เคยให้ไว้ ก็ไม่มีคนชื่อมุตตาหากแต่เป็นศูนย์วิจัยคอมพิวเตอร์ทำให้ วีกิจกลับสงสัยหนักขึ้นไปอีก สถานการณ์ ของเจนภพและนพนภาเลวร้ายลงทุกวัน เจนภพตัดสินใจพาครอบครัวไปพักผ่อนที่พัทยา มุตตาแอบตามไปและพักอยู่ห้องข้าง ๆ เจนภพ นพนภาอาละวาดหนักหาว่าเจนภพนัดมุตตามาด้วย และนพนภาก็เริ่มมีอาการเป็นโรคประสาทอ่อน ๆ วีกิจกลุ้มใจมากเพราะสงสารหลาน ๆ ที่ต้องทนรับสภาพปัญหาครอบครัว เขาตัดสินใจไปดักรอ มุตตาที่ห้องพักอีกครั้ง และขอร้องให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับเจนภพ มุตตาปฏิเสธแต่กล่าวว่าจะยอมทำตามถ้านพนภาจะยอมคุกเข่าขออโหสิกรรม คำตอบของมุตตาทำให้วีกิจเกิดอารมณ์โกรธมาก และพาลใช้กำลังทำให้มุตตาตกเป็นของเขา ด้วยความที่ทั้งคู่แอบมีใจให้กันในส่วนลึกทำให้ทุกอย่างเลยตามเลย แต่กระนั้นมุตตาก็ยังไม่เลิกราที่จะราวีกับครอบครัวของเจนภพ วีกิจพบเบาะแสว่ามุตตาอาจมีฝาแฝด ชื่อ มุนินทร์ มุตตานัดเจอกับเจนภพเพื่ออำลา แต่เพื่อนของนพนภาเห็นเข้าจึงโทรบอกนพนภา ทำให้หล่อนช็อกหกล้มศีรษะฟาดพื้นเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง และกลายเป็นอัมพาต เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เจนภพหันมาสนใจภรรยาและครอบครัวมากขึ้น เพราะสำนึกผิดว่าเขาเป็นคนทำลายครอบครัวของเขาเอง วีกิจเดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อหาความจริงเกี่ยวกับพื้นเพของมุนินทร์ เขาสืบเสาะจนพบบ้านของมุตตา มุนินทร์พาเขาไปพบกับมุตตา เขาจึงรู้ความจริงว่ามุตตาได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว และเป็นวันครบกำหนดร้อยวันที่ต้องเผาศพเธอพอดี วีกิจรู้ความจริงที่น่าสะเทือนใจอีกว่า มุตตาผูกคอตายขณะตั้งครรภ์ได้ 2-3 เดือน มุนินทร์เรียนจบกลับมาจากอเมริกา พบว่าน้องสาวตายอย่างน่าสลดใจ จึงหาทางแก้แค้นและปลอมตัวเป็นมุตตา ท้ายสุดแล้วเมื่อเจนภพรู้ความจริงจึงเดินทางมาเพื่อกราบศพและขออโหสิกรรมกับ มุตตา หลังงานฌาปนกิจ ศพของมุตตาเรียบร้อย วีกิจก็ขอเริ่มต้นใหม่กับมุนินทร์ แต่มุนินทร์ลังเลในความรักของวีกิจ ไม่แน่ใจว่าเขารักที่ตัวเธอหรือมุตตากันแน่ มุนินทร์ไม่ต้องการเป็นเงาของกันและกันกับมุตตา เธอต้องการให้วีกิจรักเธอที่ความเป็นตัวของเธอเอง วีกิจจะสามารถเอาชนะใจของมุนินทร์ได้หรือไม่

กลิ่นสีและกาวแป้ง (2544/2001) เป็นละครที่เกี่ยวกับชีวิตนักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร

วัยระเริง (2544/2001) ชนเด็กหนุ่ม ที่คลั่งไคล้ในเสียงเพลง แต่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ เชนต้องออกจากบ้านเพราะพ่อไม่เข้าใจ พ่ออยากให้เชนเลิกเล่นดนตรี และหันมาตั้งใจเรียนเพียงอย่างเดียว เมื่อเกิดการทะเลาะกันหนักขึ้น เชนจึงกลายเป็นเด็กมีปัญหา และหนีออกจากบ้าน และหยุดเรียน 1 ปี เพื่อทำงานหาเงิน ขณะที่จั๊บเพื่อนรักของเชน ผู้ที่มีฐานะร่ำรวย มีพร้อมทุกอย่าง แต่ขาดพ่อ ดังนั้น แม่จึงตามใจทุกอย่าง จั๊บมีปัญหาเรียนอ่อน หนีเรียน เอาแต่เล่นดนตรี ทำให้โรงเรียน ต้องเชิญออก จั๊บจึงขอแม่ ไปเรียนที่เดียวกับแฟน นั้นก็คือแป้ง เมื่อว่างจากการทำงาน เชนมักจะแวะไปที่ บ้านหนังสือ เพื่อหาหนังสือ เกี่ยวกับดนตรีมาอ่าน และที่นี่ เชนได้พบกับอาจารย์ย่า ผู้ซึ่งเกษียณตัวเอง ออกมาจากการสอนหนังสือ มาหลายปีแล้ว และเมื่ออาจารย์ย่า ได้ผู้คุยกับเชน ก็ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด อาจารย์ย่าพูดให้เชน หาทางกลับไปเรียนต่อให้จบ อย่าทิ้งการเรียน ติดตามต่อได้ใน วัยระเริง

ปากกา หัวใจ กับ ไมโครโฟน (2544/2001) เรื่องของ คีตะ ดีเจหนุ่มรูปหล่อ กับ คอลัมนิสต์สาวมือใหม่ อิงนภา เจ้าของนามปากกา "ชิงช้าช่างฝัน" จากคู่กัด ที่ทะเลาะ ถกเถียงกันผ่านรายการวิทยุออกอากาศสดไปทั่วประเทศ ได้กลายมาเป็นคู่รักกัน

ผู้พิชิตมัจจุราช (2544/2001) ชาคริต อมรบุตร ผู้ซึ่งได้เสียชีวิตในขณะนั่งบำเพ็ญสมาธิ ณ ระเบียงโบสถ์วัดเสียบ ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2487 และร่างของเขาได้ถูกเผาตามประเพณีจนเหลือแต่ธุลีและกระดูก ในเวลาต่อมาท่ามกลางสายตานับร้อยคู่… คุณเทียน เหลียวรักวงศ์ หนึ่งในบรรดาเพื่อนสนิทของชาคริต อมรบุตร ก็ได้เป็นสักขีพยานในงานนั้นด้วยในฐานะเจ้าภาพคนหนึ่ง เวลาผ่านไปถึง 18 ปีเต็ม หลังมรณะกรรมของชาคริต อมรบุตร เทียน เหลียวรักวงศ์ ก็ได้รับจดหมายพร้อมบันทึกลับ 9 เล่มจาก "ชาคริต อมรบุตร" บอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้ตายไปจากโลกอย่างที่ใคร ๆ เข้าใจ… เขาเพียงแต่เปลี่ยนสังขาร… เหมือนทิ้งเสื้อผ้าชุดเก่าที่ใช้ไม่ได้ และหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาใส่แทน ติดตามต่อได้ใน "ผู้พิชิตมัจจุราช"

เจ้าแม่จำเป็น (2544/2001) สำนักเจ้าแม่ไทรทอง เป็นที่ตั้งของสำนักร่างทรงที่ได้รับความนิยมอย่างมากของชาวบ้านโดยมีร่างทรงคือ กาละแม… ในการทำพิธีแต่ละครั้งกะละแมจะมีผู้ช่วยด้านสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์เป็นพี่ชายและ หลานชายตัวแสบ( ก็คือพี่อาร์ตกะน้องร็อคนั่นเอง ) แม้กะละแมจะรู้ว่าอาชีพร่างทรงจะเป็นอาชีพที่หลอกลวงชาวบ้าน แต่เพื่อความอยู่รอดของครอบครัวเธอจึงต้องทำ เพราะเธอกำพร้าตั้งแต่เด็ก แต่ลึกๆแล้วก็อยากจะเลิกแต่ขอให้ได้เงินสักก้อน ที่จะไปซื้อบ้านอยู่ต่างจังหวัด แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะสำนักของเธอกำลังจะถูกไล่ที่โดยเจ้าของสุดเข้มชื่อ ชิณ( ดู๋ สัญญา) ชิณต้องการขายที่เพื่อทำห้างสรรพสินค้า เขาจึงจำเป็นต้องกำจัดสำนักร่างทรงเจ้าปัญหาและต้นไทรที่ตั้งตระหง่านอยู่ กลางซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านให้ได้เสียก่อน ด้านกะละแมเห็นว่าถ้าพวกเขาย้ายสำนัก ต้นไทรโดนตัด เป็นอันหมดทางทำมาหากิน ดังนั้นเธอและสหายจึงต้องยืนหยัดไม่ยอมไป ชิณพยายามที่จะไล่เจ้าแม่และรื้อศาลนี้ออกไปให้ได้ และก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะชาวบ้านเชื่อกะละแม และที่ยากกว่านั้นคุณนายฉายตะวัน แม่ของชิณเองก็เลื่อมใสกะละแมมาก ฉายตะวันไม่ให้ชิณย้ายศาลเพราะกลัวจะเกิดความฉิบหายต่อวงศ์ตระกูล แม้ว่าเพื่อนซี้ของแม่คือคุณนายกิมเฮ็งจะอยู่ข้างเดียวกับเขา แต่แม่ของเขาก็ยังไม่ยอมเลิกศรัทธาเจ้าแม่กิมเอ็งต้องการดองกับเพื่อนโดย พยายามยัดเยียด มิ้ว (ษา วรรณษา) ลูกสาวสุดแสบให้กับชิณ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะชิณเอาแต่ทำงานไม่สนใจผู้หญิง กิมเอ็งเป็นแนวร่วมกับชิณในการทำลายความเชื่อถือของฉายตะวันที่มีต่อกะละแม นอกจากนี้สำนักเจ้าแม่ไทรทองยังต้องผจญกับ เสี่ยนุ้ยมาเฟียท้องถิ่นที่เป็นเจ้ามือหวยใต้ดิน นุ้ยไม่พอใจที่กะละแมฟลุ้คบอกหวยชาวบ้านถูกหลายงวดติดกันจึงต้องการกำจัด กะละแม แต่ทำไม่ได้เพราะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนดันไปหลงรักกะละแม ขณะที่กะละแมกำลังจะถึงตาจนเพราะโดนไล่ที่และเจ้ามือหวยตามรังควาน ฉายตะวันก็ยื่นมือเข้ามาช่วย ให้กะละแมและพรรคพวก ย้ายศาลและเข้ามาพักอาศัยในเรือนหลังเล็กชั่วคราวกิมเอ็งกับมิ้วไม่พอใจ เพราะคิดว่ากะละแมกำลังจะจับชิณ กะละแมกับชิณก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเติบโตไม่รู้ ตัว มิ้วกับกิมเอ็งได้หลักฐานสำคัญมาเปิดโปงกะละแม ฉายตะวันไม่พอใจอย่างมากที่โดนกละแมหลอกมาตลอด และรู้ว่าชิณเริ่มมีใจให้ก็ยิ่งโกรธหนักเข้าไปอีก ถึงกับยื่นคำขาดห้ามกะละแมมายุ่งกับชิณเด็ดขาด กะละแมจึงออกจากบ้านฉายตะวัน แต่ก่อนไปทั้งหมดขอทิ้งทวนเพื่อเป็นการเปิดโปงความเลวของนุ้ยที่ทำให้ชาว บ้านเจ๊งหวยเถื่อนไม่เป็นท่า ชิณได้มาแอบดูและผิดหวังมากที่กะละแมผิดสัญญาที่ให้ไว้ ว่าจะไม่เข้าทรงหลอกลวงคนอื่นอีก กะละแมพยายามอธิบายให้ชิณเข้าใจ แต่โดนมิ้ว กิมเอ็งและฉายตะวันเป่าหู จนไม่สามารถเข้าใจกันได้ ในที่สุดกะละแมก็ตัดสินใจหนีไปต่างจังหวัด วีรกรรมความรักที่อบอวลไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและกลิ่นธูปจะจบลงอย่างไร ชิณและกะละแมจะปรับความเข้าใจกันได้หรือไม่?

คน 2 คม (2544/2001) เพชรเด็กหนุ่มช่างซ่อมรถที่อาศัยอยู่ในสลัมกับยายทองที่มีอาชีพขายกล้วยทอด ซึ่งถึงแม้ว่าฐานะทางครอบครัวของเพชรจะยากจน แต่เขาและยายทองก็มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ การใช้ชีวิตอย่างสามัญชนทั่วไปของเพชร ดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งวันหนึ่ง ต้องเป็นจุดพลิกผัน เมื่อสมเดช ขับรถปาดหน้ารถมอเตอร์ไซด์ ที่เพชรยืมเหน่งเพื่อนรักของเขาเพื่อหาลำไพ่พิเศษ สมเดช ประหลาดใจมากเมื่อเห็นเพชร เพราะหน้าตาของเขาเหมือนกับใครคนหนึ่งราวกับฝาแฝด วันต่อมา เพชรกลับมาทำงานที่อู่ซ่อมรถ และเสี่ยเจ้าของอู่สั่งให้เพชรไปเช็ครถสุดหรูราคาแพงคันหนึ่ง ขณะที่เพชรหยิบกล่องขยะไปทิ้ง กลับพบธนบัตร ใบละพันอัดแน่นอยู่ในกล่องขยะ สร้างความว้าวุ่นใจให้กับเพชรเป็นอย่างยิ่ง แต่ด้วยความซื่อสัตย์และเป็นคนดีของเขา เพชรตัดสินใจเอาเงินไปคืนเจ้าของทันที โดยไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทน เมื่อเพชรไปถึงบ้านเจ้าของรถ เขาก็ต้องแปลกใจมากเมื่อรู้ว่าสมเดชเป็นเจ้าของเงินกับรถคันนี้ และเพราะคุณงามความดี ที่มีอยู่ในตัวเพชร สมเดชเกิดความซาบซึ้งและได้ขอร้องให้เพชรมาร่วมทำงานด้วย แต่ไม่ยอมบอกว่างานอะไร แต่มีผลตอบแทน อย่างงามเพชร รีบปฎิเสธคำขอของสมเดชทันที เพราะกลัวเป็นงานผิดกฎหมาย แต่สมเดชก็ไม่ยอมลดละความพยายามที่จะให้เพชรมาร่วมงาน เขาวางแผนบีบเพชรด้วยแผนการชั่วร้าย โดยการวางระเบิดกะทะ กล้วยทอดของยายทอง เมื่อแผนการของสมเดชสำเร็จ เขานำตัวเพชรให้ไปรู้จักกับ ธีรัช ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานผลไม้กระป๋อง การเจอกันระหว่างเพชรและธีรัช ในครั้งนี้สร้างความประหลาดใจกันทั้งสองฝ่าย เพราะหน้าตาของทั้งสองเหมือนกัน ราวกับเป็นคนคนเดียวกัน ธีรัช เล่าความจริงถึงสาเหตุที่ต้องการให้เพชรมาร่วมงาน ว่าในขณะนี้ธีรัชกำลังป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมอง ต้องได้รับการผ่าตัดที่อเมริกา โดยด่วน แต่เขาไม่สามารถไปได้เพราะบริษัทกำลังมีปัญหาขัดแย้งกันของผู้บริหาร และยังมีปัญหา ของดนยาภรรยาสาวของเขาที่กำลังคบชู้อยู่กับอานนท์ผู้จัดการโรงงาน และเหตุนี้ธีรัช เลยต้องการให้เพชรปลอมตัวเป็นเขาในช่วงที่ไปรักษาตัวที่อเมริกา และมอบหมายให้สมเดชเป็นผู้ช่วย การปรากฎตัวของเพชรในคราบของธีรัช สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะดนยาและอานนท์ เนื่องจากทั้งสองไม่คิดว่าธีรัชจะสามารถมาทำงานได้ เพชร ได้มารู้จักกับนัทธมนผู้นำการประท้วงคำสั่งลดเงินเดือนของธีรัช และเธอยังเป็นลูกสาวของอดีตหุ้นส่วนใหญ่ ของโรงงานนี้แต่ถูกพ่อของธีรัชโกงจนหมดตัวและฆ่าตัวตายไป ทำให้นัทธมน ต้องตกมาอยู่ในฐานะพนักงานธรรมดาคนหนึ่ง ของโรงงานแห่งนี้ การได้เจอนัทธมนในครั้งนี้ สร้างความประหลาดใจให้เขาอย่างมาก ถึงแม้ว่าตัวนัทธมนจะไม่ชอบขี้หน้าเขาเลยก็ตาม นัทธมน มีอิทธิ ชายหนุ่มแผนกช่างกล มาติดพันอยู่และถึงแม้อิทธิจะพยายามเอาใจเธอเท่าไหร่ แต่ผลตอบแทนที่นัทธมน ให้เขาได้ก็เพียงคำว่าพี่น้องเท่านั้น สมเดชเตือนให้เพชรระวังอานนท์และดนยาให้ดี เพราะเขาเริ่มระแคะระคาย ว่าทั้งคู่ยักยอกเงินบริษัท ฝ่ายดนยาก็กลัวว่าเพชรในคราบธีรัชจะรู้ว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้อง เลยสั่งให้ลูกน้องของอานนท์กำจัดธีรัชทันที และในวันที่ถูกตามฆ่า เพชรไปหานันธมนที่บ้านของเธอ เพื่อเตือนสติให้เธอรู้ว่ากำลังตกเป็นเครื่องมือของอานนท์ ระหว่างทั้งสองเถียงกันอยู่ ลูกน้องของอานนท์ขับรถตามทันและลอบยิง เพชรถูกลูกหลงจนบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ลอบยิงในครั้งนี้ ทำให้นัทธมนเริ่มเห็นใจในตัวเพชรและสงสัยในตัวอานนท์ว่าเป็นจริงอย่างที่เพชรบอก ด้านสมเดชหลังจากที่เห็นว่าอานนท์ทำเกินเหตุ เลยทำการแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดี ทั้งเรื่องยักยอกเงินบริษัท และเรื่องการลอบทำร้ายเพชร อานนท์หาวิธีดิ้นให้หลุดความผิด และแผนการที่ง่ายที่สุดคือการเผาทำลายสินค้าในโกดังที่เป็นหลักฐาน ในวันเกิดเหตุ นัทธมนติดอยู่ในกองเพลิงแต่เพชรมาช่วยไว้ทัน เพชรดูแลนัทธมนจนปลอดภัยทำให้เธอเริ่มมีใจให้เพชร แต่ก็ยังสับสนเพราะเพชร ( ธีรัช ) มีภรรยาอยู่แล้ว แต่เธอก็คลายกังวลไปได้ เมื่อสมเดชแจ้งว่า ธีรัช จะฟ้องหย่าดนยาเร็ว ๆ นี้ และจากหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด ทำให้อานนท์ถูกจับในข้อหาวางเพลิงโรงงาน และเขายังชัดทอดไปถึงดนยาด้วย หลังจากกำจัดอานนท์ได้ เพชรและสมเดชปลดทั้งสองออกจากกรรมการบริหารของโรงงานทันที หลังจากเรื่องวุ่นวาย ทั้งหมดเสร็จสิ้น เพชรเตรียมจะสารภาพความจริงให้นัทธมนรู้ โดยเขามั่นใจว่าความรัก ที่เขามีให้กับเธอจะสามารถ ลบล้างการแสแสร้งที่เขาทำมาโดยตลอดได้ แต่เรื่องเลวร้ายก็มาบังเกิดอีกครั้ง เมื่อดนยารู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเพชรเสียก่อน เลยรีบนำข่าวไปบอกอานนท์แล้วร่วมกันวางแผนแก้เผ็ดด้วยการชิงเปิดโปงเพชร ต่อหน้านัทธมนก่อน ในขณะที่เพชรจะสารภาพความจริง นัทธมนทนไม่ได้ที่รู้ว่าโดนหลอกลวง เธอเดินหนีออกมาด้วยจิตใจที่เจ็บซ้ำและเจ็บปวด และเมื่อข่าวการเข้าใจผิดของเพชรและนัทธมนรู้ถึงสมเดช เขาพยายามจะแก้ปัญหาโดยโทรไปหาธีรัช แต่กลับได้รับแจ้งว่า ธีรัชเสียชีวิตไปแล้ว เพชรเห็นเป็นโอกาสดีที่จะยกเลิกข้อตกลงเพื่อกลับไปใช้ชีวิตในสลัมเช่นเดิม และจากนั้นเขารีบไปขอโทษนัทธมนพร้อมคำบอกลาเธอชั่วชีวิต แต่นัทธมนไม่ยอมให้โอกาสเพชรพูด แถมยังขับไล่ให้เขา ออกจากบ้านเธอทันที ในคืนวันเดียวกันมีคนร้ายเข้าไปลอบฆ่าอานนท์และดนยา จนดนยาตายแต่อานนท์กลับรอดชีวิต และจากข้อมูลที่สาวใช้ของอานนท์ระบุว่ารูปพรรณคนร้ายมีหน้าตาคล้ายเพชร และหลักฐานที่ยิ่งทำให้ตำรวจมั่นใจว่าเพชรเป็นคนฆ่าดนยาเพราะแค้นที่เธอมีชู้ ก็คือม้วนเทปที่บันทึกภาพความสัมพันธ์ ระหว่างอานนท์กับดนยา ฝ่ายนัทธมนหลังจากทราบข่าว เธอมั่นใจว่าเพชรไม่ใช่ตัวการในการฆาตรกรรม เธอรีบไปให้ปากคำกับตำรวจ เพชรได้รับการประกันตัวจากบุคคลลึกลับ และคืนวันเดียวกัน ชายลึกลับคนเดิมก็หวนจัดการกับอานนท์ใหม่ และครั้งนี้ก็สามารถ ฆ่าเขาได้สำเร็จ ฝ่ายสมเดชเมื่อเข้ามาในห้องทำงาน เขาพบว่าชายลึกลับคนนั้นคือ ธีรัช และเขาได้สั่งให้สมเดชปิดปากเรื่องนี้ให้สนิท วันรุ่งขึ้นตำรวจได้รับหลักฐานชิ้นสำคัญจากโทรทัศน์วงจรปิด เห็นว่าคนร้ายเป็นเพชร ตำรวจรีบเข้าไปจับกุมเพชรที่บ้านพักทันที เมื่อสมเดช รู้เรื่อง เขาเริ่มทนไม่ได้และหาทางช่วยเพชร โดยการเอาหลักฐานชิ้นสำคัญคือเสื้อที่ติดคราบเลือดของธีรัชไปให้ตำรวจ และโทรไปเล่าความจริงให้นัทธมนรู้ตัว ก่อนที่สมเดชจะตายเพราะน้ำมือของธีรัชที่ยืนดักฟังสมเดชพูดกับนัทธมน ธีรัชตามล่าเพชรและนัทธมนไป ที่สลัมเพื่อกำจัดทั้งสองเสีย และเมื่อเพชรกับธีรัชเจอหน้ากัน ทั้งสองต่อสู้กันอย่างชุลมุน จนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร ปืนของธีรัชหลุดจากมือมาหล่นที่หน้านัทธมน ด้วยความตกใจและรู้สึกสับสนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร นัทธมนตัดสินใจลั่นกระสุนเข้าใส่ร่างของคนที่เธอมั่นใจว่าเป็นธีรัช จนร่างเขาล้มฟุบไปนอนจมกองเลือดด้วยความเจ็บปวด จากการตัดสินใจลั่นไกปืนของนัทธมนครั้งนี้ จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่ เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร

รัน!รักอันตราย (2544/2001) รัน ( นิโคล เทริโอ ) หญิงสาวธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่มีความสดใสร่าเริง เธอใช้ชีวิตตามแนวทางที่เป็นไปในสังคม ไม่เคยคิดที่จะลุกขึ้นต่อสู้กับเรื่องราวอยุติธรรมใด ๆ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ อย่างมีคนแซงคิวเธอตอนซื้อตั๋วหนัง หรือเรื่องใหญ่ ๆ อย่างพวกนักการเมืองโกงกินชาติ เธอมีความหวังว่าชีวิตเธอในวันข้างหน้าจะเรียบง่ายอย่างที่เคยเป็นมา ความฝันของเธอคือเปิดร้านกาแฟที่อิตาลีและใช้ชีวิตกับโอ๊ต ( วรวุฒิ นิยมทรัพย์ ) คนที่เธอรัก จนวันหนึ่งมีข่าวเข้าหูรันว่า โอ๊ตแฟนหนุ่มของเธอกำลังมีสาวคนใหม่ มันกวนใจเธอตลอดเวลา ทำให้หยิบจับอะไรก็ดูผิดพลาดยิ่งขึ้น จากเดิมที่เคยผิดพลาดจนโดนเจ้าของร้านอารมย์ร้ายหักเงินเดือนอยู่บ่อย ๆ รันพยายามโทรศัพท์หาโอ๊ตเพื่อถามหาความจริง แต่พยายามโทรอย่างไรก็ไม่สามารถติดต่อโอ๊ตได้สักที รุ่งขึ้นเป็นวันเกิดของรัน รันขับรถพา บี ( ทิพย์อาภา ชื่นประดิษฐ์ ) สาวช่างจ้อเพื่อนสนิทของเธอสะกดรอยตามโอ๊ต ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งแต่สิ่งที่ทั้งคู่พบไม่ใช่สาวคนใหม่ของโอ๊ต อย่างที่คิดไว้ กลับเห็นโอ๊ตกำลังถูกชายหน้าเหี้ยมกำลังซ้อมอยู่ ด้วยความรักรันรีบเข้าไปช่วยทันที และด้วยความฉุกละหุกและชุลมุนทำให้ทั้งคู่หลุดรอดออกมาจากชายหน้าเหี้ยมเหล่านั้นได้ แต่แทนที่จะได้รับการขอบคุณจากโอ๊ต เขากลับด่าว่ารันยุ่งไม่เข้าเรื่อง รันถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โอ๊ตอ้างว่าธุรกิจที่เขาทำมันไปขัดผลประโยชน์ใครบางคน โอ๊ตแยกจากรันโดยไม่ได้พูดถึงงานวันเกิดของเธอเลย รันกลับมาที่อพาร์ทเมนท์ของเธอ ที่นั่นเธอได้พบกลุ่มชายหน้าเหี้ยมที่ซ้อมโอ๊ต รันรีบหนีทันที เธอทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ถูกจับได้ แต่ก็หนีไม่รอดถูกชายหน้าเหี้ยมจับได้ รันตกใจสุดขีดเธอคิดว่าต้องถูกพวกนั้นซ้อมอย่างที่ทำกับโอ๊ตแน่นอน แต่สิ่งที่ทำให้รันงุนงงและตกใจก็คือชายกลุ่มนั้นที่แท้จริงคือตำรวจ รันถูกพาตัวไปที่โรงพัก ที่นั่นเธอได้พบกับหมวดเขี้ยว เขาบอกเธอว่าโอ๊ตเป็นหนึ่งในแก็งค์ค้ายาบ้าที่เขากำลังวางแผนจับอยู่ และเธอกลายเป็นคนที่ช่วยเหลือคนร้ายหนีการจับกุมไปได้ และทำให้เขาหมดโอกาสในการจับโอ๊ตในครั้งนี้ หมวดเขี้ยวพยายามให้รันบอกที่ซ่อนของโอ๊ต รันไม่เชื่อในสิ่งที่หมวดเขี้ยวเล่า เธอคิดว่าพวกหมวดเขี้ยวเป็นพวกตำรวจไม่ดี และพยายามป้ายสีโอ๊ต สุดท้ายหมวดเขี้ยวปล่อยรันไป แต่เป็นเพียงการปล่อยเพื่อที่จะสะกดรอยตามรันเพื่อโยงไปถึงโอ๊ตเท่านั้น พอถึงงานเลี้ยงวันเกิดของรัน โอ๊ตไม่มาตามที่บีคาดเดา คนที่มากลับกลายเป็นหมวดเขี้ยว นอกจากมาดูลาดเลาเกี่ยวกับโอ๊ต แล้วเขายังมอบของขวัญให้รัน ลึก ๆ เธอรู้สึกดีอย่างน้อยยังมีอีกคนนอกจากบีที่ยังสนใจวันเกิดของเขา โอ๊ตมาหารันแต่เช้าและเมื่อรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับรัน เมื่อรู้ทำให้เขาตกใจมาก เพราะเดาแผนการของตำรวจออกที่ปล่อยรันมาเพื่อสะกดรอยตามไปหาเขา แล้วก็เป็นอย่างที่คิด เพราะโอ๊ตพบเครื่องดักฟังติดอยู่ในของขวัญที่หมวดเขี้ยวเอามาให้รัน หมวดเขี้ยวและนิค ( แพ็ท พาวเวอร์แพ็ท ) ลูกน้องคนสนิทกับลูกน้องดักฟังอยู่จริง ๆ รัน และ โอ๊ตรีบหนีมาหลบที่ร้านกาแฟที่ทำงานอยู่แต่ปรากฎว่าหมวดเขี้ยวมารออยู่แล้วเช่นกัน หมวดเขี้ยวจับโอ๊ตไปโรงพัก รันรีบตามบีมาให้ไปช่วยโอ๊ตที่โรงพัก แต่แพรว ( ฟ้า ชนิกา สุจริตกุล ) ลูกสาวท่านเลขารัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก็งค์ยาเสพติดมาพาตัวโอ๊ตไปก่อนหน้านี้แล้วทำให้สวนทางกัน เมื่อรันรู้เรื่องจากหมวดเขี้ยว รันโมโหมากและคิดว่าโอ๊ตมีผู้หญิงใหม่เธอจึงไปบอกเลิกกับโอ๊ต แต่การไปของรันทำให้โอ๊ตคิดแผน รันถูกหลอกให้เป็นเป้าล่อของหมวดเขี้ยวซึ่งได้ผลตามที่คาดไว้เธอถูกจับไปที่โรงพักแต่ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นเมื่อกระเป๋าที่รันถือไว้นั้นไม่ได้มียาบ้า ตามที่หมวดเขี้ยวคิดแต่กลับเต็มไปด้วยวิตามิน รันโวยวายเรื่องนี้ทันทีว่าหมวดเขี้ยวพยายามใส่ร้ายแฟนเธอ เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันทีเหมือนกัน เมื่อเรื่องรู้เข้าหูนักข่าวและขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หมวดเขี้ยวถูกเบื้องบนคาดโทษกับความผิดพลาดที่เกิด ในขณะที่รันสะใจที่ได้แก้เผ็ดหมวดเขี้ยว แต่อีกใจหนึ่งเธอก็เริ่มคิดว่าโอ๊ตอาจจะเป็นคนขายยาบ้าและมีผู้หญิงอื่นอยู่จริง รันเริ่มค้นหาความจริงกับเรื่องนี้เธอแอบไปที่ทำงานของโอ๊ตทำให้เธอเจอยาบ้าเม็ดหนึ่ง รันรีบนำเรื่องนี้มาปรึกษากับบี ทั้งคู่ตกลงใจแอบไปค้นบ้านโอ๊ต แต่แทนที่ทั้งคู่จะเจอยาบ้า กลับเห็นความสัมพันธ์ของโอ๊ตกับแพรว แถมต่อมารันยังถูกไล่ออกจากร้านกาแฟที่เธอทำงานอยู่ รันเสียใจมาก เธอพยายามหนีและลืมความเจ็บปวด ในขณะนั้นเองหมวดเขี้ยวเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของรัน เขามาช่วยรักษาแผลใจให้กับเธอ รันได้รับรู้ถึงเบื้องหลังความรักที่ล้มเหลวในอดีตของหมวดเขี้ยว ทั้งคู่เริ่มเห็นใจกันและกันความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มดีขึ้นตามลำดับ รันเปิดร้านกาแฟกับบีโดยมีหมวดเขี้ยวและนิคคอยช่วยเหลือ ในขณะเดียวกันการสืบเรื่องค้ายาของเลขารัฐมนตรีและโอ๊ตก็มีความคืบหน้าขึ้น หมวดเขี้ยวสามารถหาหลักฐานที่จะดำเนินการเอาผิดจนได้ แต่เหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อโอ๊ตกลับมาหารันพร้อมข้อแก้ตัว ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแพรว เป็นเพียงการกระทำที่เขาทำไปเพราะต้องการให้ได้มาซึ่งเงิน เพื่อที่จะได้เอาไปใช้เปิดร้านกาแฟในฝันให้กับรันที่อิตาลี และหวังว่ารันจะให้อภัยเขา ด้วยความรักและความใจอ่อนของรันทำให้เธอกลับไปคืนดีกับโอ๊ตอีกครั้ง ความรักของรันจะดีอย่างที่เธอคิดหรือเปล่า โอ๊ตวางแผนอะไรไว้ในใจ แล้วตัวหมวดเขี้ยวเองจะเจ็บช้ำแค่ไหนกับความรักครั้งใหม่ที่เขาเพิ่งจะเริ่มต้น ติดตามได้ในละคร รัน! รักอันตราย ทางช่อง 5