โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ 2549

เรื่องย่อ : โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ (2549/2006) ป่าเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะเข้าใจได้ง่ายๆ นัก หลายครั้งการผจญภัยจึงเกิดขึ้นในป่า และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เรื่องสนุกนี้เริ่มต้นขึ้น เมื่อกลุ่มนักศึกษาชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ วางแผนที่จะออกเดินทางสำรวจป่า ซึ่งในกลุ่มนักศึกษาที่ร่วมเดินทางไปในครั้งนั้นก็มี “กำจัด” (นักรบ ไตรโพธิ์) หนุ่มนักประดิษฐ์ ที่มีความสามารถประมาณ แมกไกเวอร์ สามารถทำสิ่งที่ทุกคนไม่คิดว่าเขาจะทำได้ แต่เหตุจริงๆ ที่เขาร่วมเดินทางนั้นไม่ได้เริ่มมาจาก เพราะรักธรรมชาติอย่างสุดซึ้งหรอก แต่เพราะเขาหลงรัก “มยุรี” (อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์) คนรักของ “วิทยา” (ณรงค์ศักดิ์ ขุนทอง) ซึ่งเป็นที่หมายปองของชายทุกคนอย่างสุดหัวใจต่างหาก จึงได้ขอเดินทางไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มยุรี กลับไม่เคยรู้ตัวว่า กำจัด ชอบเธอเลย

มาถึงนาย “โอสถ” (กีรติ เทพธัญญ์) คนที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เพราะเขาคือชายหนุ่มอารมณ์ดี ผู้มีทุกอย่างเพียบพร้อมไปหมด เสียบอยู่อย่างเดียว คือ ปากหมา เป็นคู่กัดกับ “จำนรรค์” (ปาลิตา โกศลศักดิ์) สาวน้อยที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองว่า สามารถทำได้ทุกอย่างไม่แพ้ผู้ชาย

ก่อนที่กลุ่มนักศึกษาจะเดินทางเข้าป่า ก็ต้องมี พรานนำทาง แต่จนแล้วจนรอดก็หาไม่ได้ สุดท้ายจึงมาลงที่ “โก๊ะ” (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) พรานกำมะลอ ผู้หลงใหลในป่า และเพชรพระอุมา นิยายผจญภัยที่เขารัก โก๊ะ แนะนำตัวเองให้ทุกคนรู้จัก แล้วพยายามสร้างความเสื่อมใสให้เกิดขึ้น และก็ได้ผล เมื่อทุกคนทึ่งกับสิ่งที่โก๊ะเล่าให้ฟัง เว้นแต่โอสถที่ไม่ค่อยจะเชื่อใจโก๊ะ จึงขัดคออยู่เรื่อยๆ

ในวันเดินทางกลุ่มนักศึกษาแยกออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อลงแพ ด้วยความอวดเก่งของโก๊ะ กลุ่มนักศึกษาจึงพลัดหลงกัน และกลุ่มของโก๊ะเกิดหลงเข้าไปในเขตพม่า โก๊ะยังอวดเก่ง และนำทางอย่างมั่วๆ ต่อไป จนทำให้ถูกะเหรี่ยงจับได้ โอสถและโก๊ะ ถูกบังคับให้กลับไปเอาเงินค่าไถ่มา ทั้ง 2 คน จึงจำใจต้องไป

ขณะเดียวกันนั้น หัวหน้ากะเหรี่ยง พอใจมยุรี และอยากได้เป็นเมีย จึงสั่งให้ลูกน้องไปพาตัวมา กำจัดทนไม่ได้คิดแผนที่จะช่วยมยุรี โดยการเบี่ยงเบนความสนใจด้วยระเบิดที่ทำขึ้นเอง กะเหรี่ยงวุ่นวาย กลุ่มนักศึกษาหนีจากห้องขัง โดยกำจัดเข้าไปช่วยมยุรี และพากันหนีรอดออกมาได้

ฝ่ายโก๊ะ กับโอสถ เดินทางกันจนเหนื่อยอ่อน แต่ทหารกะเหรี่ยงที่คุมตัวทั้งคู่มา เกิดปะทะของทางการพม่าทั้ง 2 คนเกือบหนีออกมาได้ แต่ต้องมาเจอทหารพม่าจับตัวมาสอบสวนที่ค่าย ขณะนั้นได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้ทำให้ทั้งคู่หนีรอดมาได้

ทางด้านกลุ่มนักศึกษาที่นำโดยกำจัด ทุกคนออกเดินป่าอย่างหมดหวัง เพราะคิดว่าหลงป่า แต่เหมือนปาฏิหาริย์ที่ทั้งหมดมาเจอ โก๊ะ และโอสถจนได้

ทุกคนไม่เชื่อโก๊ะอีกแล้ว แต่ก็คล้อยตามให้โก๊ะนำทางต่อไปจนเจอถ้ำ จึงพักกันที่นี่ ตกดึกทุกคนต้องสะดุ้ง เพราะเสียงร้องของ “สวัสดี” (ชยพล หอมเกษร) ที่เข้าไปพบกระดูกในถ้ำ ทุกคนเริ่มกลัว แต่ไม่มีทางเลือกจึงต้องพักในถ้ำต่อไป จากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว

พอรุ่งเช้าทั้งหมดออกเดินสำรวจ และพบหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ดูแปลกตา นั่นก็เพราะทุกคนหลุดเข้ามาอยู่ในสมัยพระเจ้าตากสินเสียแล้ว

แต่แล้วทุกคนก็ถูกทหารพม่าที่นำโดย “ท่านนายกอง” (ค่อม ชวนชื่น) จับไปที่ค่าย กำจัดใช้ระเบิดที่ทำเองอีกครั้ง ทั้งหมดหนีออกมาได้ ทหารพม่าก็ไล่ตามมา แต่โชคเข้าข้างกลุ่มนักศึกษา เพราะกองกำลังชาวไทยที่นำโดย “ดอกรัก” (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) เข้ามาช่วยทุกคนไว้ได้ และพากลับหมู่บ้าน

โก๊ะเดินสำรวจหมู่บ้านจนไปถึงลานหลังหมู่บ้าน โก๊ะได้พบกับ “บุญหลาย” (อรวรรษา ฐานวิเศษ) และตกหลุมรักทันที ตกเย็นทุกคนเข้ามารวมตัวที่ลานหมู่บ้าน “เฒ่าหอม” (ชุมพร เทพพิทักษ์) หัวหน้าหมู่บ้านกำลังเตรียมการรบกับพม่า นักศึกษาเริ่มสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้นและในที่สุดก็รู้ว่าตัวเองหลุดเข้ามาในประตูกาลเวลา มาที่ปี 2420

นักศึกษาทุกคน ร่วมกันเสนอแผนการรบ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันเข้ามาช่วย ในระหว่างที่ทุกคนสร้างอุปกรณ์ในการรบ ความรักของหลายๆ คู่ก็ค่อยๆ งอกเงยขึ้น อย่าง “ชัยชนะ” (สัจจา ปุผาลา) กับ “ดาวเรือง” (มาเจตตา วิเศษสมบัติ) น้องสาวของดอกรักและมยุรี ที่เปลี่ยนใจมาชอบกำจัด เพราะความเป็นห่วงเป็นใยของเขา ส่วนคู่ของ
จำนรรค์ กับโอสถ ยังไม่มีการแสดงออก นอกจากจะเก็บไว้ในใจ แต่ทุกคนก็รู้ว่าทั้งสองคนมีใจให้กัน

กลุ่มชาวบ้านบุกไปปล้นเสบียงของพวกพม่าถึง 2 ครั้ง แต่ในครั้งที่ 2 หลายคนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเสบียงเริ่มร่อยหรอ เฒ่าหอมจึงขอให้นักศึกษาช่วยปล้นเสบียงอีกครั้ง ด้วยความเมา จำนรรค์จึงอาสาเข้าปล้นเอง ทุกคนจึงตกกระไดพลอยโจร ในการร่วมปล้นเสบียงอย่างทุลักทุเล แต่สุดท้ายก็สามารถทำสำเร็จ

อยู่มาวันหนึ่ง บุญหลายได้พูดถึงของสิ่งหนึ่งที่เธอเก็บได้ ซึ่งก็คือ วิทยุสื่อสารของ กำจัด ที่ตกไว้เมื่อครั้งหลุดเข้ามาในยุคนี้ใหม่ๆ เลยเอามาให้กำจัดดู กำจัดดีใจมากที่วิทยุใช้งานได้ เพราะนั่นหมายความว่า มีทางที่จะติดต่อกับเพื่อนในยุคปัจจุบัน

กำจัดลองวิทยุสื่อสาร โดยไปที่ถ้ำ เพราะคิดว่าคลื่นน่าจะชัด จึงไปกับมยุรี และจำนรรค์ ระหว่างทางทั้ง 3 คนเจอเสือ กำจัด กับมยุรีหนีได้ ส่วนจำนรรค์วิ่งหนีไปอีกทาง พอหนีพ้น กำจัดจึงกลับไปบอกทุกคนให้ช่วยตามหาจำนรรค์ที่วิ่งเตลิดไป “อัศวิน” (พรวิษณุ สุวรส) ขี่จักรยานตามหาแต่ไม่พบ กลับไปเจอกับทหารพม่าที่แอบมาตั้งค่ายอยู่ใกล้จึงรีบมาบอกทุกคน ทั้งหมดเตรียมการที่จะต่อสู้ กำจัดนำเครื่องดักฟังมาใช้ ทำให้รู้ว่าทหารพม่ากำลังตักน้ำดื่มเป็นเสบียง โอสถวางแผนโดยการวางยาลงไปที่น้ำดื่มของพม่า เมื่อถึงเวลาประจัญบานทหารพม่าต่างอ่อนแรงเพราะท้องเสีย กองกำลังชาวไทยจึงชนะอย่างง่ายดาย ทหารพม่าที่หนีไปได้เจอกับจำนรรค์เข้าพอดี จำนรรค์อาศัยความกล้าเอาไม้ตีหัว และปลอมตัวเป็นทหารพม่า ทางนายกองพม่าโกรธมากที่เสียทั้งทหาร เสบียง และอาวุธ จึงเตรียมการบุกใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

ทางฝ่ายดอกรักที่กำลังหาวิธีที่จะถอนฟัน จึงใช้คานยิงลูกหินที่กำจัดประดิษฐ์ขึ้นงัด แทนที่ฟันจะหลุดกลับเป็นตัวดอกรักที่กระเด็นไปตกที่ค่ายทหารพม่า และโดนจับในที่สุด ทุกคนหาทางช่วยดอกรัก เมื่อถึงเวลาประจัญบาน ทหารพม่าปรับวิธีรบ ด้วยการตีโอบด้านหลังจึงจับทุกคนไว้ได้ แต่
จำนรรค์ที่ปลอมเป็นทหารพม่าก็หาทางที่จะช่วยเพื่อนๆ โดยลอบตียาม และช่วยทุกคนออกมาได้

กำจัดใช้วิทยุติดต่อกับ “จ่าทองก้อน” (รัญ เมืองลพ) ได้ และเล่าเรื่องราวให้ฟัง จากนั้นก็บอกว่าจะกลับไปและให้ จ่าทองก้อนมารอรับออกจากป่า ทางกำจัดคิดได้ว่าวิธีที่จะกลับไปได้ ต้องทำให้ถ้ำเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง ซึ่งต้องใช้ดินปืนจำนวนมาก นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มี

กลุ่มชาวบ้านและนักศึกษาทุกคน ใช้วิธีการซุ่มโจมตีอันเหนือชั้น และพบดินปืนจำนวนมากในค่ายทหารพม่า นักศึกษาดีใจมากและเตรียมระเบิดถ้ำ เพื่อจะกลับบ้านแต่คนที่ไม่อยากกลับ คือ โก๊ะ นั่นเอง เพราะเขาอยากอยู่กับบุญหลายคนที่เขารัก และคิดว่าตัวเองเหมาะกับที่นี่ ทุกคนเลยไม่ผืนใจ โก๊ะฝากบอกคนที่บ้านด้วยว่าเขาอยู่ที่นี่กับคนที่เขารัก กำจัดเริ่มนับถอยหลัง เสียงระเบิดดังขึ้น ทุกคนได้กลับมาในยุคปัจจุบัน และการผจญภัยอันแสนมหัศจรรย์ก็จบลงด้วยดี ติดตามชมได้ทุกวัน เวลา 18:45 น. ทางช่อง 7 สี

พี่ชาย (2549/2006) สมชาย(แดน-วรเวช) เด็กหนุ่มวัยกำลังแนว ซ่าและแสบ มีคู่หูร่วมแก๊งค์คือ แจ๊ค(ปอย-ณภัทร) กับ จิล(กวาง-อรการ) ฝาแฝด ชาย-หญิง ทั้งสามคนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยศิลปะ มีความฝันร่วมกันคืออยากจะตั้งวงดนตรีของตัวเอง สมชายสูญเสียแม่ด้วยอุบัติเหตุเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เหลือแต่ อานนท์(ต้น-จักรฤกษ์) ผู้เป็นพ่อซึ่งมีอาชีพเป็นเซลล์แมนขายประกัน และต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดอยู่เสมอ สมชายมักได้รับความช่วยเหลือจาก คุณอ๋อม(นุ่น-รมิดา) สาวใหญ่วัยกลางคนข้างบ้าน วันหนึ่งสมชายได้รับข่าวร้ายว่าอานนท์ประสพอุบัติเหตุรถคว่ำที่พัทยา ระหว่างเดินทางไปทำงาน สมชายรีบเดินทางไปพัทยาทันทีด้วย “ตาหวาน” สกูตเตอร์คู่ใจ ในขณะเดียวกัน หนูนา(บัว-สโรชา) สาวน้อยแสนหวานจากเชียงรายก็รีบเดินทางมาพัทยาทันที เมื่อได้ข่าวว่า สิรี(ขวัญฤดี) ผู้เป็นแม่ประสพอุบัติเหตุ ระหว่างการเดินทางหนูนาเกิดตกรถ สมชายก็ไม่มีเงินทำให้ทั้งคู่ต้องร่วมทางเดินไปด้วยกัน สม ชายและหนูนาจึงได้รู้ว่าอานนท์กับศจีจดทะเบียนกันในเช้าวันเกิดเหตุ อานนท์เริ่มได้สติในขณะที่สิรียังคงอยู่ในโคม่า แม้อานนท์จะบอกว่ามันเป็นความรัก แต่ก็ยากเกินกว่าที่เด็กทั้งสองจะทำใจรับได้ ผล จากอุบัติเหตุทำให้ศจีกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา อานนท์จึงรับหนูนามาอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ ในฐานะลูกสาวคนใหม่ สร้างความไม่พอใจให้กับสมชายมาก สมชายกับหนูนาต่างก็ไม่ยอมพูดกันเลยนับจากวันนั้น อานนท์ส่งหนูนาเข้าเรียนโรงเรียนสตรีเพื่อความปลอดภัย เพื่อหาเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลของศจี อานนท์จึงต้องรับตำแหน่งใหม่และย้ายไปประจำที่ต่างจังหวัดชั่วคราว เป็นเหตุให้หนูนากับสมชายต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตามลำพัง สม ชายต้องรับผิดชอบหน้าที่ดูแลหนูนาตามคำสั่งของอานนท์ สร้างความเบื่อหน่ายให้กับสมชายเป็นอย่างยิ่ง สกูตเตอร์ตาหวานที่เคยขับโชว์หญิงต้องมารับวิ่ง-ส่งหนูนาไปโรงเรียน ต้องพาไปจ่ายตลาด กวาดบ้านถูบ้าน ภาพพจน์หนุ่มแสบของสมชายถูกหนูนาทลายจนไม่เหลือชิ้นดี หนูนาก็ไม่ชอบใจที่ต้องเข้าไปอยู่ในโลกแมนๆของสมชาย ต้อง ไปรอสมชายซ้อมดนตรี ต้องไปคอยสมชายแข่งฟุตบอล ต้องซักเสื้อผ้าสกปรกๆ เด็กหนุ่มและเด็กสาวที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกลับต้องมาอยู่ร่วมบ้านกันด้วย ความรู้สึกขมๆ จนวันหนึ่งสมชายได้รู้ความจริงจากจิลว่าแจ๊คกำลังหลงรักหนูนา สมชายรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุและพยายามขัดขวางจนแจ๊คผิดสังเกต ทำให้แจ๊คก็ไม่พอใจสมชายเช่นกัน สมชายและหนูนาเองต่างก็เริ่มรู้ตัวว่ามีความรู้สึกบางอย่างต่อกัน แต่เพราะสถานภาพที่ต้องเป็นพี่น้องทำให้ทั้งคู่พยายามฝืนความรู้สึก สมชายจึงตัดสินใจเก็บข้าวของออกไปละต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้ จ่าย หนูนาซึ่งเป็นห่วงสมชายก็คอยแอบมาดูแลอยู่ห่างๆ แจ๊ค กับจิลบอกข่าวดีกับสมชายเรื่องการประกวดวงดนตรีที่กำลังจะมีขึ้น สมชายทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูตัวเองจนล้มป่วย และพบความจริงว่าตัวเองป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่สามารถรักษาได้ และปิดเรื่องนี้เป็นความลับ พอหนูนารู้จึงทำงานเพื่อหาเงินมารักษาสมชาย ศจีอาการดีขึ้นจนหายเป็นปรกติ การแข่งขันดนตรีมาถึง แต่เป็นวันที่สมชายมีอาการทรุดลง แต่ก็พยายามฝืนตัวเองไปร่วมงานเพื่อทำความฝันของตนและเพื่อนให้เป็นจริง หนูนาแอบทิ้งบัตรเชิญงานประกวดวงดนตรีไว้ให้อานนท์ อานนท์ตัดสินใจไปร่วมงานอย่างเงียบๆ สมชายทำความฝันของตัวเองสำเร็จก่อนที่จะล้มลงกลางเวที อานนท์รู้ความจริงเรื่องอาการป่วยของสมชาย และปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด...... ความรักของสมชายและหนูนาจะดำเนินต่อไปอย่างไร ความสัมพันธ์ของพี่ชายที่แสนดีจะแปรเปลี่ยนเป็นคนรักที่ดีได้หรือไม่

เพื่อนรักนักล่าฝัน (2549/2006) บอม-สหรัฐ ใครๆ ก็รู้จักชื่อนี้ เพราะบอมคือนักร้องดังขวัญใจวัยรุ่นที่มีผลงานมาหลายอัลบั้ม ตั้งแต่อายุ 20 จวบจนตอนนี้ย่างเข้าวัยเบญจเพส บอมกำลังจะมีผลงานชุดที่ 10 ซึ่งเขาตั้งอกตั้งใจทำสุดๆ เพื่อเป็นของขวัญตอบแทนเหล่าแฟนคลับที่รอฟังผลงานของเขาด้วยใจจอจ่อ ถึงขนาดเข้าไปดูแลการผลิตด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการกำหนดแนวเพลงตามสไตล์ของตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าเขากลับพบปัญหากับการเปลี่ยนแนวเพลงป็อบเดิมๆ ของตัวเอง ไปสู่แนวใหม่ที่เขาเองก็สับสนว่าตกลงแล้วตัวตนของบอมเหมาะกับแนวเพลงไหนกัน แน่ ทำให้การทำเพลงต้องหยุดชะงักจนเขาได้พบกับ นัท สาวช่างฝัน นักแต่งเพลงฟรีแลนด์ มีอารมณ์สุนทรีในเสียงเพลง รับจ็อบแต่งเพลงขายให้กับทุกค่าย แต่ยังไม่พบกับความสำเร็จ วันนี้ก็เช่นเคยเธอไปยังค่ายแทมโบ้ตามตื้อ โปรดิวเซอร์โอ่ง ให้ฟังเดโมเพลงที่เธอแต่งเป็นครั้งที่เกือบร้อย แต่โปรดิวเซอร์โอ่งที่ทนฟังเพลงของนัทจนเบื่อตัดสินใจหลบหน้าหลบตา แต่นัทไม่ยอมแพ้แถมยังลาก ป่าน เพื่อนร่วมวงดนตรีของ แมน ซึ่งเป็นพี่ชายให้มาเป็นเพื่อน ป่านสุดแสนจะเต็มใจมาเพราะแอบชอบนัทมานานแล้ว แต่นัทโกะเสียจนไม่เคยรู้ บอมหนีแฟนเพลงที่ตามกรี๊ดถึงที่ค่ายเพลงจนชนเข้ากับนัทอย่างจัง จนงานของเธอกระจุยกระจาย บอมกับนัทมีปากเสียงกัน บอมเป็นนักร้องดังประจำค่ายนี้ ขณะที่นัทโมเมว่าเป็นนักแต่งเพลงดังประจำค่าย บอมขอดูผลงานเพลงของนัท แต่นัทไม่ให้ทั้ง 2 เถียงกันจน ลูกแก้ว ต้องลากตัวนัทไป แต่ทั้ง 2 กลับมาพบกันจนได้อีกที่ร้านรักเดียว

เทวดาสาธุ (2549)

เทวดาสาธุ (2549/2006) คุณ ผู้ชมจะสนุกไปกับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วย เรื่องราวประหลาด หลากความต้องการของมนุษย์ที่ไม่รู้จักจบจักพอ กับการรับมือของ สาธุ เทวดาหนุ่มมือใหม่ รับบทโดย อ้น-สราวุฒิ ที่บางครั้งถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ก็ค่อยๆ หัดกันไป...แบบใจเย็นๆและคุณจะได้พบว่า วันๆหนึ่งคนเราร้องขอความช่วยเหลือต่อสิ่งศักดิ์มากมาย... บางคำขอ..แปลกพิศดาร อย่างที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนแถมสิ่งศักดิ์ในยุคนี้ ต้องทำตัว up date ทันสมัยสุดๆ ไม่อย่างงั้น จะเอาท์ ไม่รู้เท่าทันคำของ ลูกช้างทั้งหลาย เรื่องราวคำขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ที่มา: broadcastthai.com)

หัวใจทระนง (2549/2006) เมื่อรู้ รัก ก็ต้องรู้ อภัย นี่คือหัวใจของลูกผู้หญิงที่แสนทระนง เกือบเดือนแล้วที่ ชลาธร ดีเจสาวตัดสินใจยุติชีวิตคู่ของเธอกับ อติพัทธ์ บ.ก. หนังสือพิมพ์ชื่อดังทั้งที่อยู่กันมาถึง 9 ปี ชลาธรพาฟ้าลูกสาววัย 7 ขวบ ออกจากบ้านของสามีกลับมาอยู่ที่บ้านของตัวเอง เหตุผลใหญ่คือปมในใจของชลาธรเองย้อนไปสมัยที่พ่อและแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอรู้สึกว่าพ่อของเธอมักแสดงท่าทีก้าวร้าว ข่มเหงแม่ของเธออยู่เสมอจนกระทั่งแม่ต้องตายเพราะความตรอมใจ เธอปักใจว่าแม่ตายเพราะพ่อ สิ่งนี้เองที่ทำให้ชลาธร ไม่ยอมลงให้อติพัทธ์ เธอจะไม่ยอมให้ใครมาข่มเหงเธอเด็ดขาด จนมาถึงจุดแตกหักที่คำว่า ลูกก็ไม่อาจยึดเหนี่ยวชีวิตคู่หของทั้ง 2 ไว้ได้ การแยกทาง ของชลาธรและอติพัทธ์ ทำให้ลูกสาวคนเดียวเริ่มมีปัญหาที่โรงเรียน วีวิน พระเอกหนุ่ม รูปหล่อ พ่อรวย รู้จักชลาธรมาตั้งแต่ทั้ง 2 เรียนอยู่ที่ อังกฤษ ความสนิทสนมทำให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนต่างคาดกันว่าเรียนจบแล้วทั้ง 2 คนจะแต่งงานกัน แต่ผิดคาดชลาธรไม่เคยรักวีวินแบบคู่รักเป็นได้แค่เพื่อนที่รู้ใจกันมากที่ สุด ข่าวพระเอกหนุ่มซับน้ำตาให้ดีเจสาวที่กำลังมีปัญหาครอบครัวจึงถูกตีพิมพ์ทำ ให้อติพัทธ์ถึงกับเต้นและโทรไปต่อว่าชลาธรในข้อหายังไม่ทันหย่า ก็จะหาพ่อใหม่ให้ลูกสาว และด้วยความผิดพลาดของคนควบคุมเครื่อง เสียงทะเลาะกันของคนทั้ง 2 จึงได้ออกอากาศกลายเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง ในวันรุ่งขึ้น อภิรดี นางเอกวัยรุ่นที่มีข่าวว่าชอบพอกับวีวินโทรไปหาเจ้าของคอลัมน์ซุบซิบเพื่อ แก้ข่าวให้วีวินและชลาธร แต่การแก้ข่าว กลับทำให้ เกิดเรื่องใหญ่กลายเป็นรัก 4 เส้า จนวีวินต้องหาทางยุติข่าวลือทั้งหมดโดยจะขอให้อติพัทธ์กลับไปอยู่บ้านกับชลา ธรเป็นการชั่วคราวอติพัทธ์ทำเป็นว่า ไม่ค่อยอยากกลับมาอยู่กับชลาธรสักเท่าไหร่ทั้งๆที่ใจจริงแล้วเขามีความสุข เขาคิดว่าบางทีสิ่งดีๆอาจเริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ชลาธรซึ่งไม่เคย ยอม ให้เขาเลยบรรยากาศเก่าๆก็กลับมาอีกครั้ง เพียงขวัญ เลขาที่ชอบพอกับอติพัทธ์ไม่ค่อยพอใจที่อติพัทธ์กลับไปอยู่ร่วมบ้านกับชลาธร แต่การแสดงความไม่พอใจของเพียงขวัญก็เป็นได้แค่เงียบ คุณสมบัติข้อนี้เองที่ทำให้เขาพอใจเธอมาก ชลาธรได้รับการติดต่อจาก วีระวัฒน์ นายทุนเงินหนาให้มาเป็นพิธีกร วีวินรู้ข่าวรีบมาอ้างว่ารู้จักนายวีระวัฒน์ดี เขาเป็นเสือหญิงชื่อดังแต่ ชลาธรไม่ยอมเชื่อ เธอเห็นโอกาสที่จะก้าวหน้าไปแนวทางใหม่ แถมยังเชิญวีวินไปเป็นแขกรับเชิญ. ในเทปแรกของรายการ วีระวัฒน์มีแผนร้ายอย่างวีวินคิดไว้จริงๆ วันหนึ่งรถของชลาธรเสียวีระวัฒน์จึงอาสามาส่งที่บ้าน อติพัทธ์โกรธมากจึงยุให้ลูกสาวมาต่อว่าแม่ ทั้ง 2 คนจึงมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง วีวินรู้ว่าชลาธรกำลังมีปัญหาจึงชวนเธอมากองถ่ายแต่อภิรดีก็ตามมาขัดขวาง ทำให้วีวินโกรธ มากโดยไม่ยอมเล่นละครที่มีอภิรดีแสดงเด็ดขาด รายการของ ชลาธรจะต้องเดินทางไปถ่ายที่ฮ่องกงหลายวัน จึงจำใจต้องไปขอให้ อติพัทธ์ช่วยดูแลฟ้าระหว่างที่เธอไม่อยู่ชลาธรทำงานจนล้มป่วยหลับไม่รู้ เรื่องรู้ราว วีระวัฒน์จึงพาตากล้องประจำกองถ่ายมาถ่ายรูปคู่ของเธอกับชลาธร ถึงจะไม่น่าเกลียดแต่ก็ดูออกว่าภาพนั้นเป็นมากกว่าเพื่อน และได้นำภาพที่ถ่ายไปให้กับอติพัทธ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น อติพัทธ์โกรธมากจึงต่อยวีระวัฒน์กระเด็นออกมานอกห้องและบอกว่า ผมมั่นใจในตัวเมียของผม ที่สถานีอติพัทธ์ถือกุหลาบ 1 ดอก มายื่นให้กับชลาธร แต่ชลาธรบอกว่าเกลียดดอกกุหลาบ แต่หลังจากเปิดประตูไปที่ห้องจัดรายการก็ตกตะลึงเมื่อเห็นดอกลิลลี่สีขาว เต็มห้องไปหมด อติพัทธ์โอบชลาธรไว้แน่นชลาธรดิ้นขลุกขลักทั้งคู่เสียหลักล้มลงจนมือของอติ พัทธ์เผลอไปโดนเครื่องควบคุมทำให้ เสียงออดอ้อนงอนง้อของอติพัทธ์จึงดังไปทั่งกรุงเทพฯ…’หัวใจทระนง

รักบานฉ่ำ (2549/2006) ใบปอ (โฟร์- ศกลรัตน์) เด็กสาวขี้โรคกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด ทำให้ ก้องภพ (ต้น - ตระการ) ผู้เป็นพ่อสงสารเลยเซอร์ไพ้ร์สลูกด้วยการพาแม่มาพบในวันเกิดครบ 17 ปี ก็เดือดร้อนถึง ธารน้ำ (ติ๊ก- กัญญารัตน์) หัวหน้ากองบก.นิตยสารแฟชั่นน้าสาวแท้ๆของ ใบปอ ต้องรับปากพี่เขยมาเป็นคุณแม่กำมะลอและรับ ใบปอ มาอยู่ด้วยระยะหนึ่งช่วงที่ ก้องภพติดธุระ ซึ่งการตัดสินใจของ ธารน้ำ ทำให้ ชานนท์(เคลลี่) คนรักต้องผิดหวังเพราะ ธารน้ำ ปฏิเสธการแต่งงานกับเขา และเมื่อ ธารน้ำ สาวบ้างานต้องใช้ชีวิตกับเด็กขี้โรคอย่าง ใบปอ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมากมาย ธารน้ำ ต้องแบ่งเวลาให้กับ ใบปอ จนทำงานพลาดทำให้ อุ๊บอิ๊บ (โก๊ะ-มนตะกานต์) อดีตคนรักเก่าของ ชานนท์ ที่เพิ่งมาทำงานที่เดียวกัน คอยแกล้งแถมยังจะมาแย่ง ชานนท์ ไปอีก อุ๊บอิ๊บ ก็ยังหาทางเล่นงาน ธารน้ำ โดยหาข้อบกพร่องของเธอไปฟ้องเจ้านาย ใบปอ ก็โดน พิ้งค์ (โบว์-ยุคลธร) เพื่อนในโรงเรียนเขม่นเพราะอิจฉาที่ เจ (เป้-จิรายุทธ) นักกีฬาโรงเรียนมาสนใจเธอ ธารน้ำ ยุ่งกับงานทำให้ ใบปอ ตัดสินใจตาม ธารน้ำ ไปที่ทำงานจนทุกคนรู้ว่า ใบปอ เป็นลูก ธารน้ำ ส่วน อุ๊บอิ๊บ คิดแผนใช้ ใบปอ มาทำให้ ชานนท์, ธารน้ำ เข้าใจผิดกัน...เรื่องราวการเป็นคุณแม่กำมะลอของ ธารน้ำ จะทำอย่างไร ตามชม ละคร รักบานฉ่ำ

น่ารัก (2549/2006) น่ารัก เป็นเด็กสาวอายุ 16 ปี อยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าแสงดาว เป็นบ้านของมูลนิธิ เปลวไฟส่องแสง หนึ่งในบ้านอุปถัมภ์เด็กกำพร้า ของมหาเศรษฐี โชติช่วง ผู้ซึ่งชอบทำบุญ ใครๆ มักจะคิดว่าโชติช่วงเป็นชายกลางคนอายุประมาณ 50 ปี แต่ที่จริงโชติช่วงอายุแค่ 28 ปี เป็นนักธุรกิจด้านอาหารสำเร็จรูปต่างๆ โชติช่วงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่กับพี่สาว และหลานสาวจอมเฮี้ยว ปริศนา อายุ 16 ปีเท่าน่ารัก โชติช่วงเลี้ยง สุรวุฒิ เด็กหนุ่มที่เป็น กำพร้าอายุ 18 ปี ไว้อีก 1 คนที่บ้าน ปริศนาไม่ชอบสุรวุฒิเลยและชอบแกล้งต่างๆ นาๆ โดยหารู้ไม่ว่าสุรวุฒินั้นยอมปริศนาเพราะรักปริศนามากนั่นเอง น่ารักอายุ16 ปีแก่เกินกว่าจะอยู่ในบ้านอุปถัมภ์เพราะไม่มีคนรับเลี้ยงดู แต่น่ารักก็ช่วยงานในบ้านอุปถัมภ์ทุกอย่าง ดูแลเลี้ยงเด็ก ๆที่อายุน้อยกว่า จนครูใหญ่รักน่ารักมาก วันที่บ้านเลี้ยงฉลองคริสมาสต์ โชติช่วงนึกสนุกอยากมาเยี่ยมเด็ก ๆ เลยแต่งตัวป็นซานตาครอส เอาขนมและอาหารมาให้เด็กๆ มากมาย ที่โรงอาหารน่ารักจัดการขัดถูจัดเตรียมงานอย่างสนุกสนาน โชติช่วงเฝ้าดูและนึกชอบโดยไม่รู้ตัว ปริศนามากับโชติช่วงด้วย และนึกรังเกียจความยากจนและกำพร้าของเด็ก ปริศนาทะเลาะกับน่ารัก ครูใหญ่จำใจต้องลงโทษน่ารักและกักบริเวณจนน่ารักไม่ได้ออกมางานเลี้ยงที่ตน ก็ใฝ่ฝันหา โชติช่วงในชุดซานต้าใจดีแอบเข้าไปเยี่ยมปลอบใจและให้ของขวัญเป็นผ้าพันคอผืน สวยและกล่องสีเขียนรูป น่ารักก็มอบผ้าเช็ดหน้าทำเองให้โชติช่วง ทั้งคู่รู้สึกซาบซึ้งในกันและกัน คืนนั้นถึงแม้ข้างนอกห้องจะมีงานเลี้ยงสนุกสนาน น่ารักกลับไม่นึกอิจฉา เธอจุดเทียนรอบห้องและจัดงานเลี้ยงเล็กๆ กับซานต้าสองคนอย่างมีความสุข โชติช่วงมาเยี่ยมบ้านกำพร้าแสงดาวอีกครั้งพร้อมนายพร้อมทนายความ เพื่อจัดการให้น่ารักได้ไปอยู่โรงเรียนประจำและเรียนต่อจนจบชั้นมัธยมที่ โรงเรียนเอกชน อย่างหรูที่ปริศนาเรียนอยู่ น่ารักเห็นโชติช่วงแสนหล่อก็อายและจำไม่ได้ว่าคือแซนต้าใจดี โชติช่วงเองก็ทำเป็นจำไม่ได้ และให้ครูใหญ่ และนายพร้อมหลอกน่ารักว่านายพร้อมคือโชติช่วงเศรษฐีใจดีเจ้าของเงิน น่ารักก้มลงกราบที่เท้านายพร้อมทั้งน้ำตาพร้อมกับ สาบานว่าจะตั้งใจเรียน และกลับมาช่วยครูใหญ่ทำงานที่บ้านเด็กอุปถัมภ์ ที่โรงเรียนประจำที่เชียงใหม่น่ารักและปริศนาทะเลาะกันตลอดเวลา พร้อมกับมีการแบ่งพรรคพวก ออกเป็น 2 แก๊ง คือแก๊งของน่ารักเด็กยากจนแต่เรียนดีและครูรัก กับแก๊งของปริศนาลูกเศรษฐีเจ้าของโรงเรียนที่เกเรและครูต้องเอาใจ เรื่องราวในโรงเรียนและเรื่องของน่ารักอยู่ในสายตาโชติช่วงผู้ซึ่งเข้ามา เป็นน้าของปริศนาและใช้ชื่อว่าน้าโชติ สุรวุฒิสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ได้ โชติช่วงจึงใช้ให้สุรวุฒิตามไปดูแลปริศนาบ่อย ๆ ที่นั่นปริศนายังคอยตามราวีและแกล้งสุรวุฒิตลอดเวลาพร้อมกับจับคู่ให้สุ รวุฒิและน่ารักว่าเหมาะสมกันเหมือนหมามุ่ยกับใบตำแยเพราะเป็นเด็กกำพร้าต้อย ต่ำเหมือนกัน โชติช่วงรู้เรื่องและเกิด อาการขวางใจตลอดเวลาพร้อมกับพยายามสอดส่องเรื่องของน่ารักมากขึ้น 2 ปีผ่านไป ปริศนา และน่ารักเรียนจบ วันงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จปริศนา ขอควงน้าโชติ ออกงานให้เพื่อน ๆอิจฉาตาร้อน สุรวุฒิเองก็เห็นใจน่ารักเลยอาสาพาน่ารักไปงานเลี้ยง ที่ในงานโชติช่วงขอน่ารักเต้นรำ ปริศนาอิจฉาปนหมั่นไส้เลยรวมหัวกับเพื่อนแกล้งน่ารัก..เอาน้ำหวานราดน่ารัก จนเลอะไปทั้งตัว สุรวุฒิต่อว่าปริศนาเลยโดนโกรธและตบหน้า น่ารักหลบมาอยู่หลังงานเลี้ยง ร้องไห้เสียใจคนเดียวเงียบ ๆแต่โชติช่วงก็ตามมาเจอช่วยปลอบใจแถมพาน่ารักไปกินไอศกรีมกันสองคนฉลองต่อ น่ารักเริ่มจิตใจหวั่นไหวหนักมากขึ้น ปริศนาจอมเฮี้ยวไม่อยากเรียนต่อเพราะเบื่อ จึงได้ขอแม่และน้าไปเที่ยวเกาะกับเพื่อน ๆ โชติช่วงให้สุรวุฒิตามไปดูแล ปริศนาโกรธมากมาย น่ารักเองไม่ต้องการเรียนต่อเพราะต้องการกลับมาใช้หนี้ทุนที่ได้รับไป โชติช่วงให้ทนายพร้อมมาเกลี้ยกล่อมให้เรียนต่อแต่น่ารักกลับขอเรียนพวก วิชาการเรือนแทน เพราะเห็นว่านำมาใช้กับบ้านเด็กกำพร้าได้ โชติช่วงยินยอม ที่เกาะที่ปริศนาไปเที่ยวกับเพื่อนเกิดพายุเข้า ปริศนาติดเกาะกับสุรวุฒิ สุรวุฒิยอมแพ้ใจ ตนเองเมื่อโดนปริศนาต่อว่ามากๆ และบอกรัก…ปริศนาช๊อค เมื่อกลับมาถึงบ้านปริศนาขอแม่และน้าไปเรียนต่อที่ต่างประเทศทันทีน่ารัก เรียน การเรือนแค่ 2 ปีก็เรียนจบตลอดเวลาที่เรียนโชติช่วงเฝ้าตามดูแลและอดใจไม่ไหวจึงแสดงอาการ บอกรักเป็นนัยๆ ตลอดเวลา น่ารักไม่กล้าที่จะรัก น้าโชติเพราะกลัวเรื่องชนชั้น ประกอบกับพี่สาวของโชติช่วงรังเกียจน่ารักและสุรวุฒิมาก ปริศนาเองก็หายเงียบไปไม่เคยส่งข่าวใดๆ เลย สุรวุฒิและน่ารักที่หัวอก เดียวกัน จึงดูเหมือนรักกันและเหมาะสมกันมาก ทำให้โชติช่วงอิจฉาแต่ทำอะไรไม่ได้ ปริศนากลับมาเยี่ยมบ้าน 2 เดือนยังร้ายจนน่าเข็ดฟันและยังกลั่นแกล้งน่ารักตลอดเวลาจนโชติช่วงโมโหหลาย ครั้ง จริงๆ แล้วปริศนาพบว่าตนเองก็ชอบสุรวุฒิแต่ชนชั้นที่ต่างกัน การที่เคยแกล้งและตั้งข้อรังเกียจ และการที่นึกว่าน่ารักและสุรวุฒิเป็นแฟนกันทำให้ปริศนาโกรธมาก ที่กรุงเทพ วีระเดช เพื่อนนักเรียนของปริศนาที่กลับ มาด้วย กินเหล้าเมายาและทำตัวน่ารังเกียจ แต่ปริศนากลับใช้มาเป็นตัวกลั่นแกล้งทำให้สุรวุฒิช้ำใจแต่ปริศนา กลับ ติดกับโดนวีระเดชมอมเหล้าและจะข่มขืน สุรวุฒิไปช่วยทันแต่ถูกแม่ของปริศนาประณาม ทั้งๆ ที่สุรวุฒิแอ่นอกรับอย่างสุภาพบุรุษและขอแต่ง งานเพื่อกู้หน้าให้ปริศนา โชติช่วงขอให้ปริศนาเลือกว่าจะแต่งงานหรือกลับไปเรียนต่อให้จบหรือลืมเรื่อง ทั้งหมดเสีย ปริศนาเลือกที่จะไปเรียนต่ออย่างชอกช้ำอีกหน แต่หนนี้ปริศนาเข้าใจหัวใจตนเองแล้ว ปริศนาไปลาสุรวุฒิผู้ต่ำต้อย แต่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าโชติช่วงได้วางแผนให้สุรวุฒิ ไปเรียนต่อที่เดียวกันกับปริศนาเพราะกลัวว่าวีระเดชจะตามรังควานปริศนา ปริศนานั่งร้องไห้บนเครื่องบินและพบว่าผู้โดยสารข้างๆ คือสุรวุฒิ สุรวุฒิบอกว่าโชติช่วง อนุญาตให้ตนแต่งงานกับปริศนาที่โน่นได้ถ้าปริศนายินยอม ปริศนาขอเวลาเรียนต่ออีก 2 ปีถึงจะแต่งงานแต่ยอมหมั้นก่อน ทั้งคู่มีความสุขมาก น่ารักโดนแม่ของปริศนาพี่สาวของโชติช่วงรังควานหนักเมื่อรู้ว่าปริศนาบินไป กับสุรวุฒิ หาว่าน่ารักจะจับโชติช่วงเพราะร่ำรวย น่ารักงงมากเมื่อรู้ว่าน้าโชติที่แสนดีคือคุณท่านโชติช่วงเจ้าของมูลนิธิที่ เคารพ น่ารักไปเจอนายพร้อมและต่อว่าพร้อมกับเสียใจมาก ยิ่งเจอโชติช่วงที่บอกรักและขอแต่งงานยิ่งน้อยใจ น่ารักหนีออกไปจากโรงเรียนและหายไปท่ามกลางความสับสนเสียใจของโชติช่วง น่ารักหนีไปอยู่กับอารยาเพื่อนรักสมัยที่เรียนโรงเรียน ประจำ และทำงานใน ร้านอาหารเงียบๆ โดยไม่บอกใคร นอกจากปริศนาซึ่งได้กลายมาเป็นเพื่อนรักตั้งแต่ก่อนเดินทางไปเรียนต่อ ปริศนาแอบโทรบอกโชติช่วง โชติช่วงดีใจมากรีบบินไปหาน่ารักและขณะที่ขับรถไปหาน่ารักกลางหุบเขานั่นเอง ก็ประสบอุบัติเหตุรถชน ข่าวออกมาว่าคนขับรถตายแต่จริงๆ คือคนขับรถให้โชติช่วงตายจริงๆ แต่ตัวโชติช่วงกระเด็นมานอกรถบาดเจ็บ น่ารักคิดว่าโชติช่วงตายใจสลายและยอมรับว่ารักน้าโชติมากมายมหาศาล ที่โรงพยาบาล น่ารักพบว่าโชติช่วงบาดเจ็บสาหัสอาจจะเดินไม่ได้ น่ารักอาสาพยาบาลและดูแลตลอดเวลา โชติช่วงแกล้งโกหกว่าถ้ากลายเป็นคนพิการจะเป็นอย่างไร น่ารักยังจะรักรึเปล่า แต่น่ารักกลับร้องไห้เสียใจว่าโชติช่วงแกล้งลองใจ ยังไงก็จะรักและดูแลโชติช่วงไปจนตาย ทั้งคู่ก็จบลงอย่างมีความสุข น่ารักกลายเป็นครูใหญ่ที่อุทิศตนให้เด็ก

หว่ออ้ายหนี่...ขอหยุดหัวใจไว้ที่เธอ (2549/2006) ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เพียงหนึ่งวัน เฉินยี่ถิง, สุนี, มาลี สามสาวเพื่อนซี้กำลังเดินขบวนต่อต้านญี่ปุ่น โดยไม่รู้ว่าจะเกิดสงคราม นายพลเฉินตู้ฟง บิดาของเฉินยี่ถิงรีบสั่งให้ จางเซี๊ยะเหมิน หลานสาวไปตามหาลูกสาวและหลานสาว เพื่ออพยพออกจากเซี่ยงไฮ้ให้เร็วที่สุด นายพลเฉินทิ้งเฉินยี่ถิงไว้ตามลำพัง โดยมี อาคิว เด็กหนุ่มกำพร้าในบ้านคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์รอมอบตั๋วไปฮ่องกงให้ ค่าใช้จ่ายของสามสาวถูกแม่เลี้ยงของยี่ถิงมาแย่งไป เฉินยี่ถิงตัดสินใจพาทุกคนไปยังที่ซ่อนทองคำแท่ง ซึ่งแม่และพี่ชายซ่อนไว้ก่อนตายและแจกทองให้ทุกคน ทั้งหมดเดินทางมาถึงฮ่องกงอย่างปลอดภัย สุนีชวนทุกคนเดินทางด้วยเท้ากลับเมืองไทยร่วมกับคณะชาวไทย เป็นเวลากว่า 57 ปีทั้ง 5 คนกลายเป็นเพื่อนรักกันและสาบานว่าถ้ามีลูกจะให้แต่งงานกัน แต่เมื่อมีลูกทั้ง 5 คนกลับมีแต่ลูกชายทำให้ต้องรอจนกระทั่งรุ่นหลาน เฉินยี่ถิงมีหลานสาวคือ มนต์ประภา สุนีมีหลานชายคือ วสุ มาลีมีหลานชายคือ วรากร อาคิวและเซียะเหมินซึ่งเสียชีวิตแล้วมีหลานสาวคือ อารยา และผานิต ทั้ง 5 คนจึงวางแผนให้หลานแต่งงานกัน แต่สุนีและมาลีต่างหมายปองหลานสาวของเฉินยี่ถิงเป็นหลานสะใภ้ สาวๆ ทั้งสามอายุไล่เลี่ยกันทำให้เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่แล้วทั้งมนต์ประภา วสุ และธานีก็ได้พบกันอีกครั้ง เพราะเธอเดินไปชนทั้งสองเข้าแต่วสุจำเธอไม่ได้ เพราะเมื่อก่อนเธอหน้าตาหน้าเกลียดทั้งวสุและธานีตกตะลึงในความงามของมนต์ประภา แต่วสุควงลอร่ามาด้วยจึงดุเธอ ทั้งหมดมาเจอกันอีกครั้งที่บ้านของเฉินยี่ถิง ทำให้สุนีโกรธมากที่วสุพาลอร่ามาหยามมนต์ประภาถึงที่ ธานีเป็นอีกคนที่หลงรักมนต์ประภา จึงให้วสุช่วยพาเขามาพบมนต์ประภาบ่อยๆ เพราะหวังจะจีบเธอ วสุถึงกับอึ้งเนื่องจากเขาเคยพูดไว้ว่าไม่มีทางที่จะแต่งงานกับมนต์ประภาแน่นอน เฉินยี่ถิงเห็นว่าตั้งแต่วสุกลับมามนต์ประภาก็เปลี่ยนไป สุดท้ายมนต์ประภาจึงบอกว่าเธอแอบชอบวสุตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วแต่เขาไม่สนใจเธอ เฉินยี่ถิงจึงคิดให้มนต์ประภาหันกลับไปชอบวรากร แต่ก็เป็นไปไมได่องจากวรากรชอบกับผานิตอยู่แล้ว ส่วนวสุก็ไม่เป็นอันทำงานเอาแต่คิดถึงความผิดพลาดเรื่องมนต์ประภา เขาจึงขับรถไปที่เยาวราชเพื่อไปกินหูฉลามที่นี่เขาได้พบกับมนต์ประภา หลังจากได้พูดคุยกับเธอก็ทำให้ยิ่งชอบเธอและคิดที่จะแก้ไขความผิดพลาดครั้งนี้ให้ได้ วสุไปส่งเธอที่บ้านทันที่ที่ถึงบ้านก็ได้รับข่าวร้ายว่าสุนีโรคหัวใจกำเริบเข้าโรงพยาบาล ระหว่างที่วสุและมนต์ประภาอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกันเข้าใจกันมากขึ้น ธานีโกรธมากที่วสุเปลี่ยนใจเรื่องมนต์ประภา อารยาจึงบอกเขาว่ามนต์ประภาแอบรักวสุมานานแล้ว เพียงอึดใจเดียวธานีก็ดึงร่างเธอเข้ามาจุมพิต ทำให้ธานีมีความรู้สึกแปลกๆ กับอารยา มาลีรู้ข่าวการผ่าตัดของสุนีก็รีบพาวรากรหลานชายบินกลับมาจากอเมริกาทันที ยาใจ แม่ของวสุชวนทุกคนไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ในวันหยุดและค้างที่นั่นสองคืน ธานีรับอาสามารับอารยาและคณะด้วยเหตุผลว่ารู้จักรีสอร์ทแห่งนี้ดี ทั้งที่จริงเขาตั้งใจที่จะให้อารยานั่งรถคันเดียวกับเขา วสุและธานีวางแผนจะแลกรถกันเพื่อที่วสุจะได้นั่งกับมนต์ประภา ส่วนธานีจะนั่งกับอารยาทุกอย่างเป็นตามคาด การแลกรถกันทำให้ธานีมีโอกาสสารภาพรักกับอารยา ส่วนวสุเองหลังจากมนต์ประภารู้ว่าต้องนั่งมากับวสุ ก็โมโหถึงขั้นจะเปิดประตูรถลง ทำให้รถเกิดการเสียหลักไม่สามารถบังคับรถได้วรากรมาช่วยทุกคนไว้ได้ วสุบาดเจ็บมนต์ประภาจึงเข้ามาช่วยปฐมพยาบาล วสุเริ่มปรับความเข้าใจกับมนต์ประภา แต่เขาก็ยังไม่ยอมบอกรักมนต์ประภาเพราะกลัวเสียฟอร์ม แต่กลับพูดจาเหมือนบังคับให้เธอแต่งงานกับเขาเพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่ ยิ่งทำให้มนต์ประภาปฏิเธเขาวสุจึงไปขอให้สุนีช่วยแต่สุนีบอกว่าให้วสุไปทำให้มนต์ประภารับรักเสียก่อน เริ่มด้วยคำง่ายๆ เพียงสามคำนั่นคือ หว่ออ้ายหนี่ เฉินจงผิง หรือโรเบิร์ต ลูกชายของ เฉินเว่ยกั๊วะ น้องชายของเฉินยี่ถิงมาคุกเข่าขอโทษ เรื่องที่เฉินเว่ยก๊วะทำให้เฉินตู้ฟงต้องทิ้งเฉินยี่ถิงไว้ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อ 57 ปีก่อน นอกจากมาขอโทษแล้วเฉินจงผิงยังนำมรดกที่เป็นของเฉินยี่ถิงมาอีกด้วย ถ้าเฉินยี่ถิงไม่รับโรงงานทอผ้าจะตกเป็นของมนต์ประภาทันที แต่มีเงื่อนไขว่ามนต์ประภาต้องไปหาแม่เลี้ยงและน้องชายของเฉินยี่ถิงที่อเมริกา ซึ่งทั้งคู่อยากให้หลานเรียกท่านสักครั้ง ญาติผู้ใหญ่ทั้งหกลับจากเขาใหญ่และรวมตัวกันที่บ้านของสุนี เฉินยี่ถิงเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 57 ปีก่อนให้ทุกคนฟัง ต่างคนต่างให้อภัยกัน อารยา, ธานี, ผานิต และวรากรเข้ามาทำความเคารพผู้ใหญ่ วรากรฉุดผานิตนั่งลงและบอกให้มาลีไปขอผู้หญิงให้ ทำให้มาลีโกรธและโวยวายใส่หลานชายจนผานิตถึงกับร้องไห้ ซึ่งจริงๆ แล้วมาลีโกรธที่วรากรไม่ยอมบอกว่าเป็นผานิต เพราะเกือบจะขอผู้หญิงผิดคนให้และเรียกผานิตไปกอดอย่างเอ็นดู ธานีดึงอารยานั่งลงบ้างธานีขออนุญาตคบดูใจกับอารยา เพราะว่าเขารักและจริงใจกับอารยา สุนีบอกวสุว่ามีใครบางคนมาหามนต์ประภาจากอเมริกา ทำให้วสุคิดว่ามีคู่แข่งเพิ่มอีกคนถึงกับอยู่ไม่ติดบ้านเลยทีเดียว สุริยะบอกวสุว่ามนต์ประภาจะบินไปอเมริกาวสุได้ฟังดังนั้นจึงรีบขับรถตรงไปสนามบินทันที วสุคิดว่ามนต์ประภาจะไปแต่งงานกับโรเบิร์ต แต่สุดท้ายแล้วไม่ใช่โรเบิร์ตบอกกับวสุว่าเขาเป็นอาของมนต์ประภา ทำให้วสุหน้าแตกเดินคอตกไป แต่มนต์ประภาเรียกเขาไว้วสุสารภาพทุกอย่างที่เขาทำแย่ๆ กับวรากร และขอโทษที่เขาบอกว่าจะไม่แต่งงานกับเธอ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ววสุบอกรักมนต์ประภาและคุกเข่าขอเธอแต่งงาน งานแต่งงานของทั้งสามคู่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ สร้างความปลาบปลื้มให้กับทั้ง 5 ครอบครัวที่ตั้งใจจะปรองดองกันเป็นอย่างมาก ต่างก็มีความสุขมากที่เป็นญาติกันได้สำเร็จ เพราะรุ่นลูกไม่ยอมแต่งงานกัน และไม่อาจเอ่ยคำพูดอย่างที่วสุเอ่ยกับมนต์ประภานั่นคือคำว่า หว่ออ้ายหนี่

ครั้งหนึ่งเมื่อเรารักกัน (2549/2006) หม่อน หญิงสาวผู้เติบโตมากับ ป้าจันทร์รำไพ ผู้เป็นนักพยากรณ์ทำนายดวงชะตา ทำให้เธอปักใจและหลงใหลในเรื่องราวของพรหมลิขิต และหวังว่าวันหนึ่งจะได้เจอคู่แท้ เพราะความเหงาที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่วันเด็กทำให้หม่อนชอบการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ และตั้งความหวังที่จะเป็นไกด์ในอนาคตให้จงได้ หากแต่เพราะเคยมีปัญหาพูดติดอ่างในวัยเด็กทำให้หม่อนขาดความมั่นใจที่จะไปอบรมและสอบมัคคุเทศก์ ทุกวันนี้หม่อนจึงได้แต่ทำงานในร้านวัตสันและติดนิสัยชอบส่งโปสการ์ดถึงตัวเองเป็นประจำ โดยมี ภูมิใจ บุรุษไปรษณีย์หนุ่มมือใหม่เป็นคนนำโปสการ์ดมาส่งให้ทุกวัน แม้ภูมิใจจะประทับใจกับโปสการ์ดเหล่านั้น หากแต่ทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยพบกันสักที หนำซ้ำภูมิใจยังเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโปสการ์ดจากคนรักของหม่อน วันหนึ่งหม่อนได้พบกับ เนปาลี นักเดินทางจากเนปาล เนปาลีเป็นชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตเดินทางไปทั่วโลกแต่ไม่ยอมกลับเนปาล เพราะมีปัญหากับ อรวี ผู้เป็นแม่ สถานการณ์เมื่อแรกพบทำให้หม่อนหลงรักเนปาลี และเข้าใจว่าเนปาลีคือเนื้อคู่ของตนตามคำทายของไพ่ยิปซี เนปาลีสร้างแรงบันดาลใจให้หม่อนไปสอบมัคคุเทศก์ได้สำเร็จ ในขณะเดียวกันเนปาลีเองก็มีเหตุให้ต้องเดินทางกลับเนปาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างทางที่หม่อนขับรถมาเพื่อบอกข่าวดีกับเนปาลี รถของหม่อนเสียหลักและพุ่งเข้าชนภูมิใจอย่างแรงทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างหมดสติไปในที่เกิดเหตุ ในขณะที่เนปาลีที่รอหม่อนจนถึงวินาทีสุดท้ายก็จำต้องจากไป หม่อนฟื้นขึ้นมาพบกับหายนะที่ตนสร้างขึ้นเมื่อชายผู้นั้นได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองจนต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา จากสภาพที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลในห้องไอซียูนั้นทำให้หม่อนไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าตาที่แท้จริงของเขา หม่อนรับรู้แต่เพียงว่าภูมิใจไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน และสิ่งที่เขาเพียรพยายามทำอยู่ก็คือการตามหาแม่ที่หายตัวไปเมื่อยี่สิบปีก่อน จากอุบัติครั้งนั้นหม่อนคิดว่าเธอจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับชายคนนี้อย่างน้อยก็เรื่องค่าใช้จ่าย หม่อนจึงรีบออกหางานจนในที่สุดก็ได้เป็นไกด์ฝึกหัดในบริษัททัวร์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ระหว่างนั้นภูมิใจได้รับการดูแลที่ดีจาก ใบเตยพยาบาลสาวที่มีความรู้สึกผูกพันกับภูมิใจอย่างประหลาด จนกระทั่งวันหนึ่งบริษัทของหม่อนจัดทัวร์เนปาลหม่อนได้ร่วมเดินทางไปด้วยโดยความบังเอิญ และที่เนปาลหม่อนก็ได้พบกับเนปาลีอีกครั้ง ครอบครัวของเนปาลีทำธุรกิจรีสอร์ท & สปาอยู่ในเมืองกลางหุบเขา การได้พบกันอีกครั้งโดยไม่คาดฝันทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถูกสานต่ออย่างรวดเร็วและน่าประทับใจ แต่การมาถึงของหม่อนสร้างความไม่พอใจให้กับ คุณหนูเล็ก หญิงสาวที่ ร่วมทำธุรกิจกับเนปาลีซึ่งหลงรักเนปาลีอยู่ แม้เนปาลีจะเป็นคนดีพร้อมในทุกๆ ด้าน แต่ความน่ารำคาญอันเกิดจากคุณหนูเล็กทห้หม่อนต้องรับมือกับศึกหนักไม่เว้นแต่ละวัน ในขณะที่หม่อนกำลังเผชิญหน้ากับความรักอยู่นั้น ชายหนุ่มซึ่งนอนนิ่งมานานนับเดือนก็ฟื้นขึ้นมา ภูมิใจหรือเจ้าชายนิทราของหม่อนตื่นขึ้นมาพบกับโปสการ์ดนับไม่ถ้วนจากหญิงสาวแปลกหน้า เขาค่อยๆ อ่านโปสการ์ดใบแล้วใบเล่าซึ่งถูกส่งมาจากที่ต่างๆ บอกเล่าเรื่องราวของเธอ และสิ่งที่เธอกำลังตั้งใจทำอยู่ ซึ่งนั่นคือการหาเงินเพื่อช่วยชีวิตเขา ภูมิใจเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาหลับไปผ่านทางโปสการ์ดเหล่านั้น ความผูกพันบางอย่างเริ่มเกิดขึ้นภายในใจของชายหนุ่ม แม้จะไม่เคยเจอกันแต่กลับรู้สึกราวกับรู้จักกันมานานแสนนาน แต่เพราะสภาพร่างกายที่ยังไม่พร้อมทำให้ภูมิใจไม่สามารถตอบจดหมายของเธอได้ ภูมิใจเร่งวันเร่งคืนให้ร่างกายหายดี จนในที่สุดวันที่เขาพร้อมก็มาถึงภูมิใจเขียนจดหมายหาหญิงสาว แต่แล้วโปสการ์ดฉบับล่าสุดที่บอกเล่าเรื่องราวรักของหม่อนที่มีต่อเนปาลีก็เดินทางมาถึง ก่อนที่เขาจะได้ส่งจดหมายฉบับนั้น เพราะความกลัวที่จะเสียความสัมพันธ์นี้ไปภูมิใจจึงล้มเลิกความคิดที่จะบอกความจริงกับหม่อน แต่กลับเลือกที่จะทำบางอย่างแทน วันหนึ่งคุณหนูเล็กอาสาพาหม่อนไปเที่ยวชมตัวเมืองเนปาล แต่กลับทิ้งหม่อนไว้กลางตลาดและยังแกล้งให้คนมาวิ่งราวกระเป๋าหม่อนอีก หม่อนจะได้ไม่มีเงินติดตัวหม่อนวิ่งตามโจรจนเกือบจะถูกรถชน โชคดีที่มีหนุ่มไทยแปลกหน้าให้ความช่วยเหลือไว้ แถมยังแย่งกระเป๋าเงินหม่อนคืนมากได้ แต่โชคร้ายที่ชายหนุ่มต้องเสียกระเป๋าเดินทางทั้งหมดของเขาให้ขโมยตัวจริงไป และโชคร้ายยิ่งกว่าที่ชายหนุ่มซึ่งทั้งปากเสียและกวนประสาท บอกว่าความซวยของเค้าทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของเธอ ดังนั้นหม่อนจึงต้องรับผิดชอบด้วยการพาเขาไปอาศัยที่รีสอร์ทของเนปาลีอีกคน แต่ไม่ได้อยู่ฟรีต้องทำงานแลกที่อยู่ด้วย โดยที่หม่อนไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มที่เธอเกลียดขี้หน้าฝังใจคนนี้คือคนเดียวกับเจ้าชายของเธอนั่นเอง ด้วยความช่วยเหลือของ โขลา ไกด์พื้นที่ช่วยให้ภูมิใจหาวิธีที่จะสร้างสถานการณ์ต่างๆ นานาเพื่อให้หม่อนเข้าใจว่าตนคือชายในพรหมลิขิตที่หม่อนตามหา ทำให้หม่อนมักพบปะเจอะเจอภูมิใจโดยบังเอิญอยู่ร่ำไป แต่ทุกครั้งที่พบกันก็มักมีเรื่องให้เดือดร้อนและทะเลาะเบาะแว้งกันทุกที จนหม่อนเชื่อว่าภูมิใจคือตัวซวยประจำชีวิตและเป็นบุคคลที่ชะตาไม่ต้องกันอย่างรุนแรง เรื่องราวของภูมิใจตัวซวยถูกถ่ายทอดผ่านโปสการ์ดไปยังเจ้าชายนิทรา ซึ่งแม้จะไม่ใช่เรื่องราวที่น่าประทับใจแต่มันก็ทำให้ภูมิใจรู้ว่าหม่อน เริ่มเห็นเขาไม่มีตัวตนอยู่ในชีวิตของเธอบ้างแล้ว เมื่อทางบริษัทเรียกตัวหม่อนกลับประเทศไทยเนปาลีคิดจะรั้งหม่อนไว้ จึงเสนองานดูแลส่วนของสปาให้กับหม่อน แม้หม่อนจะลำบากใจแต่เพราะภาระที่ดูแลเจ้าชายนิทราทำให้เธอตัดสินใจรับงานนั้น สร้างความไม่พอใจให้กับคุณหนูเล็กมากขึ้นไปอีก ทางฝ่ายภูมิใจต้องการใกล้ชิดหม่อนจึงขอย้ายมาเป็นพนักงานนวดที่สปาโดยใช้เส้นสายขอุณหนูเล็ก ที่อยากให้ตัวซวยประจำตัวหม่อนมาอยู่ใกล้ๆ หม่อน และหม่อนจะได้แตกกับเนปาลีเร็วๆ การมาของภูมิใจทำให้ความสัมพันธ์ของเนปาลีและหม่อนที่กำลังก่อร่างสร้างตัวอย่างหวานชื่นเริ่มตะกุกตะกัก เพราะภูมิใจคอยเข้ามาแทรกและทำลายบรรยากาศอยู่เสมอ หลายต่อหลายครั้งที่ภูมิใจทำให้หม่อนต้องเดือดร้อนรำคาญใจและประหลาดใจไปพร้อมๆ กัน สิ่งที่ภูมิใจทำหรือเอ่ยถึงมักตรงกับใจหรือความคิดของเธออยู่เสมอราวกับว่าเขาเดาใจเธอออก นานเข้าความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ แม้เนปาลีจะเป็นคนดีแต่หากเขารู้ใจเธอได้เหมือนภูมิใจก็คงจะดี หม่อนต้องการจะเดินทางไปหิมาลัยเพื่ออธิษฐานขอพรให้เจ้าชายนิทราฟื้นขึ้นมา เนปาลีพาหม่อนออกเดินทางโดยมีภูมิใจตามไปด้วยในฐานะลูกหาบ ระหว่างการเดินทางครั้งนั้นเนปาลีเริ่มสังเกตเห็นว่าภูมิใจหลงรักหม่อน ที่จุดอธิษฐานหม่อนได้กล่าวคำอธิษฐานขอให้เจ้าชายนิทราฟื้นจากการหลับใหล หลังจากกลับมาจากหิมาลัยเนปาลีจึงถือโอกาสนั้นขอหม่อนแต่งงาน ภูมิใจเข้าใจผิดคิดว่าหม่อนตอบรับ ความเข้าใจผิดนี้ทำให้ภูมิใจท้อแท้และเริ่มเชื่อว่าบางทีเนปาลีอาจจะเป็นคู่แท้ของหม่อนอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ ก็ได้ ภูมิใจจึงตัดสินกลับจากเนปาลไปอย่างเงียบๆ โดยไม่รู้ว่าการจากไปของตนสร้างความรู้สึกผิดหวังลึกๆ ให้กับหม่อน ภูมิใจเดินทางกลับมากรุงเทพใช้ชีวิตอย่างเดียวดายเหมือนครั้งก่อน จนกระทั่งวันหนึ่ง โปสการ์ดจากเนปาลฉบับหนึ่งก็เดินทางมาถึง หม่อนบอกเล่าเรื่องราวความรู้สึกแปลกๆ ในใจของหม่อนที่มีต่อตัวซวย ความลับในใจของหม่อนทำให้ภูมิใจคิดว่าตนยังมีหวังอยู่ แต่แล้วความยินดีก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อภูมิใจเกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงและต้องกลับเข้าโรงพยาบาล ผลการตรวจพบว่ามีอาการผิดปกติในสมองที่เคยได้รับกระกระทบกระเทือน ภูมิใจต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ต้องเสี่ยงต่อการสูญเสียความทรงจำทั้งหมด ด้วยเวลาที่มีเหลืออยู่ไม่มากนักภูมิใจตัดสินใจกลับไปหาหม่อนเพื่อบอกความจริงเรื่องเจ้าชายนิทรา และสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงของตน แต่กลับไปถึงในช่วงเวลาที่เนปาลีขอหม่อนแต่งงาน หม่อนเลือกใครระหว่างภูมิใจกับเนปาลี ติดตามชมและรอลุ้นไปกับพวกเขาได้ใน ครั้งหนึ่งเมื่อเรารักกัน

ปูลม (2549/2006) สาวน้อยวัย 15 อาศัยอยู่กับตามั่นซึ่งเป็นตาแท้ๆของปูลม ตามั่นแกมีลูกสาวชื่อกลอยซึ่งเป็นแม่ของปูลม เธอโดนผู้ชายหลอกจนตั้งท้อง และคลอดปูลมออกมา และตายจากไป ตามั่นเลี้ยงปูลมแบบเด็กผู้ชาย ปูลมจึงทะโมน ไม่กลัวใครและยังมีโจทย์เป็นจิ๊กโก๋ชื่อเชิดลูกชายของนายชั้นเศรษฐีประจำ ถิ่น วันหนึ่งขณะที่ตามั่นกับปูลมออกเรือหาปลา ได้เกิดพายุรุนแรงตามั่นพยายามช่วยปูลมจนตัวเองพลาดตกเรือจมหายไปในทะเล รุ่งเช้าหน่วยกู้ภัยจาก ฐานทัพเรือสัตหีบซึ่งมีเรือเอกนาวิน ชำนาญนาวินเป็นผู้บังคับการเรือและมีท่านผู้บัญชาการพล

คมรัก คมเสน่หา (2549/2006) รวิช วิศวกรหนุ่มอนาคตไกลขยันสร้างฐานะ เมื่อรวิชได้พบกับ ศศิ สาวช่างตัดเสื้อคนเช่าบ้าน ทั้งคู่หลงรักกันทันทีและตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน จนมีลูกสาวเป็นพยานรักชื่อ ใบบัว ขณะที่ครอบครัวเล็กๆ ของรวิชกำลังมีความสุข ไม่นานศศิก็ตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จากนั้นไม่ถึงปีศศิก็จากรวิชกับลูกไปอย่างไม่มีวันกลับ และเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะไม่นานนักก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรวิชอีกถึงขั้นขาหักต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ทำให้รวิชได้พบกับ เพียงใจ พยาบาลที่คอยดูแลรวิชอย่างใกล้ชิดจนก่อเกิดเป็นความรัก ทั้งคู่จึงตัดสินใจมาเป็นครอบครัวเดียวกัน เพียงใจจึงพา อิงฟ้า ลูกสาวเจ้าอารมณ์ของเธอมาอยู่ด้วย 20 ปีผ่านไปรวิชพาครอบครัวมาเปิดร้านของชำที่กรุงเทพฯ เพราะอยากให้ลูกๆ มาเรียนหนังสือในที่ดีๆ แต่อิงฟ้ากลับทำให้พ่อผิดหวังเพราะเธอเอาแต่แต่งตัวโชว์หนุ่มๆ จนไม่เป็นอันเรียนหนังสือ แถมยังชอบหลอกเงินผู้ชายรวยๆ โดยแลกกับการหลับนอนกับเธอ แม้ใบบัวจะรู้นิสัยของอิงฟ้าดีแต่ก็พูดไม่ได้เพราะกลัวเพียงใจไม่พอใจ ใบบัวจึงได้แต่ระบายความในใจให้ ชายแดน เพื่อนสนิทคนเดียวของเธอฟัง ไม่นานโชคชะตาก็ทำให้ใบบัวได้เจอกับ กาลัญ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงโดยบังเอิญ ขณะที่ทั้งคู่เดินชนกันบนสถานีรถไฟฟ้า กาลัญตะลึงในความน่ารักของใบบัว แต่ยังไม่ทันได้คุยกันใบบัวก็ขึ้นรถไฟฟ้าไปก่อน โดยทำโทรศัพท์มือถือตกไว้กาลัญจึงเก็บมือถือของเธอไว้ และหวังจะให้ใบบัวมารับคืนแต่ใบบัวกลับให้ชายแดนมารับแทน กาลัญจึงคิดว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันกาลัญจึงหมดหวังที่จะได้เจอกับใบบัวอีก ที่บ้านกาลัญ กรวิทย์ น้องชายสุดเลิฟของกาลัญกลับจากเมืองนอกกระทันหัน เพราะเรียนหนังสือไม่จบแต่ ฉันท์ กับปานวาด ผู้เป็นพ่อแม่ก็ไม่เคยว่าลูกแถมยังตามใจกรวิทย์ทุกอย่าง ที่เมืองไทยกรวิทย์ไม่มีเพื่อนเลยต้องแชตคุยกับเพื่อนที่เมืองนอกทั้งวัน ทำให้ได้เจอกับอิงฟ้าทางอินเตอร์เน็ตแต่อิงฟ้าใช้ชื่อ “ใบบัว” ในการแชตกับหนุ่มๆ กรวิทย์จึงเข้าใจว่าอิงฟ้าชื่อใบบัวจริงๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาจนถึงขั้นนัดเจอกัน กรวิทย์หลงเสน่ห์อิงฟ้าทันทีผิดกับอิงฟ้าที่คิดแต่จะหลอกเงินกรวิทย์เท่านั้น อิงฟ้าชวนกรวิทย์ให้ลองยาเสพติดจนกรวิทย์เปลี่ยนไป ใครเตือนก็ไม่ฟังจนกระทั่งกรวิทย์รู้ว่าอิงฟ้า ( ในชื่อใบบัว ) มีผู้ชายคนใหม่ ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรงกรวิทย์เสียใจมากเลยใช้ยาจนหลอนกระโดดตึกเสียชีวิต การตายของกรวิทย์นำความเจ็บช้ำมาให้ทุกคนในครอบครัวอย่างมาก จากบ้านที่เคยอบอุ่นกลายเป็นบ้านที่ไร้ชีวิตชีวา ปานวาดกลายเป็นคนเซื่องซึมเก็บเนื้อเก็บตัว ส่วนฉันท์ก็เอาแต่เที่ยวเตร่ติดผู้หญิง ทำให้กาลัญโกรธแค้นผู้หญิงที่ชื่อใบบัวมาก กาลัญจึงจ้างนักสืบตามหาตัวเธอจนเจอ กาลัญเสียใจมากที่ใบบัวคือผู้หญิงที่เขาตกหลุมรัก ประจวบกับที่ใบบัวมาสมัครงานที่บริษัทกาลัญพอดีเขาจึงรับเธอไว้ ทันทีที่ บุรินทร์ หุ้นส่วนหน้าเนื้อใจเสือเพื่อนสนิทของกาลัญเจอใบบัวก็สนใจทันที ทั้งๆ ที่บุรินทร์กำลังคั่วอยู่กับอิงฟ้า ที่บริษัทกาลัญแกล้งใบบัวสารพัดจนเธอแทบทนไม่ไหวเพื่อแก้แค้นแทนน้อง แถมใบบัวยังถูก อลีนา หุ้นส่วนอีกคนที่หลงรักกาลัญคอยกดดันอีก ด้านปานวาดพออาการดีขึ้นเธอก็หันมาบงการกาลัญแทนกรวิทย์ และบังคับให้กาลัญแต่งงานกับอลีนาโดยเร็ว แต่กาลัญไม่ได้รักอลีนาจึงจ้างใบบัวมาเป็นภรรยาตบตาแม่ บวกกับอาการของรวิชกำลังทรุดหนักแต่ไม่มีเงินรักษา ใบบัวจึงยอมรับข้อเสนอของกาลัญทันที พอใบบัวย้ายมาอยู่บ้านกาลัญเธอก็ถูกปานวาดกับกาลัญแกล้งต่างๆ นานา โดยมีอลีนาตามมาซ้ำเติมด้วยอีกคน ส่วนชายแดนก็เป็นห่วงใบบัวมากจึงมาหาที่บ้านกาลัญบ่อยๆ ทำให้กาลัญหึงเพราะคิดว่าทั้งคู่เป็นชู้กัน กาลัญน้อยใจหนีไปเที่ยวกับบุรินทร์จนได้เจอกับอิงฟ้า อิงฟ้าปิ๊งกาลัญทันที รุ่งขึ้นเธอจึงมาขอฝึกงานที่บริษัทกาลัญ ที่บริษัทอิงฟ้าได้เจอกับใบบัว และแทบช็อคเมื่อรู้ว่ากาลัญเป็นสามีของใบบัว และพออิงฟ้าเห็นรูปถ่ายกาลัญกับกรวิทย์คู่กัน เธอถึงรู้เรื่องว่าเธอคือต้นเหตุการณ์ตายของกรวิทย์ อิงฟ้าแสร้งสำนึกผิดขอร้องไม่ให้ใบบัวเอาเรื่องที่เธอเคยคบกับกรวิทย์บอกให้กาลัญรู้ ใบบัวสงสารจึงยอมทำตามโดยไม่รู้เลยว่าอิงฟ้าชอบใส่ร้ายเธอให้กาลัญฟัง ยิ่งทำให้กาลัญเข้าใจผิดใบบัวไปกันใหญ่ ตั้งแต่กาลัญแต่งงานกับใบบัวทำให้อลีนาผิดหวังมากจึงร่วมมือกับบุรินทร์ทำลายกาลัญ ในขณะที่ใบบัวก็กำลังเครียดหนักที่อาการพ่อแย่ลง เพราะเพียงใจมัวแต่ไปเสวยสุขกับเด็กหนุ่มจนไม่ยอมดูแลรวิช ใบบัวจับได้ว่าเพียงใจเอาเงินที่เธอให้ค่ารักษาพ่อไปเลี้ยงชู้ใบบัวจึงไม่ให้เงินเพียงใจอีก ผ่านไปไม่นานรวิชก็ตายใบบัวเสียใจมากเธอตัดสินใจหย่ากับกาลัญทันที แต่กาลัญรักใบบัวเข้าแล้วจึงขอร้องให้เธอเปลี่ยนใจแต่ก็ไม่สำเร็จ อิงฟ้าจึงใช้โอกาสนี้ร่วมมือกับบุรินทร์สร้างเรื่องให้กาลัญเข้าใจผิดใบบัวอีก กาลัญขับรถด้วยอารมณ์โกรธจนเกิดอุบัติเหตุ ใบบัวรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้กาลัญบาดเจ็บจึงกลับมาดูแล แต่กาลัญยังโกรธไม่ยอมคุยด้วยแต่ความดีของใบบัวก็ชนะใจกาลัญได้ ทั้งคู่เริ่มรู้ใจของตนเองดีจึงตกลงเป็นสามีภรรยากันด้วยความรักอันบริสุทธิ์ แต่ทุกอย่างยังไม่ราบรื่นเมื่ออิงฟ้าตั้งท้องกับบุรินทร์ แต่บุรินทร์กลับให้อิงฟ้าไปทำแท้ง อิงฟ้าจึงวางแผนจับกาลัญด้วยการแสร้งทำดีแล้วขอไปอยู่กับใบบัวที่บ้านกาลัญ อิงฟ้าสร้างเรื่องให้ใบบัวคิดว่าเธอมีอะไรกับกาลัญแล้ว เป็นขณะเดียวกันที่ใบบัวก็รู้ว่าตัวเองท้องกับกาลัญเช่นกัน ใบบัวโกรธกาลัญมากหนีกลับไปอยู่บ้านตัวเองทันที ส่วนเพียงใจก็รีบขนของมาอยู่กับอิงฟ้าที่บ้านกาลัญ พอกาลัญรู้ว่าใบบัวท้องก็รีบไปหาเธอ แต่ใบบัวบอกว่าเธอท้องกับชายแดนกาลัญเสียใจมาก ด้านอิงฟ้าก็เริ่มแสดงธาตุแท้ความจุ้นจ้านออกมาจนกาลัญรำคาญ กระทั่งวันนึงกาลัญเจอกับเพื่อนของกรวิทย์จึงรู้ความจริงว่าคนที่ทำให้กรวิทย์ตายคืออิงฟ้าไม่ใช่ใบบัว กาลัญรู้สึกผิดต่อใบบัวกาลัญจึงไปปรับทุกข์กับบุรินทร์ กาลัญเล่าให้บุรินทร์ฟังว่านัดเคลียร์กับอิงฟ้าบนดาดฟ้า อิงฟ้ารู้ทันว่ากาลัญจะถามเรื่องกรวิทย์จึงเสแสร้งสำนึกผิดคิดฆ่าตัวตายจนกาลัญใจอ่อนให้อภัยอิงฟ้า หลังจากกาลัญเดินจากไปบุรินทร์ก็สวมรอยทำเป็นทะเลาะกับอิงฟ้าแล้วผลักเธอตกตึกตาย แล้วโยนความผิดสร้างหลักฐานป้ายสีกาลัญ รุ่งขึ้นตำรวจจับกาลัญดำเนินคดีทันทีเพราะหลักฐานมัดตัวแน่น พอใบบัวรู้ข่าวว่าอิงฟ้าตายด้วยฝีมือกาลัญทำให้เธอโกรธมาก เพราะคิดว่ากาลัญฆ่าอิงฟ้าเพื่อแก้แค้นเธอ ชายแดนทนเห็นใบบัวเสียใจไม่ได้จึงเข้าให้การกับตำรวจว่าเขาเห็นกาลัญช่วยอิงฟ้าก่อนจะเดินจากไป พร้อมกับหลักฐานทางโทรศัพท์ซึ่งเป็นเสียงของอิงฟ้า โดยเธอสารภาพกับชายแดนว่าสำนึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่ทำไม่ดีกับกรวิทย์และใบบัว หลักฐานของชายแดนทำให้กาลัญพ้นผิด อลีนากลับมาหากาลัญอีกครั้งทำให้บุรินทร์ไม่พอใจ แต่ไม่กล้าทำอะไรอลีนาเพราะเธอมีเทปวงจรปิดตอนที่บุรินทร์ฆ่าอิงฟ้า บุรินทร์จึงให้ลูกน้องตัดสายเบคกรถอลีนาจนเกิดอุบัติเหตุอลีนาเสียชีวิตทันที ส่วนกาลัญที่ติดรถเธอไปด้วยบาดเจ็บสาหัส แต่คราวนี้บุรินทร์หนีความผิดไม่พ้นเพราะอลีนาฝากหลักฐานเทปลับไว้ให้ทนายดำเนินการบุรินทร์ก่อนเธอจะตาย เมื่อเหตุการณ์ร้ายๆ เริ่มคลี่คลายกาลัญออกตามหาใบบัวแทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็ไม่มีวี่แวว แล้วเรื่องราวความรักของกาลัญกับใบบัวจะลงเอยแบบไหน?

พริกหวานน้ำตาลเผ็ด (2549/2006) ข่าวการเสียชีวิตของ สุรทิน น้องชายทำให้ ตุลา รีบกลับจากอเมริกา ทุกคนบอกว่าการตายของสุรทินเป็นเพียงอุบัติเหตุจมน้ำ แต่ตุลาไม่เชื่อตุลาได้พบบางสิ่งจากสมุดบันทึกของสุรทินกับผู้หญิงที่ชื่อ สกุลเกศ เขาจึงวางแผนเข้าไปอยู่ในบ้านสกุลเกศในฐานะคนขับรถ โดยปลอมตัวเป็น นายตุ ผู้ชายเฉิ่มๆ ซื่อๆ จากบ้านนอก และด้วยความงก คุณนายจินดา แม่ของสกุลเกศจึงรับนายตุไว้เป็นคนใช้ คนสวน คนขับรถ คนงาน และอีกสารพัดตำแหน่ง นายตุเริ่มปลูกต้นพริกในใจสกุลเกศตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เช่นเดียวกับสกุลเกศที่รู้สึกฉุนหน้านายตุเหมือนฉุนพริก ในขณะเดียวกัน ฐาปนะ หนุ่มเจ้าเล่ห์ที่มาคบกับสกุลเกศเพื่อหวังเงินทองและสมบัติของเธอ ทั้งที่มีภรรยาอยู่แล้วคือ ตรีประดับ และที่เผ็ดร้อนไปกว่านั้นก็คือ รุจิเรข ที่เป็นคู่หมั้นของตุลาก็ยังมีความสัมพันธ์ลับๆ กับฐาปะนะอีก สกุลเกศยังข้องใจในตัวตนที่แท้จริงของนายตุจนเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ วันหนึ่งเธอจึงบุกเข้าไปค้นห้องนายตุกลางดึก สกุลเกศตาวาวเมื่อเจอหนังสือภาษาอังกฤษหลายเล่ม สกุลเกศเก็บความสงสัยนายตุไว้โดยไม่บอกให้ใครรู้ ได้แต่แอบจับตาความเป็นไปของนายตุจนรู้สึกคุ้นเคย เช่นเดียวกับฝ่ายตุลาก็เริ่มรู้สึกเป็นสุขที่ได้ใกล้ชิด จนต่างคนต่างเก็บเอาหน้าอีกฝ่ายไปฝัน แล้วสกุลเกศก็ต้องอับอายและเสียใจมากที่ได้รู้ว่าฐาปนะมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว น้ำตาของสกุลเกศยิ่งทำให้ตุลาต้องการตอกย้ำให้สกุลเกศรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดเหมือนที่เธอทำกับสุรทิน จนทำให้สกุลเกศตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย และเมื่อรู้ความจริงว่าตุลาคือพี่ชายแท้ๆ ของสุรทินสกุลเกศยิ่งหัวใจสลาย ตุลาบังคับสกุลเกศไปอยู่ในไร่ที่ต่างจังหวัด และที่นี่เองสกุลเกศก็ตกเป็นของตุลา รุจิเรขแค้นใจมากไม่ต้องการให้ใครได้ตุลาไปนอกจากเธอจึงยิงตุลา ในที่สุดความรักก็สามารถยื้อชีวิตของตุลาไว้ได้ ตุลาฟื้นขึ้นมารู้ว่าต้นพริกที่ปลูกไว้ในใจทั้งเขา และสกุลเกศกลายเป็นต้นรักที่งอกงามเติบใหญ่ให้ผลรักอันแสนหวานและอบอุ่น

พ่อครัวหัวป่าก์ (2549/2006) คุณนาย ทองม้วน พร้อมกระติกคนรับใช้คนสนิท มักจะไปเดินตรวจตราตลาดที่เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของแก จนได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐีนีที่รวยและเขี้ยวลากดินที่สุดในย่านนี้ เพราะแม้แต่อาหารในบ้านแต่ละวันที่ตกถึงท้องก็จำกัดจำเขี่ยเหลือเกิน แม่ครัวคนแล้วคนเล่าต่างพากันลาออก เพราะคุณนายให้ค่าจ่ายตลาดแค่วันละ100 บาทสำหรับ 4 ชีวิตให้ครบทั้งคาวหวาน ใน 3 มื้อ วิกฤต ในบ้านมาถึงจุดแตกหักเมื่อ ทองตรา ลูกสาวสุดที่รักสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก เงิน 100 บาทถูกสั่งเพิ่มปริมาณและคุณภาพอาหารให้เทียบเท่าภัตตาคาร ขนาดแม่ครัวคนล่าสุดก็มีอันต้องลาออกไป คุณมหาเปรื่อง สามีเลยปิ๊งไอเดียว่า…ในเมื่อหาแม่ครัวไม่ได้ ก็ให้หาพ่อครัวมาแทน ไม่นานก็มีพ่อครัวนับร้อยต่างทยอยมาสอบสัมภาษณ์และสอบปฏิบัติชนิดหัวกระได บ้านไม่แห้ง แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีใครผ่านมาตรฐาน ISO 9000 ของคุณนายมาเป็นพ่อครัวสักคนเดียว ติดตามต่อได้ใน พ่อครัวหัวป่าก์