วัยมันพันธุ์อสูร 2557

เรื่องย่อ : วัยมันพันธุ์อสูร (2557/2014) ท้องฟ้ามืดครึ้ม เกิดปรากฏการณ์สุริยคราส นี่คือลางร้ายครั้งใหม่ของมวลมนุษย์ อสูรร้ายที่ถูกจองจำใต้บาดาลมานานแสนนานกำลังจะเกิดมาดูโลกจากครรภ์ของหญิงผู้หนึ่ง ไกรสิทธิ์ (บี๋-สวิส) (ทายาทที่สืบเชื้อสายมาจากไกรทอง) รู้ดีว่าชาละวันกำลังจะกลับชาติมาเกิด เขาได้ขโมยทารกมาลงอักขระยันต์แปดเหลี่ยมปิดผนึกวิญญาณชั่วร้ายไว้ และเอาเด็กไปเลี้ยงดูเสมือนเด็กมนุษย์ปกติ ซึ่งในเวลานั้นแสงทอง (เอ๋-รชยา) ภรรยาของไกรสิทธิก็เพิ่งให้กำเนิดทายาทเป็นบุตรชายมาในฤกษ์ยามเดียวกัน เด็กคนนี้คือ ไกรทองกลับชาติมาเกิดนั่นเอง ทั้งไวกูณฐ์ -ไกรทอง (เพชร-ปรัชญ) และนาวิก-ชาละวัน (เขต-ธาราเขต) ถูกเลี้ยงดูเหมือนเป็นพี่น้องคลานตามกันมา พ่อกับแม่มักจะบอกว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝดกัน แต่กลับไม่มีสิ่งใดที่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย บุคลิกก็แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ไวกูณฐ์เป็นคนร่าเริง รักสนุก ชอบสังคม เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อน ๆ รักกีฬากลางแจ้ง ส่วนนาวิกนั้นมาดนิ่ง ชอบเก็บตัว ขยันเรียนเป็นที่หนึ่งของห้องเสมอ ตรงข้ามกับไวกูณฐ์ที่สอบตกทุกครั้งและกลายเป็นลูกเกเรของพ่อแม่ แต่พี่น้องต่างเผ่าพันธุ์กลับไม่ได้แก่งแย่งความรักกัน ต่างก็รักใคร่กัน ยามเมื่อใครประสบปัญหาอีกคนก็คอยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออยู่เสมอ ไม่ใช่แต่จระเข้เท่านั้นที่ขึ้นมาบนโลกมนุษย์ลูกเงือกสาวนามว่า มุกดา (แพร-วรภร) ก็ผลัดหลงจากพ่อแม่มาอยู่ที่โลกมนุษย์ด้วย ไกรสิทธิ์ผู้เป็นพ่อรู้ว่าไม่ใช่ปลาธรรมดาจึงถ่ายทอดวิชาแปลงกายให้ แต่มีข้อแม้ว่ามุกดาจะต้องปกปิดฐานะที่เป็นเงือกไว้ มุกดาจึงกลายเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของไวกูณฐ์ โรคกลัวน้ำของนาวิกเป็นที่สนใจของหม่อนไหม (โซฟี่- อัปสรสิริ) สาวนิเทศศาสตร์ที่มุ่งมั่นจะเป็นนักข่าวมืออาชีพ เธอคิดหาความจริงว่าเพราะอะไรนาวิกถึงได้กลัวน้ำ ลงทุนไปตามสืบถึงบ้านของไวกูณฐ์ แต่สุดท้ายก็ถูกไวกูณฐ์แกล้งเตลิด ในสายตาของหม่อนไหม ไวกูณฐ์คือคนไม่เอาไหน ทำเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่เขากลับเข้ามาทำให้ชีวิตเธอวุ่นวายได้โดยตลอด ซ้ำไวกูณฐ์ยังมาชอบรุ้งแก้ว (ฝน-ณธิดา) เพื่อนสนิทของหม่อนไหมด้วย หม่อนไหมจึงตั้งตนคอยเป็นไม้กันหมาอย่างไวกูณฐ์ไม่ให้ได้สนิทกับรุ้งแก้วผู้อ่อนโยน ซ้ำยังตั้งตำแหน่งศัตรูหมายเลข 1 ให้กับไวกูณฐ์ไปโดยไม่ต้องคิด เมื่ออายุย่างเข้า 18 ปี ไวกูณฐ์และนาวิกถูกทำนายทายทักว่าจะมีเคราะห์หนัก ไกรสิทธิพยายามหาวิธีแก้ไขแต่ก็ไม่เป็นผล ในวันคัดเลือกนักกีฬาของมหาวิทยาลัย จู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นจนไวกูณฐ์เกือบต้องบาดเจ็บหนัก โชคดีที่ไกรสิทธิ์มาช่วยได้ทัน นาวิกกับรุ้งแก้วรู้ข่าวไวกูณฐ์บาดเจ็บก็รีบมาหาทันที ระหว่างทางผ่านสระว่ายน้ำจู่ ๆ ก็มีพลังบางอย่างพุ่งมาจากสระกระชากตัวนาวิกลงไป รุ้งแก้วหวีดร้องตกใจ นาวิกพยายามดิ้นร้นเอาชีวิตรอด แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งจมลึกเรื่อย ๆ นาวิกหายใจไม่ออก กำลังจะตาย แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นบอกให้เขาตั้งสติ น้ำคือชีวิตของนาวิก และนั่นทำให้นาวิกรู้ว่าเขาหายใจในน้ำได้ พลังที่ฉุดนาวิกไว้ก็มลายหายไป อักขระที่ลงไว้ในตัวนาวิกเกิดเรืองแสงวาวเปล่งประกาย อาจารย์มกร (อ่านว่า มะ-กอน แปลว่า มังกร)(อู๋-นวพล) แท้จริงแล้วมกรคือ ครูจระเข้ของชาละวันปลอมตัวเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเพื่อสืบหาเด็กที่มีวิญญาณของชาละวันสถิตอยู่ และครั้งนี้เขาก็ได้พบแล้วว่าคือนาวิก แต่แผนของมกรก็ย่อมมีอุปสรรคเพราะยศสินี (เตย-อรัชมน) ทายาทแห่งพระยมที่ปลอมตัวมาเป็นอาจารย์เพื่อตามหาวิญญาณชาละวันที่หายไปเมื่อ 15 ปีก่อนกลับคืนสู่นรกภูมิเช่นเดียวกัน โดยมี ทัณฑ์ (พอร์ช-อริย์ธัช) ยมทูตด้านเจ้าหน้าที่ข้อมูลเป็นผู้ช่วย นาวิกกลุ้มใจอย่างมาก เขาอยากเล่นกีฬาแต่ก็ไม่อยากทิ้งการเรียน ยศสินีจึงยื่นเงื่อนไขว่าถ้าทำให้การเรียนของไวกูณฐ์ดีขึ้น เธอก็จะยอมให้นาวิกเข้าชมรมว่ายน้ำของมกร ไวกูณฐ์โวยวายว่าทำไมตัวเองต้องมาเดือดร้อนด้วย แต่เพราะเห็นแก่นาวิก ไวกูณฐ์เลยจำยอมต้องเข้าคอร์สพิเศษกับยศสินี โดยมีหม่อนไหม รุ้งแก้วและนาวิกมาร่วมช่วยติว ไวกูณฐ์เซ็งที่ต้องมาเจอหม่อนไหมทุกวัน โชคดีที่มีคู่หูตัวแสบอย่างตะโก้ (ไบเบิ้ล-ภูผา) น้องชายตัวแสบวัย 12 ขวบของหม่อนไหมกับปู่ไม้สน (รอง เค้ามูลคดี) ปู่ของหม่อนไหมที่เป็นอัลไซเมอร์ชอบเล่าเรื่องเหนือธรรมชาติอยู่เสมอจนใคร ๆ หาว่าเพี้ยน แต่สำหรับไวกูณฐ์กลับสนุกที่ได้ฟังเรื่องที่ปู่ไม้สนเล่า หารู้ไม่ว่าเรื่องจระเข้กับเงือกที่ได้ฟังนั้นมันมีอยู่จริงใกล้ ๆ ตัวเขานั่นเอง สุดท้ายความพยายามตั้งใจเรียนก็ส่งผลให้ผลการเรียนของไวกูณฐ์ดีขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้ดีระดับท๊อปแต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของนักเรียนโดยทั่วไป ทำให้ยศสินีต้องยอมปล่อยตัวนาวิกให้กับชมรมกีฬา แต่ยศสินีก็ไม่มีทางวางมือ เพราะเธอรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของมกรดี และเธอจะไม่มีวันให้ชาละวันถือกำเนิดอีกแน่ ยศสินีจึงคอยจับผิดการซ้อมของชมรมกีฬาทุกฝีก้าว มกรรู้ดีว่าถูกจับตาจึงใช้จระเข้แปลงศิษย์รักอย่าง วิมล (แพร-แพรอิศรา) กับนันทา (เกรซ-กรกนกภรณ์) คอยขัดขวางยศสินีและคอยช่วยเหลือให้นาวิกได้ความสามารถพิเศษของชาละวันกลับคืน มกรได้ใช้กีฬาต่าง ๆ เป็นเรื่องกระตุ้นสัญชาติญาณของนาวิกให้ตื่นขึ้น ทำให้นาวิกว่ายน้ำได้เร็วและมีพลังเหนือกว่าคนปกติ แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ปานอักขระในร่างของนาวิกก็ค่อย ๆ หายไปจนนาวิกล้มป่วย ร่างกายของนาวิกเริ่มคล้ายกับจระเข้ ไกรสิทธิ์รู้เรื่องจึงต้องสะกดอักขระไว้ แล้วตัดสินใจบอกความจริงเรื่องชาติกำเนิดของนาวิกให้ไวกูณฐ์รู้ พร้อมกับฝึกเข้มถ่ายทอดวิชาหมอจระเข้เพื่อให้ไวกูณฐ์ได้เป็นไกรทองอย่างเต็มตัว หากเกิดเหตุร้ายไวกูณฐ์จะได้ใช้พลังความสามารถหยุดนาวิกลงได้ การฝึกเข้มของไวกูณฐ์เป็นการฝึกฝนทั้งทางร่างกายและใจ โดยมีบททดสอบอันหนักถ่วงทั้งจากไกรสิทธิ์และยศสินี เพื่อให้ก้าวพ้นขีดจำกัดของมนุษย์ให้ได้ แต่ความเหนื่อยครั้งนี้เขาก็มีกำลังใจอย่างหม่อนไหมอยู่ข้าง ๆ เพื่อให้นาวิกเป็นชาละวันโดยสมบูรณ์มกรจึงใช้วิธีสะกดจิตดึงจิตใต้สำนึกที่ถูกกักขังไว้ในตัวนาวิกออกมา เป็นผลให้นาวิกเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากผู้ชายที่แสนดีกลายเป็นคนที่แข็งกร้าว อารมณ์ร้อน ชอบใช้กำลัง ใช้ความรุนแรงกับกีฬา จนผู้เข้าแข่งขันบาดเจ็บตาม ๆ กัน แม้ว่านาวิกจะเปลี่ยนไปขนาดไหนรุ้งแก้วก็ไม่เคยห่างนาวิก เธอใช้จิตใจดีในการเตือนสตินาวิก แต่นาวิกก็กลับคลุ้งคลั่งถึงจับตัวหม่อนไหมไว้ พร้อมกับท้าไวกูณฐ์ให้มาแข่งว่ายน้ำกับเขา แต่ไวกูณฐ์ยังไม่พร้อม ซ้ำยังตัดความผูกพันที่โตมาด้วยกันกับนาวิกไม่ได้ มุกดาจึงอาสาลงแข่งแทน นาวิกไม่แข่งกับผู้หญิงส่งให้วิมลกับนันทาแข่งแทน สุดท้ายมุกดาก็ชนะ เธอบอกให้นาวิกปล่อยตัวหม่อนไหมแต่นาวิกปฏิเสธ มุกดาต่อว่าที่นาวิกตระบัดสัตย์ นาวิกโกรธยอมลงแข่งกับมุกดา ศึกความเร็วกลางสายน้ำระหว่างเงือกสาวและจระเข้หนุ่มจึงเริ่มขึ้น แม้มุกดาจะเป็นเงือกแต่เรื่องการว่ายน้ำและการไล่ล่าของเจ้าจระเข้อย่างชาละวันไม่เป็นสองรองใคร จึงทำให้นาวิกชนะมุกดาไปอย่างขาดลอย มุกดาถูกทำร้ายบาดเจ็บ ตราบใดที่ไวกูณฐ์ไม่ลงแข่ง นาวิกก็จะทำร้ายคนขึ้นมากเรื่อย ๆ จนมกรเองก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่ทำให้สัญชาติญาณของจระเข้ในนาวิกกลับคืน ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายไปกว่านี้ยศสินีจึงหาทางเจรจากับมกรเพื่อที่จะยุติปัญหา จัดให้ไวกูณฐ์ขึ้นสังเวียนแข่งกีฬากับนาวิก โดยแข่งกัน 2 ใน 3 ของกีฬา (มวย/บาสและว่ายน้ำ) ที่เป็นเครื่องทดสอบทักษะต่าง ๆ ของร่างกายว่าระหว่างทายาทชาละวันอย่างนาวิกกับทายาทไกรทอง 2013 อย่างไวกูณฐ์ ใครกันแน่ที่จะเป็นที่หนึ่ง ศึกการแข่งขันกีฬาระหว่างมนุษย์และจระเข้อสูรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กำลังจะบังเกิดขึ้น ไวกูณฐ์จะโค่นนาวิกได้หรือไม่ นาวิกจะกลายเป็นชาละวันผู้โหดร้ายต่อไปจริงหรือ ติดตามชมความเข้มข้นของ ละครวัยมันพันธุ์อสูร ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 น ทางช่อง 7สี ละครวัยมันพันธุ์อสูร เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 9 กันยายน 2557

ยอพระกลิ่น 2557

เรื่องย่อ : ยอพระกลิ่น (2557/2014) "ยอพระกลิ่น" เป็นธิดาของพระอินทร์และเจ้าหญิงชาวมนุษย์นางหนึ่ง ด้วยความที่พระอินทร์ไม่สามารถเลี้ยงดูพระธิดาได้จึงนำนางไปฝากไว้ในต้นไผ่ต้นใหญ่ในป่าบนโลก เวลาผ่านไปยอพระกลิ่นเติบโตเป็นสาว (ที่ได้ชื่อว่ายอพระกลิ่นเพราะนางมีกลิ่นกายหอมมาก) ก็ได้พบกับ "มณีพิชัย" เจ้าชายเมืองหนึ่ง ซึ่งบังเอิญเดินทางเข้าป่ามาแล้วพบต้นไผ่ต้นใหญ่จึงโค่นลง เมื่อมณีพิชัยพบยอพระกลิ่นที่มีกลิ่นกายหอมหวลจึงนำนางกลับเมืองและเเต่งตั้งให้นางเป็นมเหสี แต่พระนางจันทรพระมารดาของมณีพิชัย ไม่ชอบหน้ายอพระกลิ่น และอยากให้โอรสได้อภิเษกสมรสกับธิดาเจ้ากรุงจีนที่มั่งคั่งมากกว่า พระนางจึงวางแผนใส่ร้ายป้ายสียอพระกลิ่นว่านางเป็นกระสือกินแมวในราชวัง นางจึงต้องโทษประหาร เคราะห์ดีที่พระอินทร์ทรงลงมาช่วยธิดาไว้ได้ทันแล้วเสกให้นางกลายเป็นพราหมณ์หนุ่มมีเวทย์มนตร์แก่กล้า พราหมณ์หนุ่มเดินทางกลับมาที่เมืองของมณีพิชัยและได้ทราบข่าวว่า พระนางจันทรล้มป่วย รักษาอย่างไรก็ไม่หายเสียที จึงอาสาไปขอรักษาพระนางจันทร หลังรักษาหายแล้ว ยอพระกลิ่นให้ร่างพราหมณ์หนุ่มได้ให้พระนางจันทรว่า ให้บอกความจริงเรื่องที่ใส่ร้ายยอพระกลิ่นกับทุกคน พระนางจันทรยอมบอกความจริง ทำให้สวามีของพระนางหรือพระบิดาของมณีพิชัยโกรธพระมเหสีของตนมาก ส่วนพราหมณ์หนุ่มได้ขอให้มณีพิชัยไปปรนนิบัติรับใช้ตนในป่า เพื่อแลกกับการรักษาพระนางจันทร ..เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามชมได้ใน "ยอพระกลิ่น"

รักเต็มบ้าน 2557

เรื่องย่อ : รักเต็มบ้าน (2557/2014) 3 พี่น้องสกุล รักทะเล เดินทางจากพ่อแม่เจ้าของกิจการอาหารทะเลแปรรูป จากจังหวัดระยอง อำลาชีวิตหนุ่มสาวลูกน้ำเค็มชั่วคราว ตบเท้าเข้ามาอยู่ในบ้านขนาดอบอุ่นในกรุงเทพมหานคร เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายชีวิตที่ต้องพุ่งชนให้สำเร็จ

กด (ชื่อเล่นฉบับเต็มคือ ปลากด ชื่อจริง ปรากฏการณ์) พี่ชายคนโต บัณฑิตใหม่จบหมาด ๆ สาขาบริหารธุรกิจ ไฟแรง อยากจะบริหารองค์กรตามที่ร่ำเรียนมา แต่เขาเพิ่งจะได้บรรจุเป็นพนักงาน Call Center ธรรมดา ๆ ด้วยความร้อนวิชาด้านบริหาร กดจึงเป็นคนที่จัดการ ดูแล บริหารและจัดระเบียบชีวิตของน้อง ๆ อย่างเข้มงวด ตั้งแต่ลืมตาตื่น จนหลับตานอน ชนิดที่ว่าถ้าสามารถเข้าไปจัดระเบียบในความฝันได้ด้วย กดก็คงเข้าไป เพราะสำหรับกด คำว่า วินัย คือ คำศักดิ์สิทธิ์ที่จะละเมิดมิได้ ทุกอย่างต้องมี Timeline ที่แน่นอน ชัดเจน ต้องเป๊ะ

แม้จะเป็นแค่พนักงานระดับปฏิบัติการ ตำแหน่ง Call Center ของบริษัท CMP (ย่อมาจาก Call Me Professional) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการเป็นศูนย์ Call Center ของเครือข่ายโทรศัพท์ค่ายหนึ่งในประเทศ แต่กดก็ยังไม่ทิ้งฝัน เพราะเป้าหมายชีวิตของเขาคือผู้บริหารระดับสูงให้ได้ เขาสะกดจิตตัวเองทุกวันว่า ด้วยก้าวที่กล้า จากพนักงาน Call Center ที่เพิ่งบรรจุ ไม่นานต้องได้เป็น CEO กดอยากมีฐานะการเงินที่มั่นคง เพื่อให้พ่อแม่ได้เกษียณ วางมือและขายกิจการธุรกิจแปรรูปอาหารทะเลและอยู่อย่างสบาย ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเขา ทำให้เขามองข้ามพรสวรรค์พิเศษของตัวเองที่ทำอาหารได้อร่อยเทียบเคียงเชฟมืออาชีพ ที่ต่อมาจะกลายเป็นอาชีพที่ช่วยชีวิตตัวเขาและน้อง ๆ และช่วยรักษากกิจการของพ่อแม่เอาไว้อย่างได้ไม่คาดฝัน

เก๋า (ชื่อเล่นฉบับเต็มคือ ปลาเก๋า) น้องคนกลาง นักศึกษาปีที่สอง คณะบริหารธุรกิจ เอกการจัดการเหมือนพี่กด เพราะไม่รู้จะเรียนอะไร หรืออยากทำงานอะไร ไร้เป้าหมาย เลยเรียนก๊อปปี้พี่ชายมันซะเลย แต่แตกต่างตรงที่ เก๋าเรียนได้เกรดห่วยแตก ต้องยืนปากเหวทุกวิชา เพราะวัน ๆ เก๋าเอาแต่หล่อ คิดแค่วันต่อวัน ว่าวันนี้จะไปจีบใครดี (เพราะจีบเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเอา) เก๋าใช้ชีวิตเหมือนไม่รักตัวเอง ติดเพื่อนมาก ถ้ารู้ว่าเพื่อนมีเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กอย่างสิวหัวช้างแตก หรือตาปลาระบม ขอแค่เพื่อนเรียกร้องต้องการ เก๋าสามารถวิ่งออกจากห้องสอบไปหาเพื่อนได้ทันที จนพี่กดงอนบ่อย ๆ ที่เก๋ารักเพื่อนนอกบ้านมากกว่าคนในครอบครัวซะอีก

การใช้ชีวิตของเก๋าทำให้พ่อแม่และกดเป็นห่วงมาก กลัวจะเรียนไม่จบ กลัวจะเสียคน กดจะให้เก๋ากลับไปแปรรูปอาหารทะเล เก๋าก็ปฏิเสธเด็ดขาด หรือไม่ก็สัญญาปากเปล่าว่าจะทำตัวให้ดีขึ้น แต่สัจจะไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่โจรฉันใด ก็จงอย่าหาสัจจะจากตัวเก๋าฉันนั้น เก๋าไม่รู้ร้อน มีที่มาจากชีวิตของเก๋านั่นเอง แต่เก๋าจะรู้สึกดีทุกครั้งที่ถูกพี่ชายหรือน้องสาวด่า หรือพ่อแม่บ่น เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวที่เก๋ารู้สึกว่าตัวเองได้รับความสนใจ

นกแก้ว (ชื่อเล่นฉบับเต็มคือ ปลานกแก้ว) น้องสาวคนเล็กของบ้านกำลังเรียน ม.6 อยู่ในช่วงเตรียมเอ็นทรานส์ เอาแต่ใจ ขี้วีน เหวี่ยง จอมวางแผน และมักคิดว่าตัวเองเก่ง เอาตัวรอดได้เสมอ โผงผางเปิดเผย แต่อับอายในชาติกำเนิดตัวเอง ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นเด็กต่างจังหวัด พยายามจะทำตัวเป็นคนกรุงเทพตลอดเวลา เป้าหมายของนกแก้วคือ ต้องการเป็นหมอ เพราะฉะนั้นการเรียนคือสิ่งเดียวที่นกแก้วให้ความสนใจ เรื่องอื่น ๆ นกแก้วไม่สน รวมทั้งเรื่องรักในวัยเรียน มีผู้ชายมารุมจีบ แต่ก็เหมือนถูกถีบจนหน้าหงายไปทุกครั้ง ชอบทะเลาะกับพี่กดเสมอ เพราะไม่ต้องการให้พี่ชายปฏิบัติต่อตัวเองเหมือนเป็นน้องเล็กอยู่ตลอดเวลา นกแก้วต้องการให้พี่ชายเห็นว่าสามารถดูแลตัวเองได้ จนลืมไปว่า วิจารณญาณในการใช้ชีวิตของตัวเองนั้นมันยังไม่โต

กด เก๋า นกแก้ว สามพี่น้องต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ท่ามกลางเรื่องโกลาหลและอลหม่านที่เกิดขึ้นจากความแตกต่าง ๆ และความเห็นที่ไม่ลงรอยกัน บางครั้งก็เกิดจากเราสามคน แต่บางหนก็เกิดจากคนข้างบ้าน ที่แต่ละคนป่วน กวน แสบ ซ่า น่าหยิก น่าตี จนถึงขั้น น่าถีบให้กระเด็นไปไกล ๆ

เป็นเอก ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนวัยรุ่นของบ้านสกุล เป็นเลิศ ครบเครื่องเรื่องความเพอร์เฟ็กต์ทั้งรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาที่หล่อเหลา เกรด 4 ทุกวิชา กีฬาเก่งทุกชนิด นิสัยสุภาพบุรุษสุดเวหา เป็นที่กรี๊ดกร๊าดของสาว ๆ ทั้งโรงเรียน ได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนมัธยมสาธิตที่มีชื่อเสียงของประเทศทุกปี สร้างความภาคภูมิใจให้พ่อและแม่เป็นที่ยิ่ง ดูเหมือนชีวิตควรจะมีความสุขแต่เป็นเอกกลับรู้สึกขาดความรัก เพราะพ่อและแม่เอาแต่สร้างความมั่นคงทางด้านการเงินและภาพลักษณ์จนมองข้าม ความมั่นคงทางด้านหัวใจ บทสนทนาของครอบครัวทุกวันคือ หาที่เรียนพิเศษหรือประเทศที่จะส่งเป็นเอกไปเรียนซัมเมอร์ เพื่อปูทางความสำเร็จให้กับเป็นเอก ทำให้บ้าน รักทะเล กลายเป็นที่พักพิงทางใจให้เป็นเอกโดยไม่รู้ตัว เพราะท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงทะเลาะของสามพี่น้องเหมือนเสียงดนตรีขับกล่อมให้ชีวิตของ

เป็นเอก เป็นเอกสัมผัสได้ถึงความรักและความเป็นห่วงที่สามพี่น้องมีให้แก่กัน เป็นสัมผัสที่ตัวเองไม่เคยรู้สึกเมื่ออยู่บ้าน และที่สำคัญ การได้เข้าไปใกล้ชิดกับนกแก้ว คือการใช้เวลาว่างที่น่าตื่นเต้นที่ขาดไม่ได้ เพราะนกแก้วถือว่าเป็นเอกเป็นคู่แข่งทางด้านการเรียน และเป็นศัตรูที่ไม่เคยมีวิธีคิดที่ลงรอยกัน เป็นเอกทำได้ดีในทุกเรื่องที่ได้รับมอบหมาย จะการเรียน ดนตรี กีฬา เป็นเอกทำได้ดีหมด แต่เขาไม่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร รู้แต่ว่าให้ทำ ก็ทำได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำไม่ได้ คือ การเอาชนะใจนกแก้ว สาวน้อยที่ไม่เคยยอมแพ้ใคร เป็นเป้าหมายที่เป็นเอกต้องพุ่งชน ด้วยวิธีท้าทายนกแก้ว ว่าใครเอ็นติดหมอลำดับที่ดีกว่า คนนั้นคือผู้ชนะ จากศัตรูกลายเป็นผู้ท้าชิงและพัฒนากลายเป็นเพื่อนคู่คิดที่ต้องช่วยกันพาสู่เป้าหมาย

วิยะดา แม่ของเป็นเอก เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่กำลังเร่งสร้างยอดขายและหาดาวน์ไลน์ ธุรกิจกำลังรุ่ง เธอเลยเร่งตัวเองอย่างหนัก ทำงานจนแทบไม่พักผ่อน ยิ่งสามีเห็นดีเห็นงามเธอยิ่งฮึกเหิม เร่งสปีดพุ่งหาเป้าหมายยิ่งกว่าความเร็วของดาวหาง ปล่อยสามีและลูกให้ดูแลตัวเองตามสไตล์บุฟเฟ่ต์ วิยะดาจำได้ทุกอย่างเรื่องธุรกิจ แต่เรื่องครอบครัว เธอลืมหมด ลืมนัด ลืมวันครบรอบ ลืมวันเกิด คาดว่าอีกไม่นานคงจะลืมว่ามีสามีและลูก วิยะดาไม่เคยไว้ใจใคร ไม่ชอบคบใคร ไม่ชอบสุงสิง ไม่ชอบคุยเรื่องส่วนตัว แต่จะเป็นมิตรเฉพาะเวลาคุยธุรกิจ ตามวิธีคิดของคนกรุงเทพ

สุพจน์ พ่อของเป็นเอก ด็อกเตอร์ทางด้านเศรษฐศาสตร์ อาจารย์มหาวิทยาลัยรัฐที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศ คุยกับภรรยาและลูกชายด้วยเหตุและผลตลอดเวลาอย่างมีหลักการ หลักฐาน สมมติฐานทั้งขั้นปฐมภูมิและทุติยภูมิ เขาต่อต้านการใช้อารมณ์ในทุกกรณี เพราะไม่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งผลที่มีประสิทธิภาพ บ้าน เป็นเลิศ จึงเป็นบ้านที่มีแต่โครงสร้างแต่ไม่มีจิตวิญญาณ เห็นด้วยกับวิยะดา ที่ไม่ชอบให้เป็นเอกไปสุงสิงกับคนบ้าน รักทะเล เพราะยิ่งสุงสิงกับคนมากก็ยิ่งมีอารมณ์มาก ยิ่งคิดมาก ยิ่งเยอะ

แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เป็นเอกแอบมาขลุกอยู่ที่บ้าน รักทะเล เป็นประจำลับหลังพ่อแม่ จนวิยะดาและสุพจน์จำต้องยอมให้ไปมาหาสู่ แต่ตัวเองก็แอบมาส่องดูพฤติกรรมของสามพี่น้องเป็นประจำ เพื่อหาทางป้องกันหากเกิดความไม่ชอบมาพากล จนเลยเถิดเป็นการไปสั่งและสอนสามพี่น้องโดยไม่ดูตัวเอง เลยเป็นเหตุให้ไม่ถูกกับกด เพราะกดรู้สึกเหมือนถูกแย่งอำนาจ ในขณะที่เก๋าก็ไม่ต้องการมีพ่อแม่ชุดที่สาม รองจากพ่อแม่แท้ ๆ และพี่กด ส่วนนกแก้วกลับฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกสาวอีกคนของวิยะดาและสุพจน์ เพราะนกแก้วชื่นชมคนเก่งสมควรแก่การเป็นไอดอล

เมื่อหนุ่มข้างบ้านจอมอวดดีเข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่ชายทั้ง 2 มีหรือที่สาวสวยจอมเอาแต่ใจอย่างนกแก้ว จะทนได้ จึงเป็นเหตุให้เกิดความยุ่งเหยิง ชวนหัว และปวดตับ ชนิดไม่มีที่สิ้นสุด..แม้ว่าเพื่อนสนิทของนกแก้วจะหว่านล้อมให้ปรองดองแค่ไหน ก็ไม่มีทีท่าว่านกแก้วจะลดทิฐิลงเลย

แป้งร่ำ เพื่อนสาวของนกแก้ว เป็นที่ปรึกษาของนกแก้ว นิสัยซื่อ แอ๊บแบ๊ว ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัย แต่บางครั้งก็ทำอะไรแสบ ๆ ได้อย่างนึกไม่ถึง ปลื้มในตัวเป็นเอกมาก เพราะทั้งหล่อ ทั้งเก่ง และมีน้ำใจ แต่รู้ว่าเป็นเอกชอบนกแก้ว ก็จำยอมหลีกทางให้เพื่อน และสนับสนุนให้นกแก้วเปิดใจกับเป็นเอก แต่ก็ดูไม่เป็นผล เพราะนกแก้วปากไม่ตรงกับใจ บอกว่าไม่ชอบ แต่ลึก ๆ ก็ประทับใจเป็นเอก จนท้ายที่สุด แป้งร่ำเองก็เผลอใจให้กับเป็นเอกโดยไม่รู้ตัว จึงพยายามสวมรอยเข้าไปใกล้ชิดเป็นเอกแทนนกแก้ว โดยปกปิดไม่ให้เพื่อนรู้ เพราะกลัวความสัมพันธ์ร้าวฉาน แต่มีหรือที่ความลับจะเป็นความลับได้ตลอดไป

สามคนพี่น้องที่ต้องดูแลกันเอง แต่ก็ชอบทะเลาะกันเอง บางเรื่องก็คุยกันได้ แต่บางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาปรึกษากัน จึงเป็นที่มาของผู้ชายคนหนึ่งที่ทั้งสามคนรู้สึกตรงกันว่าเขาเป็นคนที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง นั่นก็คือ

โค้ชเช ครูสอนเทนนิส ที่คิดว่าตัวเองหล่อ เท่ มีเสน่ห์ แต่ความเป็นจริงตรงกันข้ามทุกอย่าง อดีตทีมชาติไทยที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะเหยียบผ้าเช็ดหน้าของแฟนคลับที่มาเชียร์ ในวันแข่งคัดตัวไปโอลิมปิก ลื่นล้มข้อเท้าแตก ฝันสลาย ต้องผันตัวเองมาเป็นครูสอนเทนนิส ทำหน้าที่เป็นสะพานส่งต่อลูกศิษย์ให้ทำตามฝันแทนตัวเอง โค้ชเชได้รู้จัก คุ้นเคยกับสามพี่น้อง และใช้พื้นที่ร้านกาแฟ ด๊อยดอย ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ เป็นคลินิกรับปรึกษาปัญหาครอบครัว ตั้งแต่ปัญหาเล็ก ๆ ระดับจุลภาค ไปจนถึงปัญหามหภาคระดับชาติ คำพูดของโค้ชเชเต็มไปด้วยพลังและแรงบันดาลใจให้สามพี่น้องนำไปใช้กับชีวิตจริง แต่ที่สามพี่น้องไม่รู้ คือ ต่อให้กำชับโค้ชเชหนักแน่นว่าห้ามแพร่งพรายเรื่องสำคัญสักแค่ไหน มันไม่เคยได้ผล เรื่องของกด เก๋ารู้ เรื่องของเก๋า นกแก้วรู้ เรื่องของนกแก้ว รู้ทั้งซอย แต่ก็ไม่มีใครโกรธโค้ชเชลง เพราะทุกคนรู้ว่าโค้ชเชพูดเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนฟัง ไม่ได้ตั้งใจพูดเพื่อเป็นการทำลาย สิ่งหนึ่งที่ทำให้โค้ชเชรู้สึกถึงความภาคภูมิใจในอดีตนั่นคือ แฟนคลับที่เหนียวแน่นหนึบหนับ จนอยากจะจับยัดถังปุ๋ย

ช่อมาลี แม่บ้านขาจรประจำบ้าน เป็นเลิศ ช่างพูด ใครมาปิดปาก ไม่ให้พูด เธอก็ยังจะเขียนอยู่ดี เธอเฝ้าติดตามผลงานของโค้ชเชเมื่อครั้งยังสาว เกาะติดหน้าจอทีวีไม่เคยห่าง เวลาไปทำความสะอาดบ้านบ้านคนรวย ช่อมาลีต้องแอบเปิดทีวีดูการแข่งขันทุกแมทช์ที่โค้ชเชร่วมลงแข่ง ช่อมาลีนับถือในความมุ่งมั่น ความอดทนของโค้ชเช และเอามาเป็นแรงผลักดันให้กับชีวิตตัวเอง ที่ต้องทำงานหนักและอดทนต่อการจิกใช้ กว่าจะได้เงินค่าจ้างแต่ละบาท โดยเฉพาะคำสอนของโค้ชเช (ที่สอนคนอื่น) แต่มาในจังหวะชีวิตที่ช่อมาลีรู้สึกโดนใช่เลย ช่อมาลีรู้สึกเหมือนโค้ชเชสอนตนเรื่องความภาคภูมิใจกับงานที่ตัวเองทำ ที่อาจจะไม่มีเกียรติเท่าเทียมอาชีพอื่นที่ได้ผลตอบแทนสูง แต่ก็เป็นฟันเฟืองที่ขาดไม่ได้ งานใหญ่จะสำเร็จได้อย่างไร ถ้าไม่มีผู้น้อยคอยสนับสนุน ตั้งแต่นั้นมาช่อมาลีจึงยึดเอาโค้ชเชเป็นสรณะ เป็นดั่งองค์บร๊ะศาสดาที่ต้องชาบูอย่างสูงสุด

จนกระทั่งความลับที่ช่อมาลีเก็บงำเอาไว้มานานนับสิบปีเรื่องผ้าเช็ดหน้าที่เป็นต้นเหตุให้โค้ชเชเหยียบลื่นล้มในวันอัปยศนั้นคือ ผ้าเช็ดหน้าของเธอ ได้เข้าหูโค้ชเช ช่อมาลีเสียใจ คิดว่าโค้ชเชคงจะโกรธและตัดขาดกับเธอ ชีวิตเธอคงจะขาดที่ยึดเหนี่ยว แต่โค้ชเชแมนกว่าที่คิด แมนตั้งแต่หัวจรดเท้ารวมทั้งหัวใจ ให้อภัยและไม่เคยถือโทษ ถ้าไม่ล้ม ก็จะไม่มีโอกาสได้เป็นผู้ให้อย่างทุกวันนี้ โอววว หล่อ ไม่ได้มีเพียงแค่ชีวิตในบ้านหรือในซอยของสามพี่น้องที่มีปัญหาให้มาคิดแก้กันได้ทุกวัน ชีวิตนอกบ้านในที่ทำงานของ กด บางครั้งก็โยนระเบิดให้กับชีวิตของสามพี่น้องไม่ใช่น้อย

คุณฝัน ที่เป็นมากกว่าฝันของกด รักแรกพบ ที่ต้องจบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม เพราะเธอผู้บริหารสูงสุดของบริษัท ที่ได้ตำแหน่งมาเพราะเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของ ไม่ใช่ด้วยการไต่เต้าด้วยความสามารถ เผด็จการ เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองอย่างสูงสุด ตามประสาลูกสาวเพียงคนเดียวของคนรวยมากที่จบจากเมืองนอก เอาแต่ใจ ชอบเอาชนะ และบ้าพลัง ดังนั้น จึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาของกด แต่เพราะความจริงจังมุ่งมั่นไม่คลอนแคลนของกด ทำให้คุณฝันได้เรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้น และที่สำคัญ หัวใจของคุณฝันเปิดรับกดให้เข้ามาจับจองพื้นที่ทีละน้อย ๆ โดยไม่รู้ตัว

เจ๊พรสวรรค์ ขยันมาก สาวใหญ่หัวหน้าแผนก Call Center ของกด ที่ความสามารถและการทำงานตรงกันข้ามกับชื่อและนามสกุลของเธอ (เห็นไหมว่าชื่ออาจจะไม่มีผลกับดวงชีวิตเท่ากับการกระทำของเจ้าของชื่อเอง ทั้ง ๆ ที่อุตส่าห์ไปให้พระท่านเปลี่ยนชื่อให้) เจ๊พรสวรรค์มีพรสวรรค์เรื่องชวนเม้ามอย ไร้สาระ เจ๊พรสวรรค์ชอบสั่งสอนเรื่องการใช้ชีวิตในเมืองหลวงและ 10 วิธีสู่ความสำเร็จให้กับกด แต่ก็มักชอบโยนปัญหาให้กดแก้แทนเสมอ โดยไม่รู้สึกผิด กดโกรธเจ๊ไม่ลง เพราะเจ๊ไม่ได้รู้สึกผิด แล้วจะไปเอาผิดเจ๊ได้อย่างไรชีวิตดำเนินไป ถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ประสบการณ์ทุกอย่างมีค่า เพราะสร้างบทเรียนที่มีประโยชน์ และเติมเต็มชีวิตที่ขาด ๆ เกิน ๆ ให้พอดี จากคนใกล้ตัว คนไกลตัว หรือคนที่นาน ๆ จะเจอตัว ได้แก่

นายมังกร กับนางเป้า พ่อแม่ของพี่น้อง รักทะเล คนบ้านนอกหัวใจใสซื่อ สู้งาน พอเพียงและรักลูกมาก ความสุขของลูกคือความสุขของพ่อแม่ที่ไม่เคยขัดใจ แต่สิ่งเดียวที่ขัดใจและไม่มีวันยอมนั่นคือ การลืมรากเหง้า การปฏิเสธตัวตน และการลืมตัว

ติวเตอร์ออย ติวเตอร์หนุ่มหล่อ น้องชายของคุณฝัน ผู้มีแผลลึกในหัวใจ เพราะแฟนสาวที่รักกันมากเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ติวเตอร์ออยไม่เคยเปิดหัวใจให้ใคร จนกระทั่งคุณฝันบังคับให้มาช่วยสอนพิเศษให้เก๋า เพื่อให้ออกจากโลกแห่งความซึมเศร้าเสียที และได้เจอกับนกแก้ว ที่ทอดปลาอินทรีย์เค็มมาให้กิน ปลาเค็ม อาหารแห่งความรักความหลัง อาหารสุดโปรดของอดีตคนรัก ต่อมความรักของพี่ออยถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง การได้มาสอนหนังสือเก๋า ที่บ้าน รักทะเล เหมือนได้มาเติมลมให้หัวใจพองโต แต่ นกแก้วผู้ไม่ประสีประสาในเรื่องนี้ กลับมองว่าพี่ออยเป็นเพียงแค่พี่ชาย และแน่นอน เป็นเอกย่อมมองออก ทำให้ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นัก เพราะนี่คือ ศึกแห่งศักดิ์ศรี

ยามเสรี หัวหน้ายาม ที่รักความสงบเป็นที่สุด (โดยเฉพาะมุมสงบ จะรักมากเพราะชอบแอบงีบ) ชอบคุยโม้ถึงอดีตครั้งเป็นทหารเกณฑ์ว่าเป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด จิตใจดี ซื่อสัตย์ แต่อาจจะแอบขี้เกียจ ช่อมาลีคือผู้หญิงในฝัน ที่สักวันยามเสจะต้องพิชิตใจสอยเธอมาครองให้ได้

รักจะเต็มบ้านได้ ถ้าทุกคนรักและเข้าใจกัน รักจะเต็มบ้านได้ ถ้าทุกคนอยู่เคียงข้างกัน ทุกวัน..ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ และถ้าทุกคนในประเทศไทย เปิดทีวีช่อง 7ติดตาม ละครรักเต็มบ้าน ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.10 น. ทางช่อง 7 สี ละครรักเต็มบ้าน เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่16 สิงหาคม 2557 เราเชื่อมั่นว่า วันนั้นทั้งวันและอีกหกวันที่เหลือในหนึ่งสัปดาห์ของทุกคน รักเต็มบ้าน แน่นอน

หลานสาวนิรนาม 2557

เรื่องย่อ : หลานสาวนิรนาม (2557/2014) ตะนอย และ ฮันนี่ ตามรถวงดนตรีลูกทุ่งสราญจิตเข้ามาในกรุงเทพ หวังจะได้เป็นนักร้อง แต่เคราะห์ร้ายวงถูกพักงาน จึงต้องไปอาศัยอยู่กับ วิชัย กับ ดวงตา ลุงกับป้าซึ่งเช่าที่ อัจฉรา เปิดสวนอาหารอยู่ กีรติ ลูกชายอัจฉรา เป็นหมอประจำตัว คุณหญิงเพ็ญพักตร์ นั้นมีลูก3คน คนโตชื่อ ผ่องพิลาศ เป็นแม่ม่าย มีลูกชื่อ อลิษา(ลิซ) ซึ่งปลื้มกีรติอยู่ รองลงมาคือ กรองกาญจน์ แต่งงานกับ อังกูร มี นุสรา เป็นลูก รายนี้ผู้เป็นแม่เล็งกีรติไว้ให้ ขณะที่นุสราพยายามเลี่ยงเพราะมีใจรักกับ ศรัลย์ ทนายของคุณหญิง คนสุดท้ายคือ แก้วมุกดา ที่หายไปร่วมยี่สิบปี พร้อมสามีที่แม่ไม่ยอมรับขณะกำลังตั้งท้อง เรื่องแก้วมุกดาทำให้คุณหญิงตัดสินใจจะไม่ยอมแบ่งมรดก หากว่ายังหาตัวลูกและหลานไม่พบ ฮันนี่กับตะนอยไปห้าง เกิดพลาดชนกรองกาญจน์จนมีเรื่องกัน กรองกาญจน์เห็นจี้ที่คอตะนอยเหมือนของแก้วมุกดา จึงขอซื้อ แต่ตะนอยไม่ขายเพราะเป็นของที่ยายให้ไว้ เธอจึงขอให้ตะนอยปลอมเป็นหลานอ้างว่าเพื่อช่วยให้แม่หายตรอมใจ ตะนอยเห็นใจประกอบกับอยากได้เงินมาช่วยดวงตาซึ่งค้างค่าเช่าที่จนร้านกำลังจะถูกยึด จึงตกลงยอมปลอมเป็นลูกแก้วมุกดาชื่อว่าขวัญชีวิน เพ็ญพักตร์เห็นจี้ก็เชื่อสนิทใจ ผิดกับผ่องพิลาศซึ่งไม่เชื่อ จึงคอยจับตาดูขวัญ โดยมี สาวใช้ชื่อ น้อย คอยเป็นหูเป็นตาให้ กีรติพอใจเมื่อเห็นสุขภาพของคุณหญิงดีขึ้น แต่ยังไม่ไว้ใจขวัญนัก และรู้สึกคุ้นหน้า มั่นใจว่าต้องเคยพบมาก่อน เช่นเดียวกับตะนอยที่ตกใจไม่น้อยเมื่อพบกีรติ เพราะจำได้ว่าเคยเจอกันในงานวัดแถวบ้านและที่ร้านดวงตา คุณหญิงให้กีรติดูแลขวัญ ถ้าไม่ว่างก็เป็นหน้าที่ศรัลย์ ตะนอยอยู่ในบ้านด้วยดี แต่ติดที่ว่าทุกเสาร์ต้องไปร้องเพลงที่สวนอาหาร จึงต้องหาวิธีหลบออกจากบ้านให้ได้ คืนหนึ่งคุณหญิงเกิดฝันร้ายสะดุ้งตื่นเรียกหาขวัญกลางดึก ตะนอยที่ร้องเพลงอยู่ต้องรีบบึ่งกลับบ้าน ฝ่ายกีรติก็ถูกตามไปดูอาการคุณหญิงเช่นกัน ขณะตะนอยปีนรั้วเข้าบ้านกีรติมาเห็นเข้า ตะนอยใช้ความไวหนีรอดไปได้ แต่พลาดทำจี้หล่น กีรติเก็บจี้ไว้ เขาปะติดปะต่อเรื่องจนเริ่มสงสัยว่าขวัญและตะนอยอาจเป็นคนๆเดียวกัน กีรติเอาจี้มาซักโน่นนี่ไม่ยอมคืนดีๆ ตะนอยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาก่อนจะใช้ความไวชิงคืนมาจนได้ กีรติเจ็บใจที่เค้นความจริงจากตะนอยไม่ได้ ตั้งแต่ได้ขวัญมา คุณหญิงก็สดชื่นขึ้น ส่วนลูกหลานอื่นๆก็เอาแต่ขอให้แบ่งมรดก ผิดกับตะนอยที่ไม่ต้องการอะไร ท่านจึงไว้ใจบอกรหัสเซฟให้ โดยกำชับว่าต้องเก็บรหัสให้ดีเพราะมีพินัยกรรมอยู่ ผ่องพิลาศหว่านล้อมศรัลย์ให้เกลี้ยกล่อมคุณหญิงเรื่องแบ่งมรดก แต่ศรัลย์ไม่ทำ มิหนำซ้ำยังช่วยดูแลขวัญจนทั้งคู่สนิทกัน ลิซเป่าหูกีรติว่าขวัญกับศรัลย์กำลังรวมหัวกันล้างสมองคุณหญิงเพื่อหวังมรดก กีรติเริ่มสะกดรอยตามขวัญและเริ่มรู้ความลับหลายอย่างของตะนอย กีรติพยายามเค้นความจริง แต่ตะนอยยังปิดปากเงียบ บอกเพียงว่าเมื่อถึงเวลาเขาจะรู้ทุกอย่าง เวลาผ่านไปคุณหญิงยังไม่แบ่งมรดก ผ่องพิลาศร้อนใจเพราะไม่มีเงินให้ อิสรา หนุ่มคนรัก ส่วนลิซซึ่งทำธุรกิจเสื้อโดยจ้าง ภิสารัตน์ เป็นผู้จัดการร้าน ไม่รู้เลยว่าภิสารัตน์เป็นเมียน้อยอังกูร และคดโกงจนร้านขาดทุนลง ช่วงหลังผ่องพิลาศก็ไม่มีเงินมาช่วย ลิซเงินขาดมือเป็นโอกาสให้อิสราเข้าหา พาลิซไปรู้จักกับเสี่ยๆ ศรัลย์เห็นจึงเตือนด้วยความห่วงแต่ลิซไม่ฟัง ศรัลย์หนักใจจึงเล่าให้ตะนอยรู้ ตะนอยเตือนลิซ แต่กลับถูกตบโทษฐานยุ่งไม่เข้าเรื่อง นุสราเห็นศรัลย์สนิทกับตะนอยก็เข้าใจผิด กีรติก็หมั่นไส้ แถมลิซยังเป่าหูอีก ตะนอยชักท้อที่ถูกใครๆมองว่าเป็นคนโลภจนคิดจะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม แต่สงสารคุณหญิงจึงไม่อาจทิ้งไปได้ ผ่องพิลาศกลุ้มใจเมื่ออิสราขู่จะตีจากถ้าเธอไม่หาเงินก้อนใหญ่ให้ ส่วนลิซก็หลงคารมอิสราที่หลอกชวนเธอตั้งบริษัท 2แม่ลูกสมรู้ร่วมคิดกับอิสราหลอกพาตะนอยไปให้เสี่ย ตะนอยรู้ทันแต่แสร้งทำเป็นเชื่อยอมตามไป จนถูกอิสรามอมยาหวังจะส่งตัวให้เสี่ย กีรติตามไปช่วยไว้ได้ทัน แต่เมื่อตะนอยฟื้นจากยาสลบพบตัวเองนอนอยู่ข้างกีรติ จึงเข้าใจผิดคิดว่าเสียท่ากีรติแล้ว ทำให้ตะนอยเศร้าซึม พยายามหลบหน้ากีรติ เมื่อกรองกาญจน์ขอร้องให้หลีกทางให้นุสรา กีรติเองก็น้อยใจที่ตะนอยสนิทกับศรัลย์เลยประชดโดยการหันไปสนิทกับนุสราบ้าง น้อยเอาเรื่องที่คุณหญิงบอกรหัสเซฟกับขวัญไปฟ้องผ่องพิลาศๆโกรธมาก มาต่อว่าจนคุณหญิงช็อก กีรติจึงตัดสินใจบอกทุกคนเรื่องที่คุณหญิงเป็นโรคหัวใจไม่ควรมีเรื่องกระทบใจมาก กรองกาญจน์กลุ้มใจที่แผนยังไม่บรรลุ อังกูรจับตัวขวัญเพื่อรีดเอารหัสตู้เซฟ กีรติมาช่วยไว้ได้ กีรติเริ่มห่วงใยน้องขวัญมากขึ้น ลิซโกรธอิสรา ไปต่อว่าเรื่องที่เป็นสาเหตุให้ตะนอยพลาดมีอะไรกับกีรติ แต่กลับพลาดท่าตกเป็นของอิสรา จากนั้นเธอก็ต้องยอมให้เขาพาไปปรนเปรอเสี่ยเพราะอิสราแอบถ่ายภาพแบล็คเมล์เธอ ตะนอยกลุ้มใจหลายอย่างทั้งเรื่องยายที่ป่วยและเรื่องกลัวว่าจะท้องกับกีรติ เลยแอบกลับบ้านบ่อยๆ ลิซเป่าหูกีรติเรื่องตะนอยออกจากบ้านโดยไม่บอกใคร กีรติจึงสะกดรอยตามจนรู้ความลับหลายอย่างของตะนอย เขาพูดให้ตะนอยเลิกหลอกคุณหญิงแล้วเปิดเผยตัวตนอันแท้จริง ผ่องพิลาศที่ให้คนสืบก็ได้หลักฐานบ้านนอกของตะนอยมากขึ้นจนแน่ใจว่าเป็นตัวปลอม ลิซไม่อาจทนเป็นสินค้าเนื้อสดของอิสราได้ อิสราจึงยื่นเงื่อนไขว่าหากหลอกตะนอยมาเป็นเหยื่อแทนก็จะยอมคืนอิสระให้ ลิซแสร้งทำดีจนตะนอยติดบ่วงพราง ก่อนที่ตะนอยจะเสียท่า กีรติกับศรัลย์ก็ตามไปช่วยได้อย่างหวุดหวิด ตะนอยฟื้นขึ้นมาเห็นศรัลย์เป็นคนแรก ก็โผเข้ากอดทนายหนุ่มทำให้กีรติน้อยใจขึ้นอีก อิสราบังคับให้ลิซหาเงินล้านมาให้ มิฉะนั้นจะเอาภาพฉาวไปแฉ ลิซไม่มีเงินจึงไปจ้างคนมาดักฉุดตัวเอง แต่ถูกตะนอยกับฮันนี่จับได้จนต้องสารภาพ ตะนอยขู่จะเอาเรื่องลิซๆกลัวมากจึงยอมเปิดเผยเหตุผล ตะนอยสงสารลิซจึงช่วยวางแผนตลบหลัง จนอิสราถูกตำรวจจับ ลิซเริ่มเห็นความดีของตะนอยแต่ผ่องพิลาศยังมุ่งมั่นจะแฉตะนอยต่อไป งานวันเกิด คุณหญิงตั้งใจจะเปิดตัวหลานสาว แต่แล้วผ่องพิลาศก็พายายวาดมาแฉตะนอย คุณหญิงเสียใจจนช็อก ตะนอยถูกประณามว่าเป็นนักต้มตุ๋น กรองกาญจน์ทำไม่รู้ไม่ชี้มิหนำซ้ำยังช่วยรุมซ้ำเติมตะนอยอีก มีเพียงศรัลย์ที่เห็นใจ ฮันนี่กับตะนอยพายายกลับบ้านนอก แต่โชคชะตายังเมตตาเมื่อวงสราญจิตไปตามตัวมาเป็นนักร้องโดยไม่สนใจประวัติของเธอ ผ่องพิลาศจ้างนักข่าวทำลายชื่อเสียง และจ้างหน้าม้าไปคอยประจานตามเวที กีรติขอร้องให้หยุด ผ่องพิลาศยอมโดยขอแลกกับการที่กีรติต้องแต่งงานกับลิซ กรองกาญจน์รู้ก็เต้นเป็นเจ้าเข้ารีบเอาเรื่องลิซกับอิสรามาแฉ ผ่องพิลาศช็อกที่รู้ว่าลูกเคยเสียท่าอิสรา อัจฉราเห็นด้วยที่ลูกจะแต่งงานกับนุสรา ตะนอยเศร้าเมื่อรู้ข่าวนี้ ดีที่มีศรัลย์คอยปลอบอยู่ข้างๆ ส่วนคุณหญิงกลายเป็นโรคซึมเศร้าเมื่อขาดหลานสาวกำมะลอ ลูกหลานแท้ๆก็พากันเซ้าซี้ให้เปิดพินัยกรรม ท่านจึงตัดสินใจทำพินัยกรรมใหม่โดยยกทรัพย์สินส่วนใหญ่ให้มูลนิธิเด็กกำพร้าถ้ายังหาหลานตัวจริงไม่ได้ ยายวาดเล่าเรื่องในอดีตให้ตะนอยฟังว่าพ่อแม่ของตะนอยเคยช่วยชีวิตสองผัวเมียที่โดนไล่ฆ่าจนเคราะห์ร้ายถูกยิงเสียชีวิต ก่อนผัวเมียคู่นั้นจะลาไป ฝ่ายเมียที่ชื่อมุกดาได้มอบล็อกเกตให้เพื่อเป็นการตอบแทน กีรติชวนตะนอยตามหาแก้วมุกดาจนเจอ แล้วพากลับสู่อ้อมอกคุณหญิง ทุกคนพากันประหลาดใจเมื่อรู้ว่าลูกของแก้วมุกดาแท้งไปแล้ว ส่วนอังกูรตกใจมากเมื่อรู้ว่าแก้วมุกดาและสามียังไม่ตาย แถมนายเดชลูกน้องที่เขาส่งไปฆ่าทั้งคู่เพื่อตัดส่วนแบ่งมรดก ยังมาเป็นพยานแฉความเลวอีก อังกูรถูกจับ ผ่องพิลาศเสียใจจนช็อก เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย ตะนอยตั้งใจจะลากลับ แต่คุณหญิงขอให้อยู่ เพื่อตอบแทนน้ำใจของพ่อแม่เธอที่ได้ช่วยชีวิตแก้วมุกดาไว้ ส่วนแก้วมุกดากับสามีขอไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัดเหมือนเดิม หลังพ่อถูกจับนุสราเคว้งคว้างมาก ลิซกับตะนอยคอยปลอบใจ กีรติสงสารนุสราจนไม่อาจบอกความรู้สึกแท้จริงแก่เธอได้ คุณหญิงเตรียมเปิดข่าวความรักของหนุ่มสาว แต่ลิซซึ่งรู้ดีกว่าใครบอกทุกคนให้พูดความจริง โดยเฉพาะนุสราซึ่งรู้อยู่ว่ากีรติรักตะนอย เช่นเดียวกับศรัลย์ที่รู้ว่าตะนอยรักเขาเสมือนพี่ชาย ลิซทำตัวเป็นผู้ใหญ่คอยดูแลคุณหญิงและน้องๆทั้งสองคน ตะนอยก้าวออกจากครอบครัวคุณหญิงอย่างสง่างามเพื่อไปค้นหาความฝันจนได้เป็นนักร้องสมใจ คุณหญิงประกาศว่ายินดีรับตะนอยเป็นหลานสาวร่วมวงศ์ตระกูลอีกคนด้วยความรักใคร่เมตตาอันแท้จริง กีรติพยายามปรับความเข้าใจกับตะนอยแต่ตะนอยไม่ค่อยมีเวลาให้ มิหนำซ้ำยังมีข่าวประโคมออกมาว่านักร้องสาวกับหัวหน้าวงกำลังรักใคร่กัน หมอกีรติน้อยใจจึงคิดจะหนีไปเมืองนอก ศรัลย์บอกเรื่องนี้แก่ตะนอยให้เธอรีบไปตามหัวใจของตัวเองกลับคืนมาทันท่วงที ศรัลย์ตัดสินใจสารภาพรักกับนุสรา นุสราเองก็เปิดใจว่าศรัลย์อยู่ในใจเธอมาตลอด ผ่องพิลาศเริ่มปลงกับชีวิต ลิซคอยเป็นกำลังใจให้แม่ พาแม่เข้าหาธรรมะ คุณหญิงมีความสุขมากกับการได้พบแก้วมุกดาแถมยังได้ตะนอยหลานสาวนิรนามแสนน่ารักเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

เนตรนาคราช 2557

เรื่องย่อ : เนตรนาคราช (2557/2014) 500 ปี ในอดีต ตำนานบันทึกไว้ว่าเนตรนาคราชคือดวงตาของพญานาคที่สิงสถิตอยู่ภายใต้แม่น้ำโขงในขณะที่จำศีลอยู่ ได้ถูกผู้มีวิชาขโมยไปเพราะเชื่อว่าดวงตาพญานาคคือสิ่งทรงพลานุภาพที่จะเผาผลาญทุกสิ่งอย่างให้พินาศ ใครที่ได้ครอบครองก็จะมีอำนาจอยู่ในมือ ยิ่งใหญ่ อยู่เป็นอมตะ เหนือผู้ใด แต่ละปีพญานาคจะได้ตื่นจากจำศีลขึ้นมาหนึ่งวันคือวัน 15 ค่ำเดือน 11 และพ่นไฟทวงดวงตาของตนคืนเป็นปรากฏการต่อ ๆ มาจนกระทั่งทุกวันนี้

ตำนานกล่าวไว้อีกว่าถ้าพญานาคตื่นจากการจำศีล 500 ปีเมื่อไร ก็จะขึ้นมาตามหาดวงตาของตน จะเกิดภัยพิบัติ น้ำในแม่น้ำโขงจะปั่นป่วนลุกเป็นไฟชีวิตผู้คนจะสูญเสียเป็นเครื่องสังเวยนับล้านจนกว่าจะมีใครนำดวงตาทั้งสองมาคืน วันเวลาผ่านไป การจำศีลจะครบกำหนด 500 ปีในวันที่ 15 ค่ำเดือน 11 ของปีนี้

แต่ผู้คนหาเชื่อตำนานไม่ กิเลสทำให้คนหลงผิดคิดว่าเนตรนาคราชเป็นของมีค่า เป็นของวิเศษ ที่จะทำให้เป็นใหญ่ ชีวิตเป็นอมตะเพียบพร้อมด้วยอำนาจและทรัพย์สินเงินทอง จึงทำให้เนตรนาคราชมีมูลค่ามหาศาล มีการติดตามแย่งชิงค้นหาและเข่นฆ่ากันเพื่อให้ได้เนตรนาคราชมาครอบครองเป็นสมบัติของตน โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ตนจะได้รับคือความพินาศและความตายสืบต่อไปถึงลูกหลานชั่วกัลย์

500 ปี ผ่านไป กรุงเทพฯ ปัจจุบัน (จุดเริ่มต้นของเรื่อง)

ดร.มานพ อาจารย์ทางด้านโบราณคดี ถูกฆ่าตายอย่างเลือดเย็น ในห้องทำงานส่วนตัวที่ทางการจัดไว้ให้เป็นพิเศษสำหรับการค้นคว้าสืบหาของสำคัญทางประวัติศาสตร์อันเป็นมรดกของชาติ ดร.กาญจนา นักโบราณคดี ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเล็ก เชื่อว่าต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเนตรนาคราช ที่ดร.มานพมุ่งสืบสาวเรื่องราวค้นคว้ามากว่าห้าปีแล้ว ดร.มานพได้คุยกับตนเองอยู่เสมอและสั่งให้เก็บไว้เป็นความลับสุดยอด การตายครั้งนี้ของดร.มานพ ทำให้ผู้กองรัตนากร บุตรสาวคนโตของดร.มานพ แห่งหน่วยปราบปรามพิเศษซึ่งส่วนมากมักจะทำงานในต่างประเทศจนห่างเหินครอบครัวไปนาน ขอกลับมาประจำในประเทศเพื่อสืบสาวการตายของบิดาด้วยตัวเอง

หลายปีก่อนที่ ด.ร.มานพจะถูกฆ่าตาย อัศวิน หรือชื่อเล่นว่า โบนส์ (เพราะตอนเกิดมาผอมมีแต่กระดูก พอเป็นเด็กก็ผอมอีก) อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษ มีฝีมือ เชี่ยวชาญการต่อสู้และอาวุธ โตมากับครอบครัวของดร.มานพ รู้จักลูกสาวสองคนพี่น้องเป็นอย่างดีเนื่องจากบิดาของอัศวินเป็นเพื่อนรักกับ ดร.มานพ นั่นเอง

บิดาของอัศวินเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามพิเศษจึงผลักดันให้อัศวินลูกชายเจริญรอยตามและนี่คือสาเหตุหนึ่งที่รัตนากรเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษแทนที่จะเป็นนักโบราณคดีเหมือนดร.มานพ เพราะได้ยินได้ฟังเรื่องราวจากบิดาของอัศวินตั้งแต่เด็กจนได้แรงบันดาลใจ อัศวินกับรัตนากรมักเล่นเป็นสายลับต่อสู้กัน ในขณะที่ดร.กาญจนา สนใจเรื่องโบราณคดีตามรอยบิดา อัศวินและรัตนากร ศึกษาร่วมกัน ฝึกร่วมกัน แต่พอเรียนจบทั้งสองถูกส่งไปประจำคนละหน่วยงาน รัตนากรมักจะถูกส่งไปทำงานต่างประเทศบ่อย ๆ จนห่างเหินกัน สองปีผ่านไปมีเรื่องในระบบราชการทำให้อัศวินเซ็งจนต้องลาออก บังเอิญดร.มานพ ขณะนั้นเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ติดตามเอามรดกล้ำค่าในประวัติศาสตร์ของไทยที่ถูกขโมยหรือขายให้ชาวต่างประเทศ กลับคืนชาติบ้านเมือง ได้เรียกตัวอัศวินไปช่วยให้ตามหาของโบราณชิ้นหนึ่ง โดยมีดร.กาญจนา ช่วยชี้แนะสอนให้รู้จักของโบราณชิ้นนี้เพื่อแยกแยะว่าอันไหนจริงอันไหนปลอมอยู่เกือบหกเดือน อัศวินเป็นคนฉลาดเรียนเร็วจึงผ่านการทดสอบได้เป็นที่น่าพอใจ

อัศวินสืบสาวบุกไปชิงของโบราณชิ้นนี้จากมาเฟียต่างประเทศคนหนึ่ง ซึ่งต้องผ่านมือปืนที่วางกำลังรักษาไว้เป็นอย่างดี กลับมาจนได้ อัศวินรู้สึกดีที่ได้ใช้ความสามารถที่เรียนมา ช่วยทำประโยชน์ให้ชาติโดยไม่ต้องอยู่ใต้ระบบของราชการและการเมืองที่โบราณ คร่ำครึ และล่าช้าติดเส้นติดสาย จึงอาสาอยู่ช่วยดร. มานพต่อไป

เวลาผ่านไปสองปีภายใต้การติวเข้มของดร.กาญจนา ซึ่งสนิทกันมาตั้งแต่เด็กเหมือนพี่เหมือนน้อง อัศวินจึงมีความชำนาญพอตัวในเรื่องของโบราณมรดกของชาติ และนำของโบราณกลับมาคืนได้หลายชิ้น เพื่อน ๆ ตั้งฉายาให้เป็น ดร.โบนส์ ล้อเลียน จาก ดร.โจนส์ ในหนังเรื่องอินเดียนน่าโจนส์นั่นเอง การตายครั้งนี้ของบิดา ทำให้ รัตนากร ที่ห่างครอบครัวไปทำงานที่ต่างประเทศตลอดเวลา มุ่งมั่นที่จะสืบสวนหาฆาตกรให้ได้ จึงขอกลับมาทำงานประจำที่ประเทศไทยอย่างไม่มีกำหนด

รัตนากรไม่สนิทกับดร.กาญจนา เพราะมีอดีตที่กินใจกันอยู่ เนื่องด้วยเพื่อนของอัศวินชื่อ ภาคภูมิ เป็นตำรวจมาสนใจ ดร.กาญจนา จนเกิดความสนิทสนมกันระยะหนึ่ง แต่พอได้พบรัตนากร ซึ่งขณะนั้นกลับมารายงานตัวเพื่อรับภารกิจ ภาคภูมิถึงกับเปลี่ยนใจไปชอบรัตนากร รัตนากรไม่ได้สนใจภาคภูมิ และกลับไปทำงานที่ต่างประเทศของตนตามปรกติ และไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยเหมือนเดิม เพื่อหลีกทางให้กาญจนา นี่คือสาเหตุที่รัตนากรห่างเหินครอบครัวไป ภาคภูมิยอมรับความจริงหันมาสนิทสนมกับ ดร.กาญจนาต่อไป

ภายหลังภาคภูมิออกปฏิบัติการถูกคนร้ายยิงอาการสาหัส ดร.กาญจนาไปเฝ้าอยู่ใกล้ ๆ แต่ภาคภูมิกลับเพ้อถึงรัตนากรก่อนสิ้นใจ ทำให้กาญจนาผิดหวัง และโกรธรัตนากรที่ไม่บอกตน ปล่อยให้ตนหลงสนิทกับภาคภูมิ รัตนากรจะอธิบายยังไงกาญจนาก็ไม่ยอมให้อภัยมาจนกระทั่งทุกวันนี้ การตายของดร.มานพ ทำให้ทั้งสามคนที่โตด้วยกันมากลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง รัตนากรเคยได้ยิน ดร.มานพ กล่าวถึงเนตนาคราชเมื่อห้าปีก่อนตอนที่กลับมาเยี่ยมดร.มานพ ที่ป่วยไม่สบาย แต่ไม่เคยเชื่อเรื่องตามตำนานเพราะคิดว่าพญานาคเป็นเพียงตำนานไม่มีอยู่จริง ด้วยทิฐิกาญจนาไม่สนใจที่จะบอกรายละเอียดเรื่องเนตนาคราชกับรัตนากร และไม่สนว่ารัตนากรจะสืบสวนไปทางไหน กาญจนาเรียกอัศวินมาพบ และเล่าเรื่องแผนที่ที่ซ่อนเนตรนาคราช ที่บิดาเคยให้ตนเองดู และเล่าว่ามีเศรษฐีอเมริกันชื่อ เฮนรี เจมส์ มาขอพบและขอซื้อแผนที่จากดร.มานพ บิดาของตน กาญจนาคิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของดร.มานพ คือ เฮนรี่ เจมส์ ผู้นี้นี่เอง

เฮนรี เจมส์ มาเปิดสาขาบริษัทการเงินใหญ่โตแห่งหนึ่งอยู่ในประเทศไทย อัศวิน จึงลอบเข้าไปในสำนักงานหรูของเฮนรี เจมส์ เพื่อตรวจหาแผนที่ แต่แล้วก็พบว่า มีคนร้ายกลุ่มหนึ่ง บุกเข้าไปขโมยแผนที่จาก เฮนรี เจมส์ และหลบหนีไปได้ อัศวินเล็ดรอดออกมาอย่างปลอดภัย แต่ก็พลาดโอกาสเรื่องแผนที่ลายแทงที่จะนำไปสู่เนตนาคราช ณ เวลานี้ กาญจนาและอัศวินรู้แล้วว่าแผนที่มีจริง อัศวินเริ่มสาวเรื่องติดตามหาแผนที่ อัศวินตัดสินใจลอบไปหารัตนากรและเล่าเรื่องราวให้ฟัง รัตนากรไม่เชื่อ ทั้งสองถกเถียงกัน ในที่สุดรัตนากรถึงแม้ปากแข็งว่าไม่เชื่อ แต่ในใจก็คิดว่าจะลองสาวเรื่องดู โดยอัศวินบอกให้รัตนากรรู้ว่า กาญจนาไม่ต้องการให้รัตนากรวุ่นวายเกี่ยวข้องกับเนตรนาคราช ทั้งสองคนจึงปกปิดการพบกันไม่ให้กาญจนารู้ โดยคิดว่าเรื่องราวกระจ่างเมื่อไหร่ค่อยบอกทีหลัง

รัตนากรกลับไปที่บ้านเพื่อค้นหาดูว่า ดร.มานพ มีอะไรบ้างที่จะเป็นเบาะแส กาญจนาไม่พอใจไม่พูดด้วย รัตนากรตัดสินใจต้างที่บ้าน เพราะมีเอกสารมากมายที่จะต้องตรวจค้น ทั้งสองต่างไม่พูดกัน ต่างคนต่างทำงาน คืนนั้นมีคนร้ายกลุ่มหนึ่ง ลอบเข้ามาที่บ้านของดร.กาญจนา เพื่อค้นหาแผนที่ลายแทง กาญจนาตื่นมาพอดี ร้องเสียงดัง รัตนากรรู้ตัว เลยเข้ามาช่วยจัดการคนร้าย ต่อสู้ยิงกัน คนร้ายตายสอง หนีไปได้หนึ่ง อัศวินมาตรวจดูที่เกิดเหตุ ก็ได้พบจากศพของคนร้ายว่าคนร้ายพวกนี้เป็นคนละกลุ่มกับที่บุกบ้านเฮนรี เจมส์ ณ เวลานี้เอง ทั้งหมดก็ได้พบกับแฟนคนใหม่ของ กาญจนา เป็นไฮโซหนุ่มนักธุรกิจจบนอกชื่อ วรชัย ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง วรชัยได้ข่าวจากทีวี เลยรีบมาหากาญจนาด้วยความเป็นห่วง กาญจนาแนะนำให้อัศวินรู้จักเพียงคนเดียว โดยไม่สนรัตนากรที่ยืนอยู่ด้วย รัตนากรสังเกตุดูวรชัยรู้สึกไม่ถูกชะตา ที่ส่งสายตาจ้องรัตนากรอย่างสนใจ ทั้ง ๆ ที่กาญจนายืนอยู่ด้วย

เวลาผ่านไป รัตนากรกับอัศวินร่วมกันสืบหาเบาะแสแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ทั้งสองเริ่มคุยกันรู้เรื่อง ส่วนกาญจนาเองยังไม่สนใจรัตนากร แม้ว่ารัตนากรช่วยตน ยังคงวางเฉย เย็นชากับรัตนากรเช่นเดิม อัศวินกับรัตนากรช่วยกันสาวเรื่อง ทำให้มีเวลาได้คุยกันถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีต สมัยเด็ก ๆ จนกระทั่งเรื่องราวที่กาญจนาไม่พอใจรัตนากร อัศวินจึงเข้าใจรัตนากรมากขึ้นว่าทำไมถึงไม่ค่อยกลับมาเยี่ยมบ้าน ความจริง อัศวินสนใจรัตนากรมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก พอโตขึ้นรัตนากรไปเรียนต่อ และประจำอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ด้วยสาเหตุเรื่องเกี่ยวกับกาญจนา ทำให้ขาดการติดต่อไม่ค่อยได้พบกัน อีกทั้งอัศวินก็เดินทางบ่อย ๆ เพราะต้องไปสืบหามรดกของชาติที่ถูกขายไปหรือขโมยไปแล้วนำกลับมา ทั้งสองจึงห่างเหินกันไปพอได้พบกันอีก ความสัมพันธ์เก่าก็เริ่มเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

อัศวินพบว่ามีอยู่สามกลุ่มที่เกี่ยวกับเรื่องแผนที่คือกลุ่มนายเฮนรี่ เจมส์ หนึ่งกลุ่ม และกลุ่มที่สองคือกลุ่มที่ตนพบบุกบ้านนายเฮนรี่ เจมส์ ส่วนกลุ่มที่สามคือกลุ่มที่บุกบ้านของดร.มานพ ที่กาญจนาและรัตนากรยังอาศัยอยู่ร่วมกันตามแบบฉบับครอบครัวไทย แม้ว่าต่างคนต่างมีคอนโดส่วนตัวก็ตาม อัศวินร่วมติดตามสาวเรื่องกับรัตนากร เรื่องแผนที่บุกเข้าหาบุคคลสามกลุ่มจนตัวเองถูกลอบทำร้าย ถูกคนร้ายตามเก็บ บางครั้งก็ตามลำพัง บางครั้งก็ตอนที่อยู่ร่วมกันแต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง เพราะทั้งสองคนต่างก็มีฝีมือ การต่อสู้ร่วมกันทำให้ความสนิทสนมกันตอนเด็กหวนกลับคืนมาอีกครั้ง ทั้งสองเริ่มห่วงใยกันในอีกรูปแบบหนึ่งต่างคนต่างเก็บไว้ในใจ การเผชิญหน้ากับคนร้าย ทำให้อัศวินได้ข้อมูลกลุ่มคนร้ายที่บุกทำร้ายกาญจนาคือ กลุ่มคนจีนเป็นแก๊งมาเฟียใหญ่มาจากฮ่องกงชื่อ เจิ้งซา ได้รับคำสั่งบรรพบุรุษที่ต้องการเนตรนาคราชเช่นเดียวกัน

เจิ้งซา เป็นตระกูลขุนนางกังฉินมีสมุนและเครือข่ายมากมายพร้อมที่จะมาแย่งชิงเอาเนตรนาคราชเอาไว้เป็นสมบัติของตระกูลและเพื่อความเป็นอมตะของตน เจิ้งซามีลูกสาวสวยจิตใจนักเลงเพราะตนบ่มสอนมากับมือชื่อ หลิน หลินต้องการพิสูจน์ฝีมือเพื่อให้เห็นว่าตนสามารถรับสืบทอดกิจการของพ่อได้ จึงอาสาเจิ้งซารับภารกิจครั้งนี้พร้อมนักฆ่าสาวสองพี่น้องชื่อหยกและปิงมาเป็นผู้คุ้มกันอย่างใกล้ชิด เหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ กับอัศวินและรัตนากรทำให้ต่างคนต่างเป็นห่วงกัน ช่วยเหลือกัน และสนิทสนมกันโดยไม่รู้ตัว ถึงกระนั้นก็ยังถกเถียงความคิดเห็นขัดแย้งเรื่องงานกันอยู่ตลอดเวลา

กาญจนา หลบมาอยู่ที่คอนโดของตนตามที่อัศวินแนะนำ เพื่อความปลอดภัย คืนหนึ่งรัตนากรได้รับโทรศัพท์ลึกลับ ว่าคนร้ายกำลังวางแผนที่จะไปชิงแผนที่จากดร.กาญจนา รัตนากรโทรไปหากาญจนาเพื่อเตือนแต่กาญจนาเห็นว่าเป็นเบอร์ของรัตนากรเลยไม่ยอมรับสาย กาญจนาอยู่ที่คอนโดเห็นรูปภาพของตนและรัตนากรที่ถ่ายไว้กับดร.มานพ สามคนในตอนโตหลังจากมารดาเสียไปแล้วมาดู ขณะนั้นมีกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาเค้นหาความจริงเรื่องแผนที่อีก รัตนากรมาถึงพอดีจึงเขาขัดขวางเกิดการต่อสู้กัน คนร้ายมีจำนวนมาก รัตนากรกับกาญจนาจึงเริ่มเสียเปรียบ แต่แล้วก็มีสาวสวยลึกลับโผล่มาช่วยไว้ จนคนร้ายที่เหลือหลบหนีไป รัตนากรกับกาญจนาได้เผชิญหน้ากับสาวสวยแต่ยังไม่ทันได้คุยสอบสวน สาวสวยก็พรวดหายไป รัตนากรตรวจดูร่างของคนร้าย พบว่าอาวุธที่สาวสวยใช้ คือ ลูกธนู ที่ยิงจากหน้าไม้ขนาดกลาง สาวสวยเป็นใคร มาจากใหน รัตนากรพบแต่ความมืดมน

อัศวินรีบมาตรวจดูและพบว่าเป็นพวกของมาเฟียจีน เจิ้งซา นั่นเอง ในขณะเดียวกันวรชัยมาโผล่มาพร้อมบอดี้การ์ดสองสามคนที่จ้างมา เพื่อคุ้มกันกาญจนา เพราะคิดว่าอัศวินกับรัตนากรนำอันตรายมาสู่กาญจนา รัตนากรกับอัศวินรำคาญจึงขอตัวกลับ วรชัยอยู่เป็นเพื่อนครู่หนึ่ง กาญจนาก็ไล่กลับบอกว่าต้องพักผ่อน วรชัยกลับไปแต่ยืนยันที่จะทิ้งบอดี้การ์ดของตนไว้คอยดูแลกาญจนา กาญจนาเก็บข้าวของเกลื่อนกลาดรวมทั้งรูปที่แตกกระจาย และได้พบว่ามีกระดาษโผล่มาจากด้านหลังของรูป ซึ่งเป็นแผนที่จริงที่บ่งจุดหมายสำคัญอยู่ในเขตป่าลึกแถวตะเข็บชายแดนพม่า เลียบแม่น้ำโขงไปจนถึงเครื่องหมายวงกลม ซึ่งไม่ได้บ่งว่าเป็นที่ใด มีจดหมายของดร.มานพถึงดร.กาญจนา ว่าแผนที่นี้คือเส้นทางที่จะนำไปสู่เนตนาคราชที่สูญหายไปเมื่อห้าร้อยปีก่อน

กาญจนาเรียกอัศวินมาปรึกษา ต่างลงความเห็นว่าจะต้องเดินทางไปตามแผนที่ตามจุดประสงค์ของดร.มานพ เพื่อค้นหาความจริง กาญจนาจึงแจ้งไปยังคณะกรรมการกลุ่มนำมรดกคืนชาติว่าตนมีเบาะแสเรื่องเนตนาคราช ทางคณะกรรมการซึ่งล้วนแต่เป็นเพื่อนสนิทของดร.มานพและเชื่อใจในผลงานของดร.มานพ มาแล้วจึงได้ระดมทุนให้เป็นการเดินทางออกไปนำเนตรนาคราชคืนกลับมาให้ได้ ภายในวัน 15 ค่ำ เดือน 11 ของปีนี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกสิบเดือนเท่านั้น

กาญจนาได้ให้อัศวินเป็นผู้รวบรวมคณะเดินทางซึ่งมีนายแพทย์นพดล เพื่อนสนิทของทุกคนที่รู้จักกาญจนาและรัตนากรเป็นอย่างดี อัศวินให้รัตนากรมาร่วมทางด้วย โดยอ้างกับกาญจนาว่าต้องการคนที่มีฝีมือมาช่วยเพราะการเดินทางย่อมมีอันตรายจากกลุ่มคนหลายกลุ่มที่ต้องการแผนที่ กาญจนาไม่พอใจ แต่ก็ต้องจนด้วยเหตุผล วรชัยซึ่งเป็นแฟนของกาญจนาขอติดตามมาด้วย อ้างว่าเป็นห่วงกาญจนา และตนเองก็มีฝีมือในด้านยิงปืนล่าสัตว์ ดูแลตัวเองได้ รัตนากรคัดค้านว่าไม่สมควร การที่รัตนากรคัดค้านนี่เองทำให้กาญจนาต้องการเอาชนะ จึงตัดสินใจให้วรชัยร่วมทาง

อัศวินแจ้งให้เพื่อนสนิทของตนชื่อ ชาติ อดีตนายทหารพราน ซึ่งเชี่ยวชาญทางด้านแกะรอยเดินป่าและมีฝีมือในการต่อสู้ร่วมเดินทางไปด้วย โดยจะไปพบกันที่กาญจนบุรี พร้อมด้วย อิทธิ เพื่อนของชาติ ซึ่งเป็นเพื่อนทหารพรานด้วยกัน เชี่ยวชาญในด้านแกะรอยและระเบิด ทั้งสองคนจะเตรียมทีมมาช่วยระวัง และคุมคนขนสัมภาระอุปกรณ์ต่าง ๆ เฮนรี เจมส์ รู้ข่าวเรื่องนี้ จึงเรียกมือขวาของตนมาติดตามขบวนของอัศวินซึ่งเป็นชาวเอเชียอเมริกัน อดีตเนวีซีลผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ทุกรูปแบบชื่อ โจชิง ได้ยินว่า โจซิง ผู้นี้คือหนึ่งในทีมเนวีซีลที่บุกเข้าไปสังหาร บินลาดิน

โจซิง มีมือรองอดีตกองโจรทหารเวียตกง เชี่ยวชาญการแกะรอย หลบซุ่ม ซ่อนตัว แบบกองโจร ชื่อ เวจาง นำทีมติดตามบุกเพื่อหาทางชิงแผนที่มาให้ได้ ขบวนของอัศวินครบออกเดินทางมาพบกับชาติและอิทธิที่กาญจนบุรี พร้อมลูกทีมและอุปกรณ์นานาชนิด ในขณะที่พักที่โรงแรมก็ถูกจับตามองจากคนแปลกหน้าอีกสองกลุ่มด้วยกัน กลุ่มหนึ่งคือกลุ่มคนจีนที่อัศวินจำได้ แต่อีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อัศวินคาดเดาว่าอาจจะเป็นกลุ่มที่บุกบ้านของ เฮนรี เจมส์ และที่หน้าแปลกใจก็คือรัตนากรเห็นสาวสวยแปลกหน้าที่มาช่วยตนที่คอนโดของกาญจนาอีกด้วย รัตนากรเก็บความสงสัยไว้ในใจไม่ได้บอกอัศวิน เพราะยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด

อัศวินเห็นสถานการณ์ล่อแหลมจึงให้ขบวนเดินทางออกจากตัวเมืองทันที และให้ชาติหาเส้นทางที่เหมาะสมและปลอดภัยยากต่อการโจมตี จนถึงสถานที่ที่เหมาะแก่การตั้งค่ายพักในยามค่ำคืน เหตุการณ์เป็นปรกติในสองสามวันแรกของการเดินทาง กาญจนาและรัตนากรยังคงห่างเหินกัน ส่วนใหญ่เป็นที่กาญจนามากกว่า วรชัยเป็นตัวป่วนไม่หยุด ถือว่ากาญจนาเป็นเจ้าของขบวน ชอบยิงเป้ายิงปืนโดยพละการเพื่อความสนุก กินเหล้าที่เอาติดมาออกนอกเส้นทางตามสัตว์ อัศวินในที่สุดต้องเด็ดขาดกับวรชัย ทำให้วรชัยไม่พอใจ พอนำเรื่องไปบ่นกับกาญจนา กาญจนาก็ไม่ฟังและยืนยันว่าอัศวินเป็นผู้นำและมีสิทธิ์ออกคำสั่งคนเดียวเท่านั้น ทำให้วรชัยจ๋อยไป แต่ก็คงความไม่พอใจเอาไว้ ชาติและอิทธิคุมเข้ม จับตาดูเหตุการณ์อย่างเชี่ยวชาญ รัตนากรถึงแม้จะเชี่ยวชาญการสอบสวนและต่อสู้ แต่ไม่มีความชำนาญป่า จึงได้แต่ทำตามไม่ก่อเรื่อง บางครั้งก็ร่วมกลุ่มสังสรรค์กับชาติและอิทธิและทีมงาน อัศวินเห็นก็นึกชมอยู่ในใจ ที่รัตนากรติดดินเข้ากับทีมได้ดี

แต่แล้วขบวนของอัศวินก็ถูกโจมตีในยามค่ำคืน เกิดการต่อสู้กัน แต่สุดท้ายฝ่ายบุกก็พ่ายแพ้ถอยไป อัศวินรู้ว่าเป็นกลุ่มของ เฮนรี เจมส์ จากอาวุธปืนของคนร้ายที่ใช้ ทั้งหมดจึงวางแผนเดินทางอย่างรอบคอบ มีการระวังป้องกันอย่างเต็มที่ อีกครั้งที่รัตนากรเห็นสาวสวยลึกลับปรากฏอยู่ห่าง ๆ แล้วก็หลบหายไป โจซิงไม่พอใจที่ทีมทำงานพลาดและสูญเสียคน จึงสั่งทั้งคนทั้งอาวุธมาเพิ่ม เพื่อที่จะหาทางบุกแย่งชิงแผนที่ให้ได้ การเดินทางเริ่มลำบากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ทั้งภัยธรรมชาติ ไข้ป่า ภาพหลอน หลงทาง ทั้งหมดนี้ทำให้ทุกคนคิดว่าเป็นอาถรรพ์ของเนตนาคราช ที่เล่าสู่กันมาว่า ใครก็ตามที่เข้าใกล้และต้องการครอบครองเนตนาคราชมักจะมีอันเป็นไป ในระหว่างการพักแรม วรชัยแอบออกไปว่ายน้ำ แม้จะถูกเตือนให้ระวัง สุดท้ายถูกกลุ่มคนร้ายจับไป และทิ้งจดหมายให้อัศวินเอาแผนที่ไปแลกกับชีวิตของวรชัย เป็นกลุ่มของเฮนรีนั่นเอง

อัศวินกับชาติและอิทธิ จึงวางแผนบุกเข้าชิงตัววรชัย โดยแกล้งทำทีว่าจะเอาแผนที่ไปแลก แล้วซ้อนแผนแย่งตัววรชัยมาได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาที่ค่าย พยายามจะจับตัวกาญจนา แต่รัตนากรโชว์ฝีมือและพากาญจนาหลบหนีออกมาจากค่ายได้ทันท่วงที แต่คนทั้งสองต้องหนีเตลิดเข้าไปในป่าลึก อัศวินกลับมาพบร่องรอยการจู่โจม และพบว่ากาญจนากับรัตนากรหายไป อัศวินโมโหซัดวรชัย เข้าหนึ่งหมัดที่เป็นต้นเหตุ แล้วรีบจัดขบวนติดตาม แต่ก็ให้อิทธิอยู่คอยระวังวรชัย และค่ายเพื่อป้องกันการบุกรุกซ้ำสอง

รัตนากรพากาญจนาหลบหนีคนร้ายเข้าป่าลึก พวกคนร้ายตามล่า กาญจนาเริ่มเห็นว่าพี่สาวห่วงตน เริ่มลดทิฐิลงบ้างในขณะที่จนมุมสาวสวยลึกลับก็โผล่มาช่วยก่อกวนคนร้ายจนเสียขบวน โดยมีอาวุธเป็นหน้าไม้แบบทันสมัย จนกระทั่งขบวนของอัศวินกับชาติตามมาทันจัดการกับคนร้าย จนพวกที่เหลือต้องเตลิดหนีกลับไป ส่วนสาวลึกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นเดิม อัศวินพาสองสาวกลับมาถึงค่ายด้วยความปลอดภัย วรชัยเข้ามาขอโทษกับกาญจนา กาญจนาแม้ว่าจะไม่พอใจวรชัยแต่ก็เห็นว่าวรชัยถูกซ้อมเจ็บตัวพอแล้วจึงไม่เอาเรื่อง แต่รัตนากรไม่พอใจวรชัย และย้ำว่าถ้าวรชัยก่อเรื่องอีก จะเล่นงานวรชัยด้วยตัวเอง ทำให้วรชัยไม่พอใจ

กาญจนามาพบรัตนากรและเอาแผนที่มาให้รัตนากรเป็นผู้ถือไว้แทนตน เพื่อความปลอดภัยของแผนที่ นับว่าเป็นก้าวแรกที่กาญจนาเข้าหารัตนากร รัตนากรจึงรับปากว่าจะเก็บแผนที่ไว้เป็นอย่างดี เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองยิ้มให้กัน แม้ว่าจะเล็กน้อยอัศวินเห็นเหตุการณ์ คิดว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีระหว่างพี่น้องสองคน รัตนากรคุยกับ อัศวินถึงกลุ่มคนที่มาล่าตัวกาญจนาและสาวสวยที่มาช่วย อัศวินกับชาติพบว่าเป็นกลุ่มมาเฟียคนจีนที่มาจากฮ่องกง คุมเกมโดย หลิน ส่วนสาวสวยที่มาช่วยนั้นยังคาดการไม่ถูก แต่สันนิษฐานว่าต้องมีอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งอย่างน้อยก็ยังโชคดี ที่ไม่ได้ทำตัวเป็นศัตรู

โจซิง เห็นว่าพวกตนได้รับความล้มเหลวและสูญเสีย รีบรายงานให้เฮนรีรู้ เฮนรีจึงวางแผนใหม่ให้กลุ่มหนึ่งแยกไปติดตามคอยแยกชิงแผนที่แบบกองโจรถ้ามีโอกาสอีกกลุ่มหนึ่งติดตามไปเรื่อย ๆ รอจังหวะให้กลุ่มของอัศวินพบเนตนาคราชก่อน แล้วหาทางปล้นแย่งมา ส่วนหลินได้ประมือกับอัศวิน และเกิดความพึงใจในอัศวินเงียบ ๆ จึงวางแผนที่จะสกัดกลุ่มของเฮนรีแทนที่จะบุกโจมตีกลุ่มของอัศวิน รอโอกาสให้กลุ่มของเฮนรีได้แผนที่มาก่อน ค่อยชิงจากเฮนรีอีกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายกับอัศวิน ในระหว่างการเดินทางมีการปะทะกันระหว่างสามกลุ่มอยู่บ่อย ๆ อัศวินก็มีโอกาสช่วยหลินให้พ้นจากฝีมือของ โจซิง ด้วยความบังเอิญทำให้หลินยิ่งประทับใจในตัวอัศวินมากขึ้น แต่หลินก็สังเกตุเห็นว่าอัศวินกับรัตนากรมีความห่วงใยซึ่งกันและกัน จึงคิดจะหาทางกำจัดรัตนากรทุกครั้งเมื่อมีโอกาส

ในที่สุดขบวนก็มาถึงจุดหมายตามแผนที่ที่บ่งไว้ แต่สิ่งที่พบกับเป็นแผนที่อีกฉบับหนึ่ง ซึ่งเส้นทางการเดินทางที่ซับซ้อนลึกเข้าไปอีก อัศวินให้รัตนากรเป็นคนเก็บแผนที่ใหม่เช่นเดิม กาญจนาเริ่มคุยกับรัตนากรมากขึ้น วรชัยไม่ค่อยพอใจเท่าใดนักเพราะไม่มีใครเกรงใจหรือสนใจตนเหมือนอย่างตอนแรก ๆ ที่ทุกคนเกรงใจเพราะเป็นแฟนของกาญจนา ทุกคนพบว่าสัญญาญวิทยุหรือการติดต่อต่าง ๆ กลับขาดหายไปอย่างไม่มีเหตุผล ทำให้ยากยิ่งต่อการระมัดระวังศัตรูที่พร้อมจะบุกเข้าจู่โจมตลอดเวลา มีเสียงพึมพำคุยกันในกลุ่มว่าเป็นเพราะอาถรรพ์ของเนตนาคราช ทำให้ทุกคนหลงเข้ามาอยู่ในดินแดนที่ลึกลับแห่งนี้

ขบวนของทั้งสามกลุ่มต่างพบกับเส้นทางวิบาก การเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องหยุดรักษา เสียเวลาในการเดินทาง กองโจรของโจซิง นำโดย เวจาง ฉวยโอกาสเข้าบุก อัศวิน มีตอนหนึ่งพวกมันบุกเข้าถึงตัวกาญจนา หมายฆ่าโดยยิงปืนเข้าใส่ แต่ชาติเอาตัวเข้ามาบังไว้ได้ทันท่วงที กระสุนถูกชาติที่หัวไหล่ ในขณะคับขันสาวสวยคนเดิมก็พาคนมาช่วยสกัดและไล่กลุ่มของพวกของเวจางไปจนหมด ความจริงชาติในระหว่างเดินทางได้สนใจกาญจนา แต่ไม่กล้าแสดงออกได้แต่เก็บไว้ในใจ เนื่องด้วยกาญจนามี วรชัย ยามหน้าสิ่วหน้าขวานเผลอแสดงตัวปกป้องออกมาเป็นที่สังเกตของวรชัย และ รัตนากรซึ่งอยู่ในเหตุการณ์พอดี แม้ว่าชาติจะกลบเกลื่อนทำทีว่าเป็นหน้าที่ของตนที่ต้องป้องกันทุกคนก็ตาม

สาวสวยได้แนะนำตนเองว่าชื่อ โรส เป็นทายาทของกลุ่มผู้พิทักษ์เนตรนาคราช ที่คอยติดตามหาเนตรนาคราชมาหลายชั่วอายุคนแล้ว โรสจบการศึกษามาจากอเมริกาทางด้านบริหารธุรกิจ พอกลับมาเมืองไทยก็ช่วยกิจการของทางบ้านในการท่องเที่ยว ซึ่งมีโรงแรมหลายแห่งอยู่ตรงสามเหลี่ยมทองคำ มีพี่ชายคนหนึ่งชื่อ อิฐ เป็นอดีตตำรวจตระเวณชายแดนเช่นเดียวกับชาติและอิทธิพอได้ข่าวว่ามีขบวนเดินทางมาหาเนตรนาคราช จึงรวบรวมผู้คนออกติดตาม อิฐและโรสรู้จักชื่อเสียงของอัศวินว่าเป็นคนดี จึงเข้าช่วยเหลือ พ่อของโรสเป็นนักเลงเก่า โรสจึงได้วิชาหมัดมวยการต่อสู้ติดตัวมาตั้งแต่เด็กอีกทั้งมีอิฐช่วยฝึกฝนเชิงการต่อสู้ให้เพื่อเตรียมตัวรับภารกิจของกลุ่มพิทักษ์เนตนาคราช ชอบเข้าป่าล่าสัตว์ทุกครั้งที่มีเวลา จึงพอชำนาญป่าอยู่มั่ง หน้าไม้เป็นกีฬาชอบมาตั้งแต่อยู่อเมริกา จึงยิงแม่นและชำนาญ ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็ทำความเข้าใจกันและจะช่วยเหลือกันต่อต้านกลุ่มมาเฟียจีน และพวกของเฮนรี โดยโรสจะร่วมเดินทางไปด้วย แต่อิฐจะคอยติดตามดูห่าง ๆ คอยระวังรอบนอกให้

ขบวนของอัศวินเดินทางต่อไป โรสน่ารัก ติดดิน เข้ากันได้กับทุกคน อิทธิพึงใจในตัวโรสทันทีที่ได้เห็น ทำให้ขบวนการเดินทางมีความรักที่ก่อตัวขึ้นมา จากหลายคนด้วยกันคือ อัศวินกับรัตนากร ชาติแอบพึงใจกาญจนาแม้ว่ากาญจนาจะยังไม่รู้สึกตัวก็ตาม และอิทธิแอบพึงใจในตัวโรส แต่แล้วการเดินทางก็ผ่านเข้าสู่แดนมรณะ ตามที่แผนที่บ่งไว้ ทุกคนพบสิ่งประหลาดที่ไม่คาดฝัน เหนือธรรมชาติเหนือความจริง วิญญาณป่า ฯลฯ ทำให้การเดินทางพบกับความลำบาก เสี่ยงชีวิต เลือดตาแทบกระเด็น ต่างยิ่งเริ่มเชื่อว่าเป็นอาถรรพ์ของเนตรนาคราช ซึ่งจะนำความวิบัติมาสู่ทุกคน แต่แล้วขบวนก็ได้พบกับกลุ่มลูกหลานของผู้มีอาคมที่ไปขโมยเอาดวงตาพญานาค (เนตรนาคราช) มาในอดีตเพื่อนำกลับไปคืนเช่นกัน เพราะเนตรนาคราชนอกจากทำให้ผู้มีอาคมถึงกับเสียดวงตาคนละหนึ่งข้างโดยไม่มีสาเหตุแล้ว ก็ยังทำครอบครัวของตระกูลมีอันเป็นไปต้องได้รับทุกข์ทรมานเพราะลูกหลานที่เกิดมาล้วนสายตาพิการหนึ่งข้างทั้งสิ้น

กลุ่มนี้นำโดยลูกชายรุ่นหลังสุดคือ เคน ซึ่งเป็นมาเฟียคุมพื้นที่ป่าแถบสามเหลี่ยมทองคำทางใต้ เคนได้รับรายงานเรื่องคณะต่าง ๆ ที่เดินทางเข้ามาค้นหาเนตรนาคราชจึงรวบรวมผู้คนพร้อมชิงเนตรนาคราชให้ได้ แต่กลับคิดจะขายเอาเงินมากกว่าที่นำไปคืนตามความต้องการของบรรพบุรุษของตน เคนแยกตัวออกเดินทางตามลำพัง ไม่ขึ้นอยู่กับฝ่ายใด อัศวินจำได้ว่าเคนคือกลุ่มที่บุกบ้านของเฮนรีในตอนแรก จึงไม่ค่อยจะไว้ใจนัก จับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งหมดได้เดินทางเผชิญความลำบาก ต่อสู้ แย่งชิง กันตลอดระยะเส้นทาง ต่างฝ่ายต่างสูญเสียโดยเฉพาะฝ่ายของ เฮนนี่และฝ่ายของมาเฟียจีน เจิ้งซา

จนในที่สุดก็ถึงจุดหมาย (อยู่บนยอดเขาสูงลึกลับที่มีแอ่งน้ำลึกเพราะเนตรนาคราชต้องเก็บไว้ในน้ำ) พบเนตนาคราชแต่วรชัยกลับหักหลัง จับกาญจนาไว้ใช้ปืนขู่ฆ่ากาญจนาจนทุกคนต่องยอมปล่อยให้พวกของเฮนรีเข้ามาเอาเนตรนาคราชไปได้ ความจริงตอนที่วรชัยถูกโจซิงจับไป ด้วยความไม่พอใจกลุ่มของอัศวิน เลยตกลงร่วมมือกับโจซิง โดยหวังได้ส่วนแบ่ง พวกโจซิงระเบิดถ้ำขังทุกคนไว้และฆ่าวรชัยตาย พร้อมนำเนตนาคราชกลับไปให้เฮนรี แต่สุดท้ายอิฐก็นำคนมาช่วยปล่อยทุกคนออกมาได้ ทุกคนเร่งติดตามที่จะเอาเนตรนาคราชกลับคืน เพราะวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ใกล้เข้ามาแล้วเหลือเวลาไม่ถึง 10 วัน ขบวนของโจซิงมาหยุดรอ กองกำลังเสริมที่เฮนรีจะส่งมารับเนตนาคราชที่สามเหลี่ยมทองคำ

เคนนำคนของตนเข้าบุกหมายแย่งชิงเช่นเดียวกับคนของมาเฟียจีน เจิ้งฟา เกิดการปะทะกันหลายฝ่าย แต่แพ้ฝ่ายของเฮนรีซึ่งเตรียมกำลังคนมามากมาย เคนหนีมาได้แต่ถูกอิฐสังหารเพราะรู้ว่าเคนไม่คิดจะนำเนตรนาคราชกลับไปคืน ท่ามกลางความชุลมุน เฮนรีได้เนตรนาคราชอยู่ในมือ ในที่สุดเฮนรีนำเนตรนาคราชขึ้นรถออกจากสามเหลี่ยมทองคำมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่ตนเตรียมไว้ในป่าที่ลับแห่งหนึ่ง แต่อัศวินกับ พวกตามมาทันจึงเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด ชาติ อิทธิ โรส บุกเข้าสกัดมือปืนของ เฮนรี เปิดทางให้อัศวินและรัตนากรเข้าถึงตัวเฮนรี โจซิง และเวจาง

อัศวินกับรัตนากรบุกเข้าไปถึงตัวต่อสู้กับโจซิงและเวจางจนแย่งเนตรนาคราชจากเฮนรีจนได้ แต่ในขณะที่ออกมาก็พบกับหลินและนักฆ่าสาวหยกกับปิง เกิดการต่อสู้กัน หยกกับปิงเสียชีวิตแต่รัตนากรไว้ชีวิตหลิน ในที่สุดอัศวินกับรัตนากรก็ได้เนตรนาคราช ทั้งสองรีบเอาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของเฮนรี มุ่งไปยังแม่น้ำโขง แต่พวกของเฮนรียิงปืนสาดถูกเฮลิคอปเตอร์เสียหายอย่างหนัก แต่อัศวินก็บังคับไปถึงเหนือแม่น้ำโขงจนสำเร็จ เห็นแม่น้ำโขงปั่นป่วนเริ่มลุกเป็นไฟจากเบื้องบน ทั้งสองเห็นเงามหึมาลำตัวยาวปรากฏอยู่ใต้น้ำ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์จะระเบิด อัศวินกับรัตนากรต่างถือเนตนาคราชในมือคนละดวง พุ่งออกจากเฮลิคอปเตอร์ลงน้ำได้ทันท่วงที อัศวินและรัตนากรปล่อยให้เนตรนาคราชจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของแม่น้ำโขง

อัศวินกับรัตนากรถูกแม่น้ำโขงที่ปั่นป่วนร้อนเป็นไฟพัดพาอยู่ท่ามกลางเงามหึมาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ชาติและอิทธิเอาเรือเร็วบึ่งออกไปช่วยไว้ได้ทันท่วงที โดยมีกาญจนากับโรสและอิฐเฝ้าระวังคอยดูอยู่ที่ชายฝั่ง หลายนาทีผ่านไปแม่น้ำโขงก็ค่อยสงบลง ชาติและอิทธินำเรือกลับเข้ามาพร้อมด้วยอัศวินและรัตนากรได้อย่างปลอดภัย ทั้งสองต่างเดินเข้าสู้อ้อมแขนของกันและกันท่ามกลางเสียงเฮของทุกคน

ยามค่ำคืนอิฐและโรสจัดงานกองไฟเลี้ยงฉลองทุกคน ชาติเปิดเผยความในใจต่อกาญจนาเช่นเดียวกับอิทธิและโรส แน่นอนอัศวินและรัตนากรต่างอยู่ในอ้อมแขนของกันและกันท่ามกลางเสียงเฮของผู้คนมากมายจากกลุ่มพิทักษ์ และกลุ่ม บรรพบุรุษ ต่างร่วมกันฉลองที่เนตรนาคราชกลับคืนสู่เจ้าของเดิม

ทั้งหมด ยืนมองแสงจากลูกไฟที่พุ่งขึ้นมาจากแม่น้ำโขง เสียงเฮจากผู้คนมากมายแห่กันมาชมเทศกาลนี้ ทุก ๆ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 อัศวินและทุกคนคิดว่า ลูกไฟที่พุ่งขึ้นมาครั้งนี้สว่างสดใสมากกว่าทุกครั้ง เป็นแสงที่เย็นตาอย่างประหลาด คงเป็นเพราะเนตรนาคราชกลับคืนสู่เจ้าของแล้วนั่นเอง พลุสวยงามถูกจุดขึ้นเป็นประกาย เต็มท้องฟ้า ติดตามชม ละครเนตรนาคราช ได้ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครเนตรนาคราช เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2557

พรายพยากรณ์ 2557

พรายพยากรณ์ (2557/2014) ชีวิตของพิณชนิดา (ไปรยา ลุนด์เบิร์ก)หมอดูเทวดาต้องวุ่นวายขึ้น เมื่อเธอบังเอิญไปช่วยชีวิตภูมินทร์ (ธนา สุทธิกมล)นักธุรกิจหนุ่มสุดเนี้ยบ จากการถูกปองร้าย แถมยังต้องพามารักษาตัวที่คอนโดเพราะเขาความจำเสื่อม และที่สำคัญ เขาคือเนื้อคู่ของเธออีกด้วย บรรดาวิญญาณบรรพบุรุษของพิณชนิดาต่างไม่พอใจเดือดร้อนถึงภิชาสินี (ทัศนียา การสมนุช) น้องสาวของพิณชนิดาผู้มีสัมผัสที่หกและมองเห็นผีต้องคอยขัดขวางไม่ให้หนุ่มสาวใกล้ชิดกัน แต่เหตุการณ์วุ่นวายยังไม่สิ้นสุด เมื่อภูมินทร์กลับมาจำได้และหาว่าพิณชนิดาเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ พิณชนิดาจึงพิสูจน์ตัวเองด้วยการตามหาคนที่ปองร้ายเขา โดยมีภิชาสินี และอรรถพร (โตนนท์ วงบุญ ) ตำรวจหนุ่มเจ้าของคดี คู่ปรับของภิชาสินีช่วยเหลือ ความใกล้ชิดทำให้หนุ่มสาวทั้งสองคู่รักกัน แต่อันตรายรอบตัวก็เพิ่มมากขึ้น จนในที่สุด คนร้ายได้ถูกจับกุมและเขาก็คืออาแท้ๆ ของภูมินทร์นั่นเอง เมื่อเรื่องทุกอย่างผ่านไป ภูมินทร์จึงขอพิณชนิดาแต่งงาน ซึ่งหญิงสาวก็ตอบรับด้วยความเต็มใจ โดยมีวิญญาณบรรพบุรุษซึ่งยอมเปิดทางให้ทั้งคู่ร่วมยินดี

ใยกัลยา 2557

เรื่องย่อ : ใยกัลยา (2557/2014) ในการประกวดนางนพมาศในงานประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง กัลยา ลูกสาวของ นายมิ่ง เจ้าของสวนผลไม้ชนะการประกวดได้รับตำแหน่งนางนพมาศ ขณะที่ลงไปรับถ้วยรางวัลจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัด สายตาคมกริบของชายหนุ่มคนหนึ่งที่จ้องมองเธอทำให้กัลยาประหม่าสะเทิ้น อายมากขึ้น เธอได้รู้ในภายหลังว่าเขาชื่อ บุรี เป็นเพื่อนสนิทของลูกชายท่านผู้ว่าและรับราชการเป็นทหารเรือ โดยปกติแล้วกัลยาจะมาช่วยพ่อขายผลไม้ที่ตลาดในวันหยุดเสมอ หลังจากคืนนั้นบุรีจะเป็นลูกค้าประจำของเธอจากเป็นเพียงลูกค้าบุรีตามไปช่วยทำสวนที่บ้านอีกด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างบุรีและกัลยาพัฒนาเป็นความรักในเวลาไม่นาน แต่ก็เป็นความรักที่จริงจังและจริงใจมาก ความสัมพันธ์ของบุรีและกัลยาอยู่ในสายตาของนายมิ่งพ่อของกัลยาตลอดเวลา เขามองออกว่าชายหนุ่มรักลูกสาวของเขาแต่ก็ไม่คิดจะขัดขวาง มิ่งชอบบุรีมากความดีของบุรีทำให้ว่าที่พ่อตายอมรับเขาได้ไม่ยากนัก คืนวันหนึ่งทั้งคู่ไปเที่ยวงานวัดด้วยกัน ระหว่างนั่งบนชิงช้าสวรรค์บุรีให้ของขวัญกัลยาเป็นต่างหูมุกหนึ่งคู่ เขาบอกเธอว่าเขาตั้งใจหามาให้เธอโดยเฉพาะ กัลยามีความสุขมากต่างหูคู่นี้นอกจากจะเป็นของขวัญชิ้นแรกจากบุรีแล้วยังเป็นของที่เขาหามาอย่างตั้งใจอีกด้วย

กัลยาเรียนจบไม่นาน นายมิ่งล้มป่วยเป็นมะเร็งแกอยากให้ลูกสาวแต่งงานไปกับบุรีก่อนแกจะตาย ทุกอย่างเป็นไปตามที่มิ่งต้องการ บุรีให้คำสัญญากับกัลยาต่อหน้ามิ่งว่าเขาจะรักและดูแลเธออย่างดีที่สุดไปตลอดชีวิต หลังแต่งงานบุรีพากัลยามาอยู่กรุงเทพฯ โดยมาอยู่ที่บ้านของป้าญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เขามีอยู่ กัลยาเป็นคนขยันเธอทำอาหารขายช่วยหารายได้เข้าบ้าน แม้กิจการจะดีมากแต่กัลยาก็ต้องพักเมื่อตั้งครรภ์ ลูกของเธอกับบุรีเป็นผู้ชายชื่อ ศวัส หลังคลอดกัลยายิ่งสวยเปล่งปลั่งจน วดี ซึ่งเป็นแมวมองหาดาราใหม่ๆสู่วงการบันเทิงสนใจ วดีชวนกัลยาถ่ายโฆษณา แต่หญิงสาวปฏิเสธทั้งที่ใจอยากจะทำ เธอเป็นนักเรียนนาฏศิลป์จึงรักการแสดงอยู่แล้ว ทว่าบุรีกับศวัสคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเธอกัลยาจึงต้องตัดใจ เธอบอกวดีว่าเธอแต่งงานและมีลูกแล้ว และไม่อยากทิ้งครอบครัวไป วดีเสียดายมากแต่ก็ให้นามบัตรกัลยาไว้

เย็นวันนั้นกัลยาเล่าให้บุรีฟังเรื่องวดีและการถ่ายโฆษณา หญิงสาวดีใจและตื่นเต้นเมื่อบุรีกลับสนับสนุนเขาอยากให้ภรรยามีความสุข บุรีรู้ดีว่ากัลยารักศิลปะการแสดงมากเพียงไหนเขาคิดว่างานถ่ายโฆษณาชิ้นเดียวคงไม่เป็นไร แต่เขาคิดผิด ความสวยของกัลยาไปสะดุดตา ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าของบริษัทสร้างศิลป์ บริษัทสร้างภาพยนต์ที่มีชื่อเสียง วดีพากัลยามาแคสต์ กัลยาทำได้ดีมาก ศักดิ์สิทธิ์จึงเปลี่ยนชื่อให้เธอใหม่เพื่อใช้ในการแสดงว่า พุธกันยา ปานรัมภา โดยปกปิดข่าวเรื่องการแต่งงานและมีลูกของเธอไว้ เพราะกลัวแฟนภาพยนตร์ไม่ยอมรับ เวลาผ่านไปพุธกันยา ปานรัมภาเป็นนางเอกที่มีชื่อเสียงมาก ชีวิตครอบครัวก็มีความสุขดีเพราะบุรีเข้าใจทุกอย่างเขาเลี้ยงศวัสและอยู่กับลูกจนเด็กชายไม่ได้รู้สึกว่ามีปมด้อย วดีกลายเป็นเพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของพุธกันยา หญิงสาวมีความสุขมากจนกระทั่ง สมเจตน์ ลูกชายคนเล็กของศักดิ์สิทธ์เดินทางกลับจากต่างประเทศหลังจากเรียนจบ เขาเป็นคนหนุ่มหน้าตาดีและสมาร์ทมาก สมเจตน์ช่วยพ่อทำงานและเป็นคนมีฝีมือ เขาแอบรักพุธกันยาแม้จะรู้ว่าเธอมีครอบครัวแล้วเขาก็ยอมรับและเต็มใจเพียงขอให้ได้รักเธอ แม้หญิงสาวจะไม่รู้เรื่องอะไรด้วยก็ตาม คนที่เจ็บปวดเสียใจคือวดีเธอรักสมเจตน์แต่เขาไม่เคยสนใจเธอเลยแม้สักนิด วันหนึ่งสมเจตน์ได้ข่าวว่าวดีโกงค่าตัวพุธกันยาเขาจึงแอบสืบดูจนรู้ว่าเป็นความจริงและทำมานานแล้ว พุธกันยาเสียใจเมื่อได้รู้เรื่องเธอเสียดายความเป็นเพื่อน และความไว้ใจที่มีต่อกัน จำนวนเงินที่วดีโกงไปมากมายจนไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนที่ดีที่สุดจะทำกันได้ ความสัมพันธ์ระหว่าง พุธกันยาและวดีจึงจบลงแต่ไม่ดีนักเพราะวดีไม่ยอมคืนเงินให้พุธกันยา และถ้านางเอกคนดังไปแจ้งความเธอจะแฉกับสื่อเรื่องที่พุธกันยามีสามีและมีลูกแล้ว วดีเรียกเธอว่านางเอกจอมโกหก พุธกันยารีบไปปรึกษาศักดิ์สิทธิ์โดยมีสมเจตน์ช่วยคิดหาทางออกให้ ศักดิ์สิทธิ์ตัดสินใจให้หญิงสาวเก็บตัวและห้ามให้ข่าวทั้งที่ใจหนึ่งพุธกันยาก็อยากจะบอกประชาชนให้รู้ความจริงเพราะบุรีและศวัสไม่ได้มีอะไรที่น่าอายสักนิด แต่นักธุรกิจในวงการนี้เขาไม่คิดอย่างเธอ ดึกมากแล้วเมื่อเธออกจากบ้านศักดิ์สิทธิ์ พุธกันยาตกใจที่จู่ๆก็ถูกถ่ายรูปและมีนักข่าวกลุ่มโตดักรอถามเรื่องสามีและลูก หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกได้แต่รีบขับรถกลับบ้าน เธอแค้นใจมากขึ้นเมื่อวดีทรยศชิงให้ข่าวกับสื่อทำร้ายเธอเพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง พุธกันยาเครียดมาก ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย เธอหยิบยากินโดยไม่ดูให้ละเอียด พุธกันยาล้มตัวลงนอนแล้วหลับโดยที่ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย เธอเสียชีวิตเพราะกินยาเกินขนาดปริมาณยาที่ตรวจพบหลังการชันสูตรทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเธอกินยาฆ่าตัวตายหนีอายเรื่องการมีครอบครัว พุธกันยาจากไปท่ามกลางความเสียใจอย่างที่สุดของบุรีและศวัส

เวลาผ่านไปหลายสิบปีเรื่องราวของพุธกันยาถูกข่าวอื่นๆกลบไปจนแทบจะไม่มีใครจำเธอได้อีกนอกจากบุรีหรือพลเรือตรีบุรีและทันตแพทย์ศวัส บ่ายวันหนึ่งที่หน้าบ้านของบุรี หอมน้ำ และ สินีนุช สองสาวนักศึกษาฝึกงานของบริษัทสร้างศิลป์ ๒๐๐๐ ได้รับคำสั่งจากผู้จัดการกองถ่ายให้มาหาโลเคชั่นหาบ้านเพื่อถ่ายละคร หอมน้ำเคยเห็นบ้านหลังนี้ในนิตยสารและชอบมากจึงลองเสนอดู ภิญโญ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองถ่ายจึงแจกงานให้ทั้งคู่ทันที สองสาวมาถึงบ้านนั้นอย่างกระหืดกระหอบ บ้านสวยกว่าในรูปเสียอีกแต่ปิดเงียบราวกับไม่มีคนอยู่ ผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าของบ้านจะกลับมา สินีนุชจึงตัดสินใจชวนหอมน้ำแอบถ่ายคลิปวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือส่งให้ภิญโญเพื่อจะได้กลับบ้านกันเสียที หอมน้ำห้ามเพื่อนเพราะกลัวจะโดนกล่าวหาว่าเป็นขโมยแต่เมื่อสินีนุชพยายามลอดมือผ่านแนวรั้วถี่ๆเพื่อต้องการภาพที่ดีที่สุดและหลายๆมุม ทว่าทำไม่ได้เพราะความที่เป็นสาวร่างอวบ แขนเธอใหญ่เกินกว่าจะลอดรั้วเข้าไปได้หอมน้ำหัวเราะขำเพื่อนก่อนจะรับโทรศัพท์มาถ่ายเอง ขนาดว่าเธอผอมเพรียวกว่าสินีนุชช่องว่างระหว่างซี่รั้วแทบจะพอดีแขนของเธอจนน่ากลัวว่าจะติด ขณะที่หอมน้ำเพลินกับการถ่ายรูปศวัสขับรถกลับบ้านมาพอดี เขาลงจากรถด้วยท่าทางโกรธจัด สินีนุชรีบเข้าไปอธิบายเหตุผลและแนะนำว่าตัวเองกับเพื่อนสาวมาเพราะบริษัทสร้างศิลป์๒๐๐๐ จะขอใช้บ้านหลังนี้เป็นโลเคชั่นถ่ายละคร โดยมี ธันวา และ ณัชชา พระเอกนางเอกที่มีชื่อเสียงร่วมงานด้วย แต่ศวัสไม่สนใจเขาปฏิเสธอย่างไร้น้ำใจ ขณะที่สินีนุชพยายามพูดถ่วงเวลาเพื่อให้หอมน้ำปีนลงมาจากรั้ว ทว่าแขนหญิงสาวติดแน่นระหว่างซี่รั้ว ตาคมดุของศวัสทำให้หอมน้ำพยายามดึงกระชากแขนอย่างแรงจนหลุดออกมาจนได้โดยที่ตัวเธอหงายหลังตกลงบนพื้นเสียงดัง กระโปรงจีบรอบตัวที่สั้นแค่เข่าเปิดขึ้นสูงจนโป๊ สายตาของศวัสทำให้หอมน้ำอายจนหน้าแดง เธอรีบส่งมือให้สินีนุชฉุดขึ้นยืนแล้วหลบอยู่หลังเพื่อนถ้าทำได้เธออยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ศวัสขู่ให้สินีนุชและหอมน้ำกลับไปก่อนที่เขาจะรายงานเรื่องเธอทั้งคู่ไปที่มหาวิทยาลัย ศวัสเข้าบ้านไปแล้ว หอมน้ำและสินีนุชหนักใจเพียงงานแรกเธอก็ทำไม่ได้เสียแล้ว ทว่าก่อนที่ทั้งสองสาวจะออกไปจากตรงนั้น กนกรัตน์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านรีบออกมาพบเธอเห็นและรู้เรื่องทั้งหมด กนกรัตน์เป็นแฟนคลับที่เหนียวแน่นของธันวาและณัชชาเธออยากเห็นดาราขวัญใจอย่างใกล้ชิดจึงบอกให้หอมน้ำและสินีนุชไปติดต่อกับพลเรือตรีบุรี จินต์ไท พ่อของศวัส และยังให้หมายเลขโทรศัพท์มาอีกด้วย กนกรัตน์บอกว่าพลเรือตรีบุรีใจดีและน่าจะยอมตกลงด้วย

ภิญโญรีบติดต่อพลเรือตรีบุรีเพื่อขออนุญาตใช้บ้านถ่ายละคร ท่านถามถึงผู้กำกับการแสดง เมื่อรู้ว่าสมเจตน์เจ้าของบริษัทสร้างศิลป์ ๒๐๐๐ จะเป็นผู้กำกับเอง พลเรือตรีบุรีจึงเต็มใจให้มาถ่ายทำละครได้ ท่านยังจำได้ว่าสมเจตน์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของพุธกันยา ตรงข้ามกับศวัสที่ไม่พอใจอย่างมากเขาเกลียดวงการบันเทิง วงการมายาที่ทำให้แม่ของเขาต้องจากไป พุธกันยาตายไปพร้อมปริศนาที่ยังค้างคาใจใครหลายคนโดยเฉพาะสามีและลูก ศวัสจำได้ว่าเขาต้องเจอคำถามแปลกๆจากคนรู้จักเรื่องการตายของแม่ และข่าวฉาวๆที่ไม่เป็นความจริงมากมายจนเขาอยากจะหนีไปอยู่ที่อื่นให้พ้นเรื่องนี้เสียที แต่พ่อของเขาไม่ยอมไปท่านยังรักและผูกพันกับแม่ของเขามาก หลังพุธกันยาตาย พลเรือตรีบุรีอยู่เป็นม่ายมาจนทุกวันนี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีสาวๆมาสนใจตรงกันข้ามบุรีเป็นพ่อม่ายเนื้อหอมแต่เขาแสดงออกชัดเจนว่าความรักที่เขามีต่อพุธกันยานั้นมั่นคงเหมือนดังคำสัญญาที่เคยบอกเธอว่าเขาจะรักเธอและมีเธอคนเดียวตลอดชีวิต บุรีเก็บของทุกอย่างที่เป็นของพุธกันยาไว้ในห้อง ห้องหนึ่งอย่างดี ตั้งแต่เล็กจนโตบ่อยครั้งที่ศวัสพบบุรีอยู่ในห้องนั้น เขารู้ว่าพ่อรักแม่ไม่เปลี่ยนแปลง ศวัสรู้สึกอึดอัดกับความรักและคำมั่นสัญญาของพ่อที่มีต่อแม่มาก คำมั่นสัญญาที่เป็นเหมือนเครื่องพันธนาการของชีวิตให้จมอยู่กับอดีต ไม่คำนึงถึงปัจจุบันและไม่มีความหวังในอนาคตแล้วจะมีความ สุขได้อย่างไร

สองสามวันต่อมากองถ่ายละครเริ่มงาน ผู้คนมากมายทั้งทีมงาน ดารา และแฟนคลับที่มามุงดูดาราขวัญใจของพวกเขา ศวัสมองความวุ่นวายในบ้านอย่างไม่พอใจ เขาสั่งให้ เยาวภา แม่บ้านที่ทำงานด้วยกันมานานคอยจับตาดูคนพวกนี้ให้ดี หอมน้ำรู้สึกว่าการเป็นนักศึกษาฝึกงานเหนื่อย ทั้งกายทั้งใจ ต้องรองรับอารมณ์ทั้งดาราเรื่องมากอย่าง เพลินพิศ ผู้กำกับอารมณ์ร้อนอย่างสมเจตน์ และเจ้าของบ้านหน้าดุอย่างศวัส แม้กระนั้นความที่เธออยากทำงานเบื้องหลังหอมน้ำก็ทำใจให้สนุกกับงานได้ บ้านหลังนี้สวยจริงๆ สวยทุกมุม สวนข้างบ้านร่มรื่น หอมน้ำชอบไปนั่งเล่นที่บ่อปลาคาร์พโดยไม่รู้ว่าที่นั่นเป็นมุมโปรดของศวัสเช่นกัน

วันหนึ่ง ทับทิม ซึ่งเป็นฝ่ายเสื้อผ้าต้องซ่อมชุดของนางเอกโดยต้องเย็บมุกเม็ดเล็กติดกับปลายแขนเสื้อสีสวยหวานเธอให้หอมน้ำไปหยิบกล่องอุปกรณ์เย็บผ้าที่วางไว้ใต้บันได หญิงสาวรีบไปทันที ตรงนั้นมีกล่องเหมือนๆกันซ้อนอยู่หลายใบ หอมน้ำจึงหยิบกล่องออกเปิดดูจนพบกล่องเก็บเม็ดมุกที่ต้องการ หญิงสาวตัดสินใจเดินอ้อมทางข้างบ้านเพื่อเลี่ยงฉากที่กำลังถ่ายทำอยู่เดินออกมาไม่ไกลเธอสังเกตเห็นมุกเม็ดเล็กเหมือนในกล่องตกอยู่ที่สนามหอมน้ำก้มลงเก็บ มุกเม็ดนั้นเปื้อนดินหญิงสาวกำลังจะหยิบผ้ามาเช็ด แต่เยาวภาแม่บ้านหน้าดุที่ก้าวมาขวางหน้าถามเสียงเข้มว่าทำอะไรทำให้หอมน้ำเปลี่ยนใจเธอชูมุกที่เปื้อนดินให้เยาวภาดูก่อนจะตอบสั้นๆว่าจะเอาไปเย็บติดเสื้อนางเอก หอมน้ำก้าวเร็วๆกลับเข้าบ้าน เสียงเร่งของทับทิมทำให้เธอเดินเร็วขึ้นจนเสียหลักหงายหลังล้มลงบนพื้นไม้ที่ขัดมัน มุกในมือกระเด็นลอยเข้าปากที่อ้าปากร้องอย่างตกใจ หอมน้ำกลืนมุกลงคอพอดีที่ศีรษะลงกระแทกพื้นอย่างแรงจนเธอหมดสติอยู่ตรงนั้นเอง กลิ่นแอมโมเนียและเสียงเรียกของสินีนุชทำให้หอมน้ำรู้สึกตัว เธอลืมตาขึ้นช้าๆกวาดตามองรอบตัวแล้วอยากจะเป็นลมอีกรอบ เมื่อเห็นว่านอกจากสินีนุชแล้วยังมีทีมงานคนอื่นๆอีกหลายคน แต่ที่ร้ายที่สุดคือศวัสยืนหน้าเข้มตาดุอยู่อีกคน สินีนุชบอกว่าเขาเป็นหมอก็น่าจะตรวจอาการเธอได้ในเบื้องต้น แต่หอมน้ำไม่รู้สึกอย่างนั้นถ้าจะให้ศวัสรักษาเธอยอมไปที่อื่นดีกว่า หญิงสาวโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก หลังจากวันนั้นหอมน้ำมักจะเห็นหญิงสาวสวยมากเดินเพ่นพ่านอยู่ในบ้านโดยที่เธอเข้าใจว่าเป็นตัวประกอบ หอมน้ำเคยตามผู้หญิงคนนั้นขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านซึ่งถูกสั่งห้ามทีมงานขึ้นเด็ดขาด ผู้หญิงคนนั้นหายไปเพียงเลี้ยวขึ้นบันไดบ้าน หอมน้ำลังเลว่าจะทำอย่างไรดี ศวัสก็ออกมาจากห้องส่วนตัวเขามองหอมน้ำอย่างหวาดระแวงและไม่เชื่อว่าจะมีใครแอบขึ้นมาบนนี้นอกจากหอมน้ำ แต่เมื่อเธอยืนยันว่ามีจริงๆศวัสก็สั่งให้หญิงสาวคอยอยู่ที่หน้าบันไดส่วนเขาค่อยๆเดินตรวจดูทุกห้องแต่ไม่พบใคร ศวัสโกรธมากเขามั่นใจว่าหอมน้ำต้องเป็นขโมย หญิงสาวทำหน้างงเมื่อศวัสบอกว่าเขาไม่พบใคร ชายหนุ่มกึ่งลากกึ่งจูงหอมน้ำมาหาสมเจตน์พูดสั้นๆว่าให้อบรมเธอด้วยว่าอย่าวุ่นวายนักก่อนจะออกจากบ้านไป

สมเจตน์อบรมหอมน้ำอย่างรุนแรง นอกจากเรื่องวุ่นวายแล้วหอมน้ำยังโดนสงสัยว่าจะเป็นขโมยอีกด้วย แต่หญิงสาวไม่ได้ใส่ใจนักเธอเชื่อว่าเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นจริงๆถ้าไม่ใช่ตัวประกอบก็ต้องเป็นใครสักคนแถวนี้ที่แฝงเข้ามา หอมน้ำหมายมั่นปั้นมือว่าจะจับตัวให้ได้ในสักวัน สินีนุชสงสารเพื่อนมากที่ต้องโดนผู้กำกับจอมโหดดุอย่างนั้น สินีนุชมั่นใจว่าหอมน้ำไม่มีวันทำตัวเหลวไหลอย่างนั้น พ่อแม่ของหอมน้ำเป็นพนักงานธนาคารระดับอาวุโสทั้งคู่และอบรมลูกสาวมาดี สินีนุชนั้นเป็นลูกสาวเศรษฐีใช้แต่ของแบรนด์เนมที่พ่อแม่ซื้อให้อยู่คอนโดหรู หอมน้ำเองก็มาพักกับเธอบ่อยๆแต่ไม่เคยมีของหายมีแต่จะช่วยเก็บของให้เรียบร้อยอีกต่างหาก สินีนุชทำอะไรไม่ได้มากนอกจากปลอบใจเพื่อนที่นั่งซึมอย่างน่าสงสาร

หอมน้ำมาฝึกงานตามปกติโดยไม่รู้ว่าศวัสเริ่มจับตามองเธอมากขึ้น เขามั่นใจว่าหอมน้ำคือตัวการ แต่สิ่งที่เขาเห็นคือความสดใสน่ารักขยันทำงานและมีน้ำใจนั่งคุยกับปลาคาร์พของเขาในบ่อนานๆราวกับมันเป็นเพื่อน บ่ายวันหนึ่งชายหนุ่มกลับบ้านเร็วกว่าปกติเขาเดินอ้อมข้างบ้านพบหอมน้ำนั่งเล่นอยู่ที่บ่อปลา ชายหนุ่มจึงตามไปสอนเธอให้เรียกปลาขึ้นมาให้ลูบหัว หอมน้ำตื่นเต้นและชอบมาก ขณะที่เล่นกับปลาอยู่หอมน้ำก็เห็นหญิงสาวตัวประกอบลึกลับเดินอยู่ในบ้าน เธอตื่นเต้นมากที่จะจับคนร้ายได้สักที หญิงสาวคว้ามือศวัสจูงให้ตามเธอมาพลางจุ๊ปากให้เงียบๆ เมื่อชายหนุ่มสงสัยเธอจึงบอกว่าเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วและจะไปจับขโมยกัน ศวัสปล่อยให้หอมน้ำจูงมือไปจนเดินขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปชั้นสองพอถึงที่พักบันไดเขาก็หมดความอดทนชายหนุ่มไม่รู้ว่าหอมน้ำจะทำอะไร เพราะเขาไม่เห็นผู้หญิงคนที่หอมน้ำพาเขาเดินตามสักนิดที่จริงแล้วศวัสไม่เห็นใครเลย หอมน้ำชะงักเมื่อศวัสรั้งมือไว้เธอหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นยืนยิ้มเยาะอยู่ที่หัวบันได หญิงสาวพยายามบอกศวัสว่าต้องรีบตามก่อนขโมยจะเข้าไปขโมยของ ระหว่างพูดสายตาเหลือบไปเห็นภาพวาดของพุธกันยาที่ประดับอยู่บนผนังตรงที่พักบันได หอมน้ำอ้าปากค้างหันไปมองสาวสวยที่ยืนยิ้มอยู่ที่หัวบันไดอีกครั้งก่อนจะเหลียวมามองภาพวาด เธอตกใจจนหมดสติเมื่อเห็นว่าสาวสวยคนนั้นหน้าเหมือนคนในภาพวาดพุธกันยานั่นเอง ศวัสรีบรับตัวหอมน้ำที่จู่ๆก็ช็อกหมดสติตรงหน้าก่อนที่เธอจะตกบันไดจนบาดเจ็บมากกว่านี้ ชายหนุ่มอุ้มหอมน้ำลงมานอนที่เก้าอี้รับแขกตัวยาวท่ามกลางความตกใจของทีมงาน สินีนุชรีบเข้ามาดูอาการเพื่อนสนิททันที เวลาผ่านไปจนศวัสเริ่มเป็นห่วงหอมน้ำหมดสตินานเกินไปแล้ว ก่อนที่เขาจะตัดสินใจพาเธอไปโรงพยาบาลหอมน้ำก็ได้สติเธอพรวดพราดลุกขึ้นหน้าซีดเผือดละล่ำละลักบอกว่าเธอเห็นพุธกันยา ไม่มีใครเชื่อสักคน หอมน้ำอธิบายอย่างละเอียดว่าพุธกันยาแต่งตัวอย่างไรแต่ก็ไม่มีใครเชื่อ ศวัสโกรธมากขึ้นไปกว่าเดิมเขามั่นใจว่าหอมน้ำเป็นจอมโกหกและมีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยมาก ลึกลงไปเขาอดเสียใจไม่ได้ที่สาวสวยน่ารักอย่างหอมน้ำกลับมีนิสัยไม่ดี ก่อนที่สมเจตน์จะอาละวาดกับหอมน้ำพลเรือตรีบุรีซึ่งยืนฟังอยู่นานโดยที่ไม่มีใครสังเกตเดินเข้ามาและพูดชัดเจนว่าท่านเชื่อหอมน้ำ และรู้จักผู้หญิงคนนั้นดีว่าเป็นใครท่านยืนยันว่าหอมน้ำพูดจริง ผู้หญิงคนนั้นมีตัวตนแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นพุธกันยา หอมน้ำหน้ามุ่ยเธอตัดสินใจจะไปฝึกงานที่อื่น ลำพังต้องรับมือกับศวัสก็พอสู้แต่กับผีอย่างพุธกันยาหอมน้ำยอมแพ้ บุรีสบตาหอมน้ำอย่างรู้ทันพูดดักคอว่าหอมน้ำคงมาฝึกงานที่นี่ต่อไปไม่หนีไปฝึกงานที่อื่นเพราะมันจะทำให้ทุกคนเชื่อว่าเธอทำผิดจริง ค่ำมากแล้วเมื่อกองถ่ายเลิก หอมน้ำกับสินีนุชนั่งแท็กซี่กลับคอนโดมิเนียมหรู กลางเมือง สินีนุชได้โอกาสถามเพื่อนเรื่องผีพุธกันยา หอมน้ำยืนยันว่าเธอเห็นจริงๆ สองสาวคุยเรื่อง ผีพุธกันยาจนไม่ได้สังเกตว่าคนขับแท็กซี่ก็สนใจฟังเช่นกัน คืนนั้นหอมน้ำค้างกับสินีนุชเพราะยังหวาดกับเรื่องที่เกิดขึ้น สองสาวไม่รู้เลยว่าหลังจากส่งผู้โดยสารแล้วคนขับแท็กซี่ก็โทรศัพท์เข้ารายการวิทยุที่เกี่ยวกับเรื่องลึกลับแล้วเล่าเรื่องผีพุธกันยาอดีตดาราดังที่ล่วงลับอย่างเป็นจริงเป็นจังราวกับเห็นเสียเอง

วันรุ่งขึ้นหอมน้ำกลับหอพักลางานหนึ่งวันเพื่อตระเวนทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พุธกันยา รดน้ำมนต์ป้องกันพุธกันยา โดยไม่ลืมค้นสายสร้อยแขวนพระองค์เล็กที่พ่อแม่ให้มาสวมติดตัวไปด้วย นอกจากนั้นเธอยังออกหาที่ฝึกงานใหม่แต่ก็ไม่ว่างสักแห่งเดียว หอมน้ำตกใจเมื่อสินีนุชโทรศัพท์มาเล่าว่าที่กองถ่ายวุ่นวายไปหมดมีคนมามากกว่าปกติเพราะมีข่าวเรื่องผีพุธกันยาจนบ้านหลังนี้จะกลายเป็นบ้านอาถรรพณ์ผีดุไปแล้ว หอมน้ำนึกเสียใจที่หลุดปากเรื่องที่เธอเห็นอดีต ดาราแม่ของศวัส หญิงสาวเปิดโทรทัศน์แล้วเดินไปที่ตู้เย็นเล็กๆมุมห้องหยิบน้ำมาดื่มพอหันกลับมาเธอก็ต้องสำลักเมื่อเห็นพุธกันยานั่งดูรายการข่าวบันเทิงอย่างสนใจ หอมน้ำกลัวจนทำอะไรไม่ถูกพนมมือสวดมนต์ผิดๆถูกๆจนพุธกันยาดุบอกว่าเธอไม่ใช่ผีและไม่ชอบให้ใครเรียกว่าผีด้วย เธอเป็นวิญญาณต่างหาก หญิงสาวตั้งสติกำสร้อยพระแน่นถามว่าพุธกันยาต้องการอะไรจากเธอ พุธกันยาจึงบอกว่าเธออยากให้หอมน้ำช่วยบอกบุรีและศวัสว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่เป็นเพราะเครียดเลยเผลอกินยาเกินขนาดมันเป็นอุบัติเหตุไม่ใช่เจตนา อดีตดาราคนดังเล่าเรื่องชีวิตเธอให้หอมน้ำฟังจนเธอเห็นใจยอมรับปากว่าจะช่วยหาวิธีบอกบุรีกับศวัสให้ ระหว่างที่หอมน้ำคุยกับพุธกันยาสินีนุชก็แวะ มาหา เธอเห็นหอมน้ำทำท่าแปลกๆจึงแหย่เรื่องผีพุธกันยาเพราะเข้าใจว่าเพื่อนคิดไปเอง พุธกันยาจึงต้องแสดงความสามารถให้สินีนุชเชื่อ เริ่มจากเปิดปิดโทรทัศน์จนต้องออกแรงยกหมอนข้างให้ ลอยขึ้น สินีนุชกระโดดเข้าไปกอดหอมน้ำทันที พุธกันยานึกรำคาญคนขวัญอ่อนเลยออกไปจากที่นั่นสองสาวจึงถอนใจอย่างโล่งอก

ความจำเป็นบังคับให้หอมน้ำต้องกลับไปฝึกงานที่เดิมอีก วันหนึ่งเกิดเรื่องใหญ่เมื่อสมเจตน์ปลด แววรุ่ง ดาราสาวซึ่งเป็นหลานรักของวดีออกจากการเป็นนักแสดงเรื่องนี้เพราะมาสาย แสดงพลาด ไม่สนใจงานแถมยังเบี้ยวคิวไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มไฮโซจนสมเจตน์โกรธ เขาไม่สนใจว่า แววรุ่งจะเป็นหลานของวดีเจ้าของหนังสือพิมพ์ขายดีชื่อชิดขอบบันเทิง และยังได้ชื่อว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการอีกด้วย สมเจตน์สั่งให้หานักแสดงใหม่มาแทนแต่ก็หายากไม่มีใครว่าง ภิญโญมองหอมน้ำแล้วชวนให้เธอลองแคสต์ดู หอมน้ำไม่ชอบเป็นนักแสดงเธอชอบงานเบื้องหลังมากกว่า แต่ก็หมดสิทธิปฏิเสธเพราะนอกจากภิญโญแล้วยังมี อุมา ช่างแต่งหน้า ทับทิมซึ่งเป็นคอสตูม รวมทั้งสินีนุชมาคะยั้นคะยอ สินีนุชบอกว่าให้ลองทำไปเพราะถ้าหอมน้ำเล่นไม่ได้จริงๆสมเจตน์ก็ไม่ต้องการดีกว่าเป็นคนเรื่องมาก หอมน้ำจำใจไปแต่งหน้าแต่งตัวใหม่เพื่อลองแคสต์ เธอถอดสร้อยพระฝากสินีนุชไว้เพราะไม่เข้ากับชุดที่ต้องสวม อุมากับทับทิมสามารถทำให้หอมน้ำนักศึกษาสาวสวยใสๆ กลายเป็นสาวสวยสะดุดตาและขึ้นกล้องเสียด้วย สมเจตน์พอใจกับรูปลักษณ์ของหอมน้ำที่เปลี่ยนไป แต่พอถึงการแสดงหญิงสาวกลับทำให้เขาอารมณ์เสียอย่างมากเพราะเล่นไม่ได้ จนกระทั่งโอกาสครั้งสุดท้าย หอมน้ำหนักใจกลัวสมเจตน์ประหม่าสายตาของศวัสที่มายืนดู ที่ร้ายกว่านั้นคือกลัวการเรียนไม่จบ หญิงสาวหันหลังให้ทุกคนเพื่อทำสมาธิหอมน้ำตกใจเมื่อเห็นพุธกันยายื่นหน้ามาจนชิดเธอก่อนจะหมดสติไป พุธกันยาสิงร่างของหอมน้ำได้อย่างอัศจรรย์ ดาราสาวหลับตานิ่งสูดลมหายใจลึกๆสามครั้งเพื่อทำสมาธิตามความเคยชิน เมื่อหันกลับมาอีกครั้งสมเจตน์แปลกใจที่หอมน้ำมีท่าทางเปลี่ยนไป ตาคมสวยเป็นประกายอย่างคนที่เชื่อมั่นในตัวเองหน้าเพรียวสวยเชิดหยิ่งไว้ตัวนิดๆ สวยสง่าน่าดู กิริยาหอมน้ำทำให้สมเจตน์คุ้นตาคุ้นใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเริ่มแสดงหอมน้ำทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อราวกับเป็นคนละคนจนสมเจตน์พอใจมากสั่งเลิกกองหันมาล้อหอมน้ำว่าพรุ่งนี้เล่นให้ได้อย่างนี้ก็แล้วกันทุกคนในกองถ่ายโล่งใจ

สินีนุชยืนรอหอมน้ำที่เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นานจนผิดสังเกต จนศวัสกลับมาถึงบ้าน สินีนุชกำลังจะเข้าไปตามเพื่อนเพราะไม่อยากให้ศวัสโกรธ หอมน้ำก็ออกมาพอดีเธอวิ่งเข้ามากอดศวัสแน่นเรียกเขาว่าลูกอีกด้วย สินีนุชพยายามแกะแขนเพื่อนออกจากศวัสแต่หอมน้ำไม่ยอม ส่วนศวัสยืนนิ่งเมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอย่างประหลาดที่แทรกเข้ามาเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายในหัวใจมานาน เขาปล่อยให้หอมน้ำกอดเขาอย่างมีความสุขอยู่อย่างนั้น สินีนุชเอะใจจึงแอบหยิบสร้อยพระของหอมน้ำกำไว้ในมือ แล้วแอบแตะตัวเพื่อนสาว พุธกันยาจึงต้องออกจากร่างหอมน้ำ หญิงสาวจึงหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของศวัสนั่นเอง ศวัสตัดสินใจไปส่งสินีนุชและหอมน้ำที่คอนโด สินีนุชแอบสวมสร้อยพระให้เพื่อนทันทีที่มีโอกาส หญิงสาวฟื้นขึ้นพอดีเมื่อถึงคอนโด ศวัสส่งเพียงข้างล่างเมื่อเห็นว่าหอมน้ำรู้สึกตัวแล้ว เมื่ออยู่กันตามลำพังสินีนุชจึงถามเพื่อนอีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น หอมน้ำจำได้เพียงกำลังจะซ้อมบทให้สมเจตน์ดูหันมาพบพุธกันยาก็วูบไป สินีนุชจึงเล่าให้เธอฟังว่าเกิดอะไรขึ้นรวมทั้งการเข้าไปกอดศวัสด้วย หอมน้ำคิดหนักว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีในวันรุ่งขึ้นเพราะรู้ในความสามารถของตัวเองดีเรื่องการแสดงว่าไม่ใช่เรื่องจริงๆ หญิงสาวงอนสินีนุชกลับหอพักตัวเองเมื่อเพื่อนสนิทพูดว่าตอนแสดงก็ให้พุธกันยาสิงอีกก็หมดเรื่อง

วันต่อมาหอมน้ำแสดงไม่ได้จริงๆ หลายเทคก็ไม่ได้เรื่องเธอจำบทไม่ได้จนเพลินพิศดาราสาวเจ้าอารมณ์ที่ต้องเข้าฉากด้วยดูถูกเยาะเย้ยเธอหลายคำต่อหน้า อธิป ดาราหนุ่มอีกคน และไล่ให้ไปเสิร์ฟน้ำดาราเหมือนเดิมทำให้หอมน้ำโกรธมากจึงบอกเพลินพิศว่าถ้าครั้งต่อไปเธอทำไม่ได้ เธอจะถอนตัวแต่ถ้าทำได้เพลินพิศต้องขอโทษเธอด้วย หอมน้ำเลี่ยงออกไปข้างบ้านระหว่างที่สมเจตน์สั่งพักพุธกันยาตามไปทันที หญิงสาวทำท่ายกบทขึ้นท่องแต่จริงๆกำลังตกลงกับพุธกันยาให้สิงเธอแล้วแสดงแทนโดยมีเงื่อนไขว่าหอมน้ำจะยอมให้พุธกันยาใช้ร่างได้ต่อไปหลังจากสั่งคัทต่ออีกครั้งละ สิบห้านาทีเพื่อเปิดโอกาสให้พุธกันยาได้พูดคุยกับลูกชายและสามีบ้าง ถ้าพุธกันยาไม่ปฏิบัติตามสัญญาสินีนุชจะมาสวมสร้อยพระให้หอมน้ำทันทีและจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป พุธกันยาตกลง หอมน้ำจึงเรียกเพื่อนมากระซิบเล่าสัญญาให้ฟังก่อนจะปลดพระองค์เล็กที่กลัดติดไว้ในเสื้อ ให้สินีนุชเก็บไว้ หอมน้ำหลับตานิ่งเพื่อเปิดโอกาสให้พุธกันยาเข้าสิงการแสดงผ่านไปด้วยดี ในเทคเดียว อธิปเตือนให้เพลินพิศขอโทษหอมน้ำตามสัญญา

เพลินพิศทนไม่ได้ที่เห็นดารารุ่นน้องอย่างณัชชาและหอมน้ำกำลังจะมีชื่อเสียงขึ้นมาแข่งกับตัวเองเธอมั่นใจว่าเธอสวยและเก่งกว่าทั้งสองคนนี้มาก เพลินพิศชอบคุยกับ กนกรัตน์ จึงรู้ว่าเธอเคยเห็นพุธกันยาในบ้านหลังนี้ วันหนึ่งเพลินพิศจึงแกล้งโดนพุธกันยาสิง เธออาละวาดด่าทอสาปแช่งคนที่ทำให้เธอต้องตายโดยที่พุธกันยาในร่างหอมน้ำทนไม่ไหวแต่ทำอะไรไม่ได้จึงเลี่ยงออกไปจากตรงนั้นก่อนจะขาดสติและอาละวาดจริงๆ เพลินพิศเป็นข่าวดังสมความตั้งใจดาราสาวมีงานมากขึ้น และได้รับการดูแลที่ดีขึ้นจาก พิไล แม่ครัวที่เป็นแฟนคลับของพุธกันยา เพลินพิศหลงระเริงในความดังของตัวเองจนแสดงธาตุแท้ของตัวเองที่เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว แถมขี้อิจฉาจนเพื่อนร่วมงาน เริ่มรำคาญ คนที่รู้ทันเธอคืออธิปนักแสดงหนุ่มที่แสดงด้วยกันบ่อยๆนั่นเอง แต่อธิปก็มีจุดอ่อนในเรื่องความเจ้าชู้ที่เพลินพิศรู้ดีและพร้อมจะแฉเขาเหมือนกัน

พุธกันยาทำให้สมเจตน์พอใจหอมน้ำถึงขนาดเพิ่มบทให้อีก ทำให้วดีเขียนข่าวเหน็บแนม หอมน้ำจนเธอเสียใจอยากเลิกแสดง แต่สมเจตน์เตือนให้หอมน้ำนิ่งไว้ วันหนึ่งวดีตามมาเพื่อหาเรื่องหอมน้ำถึงกองถ่าย พุธกันยาอ้อนวอนขอใช้ร่างหอมน้ำจัดการเพื่อนทรยศก่อนที่หอมน้ำจะใจอ่อน ให้เธอ สมเจตน์ออกมาพบวดีเขาตอบโต้และต่อว่าเธออย่างตรงไปตรงมาด้วยคำพูดที่รู้กันดีเพียง สองคน วดีโกรธมากรีบกลับไปทันที สมเจตน์จับพิรุธพุธกันยาได้จึงจับตามองตลอดเวลา วดียังคงหาเรื่องหอมน้ำอีกเขียนข่าวกำกวมในแง่มุมที่ทำให้คนอ่านเข้าใจผิดจนพุธกันยาทนไม่ไหว เธอสงสารหอมน้ำจึงอาสากับสินีนุชว่าจะจัดการให้โดยสัญญาว่าหอมน้ำจะไม่เดือดร้อนแน่นอน พุธกันยาใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาวดีโดยใช้ชื่อ สุรี ช้อยนิ่ม ซึ่งเป็นชื่อเดิมของวดีก่อนจะบอกว่าให้เลิกเขียนข่าวในทางเสียหายกับละครเรื่องเพลิงนารีได้แล้วมิฉะนั้นเธอจะบอกเรื่องประวัติที่น่าอายของวดีที่เคยถูกพ่อเลี้ยงลวนลามอยู่หลายปีให้นักข่าวรู้ รวมทั้งการโกงค่าตัวพุธกันยาหลายแสน บาทด้วย แล้วจะได้รู้ว่าการเป็นข่าวในเรื่องเสียหายนั้นเป็นอย่างไร พุธกันยาวางสายไปแล้ว วดีนั่งหน้าซีดอยู่ที่ห้องทำงานเธอกลัวจับใจ วิญญาณพุธกันยาเป็นเรื่องจริงเพราะเรื่องนี้มีคนรู้เพียงสามคนคือตัวเธอเองพุธกันยาและสมเจตน์เท่านั้น

หอมน้ำหาทางสนิทสนมกับศวัสเพื่อบอกเรื่องพุธกันยา ความน่ารักสดใสทำให้ศวัสคลายหน้าเคร่งและยิ้มได้อย่างอารมณ์ดี วันหนึ่งเธอยอมไปเป็นคนไข้ของเขาแต่เมื่อเธอพูดเรื่องพุธกันยา และบอกว่าวิญญาณเธอยังอยู่ในบ้าน เขากลับดุเธอด้วยคำพูดที่รุนแรงจนหอมน้ำเสียใจ ก่อนที่เธอจะกลับไปเธอบอกเขาว่าให้ลองเปิดใจสังเกตสิ่งรอบตัวให้ดี เขาอาจจะได้รู้ว่าเรื่องที่เธอพูดนั้นเป็น ความจริง หอมน้ำคิดไม่ออกว่าจะช่วยพุธกันยาต่อไปอย่างไร

ในเวลาเดียวกันสมเจตน์เริ่มแน่ใจว่าพุธกันยาอยู่ในร่างหอมน้ำจึงแกล้งใช้สินีนุชไปออฟฟิศซึ่งอยู่ห่างจากที่กองถ่ายมากจนสินีนุชไม่สบายใจเธอเตือนให้หอมน้ำระวังตัวจากพุธกันยา แต่หอมน้ำเชื่อใจพุธกันยาว่าจะรักษาสัญญา บ่ายวันนั้นหลังเลิกกองสมเจตน์เรียกหอมน้ำไปคุยเป็นการส่วนตัว ทีมงานเข้าใจว่าสมเจตน์คงจะชวนเล่นละครเรื่องต่อไป แต่ว่าเขาคุยกับหอมน้ำโดยเรียกชื่อเธอว่า กัลยาซึ่งเป็นชื่อจริงของพุธกันยา ดาราสาวจึงต้องยอมรับความจริง เย็นวันนั้นสมเจตน์พาพุธกันยาไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง สมเจตน์ถามถึงชีวิตหลังความตายของพุธกันยาดาราสาวเล่าอย่างมีความสุขเธอดีใจที่กลับมามีตัวตนมีร่างกายมีลมหายใจอีกครั้ง สมเจตน์แนะให้พุธกันยาอยู่ในร่างของหอมน้ำต่อไปเขาจะช่วยเธอเองด้วยการส่งสินีนุชเข้าไปทำงานในออฟฟิศพุธกันยาจะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวให้สมความคิดถึง ในตอนแรกพุธกันยาปฏิเสธแต่เมื่อเห็นบุรีพา ขวัญอนงค์ มากินข้าวที่ร้านเดียวกันด้วยท่าทางสนิทสนม บุรีใส่ใจดูแลขวัญอนงค์อย่างสุภาพ แต่เป็นเพราะพุธกันยาทนไม่ได้เธอหึงจนระงับอารมณ์แทบไม่อยู่เธอเสียใจที่สามีลืมเธอแล้ว สมเจตน์ได้โอกาสจึงพูดว่าถ้า พุธกันยายังอยู่บุรีคงไม่เป็นอย่างนี้ พุธกันยากลับหอพักของหอมน้ำเธอฝืนใจรับโทรศัพท์จากสินีนุชหลังจากกระหน่ำโทรหลายครั้งเพื่อไม่ให้สงสัย เธอคิดหลายเรื่องรวมทั้งเรื่องที่ละครใกล้จบลงโอกาสที่เธอจะได้อยู่ใกล้บุรีและศวัสก็น้อยลงด้วย นอกเสียจากทำตามคำแนะนำของสมเจตน์ พุธกันยาตัดสินใจว่าจะแย่งบุรีกลับมา เธอไปหาเขาที่บ้านซึ่งเป็นบริษัทสร้างศิลป์๒๐๐๐ เพื่อบอกเขาเรื่องนี้ สมเจตน์ดีใจมากคุยกันสักครู่พุธกันยาก็กลับไป เขารักพุธกันยาและรักมาจนถึงทุกวันนี้ ที่ภรรยาขอหย่าก็เพราะเธอรู้ว่าเขาไม่มีใจรักเธอเลยใจของเขารักพุธกันยาคนเดียว สมเจตน์วางแผนทันทีเขาจะช่วยพุธกันยาครอง

ฝันเปลี่ยนโลก The Change Company (2557/2014) เป็นกลุ่มคนที่ตั้งขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศที่ย่ำแย่ให้เป็นสังคมดีขึ้น พวกเขารวมตัวจากเพื่อนในรั้วมหาวิทยาลัยราษฎร ซึ่งมหาวิทยาลัยก็เปรียบเสมือนกับโมเดลสังคมที่นักศึกษาจะได้เรียนรู้ก่อนออกไปเผชิญชีวิตจริง “ต้น” นักศึกษาหัวกะทิชั้นปีที่ 1 คณะสังคมวิทยา ลูกชายคนเดียวของ “สิทธิพล” นักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล เขาได้รับการเลี้ยงดูให้มองโลกตามความจริง จนพบเจอความจริงในโลก ที่มีทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ เขาต้องการล้มระบบความคิดของผู้ใหญ่เพื่อสร้างความสุขที่ทุกคนสามารถหาได้โดยไม่ต้องเอาเปรียบใคร เขาก้าวเข้ามาในมหาวิทยาลัยพร้อมความฝันอันยิ่งใหญ่บวกความเชื่อมั่นที่มีอยู่เต็มเปี่ยม เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ เขาเริ่มจากการรวบรวมเพื่อนๆต่างคณะมาตั้งเป็นกลุ่ม The Change Company แล้วเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงระบบต่างๆในมหาวิทยาลัยตั้งแต่การรับน้อง หรือระบบโซตัส ไปจนถึงการต่อต้านแผนการปฏิรูปมหาวิทยาลัย จากเหตุการณ์ทั้งหมดจะทำให้เขาได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นในสังคมเสมือนจริงก่อนจะสานต่อความฝันของเขาในโลกภายนอกมหาวิทยาลัย รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขาและเพื่อนๆในกลุ่ม รายชื่อนักแสดงนำชานน ริกุลสุรกาน (นน) รับบท นริศ (ต้น)คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ปี 1 หนุ่มหัวขบถ โผงผาง ขวางโลก ไม่แคร์สายตาใคร กล้าที่จะทำสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าทำ ต้นเป็นคนฉลาดมาก จอมวางแผน แต่บางครั้งก็ขาดคอมมอนเซนส์ในเรื่องง่ายๆ ชอบทำอะไรบ้าๆ ห่ามๆ แปลกๆ ถนัดในการกวนตีนคน จุดที่แข็งที่สุดของเขาคือเป็นคนมีความแน่วแน่สูงมากพอตั้งใจแล้วต้องไปให้สุดทาง ต้นเป็นลูกนักการเมืองที่มีอิทธิพลมาก แต่เขาไม่เคยเห็นด้วยกับสิ่งที่พ่อเขาทำ เขาจึงคิดที่สร้างกลุ่มที่จะเปลี่ยนประเทศโดยเริ่มจากเปลี่ยนสังคมที่มหาวิทยาลัยก่อน ต้นจึงเริ่มรวบรวมพรรคเพื่อสร้างกลุ่มในฝันของเขาขึ้นมา ยศวัศ สิทธิวงค์ (เอ็ม) รับบท วาทิต (เต็ง)คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ปี 1 หนุ่มเหนือ ลุคดูติ๋ม เรียบร้อย เข้ากับคนง่าย หัวอ่อน แต่จริงใจและคิดถึงจิตใจคนอื่นเป็นอย่างดี เต็งถูกสุ่มให้กลายเป็นรูมเมทของต้น ก่อนจะกลายเป็นเพื่อนคนแรกในมหาวิทยาลัยของต้น เป็นเพื่อนคู่หูที่ต้องคอยเบรคความแรงของต้นบ่อยๆ แต่บางทีก็ติดนิสัยไม่ยอมทำอะไรจนกว่าต้นจะช่วยตัดสินใจให้ แต่เป็นคนที่ทำอะไรเป็นค่อนข้างเยอะ ทั้งงานช่าง งานเรือน เล่นกีฬาก็เก่ง แต่เจ้าตัวไม่ได้ชอบสิ่งเหล่านั้นจริงๆ เต็งมีครอบครัวที่อบอุ่น เต็งเข้าเรียนคณะสังคมวิทยาฯ เพราะเป็นคณะที่ลุงของเขาเคยเรียน เต็งไม่รู้ว่าตัวเองนั้นมีความฝันอยากจะทำอะไร กรกมล เจริญชัย (กิ๊ก) รับบท กมลเนตร (เน)สาวคณะนิติ ปี 1 ผู้มีความจริงจังในเรื่องประหยัดพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ เนเป็นคนตรงไปตรงมา รักความยุติธรรม แต่หลายครั้ง เนก็จริงจังและโมโหเรื่องเล็กน้อย เวลาเห็นคนไม่ประหยัดพลังงานหรือทรัพยากร เน เป็นผู้หญิงที่สนิทกับเพื่อนผู้ชายได้ง่าย ความฝันของเนคืออยากเป็นนักกฎหมายที่ทำเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายสิ่งแวดล้อม เพราะเธอว่าการที่จะแก้ปัญหาทรัพยากรง่ายที่สุดคือใช้กฎหมายบังคับ อิศระ มีสุวรรณ์ (เอิร์ธ) รับบท พัชรวี (วี)คณะเศรษฐศาสตร์ ปี 3 พี่วีเป็นเนิร์ดตัวพ่อคนนึง ประธานชมรมบอร์ดเกม เป็นคนสไตล์นักวิชาการพูดอะไรเต็มไปด้วยทฤษฏีและศัพท์เฉพาะ (TECHNICAL TERM) คลั่งไคล้เกมและการ์ตูนมาก โดยเฉพาะเกมกระดานหรือบอร์ดเกม เป็นคนจำพวกนักคิดแต่ไม่ใช่นักปฏิบัติ ชอบสังเกตมากกว่าที่จะไปมีส่วนร่วม เขาจึงไม่สนว่าสังคมจะดีขึ้นหรือไม่แต่ก็สนุกที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง พี่วีนั้นเป็นเหมือนคลังข้อมูลของกลุ่มและด้วยความที่อาวุโสสุดก็เหมือนเป็นที่ปรึกษาให้แก่ทุกคนได้ด้วย ณิชา คูวัธนไพศาล (หวาน) รับบท สุทธิดา (ต่าย)คณะนิเทศศาสตร์ ปี 2 ต่ายเป็นสาวแว่น มาดนิ่งๆ เงียบๆ พูดน้อยต่อยหนัก ดูเข้าถึงยาก มีโลกส่วนตัวสูง แต่มีสเน่ห์ชวนค้นหา ชอบดูหนังแปลกๆ ฟังเพลงแปลกๆ เวลาไปไหนมักจะพกกล้องกับสมุดโน๊ตตลอด เป็นคนขี้รำคาญ หงุดหงิดง่าย จริงๆที่พูดน้อยส่วนนึงก็เพราะต่ายแสดงออกไม่เก่งด้วย ต่ายไม่ชอบความซํ้าซากจำเจ ชอบคิดนอกกรอบ เธอจึงยอมเข้ากลุ่ม THE CHANGE เพื่อจะได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ตลอด ติดตามชมละคร ฝัน/เปลี่ยน/โลก

ครอบครัวตัวละคร (2557/2014) เมื่อ "โรงละคร" กลายเป็นมรดก และพี่น้องทั้งสาม ดอน-นา-โอ เห็นต่างการกับจัดการมรดกที่ว่านี้ ติดตามเรื่องราวและบทสรุปของซิตคอม ครอบครัวตัวละคร กับเรื่องราวความประทับใจภายในครอบครัว

เป็นต่อ New Season 2557-2559

เป็นต่อ New Season (2557/2014)

  • เป็นต่อ New Season 2014-15
พี่หมอนเป็นบ้าไปคุยกับหมาที่บ้านแก้เครียดทุกวัน หลังรู้เรื่องความลับชาวบ้านเป็นคนแรกตลอด จนทุกคนสงสัยตลอด เป็นต่อไปชกขั้นเทพ หลังรู้หลักฐานจากพอใจ เป็นต่อกับพอใจไปถามทิพย์ ขั้นเทพจึงแฉว่าเป็นแค่ญาติกัน เป็นต่อต้องเคลียร์กับทิพย์ พอใจไม่รู้สึกผิดที่เอาแต่ด่าเสียหายใส่ขั้นเทพ ยมแฉเรื่องอบคบกับเจ๊มิ้นท์ เจ๊มิ้นท์เผยว่าตนแกล้งหลอกว่าท้องเพื่อให้ยมยอมแฉ จวบเกือบโดนไล่ออก ที่ไปไล่ยม (หุ้นส่วนร้าน) ไปคุยกับหมานอกร้าน เป็นต่อกับพอใจมาแฉทิพย์ พอทุกคนแฉกันเองหมด พี่หมอนก็หายบ้า จึงบอกว่าปิด PEAK (พีค หรืออีกชื่อคือเปี๊ยก) เพราะคุณนิพนธ์โทรมาชวนให้กลับไปถือผู้ถือหุ้นร่วมของ BKL ซึ่งทุกคนใน PEAK กลับไปทำงานที่ BKL ยกเว้นขั้นเทพที่ไปดูงานต่างประเทศก่อน แล้วค่อยกลับมา แต่ตึกที่ทำงานคือตึก PEAK ดังเดิม แต่บอร์ด BKL ย้ายมาทำงานตามด้วยพอขั้นเทพกลับมาเดินหน้าจีบพอใจจริง ๆ จัง ๆ จนพอใจเริ่มใจอ่อน แต่เก็บอาการแกล้งไม่สน หึงที่ขั้นเทพจีบสาว ไปพาลใส่กอล์ฟกับเป็นต่อ เป็นต่อจึงคุยกับขั้นเทพเรื่องพอใจ ขั้นเทพขอเวลา 3 เดือนในการหยุดเป็นเสือผู้หญิง และขอพอใจคบแต่พอใจยังไม่พร้อมให้คำตอบ
  • เป็นต่อ New Season 2016
BKL จัดปาร์ตี้ที่คอนโดเป็นต่อ ขั้นเทพอ้างไปซื้อของเพื่อง้อพอใจ ทางวอกมัวแต่โทรหาน้องชมพู จนโดนยมแกล้งขังไว้ข้างนอก ผ่านไปชั่วโมงทุกคนนึกว่าลืมวอก จึงขอโทษ แต่วอกเสียใจกับงอนที่โทรไปไม่มีใครรับ พอตอนเช้าวอกตื่นพบว่านอนเปลือยกับออ โดยออทำตัวเป็นเมียวอก จนวอกเครียดเป็นบ้าไปหลายเดือน แท้จริงเป็นแผนเป็นต่อกับออที่แกล้งวอกเป็นต่อคิดบวชก็ขอให้ออบอกความจริงกับวอก แต่พอเป็นต่อสึก ออไม่บอกกับแกล้งหลอกว่าท้อง วอกเป็นบ้า แต่วอกรู้เพราะพี่อู๊ดเมาแฉเรื่องออ วอกคิดเอาคืน แต่ลืมรวมแผนกับน้องชมพู จนโดนพวกเป็นต่อสวนกลับหมอดูที่ชื่อหมอหมาเข้ามาทำนายชะตาชีวิตของแต่ละคนคือ พี่หมอนจะเสียชีวิตชีวิตถ้าแต่งงานกับคุณมานพในปีนี้ พี่ยมต้องรีบง้อเจ๊มิ้นท์ภายในสิ้นปีไม่งั้นเจ๊มิ้นท์จะมีผัวใหม่ พี่อู๊ดเครียดเรื่องครอบครัวจนเป็นบ้า วอกจะได้เสียกับผู้ชาย และเป็นต่อคืนดีกับทิพย์สำเร็จ แต่มีอุปสรรคคือมีเด็กสาวคราวลูกเข้ามาชอบ จากนั้นไม่นานคำทำนายเริ่มปรากฏทีละเล็กน้อย เมื่อเป็นต่อได้เจอกับน้องตังค์ตังค์ โดยน้องตังค์ตังค์มีใจให้ต่อ ส่วนวอกเกือบได้เสียกับใสใสที่เป็นกะเทย พี่หมอนที่เจ็บตัวรุนแรงใกล้ตายเสมอ แต่พี่หมอนรอดจากคำทนาย เพราะคุณมานพหนีในวันถ่ายพรีเวดดิ้ง จนพี่หมอนที่รอดตาย ที่ถูกผัวทิ้งกลางงานแต่ง ทางพี่อู๊ดที่แม้จะเครียดเรื่องครอบครัวกับงานแต่เคลียร์ไปทีละเรื่องได้ ทางวอกไม่สนผู้หญิงจนกว่าจะยืนยันได้ว่าเป็นหญิงจริง เป็นต่อถูกยมเตือนสติก็เลิกทำแบบทิพย์กับขั้นเทพ จึงลบข้อมูลในมือถือน้องตังค์ตังค์เกี่ยวกับเรื่องของตน ทางยมคิดแผนชั่ว หลอกว่าขายหุ้นบางบาร์ กับจะลาออก ทุกคนเชื่อ จนคุณบิ๊กต้องมาแฉให้พี่หมอนกับวอกรู้ จนเจ๊มิ้นท์ถูกทั้งคู่ต่อว่าให้ไปสารภาพ จนเจ๊มิ้นท์ต้องยอมแม้จะไม่อยากยอม จากนั้นยมก็เริ่มทำตัวดีเหมือนตอนที่เจ๊มิ้นท์หลอกว่าท้องเป็นต่อเห็นขั้นเทพพาผู้หญิงไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล จึงมีเรื่องกัน พอรู้ว่าแท้จริงขั้นเทพพาแฟนเก่าที่ถูกแฟนทิ้งไปฝากครรภ์ เป็นต่อจึงกำชับห้ามไม่ให้พอใจรู้ เดี๋ยวเป็นเรื่องใหญ่ เพราะพอใจไร้เหตุผล จนพอใจกับพี่กอล์ฟสงสัย เป็นต่อแถได้ตลอด แต่เจ๊มิ้นท์ก่อเรื่องทำแผนพัง จนเป็นต่อแถให้พอใจกับขั้นเทพคบกันได้จากนั้นยมจับได้ว่าเป็นต่อคือตัวการให้คุณมานพหนีคิดขู่ เป็นต่อจึงกลัวว่าจะแย่กว่าเดิมแฉพี่หมอนก่อน กับบอกสาเหตุกับเหตุผลของคุณมานพ จนพี่หมอนยอมเข้าใจ ทั้งคู่รวมหัวแกล้งยม ว่าเป็นต่อโดนไล่ออก ยมจึงแก้ผ้าประชดลงลิฟท์ไปประจานหน้าตึก จน BKL เกือบเจ๊ง พวกเป็นต่อไปห้ามทัน แต่เพราะทั้งคู่ที่คิดแกล้งยมทำให้ยมเสียโอกาสทำคะแนนเจ๊มิ้นท์ไป พี่หมอนคิดจะลาออกเพราะเศร้าเรื่องผัวทิ้ง โดยจะเป็นเจ้านายอยู่แค่ 3 เดือน

รูมเมท Roommate (2557/2014) เรื่องราวความสัมพันธ์ ความชุลมุนวุ่นรัก ระหว่าง 3 หนุ่ม กับ 2 สาว ทั้ง 5 คน ที่มีนิสัยต่างกันสุดขั้ว ที่บังเอิญต้องมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน กว่าจะเรียนรู้ ยอมรับกันได้ ก็เกิดเรื่องวุ่นขึ้นมากมาย ทั้งสุข ทั้งเศร้า แต่นั่นก็ทำให้ทั้งหมดสนิทกันมากขึ้น แต่ที่สำคัญ!!!บ้านนี้ไม่ได้มีแค่คนอยู่ และคนเดียวที่รู้ ที่เห็นคือ “เคิร์ท”( ศรันยู ศรุติสุต) นักดนตรีมือกีตาร์ ลูกครึ่งไทยอเมริกัน ที่หนีมาจากอเมริกา ตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนสมัยสิบปีก่อน ที่จะร่วมกันนำดนตรีแนวอินดี้อวกาศ ที่ตัวเองค้นพบให้เป็นที่รู้จัก และพยายามทุกทางที่จะทำให้มันดัง โดยมี “เจต”(จิรายุทธ คันธยศ) เซลล์แมนหนุ่ม หน้ามน คนหล่อ ที่พกพาความเสี่ยวสุดๆ เป็นหนุ่มนักรักที่มักโดนสาวๆหลอก แต่เค้าก็ยังคงยอมถูกหลอก เพราะถือคติ “ความรักจะต้องชนะทุกสิ่ง ในสักวัน” ซึ่งแน่นอนยังไม่ใช่วันนี้ เจตเล่นเบส และ “พี่บ๊อบ”(อนุวัฒน์ จันทร์ตรี) นักจิตวิทยาหนุ่ม ผู้คงแก่เรียน แก่แล้วเพิ่งจะเรียนจบ เพราะถือคติ “เรียนนานๆ จะได้แน่นๆ” บ๊อบทำหน้าที่ตีกลองให้กับวง สามหนุ่มเป็นเพื่อนซี้ ตั้งแต่สมัยประถม แม้เคิร์ทจะแยกไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่ทั้งหมดยังคงยึดมั่นสัญญาที่ให้แก่กันไว้อย่างมั่นคง กับ 2 สาว “น้ำ” (ชลนที อักษรสิงห์ชัย) สาวหวานจอมโก๊ะ โลกเป็นสีชมพู ซื่อ ใส ไม่ค่อยทันใคร โดนหลอกง่าย ชอบเล่นมุก แต่แป๊ก ตลอด เปิดร้านกาแฟเพื่อ “พี่วิน” ชายในฝัน อยากจะเป็นผู้หญิงแบบที่พี่วินชอบ เปิดแล้วเจ๊งมากี่ร้านก็ยังยืนยัน “น้ำจะทำมันต่อไป” กับน้องสาว “ฝน”(ณัฐนรี อนันต์ลักษณ์การ) เด็กไฮเปอร์บ้ากิจกรรม ลั้นลากับความสัมพันธ์ คบได้เลิกได้ สบายๆ ยังไม่เคยเสียน้ำตาให้กับผู้ชาย และไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น ผู้ถือคติ “กิจกรรมคือความฝันของเธอ” โดยทั้งสองเป็นหลานสาวของ “ป้าปุ้ย”(พิมลวรรณ หุ่นทองคำ) ป้าผู้เลี้ยงดูเธอมาตลอด แม้จะไม่ค่อยจะได้อยู่ด้วยเพราะหน้าที่การงาน กับการเป็น NGO สาว ป้าปุ้ยเลยส่งฝนเรียนศิลปะป้องกันตัวทุกประเภท หวังให้ดูแลน้ำ และฝนก็ทำได้ดีจนป้าวางใจ เรื่องราวต่างๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้า “ผีธันเดอร์”(มนัสวิน นันทเสน) ผีนักดนตรีอินดี้ เป็นผีความจำเสื่อม ที่อาศัยอยู่ในบ้านอย่างโดดเดี่ยวมานาน กลับมารู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อบ้านและคนครึกครื้น ผีธันเดอร์ก็คึกคักไปด้วย อยากจะกลับมารู้สึกถึงการมีชีวิตเพื่อตามหาความทรงจำ แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อคนที่สื่อสารได้มีแค่เคิร์ทเท่านั้น ท่ามกลางความป่วนและวุ่นวาย ก่อให้เกิดมิตรภาพ ความสุข เสียงหัวเราะ ความเศร้า และแน่นอน ความรัก โดยมีดนตรีเป็นสื่อกลางของความรักในหลายๆรูปแบบ เช่น แอบรัก,รักคนมีเจ้าของ,รักฝังใจ,รักสามเศร้า,รักเขาข้างเดียว และสารพัดความรักในรูปแบบต่างๆ ที่จะค่อยๆ เผยมาในแต่ละตอน ซึ่งความรักเหล่านี้นี่เอง ที่ก่อให้เกิดความสนุกสนานในบ้านหลังนี้แบบไม่รู้จบ รูปแบบความรักของพวกเค้าเหล่านี้ อาจเป็นรักในแบบที่คุณเคยผ่านมาแล้วก็ได้

อรุณสวัสดิ์ (2557/2014) การเลื่อนขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษาใหม่กลายเป็นก้าวสำคัญที่นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ ภาสุ (รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์)เด็กหนุ่มที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง เริ่มตั้งแต่การที่ต้องมาเรียนห้องเดียวกับเสมอเทพ (ชาวดิน รัฐกาญจน์)ลูกชายเศรษฐีมือสกปรก ความร่ำรวยและยิ่งใหญ่ของพ่อทำให้เสมอเทพ กลายเป็นจอมเกเรประจำโรงเรียน เสมอเทพ กับ ชาติเชื้อ (วัฒนา เอี่ยมวงศรี) และวันมงคล (พลช เงินยวง)เพื่อนสนิททั้งสองคนชักนำภาสุและฤกษ์ดี (นที พิทักษ์ )เข้าไปในโลกใบใหม่ในวังวนอบายมุขของเสมอเทพที่ทั้งคู่ไม่เคยพานพบมาก่อน ทั้งเรื่องการแข่งรถบนถนนหลวงที่ผิดกฏหมาย การยกพวกตีกับคู่อริต่างโรงเรียน ภาสุนั้นกล้าลุกขึ้นมาแหกกฏเหล็กของเภา(กรุณพล เทียนสุวรรณ ) พ่อที่เข้มงวดและเคร่งเครียดสมกับเป็นนายตำรวจใหญ่ผู้เที่ยงตรง เพียงเพราะไม่อยากเป็นลูกแหง่ในสายตาของ เมขลา (พลอยพรรณ ทับทิมหล้า)เพื่อนร่วมชั้นคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเรียนด้วย ภาสุรับเมขลาไว้ในหัวใจลุ่มหลง จนขาดสติยั้งคิด โดยที่ไม่เคยเคลือบแคลงใจ วาจาอ่อนหวานของเมขลานั้น ได้ซุกซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้อย่างไร การเปลี่ยนแปลงของภาสุอยู่สายตาของอรณี (ณัฐริกา เฝ้าด่าน) เพื่อนร่วมชั้นที่แอบชอบ และมีความปรารถนาดีให้กับภาสุเสมอมา อรณีพยายามจะตักเตือนทั้งทางตรงและทางอ้อม บางครั้งก็ทำให้ภาสุกับฤกษ์ดีรู้สึกไม่ค่อยชอบใจอรณีเท่าไหร่ ความเปลี่ยนแปลงไปในทางเลวร้ายของภาสุ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านยิ่งทวีความตึงเครียด ความสัมพันธ์ระหว่างภาสุกับเภายิ่งแย่ลง ไม่ว่าคุณไหม หรือ ภัทริกา (กฤตสุดา อัญภานนท์) คู่แฝด สุกานดา (โชติรส ชโยวรรณ)ผู้เป็นแม่ คุณปู่ คุณย่า ก็ไม่สามารถช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้ ในระหว่างที่ภาสุกลับเข้าสู่เส้นทางเดินที่ถูกขีดไว้จากฝีมือของพ่อตัวเอง เมขลากับเสมอเทพกลับหลงระเริงไปกับความสุข เมขลายอมสละทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผู้หญิงให้กับเสมอเทพ เพียงเพื่อหวังให้เสมอเทพครองคู่กับเธอตลอดไป เมขลากับเสมอเทพหายตัวไปจากโรงเรียนหลายวัน ส่งผลให้ภาสุไม่มีกระจิตกระใจที่จะตั้งใจเรียนตั้งใจสอบ จนทำให้เกิดผลเสียทางการเรียนร้ายแรง และทำให้ภาสุกับพ่อเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงอีกครั้ง ในขณะที่ข่าวการตั้งท้องของเมขลากับการล่มสลายทางธรุกิจของครอบครัวเสมอเทพ และข่าวการแต่งงานของทั้งสองคนก็ยิ่งทำให้ภาสุร้อนรนจนอยู่ไม่ได้ และตัดสินใจหนีออกจากบ้าน ภาสุไปปรึกษาปู่เล็ก(สิทธิชัย ผาบชมพู) คำสั่งสอนแลกเปลี่ยนทัศนคติของปู่เล็ก ทำให้ภาสุ ตัดสินใจกลับบ้าน สิ่งแรกที่ภาสุทำคือก้มลงกราบเท้าพ่อ พ่อเองก็ไม่ได้อาละวาด หรือลงโทษอย่างที่ภาสุคิด ช่วงเวลาอันน่ากลัวของวัยรุ่น อารมณ์รุนแรงกำลังจะผ่านไป พ่อพาภาสุกลับไปที่โรงเรียน และขอโอกาสให้กับเด็กชายผู้หลงทางอีกครั้ง สามปีผ่านไป ชีวิตของภาสุและฤกษ์ดีในรั้วมหาวิทยาลัยก็ดำเนินไปตามปกติ ภาสุได้พบกับอรณี เพื่อนรักสมัยม.ปลาย ที่เปลี่ยนจากเด็กสาวอ้วนกลม มาเป็นสาวน้อยน่ารัก ภาสุได้คบกับหริณลัญฉนา ดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่ง ความรักครั้งที่สองของภาสุจบลงเร็วกว่าที่คิด ภาสุเสียใจและเสียหน้ากับความสัมพันธ์ในครั้งนี้มาก แต่ด้วยวัยและความรู้สึกที่เติบโตขึ้นของภาสุทำให้เค้าสามารถทำใจกับเรื่องนี้ได้เร็วขึ้น และมองเห็นความสวยงามบางอย่างในจิตใจของอรณีที่มาคอยเป็นกำลังใจให้ในยามที่ภาสุผิดหวังอีกครั้ง ตรงข้ามกับฤกษ์ดีที่ยิ่งโตยิ่งจมอยู่ในโลกทีมืดมนด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในชาติกำเนิดของตัวเอง และยิ่งหวังปองดอกฟ้าอย่างคุณไหมที่ไม่เคยสนใจฤกษ์ดีมากไปกว่าเพื่อนของน้องชายเลยสักครั้ง ยิ่งทำให้ฤกษ์ดีจมอยู่ในโลกแห่งความเกลียดชังโดยไม่รู้ตัว พิษณุแสนหนุ่มวิศวะรูปหล่อ พ่อรวยกำลังขยันทำคะแนนเพื่อพิชิตใจของคุณไหมอยู่ ภาสุได้รู้เรื่องนี้จาก นายหมู(ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์)น้องชายตัวดีที่ถูกคุณย่าประคบประหงมจนกลายเป็นเด็กแก่แดด ที่ฉลาดคิด รู้ทันคน และเป็นคนคอยช่วยภาสุในหลายเรื่องตั้งแต่เด็ก ภาสุเริ่มมองอรณีในแง่มุมใหม่ และจีบอรณีเป็นแฟนจนสำเร็จ เมื่อได้อยู่ใกล้และคลุกคลีกับอรณี ภาสุค้นพบว่าอรณีก็มีปัญหาในครอบครัวไม่ต่างจากคนอื่น แต่เธอมองปัญหาทุกอย่างในแง่บวกและใช้สติกับเหตุผลก้าวข้ามปัญหาทั้งหลายมาได้ อรณีใช้ความรักเป็นพลังในทางบวก ผลักดันให้ภาสุตั้งใจเรียน เพื่ออนาคตที่ดีในวันข้างหน้า แต่เมฆหมอกร้ายๆในชีวิตของภาสุยังมีผ่านเข้ามาเรื่อยๆ พร้อมกับการกลับมาของเมขลา ภาสุผู้อ่อนไหว หลงคนง่ายคนเดิมกลับมา พร้อมกับการเดินกลับไปหาเมขลา และทอดทิ้งอรณีอย่างไม่ใยดี อรณีเจ็บช้ำเกินกว่าจะบอกใคร ทุกอย่างยิ่งแย่ลง เพราะเมขลาท้องและเรียกร้องความรับผิดชอบจากภาสุ ภาสุเข้าตาจนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ภาพของอรณีกลับปรากฎขึ้นในความทรงจำ ภาสุอยากย้อนเวลาไปเพื่อจะแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำ แต่ก็ทำไม่ได้ ท่ามกลางปัญหาหัวใจที่รุมเร้า ปัญหาทางการเมืองระดับชาติก็เริ่มรุนแรงขึ้น ทำให้กลุ่มนักศึกษาปัญญาชนจากทุกมหาวิทยาลัยออกมารวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับสังคมและชนทุกชั้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ ภาสุ ฤกษ์ดี อรณี และคุณไหม มีโอกาสได้ทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวมร่วมกัน สายใยบางๆระหว่างภาสุกับอรณีถูกกระตุกขึ้นอีกครั้ง อรณียังไม่ยอมใจอ่อนให้กับภาสุ คุณไหมเอาปัญหาของภาสุมาปรึกษาฤกษ์ดีฤกษ์ดีรับปากว่าจะลองหาทางช่วย แต่คุณไหมกังวลแทนคู่แฝดจนตัดสินใจเล่าความริงให้แม่ฟัง เมื่อรู้ถึงหูสุกานดา ก็รู้ถึงหูเภาจนได้ เป็นอีกครั้งที่ทุกคนในบ้านต่างก็ต้องอกสั่นขวัญแขวนกับความขัดแย้งระหว่างเภากับภาสุ เภาที่อ่อนลงไปมากตั้งแต่ลูกๆเข้ามหาวิทยาลัย ตัดสินให้ภาสุแต่งงานกับเมขลาให้ถูกต้อง แต่ภาสุจะทำได้อย่างไรในเมื่อ ตอนนี้ภาสุรู้แล้วว่าคนที่เขารักอย่างจริงจังนั้นคือ อรณี ชีวิตในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อนาคตของภาสุกับอรณี คุณไหมและฤกษ์ดี รวมทั้งเมขลา จะมีโอกาสได้สัมผัสเวลาเช้าอันสดใสหรือไม่ ติดตามชมเรื่องราวของทุกชีวิตที่จะนำชีวิตแห่งอรุณสวัสดิ์ ให้ผ่านพ้นเพื่อรับแสงตะวันฉายที่จะมาเยือน ในละครเข้มข้นสะท้อนปัญหาสังคมของวัยรุ่นได้ใน เรื่อง “อรุณสวัสดิ์”

ไม้เท้าขาวกับเก้าอี้เข็น (2557/2014) ต้น เด็กหนุ่มอนาคตไกลต้องกลายมาเป็นคนตาบอดจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เส้นทางชีวิตที่กำลังมุ่งหน้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยของเขาจึงต้องหักเหเข้าสู่รั้วโรงเรียนสอนคนตาบอด ท่ามกลางโลกใบใหม่อันมืดมิด ต้นได้พบกับ ฟ้า ครูสาวขาพิการผู้มีอดีตอันลึกลับ การได้รู้จักฟ้าทำให้ต้นค่อย ๆ ค้นพบความฝันของตัวเอง ต้นใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน เขาใช้เวลาในโรงเรียนสอนคนตาบอดเขียนนิยายเล่มแรกของตัวเอง เนื้อหาในนิยายบอกเล่าถึงความรักครั้งแรกของเขา รวมไปถึงเรื่องเลวร้ายที่เขาได้ทำลงไป สำหรับต้น นิยายเล่มนี้คือโอกาสเดียวที่เขามีในการแก้ไขเรื่องเลวร้ายนั้น ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องราวความรักระหว่างต้นและฟ้า แต่ยังเป็นเรื่องราวความมุ่งมั่นของคนสองคนที่จะก้าวข้ามอคติของสังคม ชายหนุ่มผู้ถือไม้เท้าขาวและหญิงสาวที่นั่งเก้าอี้เข็น ทั้งสองจะเคียงข้างกันเพื่อตามหาคุณค่าที่พวกเขาเคยทำหายไป คุณค่าที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีหรือขาดอะไร แต่ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาสามารถให้อะไรกับผู้อื่นได้มากแค่ไหน ติดตามชมละครเรื่อง ไม้เท้าขาวกับเก้าอี้เข็น

เนื้อคู่ The Final Answer (2557/2014) เรื่องราวชวนติดตามของรักสี่ห้าเศร้าของเพื่อนแก๊งเดียวกัน ขวัญใจ โจ คุณวี ภูผา ธิดา ที่เริ่มต้นจากนิมิตสุดประหลาดของธิดา ที่ได้ตีความว่าทั้งหมดอาจเป็นเนื้อคู่กัน !! เส้นทางรักของทั้งห้ากำลังดุเด็ดเผ็ดมันส์ เมื่อขวัญใจและคุณวีได้ตกร่องปล่องชิ้นเป็นของกันและกัน ในขณะที่ธิดาก็เริ่มยอมเปิดใจรับ ภูผา ไว้พิจารณาในฐานะคนรักอีกด้วย ในขณะที่โจกลายเป็นหมาหัวเน่าและเพิ่งรู้ใจตัวเองว่ายังคงรัก ขวัญใจ แฟนเก่าอยู่เสมอมา แต่แล้วจู่ ๆ เรื่องของพวกเขาก็เงียบหายไปนับตั้งแต่ปี 2012 2 ปี เต็มที่ไม่มีใครได้ยินข่าวคราวรวมถึงชาวคอนโดสวัสดีทวีสุข ได้แก่ ต่อ ต้นข้าว คุณรุจน์ คุณโฉม เป็น 2 ปีที่โลกยังคงหมุนไปท่ามกลางความสงสัยของผู้คนว่าพวกเขาหายไปไหน พวกเขาเป็นอย่างไร และพวกเขาจะกลับมาไหม คำถามเหล่านั้นกำลังจะได้รับคำตอบ เมื่อหนีวิกฤตการณ์น้ำท่วมโลกในปี 2012 ตามคำทำนายเรื่องวันสิ้นโลกและหลักการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ของคุณวี พวกเขาใช้คุกใต้ดินของคอนโดสวัสดีทวีสุขเป็นหลุมหลบภัย และวันนี้ทุกคนกำลังจะกลับขึ้นมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง แต่ทว่าไม่มีสิ่งใดจะเป็นปกติได้อีกเมื่อ ข้อ 1. ทั้งหมดพบว่า 2 ปี นั้นไม่ได้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมโลกใด ๆ เลย ข้อ 2. วันนี้ไม่มีคอนโดสวัสดีทวีสุขอีกต่อไปเพราะ คอนโดสวัสดีทวีสุขได้ถูกเวนคืนไปสร้างรถไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงเป็นที่มาของบ้านสวัสดีทวีสุข บ้านเช่าสมบัติชิ้นสุดท้าย ที่คุณรุจน์ตั้งชื่อเพื่อไว้อาลัยแด่คอนโดสวัสดีทวีสุข และจะด้วยความผูกพันหรือเหตุใดก็ตาม สุดท้ายทั้งหมดกลับมาอยู่ที่รวมกันที่นี่อีกครั้ง แถมคุณโฉมเจ้าของเทพีมินิมาร์ทใต้คอนโดเก่าและบาร์เกเร ร้านเหล้าต่อที่แฮงก์เอาท์ประจำของชาวแก๊ง ก็ยังสามารถมาโผล่ทำกิจการหน้าสนามหญ้าหน้าบ้านสวัสดีทวีสุขอีกด้วย

เรื่องย่อ : เพื่อนเฮี้ยน..โรงเรียนหลอน (2557/2014) คุณเคยเจอ..เรื่องหลอนในโรงเรียนบ้างมั้ย? ทุกที่ในโรงเรียนต่างก็มีเรื่องราวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ห้องเรียน สระว่ายน้ำ ห้องดนตรีไทย ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องน้ำ หรือแม้กระทั่ง เด็กนักเรียน ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมาอาจมีเรื่องลี้ลับสุดหลอนซ่อนอยู่ โดยที่คุณไม่เคยรู้.. ห้องเรียน ที่อาจเคยมีเด็กนักเรียนฆ่าตัวตาย สระว่ายน้ำ ที่เมื่อลงน้ำแล้วอาจไม่ได้กลับขึ้นมาจากสระอีก ห้องดนตรี ที่หุ่นนางรำขยับเองได้ในเวลากลางคืน ห้องคอมพิวเตอร์ ที่เครื่องเปิด-ปิดเองแม้ไม่มีใครอยู่ในห้อง ห้องน้ำ ที่ถูกปิดตายแต่กลับได้ยินเสียงคนอยู่ข้างในตลอดเวลา เพื่อน ที่ไม่มีใครในโรงเรียนเห็นเลยนอกจากเราคนเดียว เรื่องสยองของเด็กนักเรียนกำลังจะถูกบอกเล่า ผ่าน 13 เรื่องสยองสุดเฮี้ยน จาก 13 ผู้กำกับไฟแรงที่จะทำให้โรงเรียนกลายเป็นที่ที่หลอนที่สุด!! ติดตามฃม เพื่อนเฮี้ยนโรงเรียนหลอน